น้องๆ มีศิลปินในดวงใจกันไหมคะ พี่หลิงเชื่อว่าหลายคนคงมีแหละ การชื่นชอบใครสักคนมากๆ แม้เขาจะไม่รู้จักเรามันเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่มากเลยนะ เพราะต่อให้วันนั้นของเราจะแย่แค่ไหน แค่เห็นเมนเรายิ้มก็ช่วยฮีลใจได้มหาศาล จนบางครั้งก็นึกขอบคุณเขาหรือเธอคนนั้นไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีเมนสักคน เราอาจรู้สึกดิ่งกว่านี้มากเลยก็ได้
แล้วถ้าเอาความชอบนี้มาใช้กับเรื่องเรียนล่ะ จะดีขนาดไหน? บางคนอาจสงสัยว่าสองอย่างนี้จะไปกันได้เหรอ แต่เชื่อสิว่าอะไรก็ปรับใช้กับการศึกษาได้ และเมนเรานี่แหละ คือคนที่จะช่วยให้เรามีกำลังใจฮึดสู้กับการเรียนขึ้นมาได้จริงๆ ใครพร้อมแล้ว มาดูเทคนิคทั้ง 5 ข้อที่พี่เอามาฝากกันได้เลยค่ะ
5 เทคนิค ตามศิลปินอย่างไรให้แฮปปี้กับการเรียนมากขึ้น
1) อดทน มุ่งมั่นทำตามฝันเหมือนศิลปิน
กว่าศิลปินแต่ละคนจะมาถึงจุดนี้ได้ พวกเขาต้องผ่านอะไรมาเยอะมากๆ เพราะไม่ว่าจะศิลปินด้านไหน ก็ย่อมต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักทั้งนั้น ไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จได้โดยไม่พยายามหรอกค่ะ หากเราอยากเรียนให้ดี ก็ควรเรียนรู้ที่จะอดทน มุ่งมั่นทำตามฝันให้ได้เหมือนไอดอลของเราด้วยค่ะ
เป้าหมายนั้นไม่จำเป็นต้องเหมือนไอดอลของเราเป๊ะๆ ก็ได้นะ สมมุติเราชอบคนที่เต้นเก่งมากๆ ก็ไม่ได้แปลว่าเราต้องซ้อมเต้นให้หนักเหมือนเขา เราอาจเอาความพยายามนี้ไปใช้กับเรื่องอื่น อย่างการเรียนภาษาที่สาม ตั้งใจทำโจทย์เคมี หรืออะไรก็ได้ทั้งนั้นค่ะ แต่ถ้าใครมีความฝันตรงกับเรื่องที่เมนถนัดพอดี ก็ถือว่าได้สองต่อ เพราะเราอาจเอาเทคนิคดีๆ จากเขาไปปรับใช้กับตัวเองได้ไงล่ะ
2) ให้เมนเป็นกำลังใจดีๆ
รอยยิ้มเมนฮีลใจได้ฉันใด ก็ย่อมเติมไฟให้เราฮึบสู้ได้ฉันนั้น น้องๆ ลองเอารูปน่ารักๆ ของเมนเราไว้ใกล้ตัวตอนอ่านหนังสือดูสิ รับรองว่าช่วยได้ไม่น้อยแน่นอน แต่ขอเป็นรูปภาพจริงๆ จับต้องได้ ไม่เอารูปในจอนะคะ ไม่งั้นแทนที่จะได้กำลังใจไปอ่านต่อ จะกลายเป็นเผลอท่องเน็ตฯ เพลินเอาน่ะสิ
ถ้ารูปอย่างเดียวไม่พอ ลองเอาความคิดสร้างสรรค์เข้าช่วยดูค่ะ ทำได้หลากหลายตามแต่จะครีเอตเลย จะเขียนกล่องข้อความปลุกใจไว้ข้างๆ รูปเมนก็เวิร์ค (เหมือนเขากำลังเชียร์อัพเราเลย ><) แต่งเลคเชอร์ให้สวยด้วยรูปเมนก็น่ารักน่าอ่าน หรือจะเขียนเป้าหมายไว้ตัวโตๆ มีรูปเมนประกอบแล้วแปะฝาบ้านไปเลยก็ปัง ได้เห็นหน้าเมนทุกวัน แถมได้ย้ำความตั้งใจอีกต่างหาก ใครผนังยังว่างก็ใช้วิธีนี้ดูได้ พี่หลิงเคยลองแล้ว บอกเลยว่าเวิร์คค่ะ
3) แบ่งเวลาเรียน-ตามศิลปินให้เหมาะสม
ไม่ว่าใครก็คงอยากมีเวลาว่างมาตามศิลปินที่ชอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เราต้องรู้จักกำหนดลิมิต สร้างวินัยให้ตัวเองด้วย อย่าเอาแต่สนุกจนลืมทำหน้าที่ของตัวเองไปนะคะ ถ้าเมนเรารู้ว่าเขาทำให้แฟนคลับเสียการเรียน เขาหรือเธอคนนั้นคงต้องเสียใจมากแน่ๆ :( เอาเป็นว่าเราควร Balance ตรงนี้ให้ดี จะได้ซัพพอร์ตเมนแต่พอไหว การเรียนก็ใส่ใจไม่ทิ้ง
