ใครตีแบดฯ ยกไม้ขึ้น!!

     แบดมินตัน กีฬาที่ฮิตสุดๆ ในทีมเด็กดีดอทคอมตอนนี้ ถึงไม่ได้เก่งกาจอะไรมาก เป็นการเล่นเอากำลังกับความสนุกมากกว่า แต่แค่นี้ก็สัมผัสได้ถึงความสนุกของกีฬาชนิดนี้แล้ว...

     เพื่อให้อินกันแบบเต็มๆ ขอเริ่มสัปดาห์นี้อธิบายเกี่ยวกับการ เลือกไม้แบดมินตันให้เข้ากับสไตล์การเล่นและความต้องการของเรา ซึ่งถ้าเป็นเรื่องฟุตบอลพี่มิ้งจะถนัดกว่า แต่ถ้าเรื่องไม้แบดฯ แบบรู้ลึก ต้องขอพึ่งข้อมูลดีๆ จาก ชมรมแบดมินตัน "แมดบิท" สักหน่อยดีกว่า

{pic-desc}

     เลือกไม้ถูกได้เปรียบ
     แม้คนที่เล่นแบดฯ จะใช้ทั้งลูกหยอด ลูกโยนไปหลัง การรับ และการตบ แต่ทุกคนก็จะมีสไตล์ที่ตัวเองชอบเล่นอยู่ดี เช่น บางคนชอบเล่นเกมบุก ก็จะนิยมการตบมากกว่า บางคนเล่นแบบเน้นตั้งรับ ก็จะรับเสียจนคนตบหมดแรง ตบติดเน็ตไปเองก็มี ดังนั้นก่อนซื้อไม้ประจำตัว ต้องรอดูสไตล์จริงๆ ของเราก่อนนะ

     การเลือกบ้าง หลักๆ ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องต่างๆ ดังนี้

     - จุดศูนย์ถ่วง (Balance Point) ที่วัดจากปลายด้ามจับ (Grip End)

       จุดศูนย์ถ่วงของไม้ก็เป็นตัวชี้วัดคุณสมบัติของไม้แต่ละอันว่าไม้นั้นๆ เหมาะสำหรับเทคติกการเล่นของเราในการเล่นคู่-เล่นเดี่ยว เล่นเกมรุก-เล่นเกมรับ ได้ดีเช่นกัน ส่วนใหญ่ไม้แบดฯ จะเขียนจุดศูนย์ถ่วงไว้ที่ก้านไม้
       จุดศูนย์ถ่วงเป็นจุดที่วัดจากปลายด้ามจับ เป็นจูดที่แสดงให้เห็นว่าน้ำหนักของไม้ทั้งหมดอยู่ที่ส่วนใดของก้านไม้ ยิ่งห่างจากปลายด้ามจับ ก็จะทำให้ไม้มีแรงส่งลูกมากเมื่อใช้แรงผลักตีลูกเท่ากัน

       ไม้หัวเบา (Head light) จุดศูนย์ถ่วงมีระยะ 270-280 mm. เป็นไม้เหมาะสำหรับเกมรับและวางลูก

       ไม้หัวหนักปานกลาง (Even/Neutral) จุดศูนย์ถ่วงมีระยะ 275-285 mm. เป็นไม้เหมาะสำหรับทั้งเกมรุก-รับ

     ไม้หัวหนัก (Head Heavy) จุดศูนย์ถ่วงมีระยะ 285-295 mm. เป็นไม้เหมาะสำหรับเกมรุก

     - วัสดุ 
 
     ซึ่งที่ไม้มักมีข้อความตัวหนังสือปรากฏอยู่ด้วยเช่นที่ก้านไม้ เฟรม ไม้แบดทำจากวัสดุ แบ่งเป็น
    1. เหล็ก - อะลูมิเนียม
    2. Carbon
    3. Titanium
   
