จิตวิทยาความรักบอกไว้ : พฤติกรรมชวนหวั่นไหวแบบนี้ ถ้าไม่มีใจ ไม่ต้องทำ!

         หลายคนมองว่า “ความรัก” เป็นเรื่องซับซ้อน รักแบบเพื่อน พี่น้อง หรือคนรัก มีเส้นแบ่งความสัมพันธ์ไม่ให้ถูกตัดพ้ออยู่ว่า “เฟรนด์ลี่เก่ง เทคแคร์ดีที่หนึ่งแบบนี้ จะทำให้คนอื่นคิดไปไกลว่ามีใจ” อู้ย! มาดูกันว่าพฤติกรรมแบบไหนที่แสดงออกชัดเจนว่าเริ่มล้ำเส้นเพื่อน พี่ น้องแล้ว ถ้าไม่มีใจจริงๆ ควรหยุดไว้ก่อนดีกว่า เพราะคนโดนเขาหวั่นไหว!  


 
โลกหมุนด้วยความรัก
         ความรักเป็นสิ่งที่ถูกกล่าวถึงบนทุกที่ทั่วโลก ทุกคนสัมผัสความรักในรูปแบบที่แตกต่างกัน หลายปีที่ผ่านมามีนักจิตวิทยานำเสนอทฤษฎีเกี่ยวกับรูปแบบความรักไว้มากมาย แต่ทฤษฎีหนึ่งที่ได้รับการยอมรับ และน้องๆ คงพอคุ้นหูกันมาบ้างก็คือ “ทฤษฎีสามเหลี่ยมความรัก (Triangular Theory of Love) ของ Sternberg” ทฤษฎีนี้อธิบายความรักไว้ว่าความรักมีอยู่ 3 องค์ประกอบด้วยกันคือ

         1. ความใกล้ชิด (intimacy) ความรู้สึกผูกพันใกล้ชิดเหมือนเราเชื่อมโยงกันและกัน
         2. ความเสน่หา (passion) ความรู้สึกหลงใหล ปรารถนาทางเพศ 
         3. ความผูกมัด (commitment) ความรู้สึกตั้งใจที่จะเปลี่ยนจากการคบหาสั้นๆ มาอยู่ร่วมกันไปนานๆ

         ความรักทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ เดิมทีเปรียบเสมือนสามเหลี่ยมด้านเท่า แต่คู่รักแต่ละคู่อาจมีองค์ประกอบความรักทั้งสามด้านไม่เท่ากัน รูปแบบความรักจึงนับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่แฝงอยู่ในความสัมพันธ์ของแต่ละคู่รักนั่นเอง


ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/th/
 
รูปแบบความรัก 6 แง่มุม
         นักจิตวิทยาความรัก Lee ได้พยายามจำแนกประเภทของความรัก โดยใข้วิธีทำแบบทดสอบการสัมภาษณ์โดยใช้บัตรคำ (card sort) ที่เรียกว่า “Love Story Card Sort” เพื่อศึกษาเจตคติเกี่ยวกับความรัก จากผลการศึกษาพบว่า บุคคลมีความแตกต่างกันทางแนวคิดในเรื่องความรักได้ 6 รูปแบบคือ

         1. ความรักแบบเสน่หา (eros) เป็นความรักแรกพบ ต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับคนรักอย่างรวดเร็ว แต่ก็มักจะหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ความรักรูปแบบนี้ยังเป็นอารมณ์ที่เร่าร้อนและต้องการความผูกพันทางร่างกาย
         2. ความรักแบบไม่ผูกมัด (ludus) เป็นความรักที่ผูกพันกันชั่วคราวคล้ายเล่นเกม ความรักเป็นเรื่องสนุกเท่านั้น ไม่ได้ต้องการการผูกมัดหรือมีความผูกพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้ง
         3. ความรักแบบมิตรภาพ (storge) เป็นความรักที่มีพื้นฐานมาจากมิตรภาพ ต้องการเรียนรู้กันและกันมากกว่าความใคร่ มักพบในคู่รักที่คบเป็นเพื่อนกันมาก่อนแล้วจึงพัฒนาความสัมพันธ์มาเป็นคู่รัก


ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/th/
 
         4. ความรักแบบใช้เหตุผล (pragma) เป็นความรักที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง มีเหตุและผล มักเลือกคู่รักที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยไม่มีความพึงพอใจหรืออารมณ์ส่วนตัวมาเป็นหลักตัดสินใจ
         5. ความรักแบบลุ่มหลง (mania) เป็นความรักที่ปรารถนาความใกล้ชิด ต้องการครอบครอง ถือความความรักเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต ถ้าปราศจากความรัก ชีวิตก็จะไม่มีค่าอะไรเลย 
         6. ความรักแบบเสียสละ (agape) เป็นความรักที่ไม่หวังผลตอบแทน ปราศจากความเห็นแก่ตัวเอง เป็นฝ่ายให้มากกว่ารับ คิดถึงความสุขและผลประโยชน์ของคนรักโดยไม่คิดถึงตัวเอง 