ในฐานะนักเรียน น้องๆ ควรให้ความสำคัญกับการเรียนก่อน แล้วให้การตามศิลปินเป็นรางวัลตอบแทนความพยายามของเราอีกที อย่างเวลาจะทบทวนบทเรียน ก็อาจกำหนดไว้ว่าจะอ่านให้ได้สัก 2 ชั่วโมง แล้วดูซีรีส์สักตอนเพื่อผ่อนคลาย หรือตอนทำงานหนักๆ สำเร็จ เกรดดีขึ้น ก็ให้รางวัลชุดใหญ่หน่อย เป็นอัลบั้มสักชุด หรือดูคอนเสิร์ตออนไลน์มาราธอนให้หายอยาก พอมีแรงจูงใจแบบนี้ เราจะตั้งใจอ่านหนังสือขึ้นมาได้แน่ค่ะ
4) ลองเสพสื่อที่ชอบแบบมีสาระ
น้องๆ เคยตามดูคลิปศิลปินที่เราชอบเพลินจนติดลม ลืมเวลาไปเลยไหมคะ ทางนี้เป็นบ่อยเลยล่ะ แหะๆ ก็เขาอุตส่าห์ขยันผลิตคอนเทนต์ดีๆ ตั้งมากมาย แฟนคลับอย่างเราก็ขอเสพให้ฉ่ำปอดสักหน่อย แต่จะดีกว่าไหมนะ ถ้าเราตามศิลปินแบบได้ความรู้ไปด้วย? พี่หลิงบอกตรงนี้เลยว่ามันทำได้จริงๆ เชื่อว่าถ้าทุกคนได้ลองต้องติดใจ เพราะมันเวิร์คมาก แถมสนุกด้วย!
วิธีที่อยากแนะนำคือดูคลิปเมนเรา เพลง รายการ วาไรตี้ได้หมด แล้วเปิด CC (Closed Caption) เป็นภาษาที่เราต้องการศึกษาค่ะ ถ้าเอาที่ได้ใช้แน่ก็อังกฤษ หรืออยากจัดภาษาที่สาม ก็ลองหาดูค่ะว่ามีไหม เดี๋ยวนี้สตรีมมิ่งส่วนใหญ่มีคำบรรยายภาพให้เลือกหลายภาษามาก คิดว่าหาได้ไม่ยากค่ะ จากนั้นให้เราลองทำความเข้าใจคลิปจากภาษานั้นๆ ดู ไม่จำเป็นต้องแปลได้ทุกคำ ถ้าไม่รู้คำไหนหรือสงสัยไวยากรณ์อะไรก็จดไว้ ทำบ่อยๆ ทักษะการแปลพัฒนาแบบก้าวกระโดดชัวร์
ไม่ใช่แค่หัดแปลซับนะ เรายังมีวิธีตามศิลปินให้ได้สาระอีกมาก ขึ้นอยู่ว่าใครชอบแบบไหน อย่างการตามบ้านเบสต่างชาติ , ดูรายการความรู้ที่เมนเราไปออก , หรือใครอยากลองแปลเพลง แปลรายการเองก็ดีค่ะ ลองศึกษาดูนะคะน้องๆ ^^
5) จดบันทึกความรู้ที่ได้ไว้
ความเดิมจากข้อที่แล้ว คงเสียดายแย่ถ้าเราอุตส่าห์จำเกร็ดความรู้จากการตามศิลปินได้แล้ว แต่ดันลืมไปซะงั้น ถ้าอยากจำได้นานๆ เป็น long-term memory ทางที่ดีคือควรจดบันทึกไว้ให้เป็นระเบียบค่ะ อาจหาสมุดสำหรับจดสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการตามเมนโดยเฉพาะ ตกแต่งให้น่ารักน่าอ่านตามใจชอบ ใครอยากบันทึกความทรงจำไปด้วย ก็เขียนไว้ก็ได้ค่ะว่าสิ่งนี้เรารู้มาจากสื่อไหน วันที่เท่าไร เรารู้สึกอย่างไรบ้าง ให้เป็นไดอารี่มีสาระไปเลย
พี่หลิงหวังว่าเทคนิคทั้ง 5 ข้อนี้จะช่วยให้น้องๆ ตามศิลปินอย่างมีความสุข และสนุกกับการเรียนรู้ขึ้นได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ถ้าเมนรู้ว่าได้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของแฟนคลับแล้ว เขาหรือเธอคนนั้นจะต้องดีใจไปกับเราแน่ๆ ^^ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ สวัสดีค่า~
1 ความคิดเห็น
ผมก็ได้ภาษาอังกฤษจากพวกนักร้องดารานี่แหล่ะครับ ผมชอบดารา disney มาก อินจากหนังเรื่อง mean girls มาก คิดว่าตัวเองเป็นเรจิน่า เต้นโคฟเวอร์พวกเกิร์ลเจน สมัยนั้น snsd ดังมาก.