     เหล็ก - อะลูมิเนียม เป็นไม้ราคาถูก 2 อัน ไม่เกิน 500 บาท ขายตามร้านทั่วไปแต่มีไม้บางรุ่นกลับตั้งชื่อว่า carbon ทั้งที่ทำจากอะลูมิเนียม ต้องพิจารณาให้ดี
   
     Carbon Graphite ก็คือ Carbon นั่นล่ะ แต่ไม่เรียกว่า Carbon วัสดุที่ดีที่สุดคือ Hight Modulus Graphite เพราะน้ำหนักเบา จะยืดหยุ่นได้ดี วัสดุนี้มักจะใช้ทำก้าน และเฟรม Graphite ก็ยืดหยุ่นน้อยกว่า ใช้ทำก้าน และเฟรม ไม้ราคาไม่เกิน 2,000 บาทจะนิยมใช้ทำก้านและเฟรม
   
     Titanium เบากว่า Carbon แต่ยืดหยุ่นสู้ไม่ได้ จะใช้ทำเฟรมส่วน 9-3 ตามเข็มนาฬิกา ตรงก้านไม้เป็นเลข 6 ของไม้แพงๆ มักจะใช้ กัน ตอนนี้ไม่ค่อยมีขายเพราะราคาแพง
   
     Nano Carbon วัสดุตัวใหม่สุดฮิต เป็นการนำ Carbon มาเรียงตัวกันใหม่เป็นท่อ มีผลทำให้แข็งแรงกว่าเหล็กเป็นพันๆ เท่า และยังยืดหยุนตัวได้ดีอีกด้วย ไม้แพงๆ ในปัจจุบันจึงเปลี่ยนจาก Titanium มาเป็น Nano Carbon กันหมด ไม้ Nano Carbon มีส่วนผสมของ Nano Carbon น้อยมาก บางทีมีแค่ผิวของเฟรม หรือผิวของก้านเท่านั้น แกนยังเป็น Graphite อยู่เลย
    นอกจากนี้ยังมีวัสดุผสมอีกหลายๆ อย่าง เช่น ผสม 3 ตัว คือ Tungsten Titanium และ Carbon ทำให้แข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดีขึ้น

      - เอ็น
   
     บางทีไปซื้อไม้แบดมินตันเนี่ย ก็ได้มีแต่โครงเปล่าๆ ไม่มีเอ็นนะ เราต้องมาทำการขึ้นเอ็นต่างหากและการขึ้นเอ็นก็มีสิ่งที่ควรรู้เช่นกัน
 

     ความตึงของเอ็น ค่าสูงสุดที่ไม้รับได้ (String Tension Tolerance) โดยจะแบ่งเป็นแนวตั้ง (Main) แนวดิ่ง(Vertical) กับแนวนอน (Cross)(Horizontal) วัดค่าเป็นปอนด์
     โดยแนวตั้งแนวดิ่งจะรับได้น้อยกว่าแนวนอน ไม้ที่เบาจะรับความตึงของเอ็นได้น้อยกว่า เนื่องความบอบบางของเฟรม ตัวอย่างเช่นไม้ Victor Supper Nano 5 จะเขียนค่าความตึงของเอ็นไว้ที่โคนไม้ ว่าแนวดิ่ง V: น้อยกว่าหรือเท่ากับ 28lbs แนวนอน H: น้อยกว่าหรือเท่ากับ 30lbs ไม้ Dunlop เขียนว่า Max string tension 26lbs

{pic-desc}

     - ลูกแบดมินตัน

     ประเทศไทยจะนิยมใช้ ลูกแบด speed 75 เป็นหลัก เลือกตามนี้ได้เลย

    
     นี่ยังเป็นเพียงขั้นตอนของการเตรีมไม้แบดฯเท่านั้น ลึกซึ้งไม่เบาเลยใช่ไหม ? Hobby ครั้งหน้า อย่าลืมมาติดตาม เคล็ดลับเล่นอย่างไรได้เปรียบกัน พลาดไม่ทีเดียว...

{pic-desc}

 Credit : madbit.multiply.com