         จากการศึกษาความแตกต่างระหว่างชายหญิงในรูปแบบของความรักพบว่า ผู้ชายมักมีรูปแบบความรักแบบไม่ผูกมัด ส่วนผู้หญิงมีรูปแบบความรักแบบมิตรภาพและแบบลุ่มหลง 

ทำแบบนี้แหละชวนให้ “รัก”  
         ประสบการณ์ความรักไม่คงที่ในทุกๆ ความสัมพันธ์ องค์ประกอบด้านความใกล้ชิดเป็นแกนหลักที่พบได้ในความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก พี่น้อง เพื่อนสนิท องค์ประกอบด้านความผูกมัดก็มีความผันแปรไปในแต่ละช่วงเวลาขอชีวิต แต่องค์ประกอบด้านความเสน่หานั้นมักจะพบในความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักเท่านั้นค่ะ ความเสน่หาเป็นองค์ประกอบที่เกิดจากแรงขับภายในร่างกาย อาจเป็นความรู้สึกที่ส่งต่อมาจากการถูกแรงกระตุ้นภายนอกสู่ภายใน เช่น การแสดงออกของอีกฝ่าย ชวนให้เกิดความรู้สึกโรแมนติก หวั่นไหว จนเกิดเป็นความรู้สึกรักแน่นแฟ้น มาดูตัวอย่างกันค่ะ

         1. จับมือ แสดงชัดเจนว่าอีกฝ่ายต้องการใกล้ชิด ยิ่งถ้าเดินจับมือกันในที่สาธารณะเหมือนต้องการประกาศให้โลกรู้เลยว่า “เราคือคนที่รัก”
         2. จูบหน้าผาก เป็นการแสดงความรักที่บริสุทธิ์ เหมือนอีกฝ่ายต้องการทะนุถนอม ทำให้เรารู้สึกดี และจดจำไปตลอดชีวิต


ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/th/
 
         3. เรียกหาบ่อยๆ โทรหา ส่งข้อความทักโดยไม่มีเหตุผล เป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายคิดถึง อยากรู้ว่าเราเป็นยังไง อยากได้ยินเสียง หรือแค่ได้คุยกันนิดหน่อยก็ยังดี 
         4. ใส่ใจเกินเหตุ คอยดูแล สนับสนุน ช่วยเหลือเวลามีปัญหา ยอมทำให้ตัวเองลำบาก หรือทำสิ่งที่ตัวเองเกลียด เพียงเพราะว่าเราต้องการ  
         5. หึงออกนอกหน้า คู่รักที่รักกันบางคู่ยังไม่หึงหวง อาจจะเพราะเชื่อใจกัน แต่การที่อีกฝ่ายแสดงออกว่าหึงมากๆ ทั้งที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็น่าจะเดาความรู้สึกได้ “มองว่าเราเป็นของเขาหรือเปล่า”

         จากที่ว่ามาถ้าไม่รักกันจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร บางคนแค่ลูบหัว มองกันด้วยสายตาอ่อนโยนนิดหน่อย หัวใจก็ลอยตามไปแล้ว เรื่องความรู้สึกห้ามกันไม่ได้จริงๆ น้องๆ ล่ะคะเคยโดนใครทำให้หวั่นไหวแล้วชิ่งบ้างไหม ไหนมาแชร์กันหน่อยซิ    
พี่เมก้า
พี่เมก้า - Columnist นักข่าวสายการศึกษา ที่มีความสุขกับการแต่งฟิค อ่านฟิค เพ้อถึงยัมมี่ฟู้ดไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

This is ME Member 30 พ.ย. 62 01:58 น. 1

แปลกนะ ถ้าทำแบบนี้กับเพื่อนเพศเดียวกัน อย่างจับมือ ส่งข้อความหาบ่อยๆคือปกติ

แต่ถ้าทำแบบนี้กับเพศตรงข้ามกลับทำไม่ได้เพราะอาจทำให้เข้าใจผิด

2
กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

This is ME Member 30 พ.ย. 62 01:58 น. 1

แปลกนะ ถ้าทำแบบนี้กับเพื่อนเพศเดียวกัน อย่างจับมือ ส่งข้อความหาบ่อยๆคือปกติ

แต่ถ้าทำแบบนี้กับเพศตรงข้ามกลับทำไม่ได้เพราะอาจทำให้เข้าใจผิด

2
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากเว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

กำลังโหลด
L_Sunny! Member 22 ธ.ค. 62 16:41 น. 3

เคยค่ะ เคยเป็นเพื่อนกัน ทำแทบทุกข้อยกเว้นจูบหน้าผาก แต่หอมผมแทน เราก็มโนเนอะ เพื่อนก็แบบ..เออ 2 คนนี้คบกันแน่ สุดท้ายเป็นพี่น้องค่ะ 55555555 ;^;

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-11.png

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด