10 วันเตรียมตัวทัน! รวม 3 บทที่อ่านแล้วทำ O-NET Eng ได้ทุกพาร์ท


          สวัสดีค่ะ มีน้องๆ หลายคนเจอปัญหาการเตรียมสอบวิชาภาษาอังกฤษ ไม่รู้จะทำยังไงดีกับวิชานี้ ยากเหลือเกิน เนื้อหาก็ไม่รู้จะไปเริ่มอ่านตรงไหน สนามสอบที่ผ่านมาก็ไปสอบแบบงงๆ และสุดท้ายก็จะไม่มีกะจิตกะใจในการสอนวิชาภาษาอังกฤษเลย T_T

          รอบนี้พี่แป้งเลยจัดให้กับการเตรียมตัวสอบ O-NET Eng อ่านเพียง 3 บทก็ทำข้อสอบได้แล้วทุกพาร์ท โดยได้เคล็ดลับและแนวทางดีๆ จาก ครูพี่แนน Enconcept ที่มาแบ่งเรื่องที่สำคัญในการอ่าน พร้อมวิธีการเตรียมสอบในช่วงเวลาที่เหลือให้น้องๆ ได้นำไปใช้กัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

 

O-NET ภาษาอังกฤษ และ GAT ภาษาอังกฤษ มีความยากง่ายต่างกันอย่างไร ?
ครูพี่แนน : O-NET เน้น Grammar แม้ ในส่วน Error 16 choices จะไม่มีแล้ว แต่คิดว่ายังคงเน้น Grammar เหมือนเดิมค่ะ ดังนั้นเตรียมได้เลย 5 Topics คือ

       1. Finite V. >> Subject/Verb agreement (S.เอกพจน์ +V.s,es / S.พหูพจน์+V.s,es)
       2. Non-Finite V. >> Participle (V.ing ทำเอง / V.ed ถูกทำ)
       3. Connector >> (Conjunction + S + V / Prepostion + N.)
       4. Word Order >> adv. + adj. + N. / HV. + adv. + V.
       5. Parallelism >> N. and/or N.

          ส่วน GAT เน้น Vocab ซึ่งเพิ่งปรับให้อยู่ในระดับ ค.ยากเท่า Vocab ในข้อสอบ 9 วิชา เตรียม อ่าน Category Vocab เกี่ยวกับ 1.Health & Medicines 2.Technology และ 3.Social Science ค่ะ


3 เรื่องที่อ่านแล้วทำข้อสอบ O-NET ภาษาอังกฤษ ได้ทุกพาร์ท
ครูพี่แนน : 3 เรื่องที่แนะนำให้เตรียมตัวเพื่อทำ O-NET ภาษาอังกฤษ ได้ทุกพาร์ทคือ
       1. Category Vocab หมวด Social Science โดยเฉพาะ ข่าวร้าย ภัยพิบัติ หายนะ โรคภัยไข้เจ็บ เพราะ ทุกพาร์ท ต้องแปลออกถึงจะทำได้
       2. Connector ในแง่ของความหมาย จะช่วยจับใจความหา Main Idea ลำดับเรื่องราว ความเป็นเหตุเป็นผล ความขัดแย้ง คล้อยตาม ยกตัวอย่างในพาร์ท Conversation กับ Reading และ ยังช่วยทำในพาร์ท Grammar ได้ด้วย เตรียมเรื่องนี้เรื่องเดียวทำได้ 3 พาร์ทเลยค่ะ
       3. เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะช่วยในพาร์ท Grammar ซึ่ง O-NET เน้น คือ เรื่อง Verb (Finite กับ Non-Finite) เตรียมเรื่องนี้ได้คะแนนพาร์ท Grammar ไปเลยเกือบครึ่ง


 


เรื่องต้องระวังในข้อสอบ O-NET ภาษาอังกฤษ ที่เด็ก ม.6 ต้องระวังมีอะไรบ้าง?
ครูพี่แนน : เรื่องแรกที่อยากเตือนเลยคือ การทำให้ทัน สำคัญพอๆ กับทำให้ถูกเลยค่ะ เพราะ O-NET คิดคะแนนเป็น 30% ในการยื่นคะแนน Admission ดังนั้นภาษาอังกฤษควรได้ 80 จาก 100 คะแนน แต่เวลาทำจริงอาจจะได้แค่ 70-75 คะแนน ก็ติดคณะดีๆ แล้วค่ะ คือน้องๆ ควรตั้งเป้าใน 4 พาร์ทและเรียงลำดับการทำดังนี้ค่ะ

       1. Conversation    เต็ม 15 ข้อ
       2. Vocab              เต็ม 10 ข้อ
       3. Grammar         15 / 25 ข้อ
       4. Reading           25 / 30 ข้อ

          เรื่องที่ต้องระวังอีกก็คือ Vocab เตรียมไปให้ดี ถ้าแปลไม่ออก ก็ทำไม่ได้เลยนะคะ พี่แนนมีสรุปกลอนศัพท์ที่ออกข้อสอบบ่อยๆ ที่น้องๆ ไม่ควรพลาดไว้ให้ที่ Facebook: ครูพี่แนน Enconcept กด Like แล้วดาวน์โหลดได้เลย เอาไว้ไปทบทวนกันก่อนสอบกันค่ะ


ถ้าเพิ่งเริ่มเตรียมตัววันนี้ ควรเริ่มอ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างไร ?
ครูพี่แนน : เริ่มที่การเตรียมร่างกายก่อนเลยค่ะ กินให้อิ่ม นอนหลับ ทำจิตใจให้เบิกบาน แล้วต่อที่การทำโจทย์ จับเวลาเหมือนจริง 2 ชั่วโมง 80 ข้อ ทำข้อละ 1 นาที เหลือไว้ทวน 5 นาที ทำอย่างน้อยวันละ 2 ชุด (4 ชั่วโมง ไม่เหนื่อยเกินไปเนอะ) ที่สำคัญคืออย่าอ่านแบบหว่าน เลือกดูหัวข้อที่ผิดซ้ำๆ และอ่านทวนเฉพาะจุด ถ้าอยากเริ่มทวนเลยให้เน้น พาร์ท Vocab กับ Reading ก่อนค่ะ จะช่วยเก็บคะแนนได้เยอะเลย

          โค้งสุดท้ายก่อนถึงสนามสอบ O-NET แบบนี้ ก็ขอให้น้องๆ ทุ่มเทให้เต็มที่ เชื่อว่าน้องๆ คงมีพื้นฐานการเตรียมตัวมาบ้างแล้วจากสนาม GAT PAT และ 9 วิชาสามัญ แนะนำว่าให้ลุยโจทย์ไปเลยค่ะ แล้วมาดูว่าเราไม่แม่นตรงไหนค่อยอ่านซ้ำ อดทนอีกนิดนะคะ ฮึบๆ สู้ๆ ค่าาา :)


 
Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น