น้องๆ คนไหนเคยลืมกินยาก่อนอาหารหรือหลังอาหารบ้างหรือเปล่าเอ่ย พี่นัทลืมบ่อยเลยล่ะ ทั้งหลังอาหารก่อนอาหารก็ไม่เว้นลืมได้หมดเลยอิอิ...บางทีก็เอายาก่อนอาหารมากินหลังอาหารซะงั้น...เฮ่อ...ไม่รู้จะทำไงดี...วันนี้เลยหาข้อมูลเรื่องการกินยามาฝากน้องกันด้วยจ้า...เพราะพี่นัทเชื่อว่ามีคนขี้ลืมอีกหลายคนแถวๆ นี้กำลังอ่านบทความนี้อยู่...อิอิ เมื่อพูดถึงการกินยาหลายคนอาจไม่ค่อยชอบนัก เพราะนั่นหมายถึงร่างกายกำลังป่วยไม่สบายหากเรากินยาตรงตามหมอสั่ง เราก็จะบรรเทาอาการป่วยไข้โดยเร็ว แต่ถ้าหากเราเผลอลืมกินยาบางมื้อตามที่หมอสั่งไว้หรือกินไม่ตรงเวลา จะมีผลอย่างไรบ้าง
ยากินก่อนอาหารหรือหลังอาหารต่างกันอย่างไร
โดยหลักทางเภสัชวิทยา การกินยาก่อนอาหาร (เวลาท้องว่าง) มีข้อดีที่ลำไส้จะดูดซึมยาเข้าร่างกายได้เต็มที่ เนื่องจากไม่มีอาหารคอยขัดขวาง ดังนั้นถ้าเป็นยาที่ไม่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร หมอนิยมให้กินก่อนอาหาร เช่น ยาลดความดันเลือด ยารักษาเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันมักให้กินวันละ 1 ครั้ง ตอนเช้าก่อนอาหาร (ผู้ผลิตยาพยายามผลิตยาที่ออกฤทธิ์ได้นานทั้งวันให้กินวันละครั้งเพื่อความสะดวก)
แต่อย่างไรก็ตาม ยาส่วนใหญ่หมอยังนิยมให้กินหลังอาหาร ทั้งนี้ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ
1. ยาบางชนิดอาจระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร (ไซ้ท้อง หรือกัดกระเพาะ) เช่น ยาแก้ปวดลดไข้แอสไพริน ยาแก้ปวดข้อบางชนิด ยาปฏิชีวนะ เช่น เตตราไซคลีน อีริโทรไมซิน เป็นต้น ยาเหล่านี้ถ้ากินก่อนอาหารอาจทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง จึงให้กินหลังอาหารซึ่งบางครั้งร่างกายอาจดูดซึมยาได้น้อยกว่าการกินก่อนอาหารแต่ก็ยังมีผลในการรักษาโรคได้ดีเช่นกัน (ปริมาณยาที่ดูดซึมในการกินหลังอาหารเพียงพอที่จะออกฤทธิ์ทางยา)
2. เป็นเรื่องของความสะดวก การกินยาก่อนอาหารคนไข้มักจะลืม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าต้องกินวันละหลายมื้อ หมอแนะนำให้กินหลังอาหารคนไข้จะเคยชิน นึกได้ว่าเมื่อกินอาหารต้องกินยาตาม
ดังนั้นสำหรับยาที่ต้องกินวันละหลายมื้อ ถึงแม้ไม่มีปัญหาเรื่องการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารก็ยังนิยมให้กินหลังอาหาร ยากลุ่มนี้จะกินก่อนอาหารได้ก็ยิ่งดี (ถ้าแน่ใจว่าไม่ลืม) และกินตอนท้องว่าง เช่น มื้อก่อนนอนก็ไม่มีปัญหา
ส่วนยาที่อาจจะระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร ควรกินหลังอาหารดีกว่าก่อนอาหาร ถ้าจำเป็นต้องกินมื้อก่อนนอน ก่อนกินยาอาจกินของว่างหรือดื่มนม แล้วค่อยกินยา เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร
เมื่อลืมกินยาตามที่หมอสั่ง ควรทำอย่างไร
ก่อนอื่นต้องดูว่ายาที่กินนั้นอยู่ในกลุ่มไหน เป็นกลุ่มที่ใช้บรรเทาอาการหรือกลุ่มที่ใช้รักษาจำเพาะ ถ้าเป็นกลุ่มบรรเทาอาการเช่น แก้ไข แก้ปวด แก้ไอ แก้ปวดเท้า แก้แพ้ แก้คัน เป็นต้น ก็ไม่จำเป็นต้องกินให้หมดหรือครบทุกมื้อ ก็ได้ให้กินตามอาการถ้าอาการหายก็หยุดได้ ถ้ามีอาการกำเริบใหม่ก็ได้กินใหม่ ส่วนการเว้นช่วงห่างระหว่างมื้อยาที่กินก็ขึ้นกับระยะเวลาการออกฤทธิ์ของยา เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ มักจะเว้นประมาณ 4 ถึง 6 ชั่วโมง บางอย่างอาจให้กินวันละครั้ง (เช่น ยาแก้แพ้บางชนิด) ยากลุ่มนี้ถ้าลืมกิน หากไม่มีอาการก็เว้นไปได้เลย
แต่ถ้าเป็นกลุ่มยาที่ใช้รักษาจำเพาะ เช่นยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อ) ยาเบาหวาน ยาลดความดันเลือด ควรกินให้ครบทุกมื้อทุกครั้งไม่ควรเว้น ถ้าลืมกินถ้านึกได้ทันที (เช่นลืมกินก่อนอาหาร มานึกได้หลังทานข้าวห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง) ก็ให้กินยานั้นได้ทันทีไม่ควรเว้น แต่ถ้าลืมจนใกล้มื้อถัดไปที่ต้องกินยาก็ให้กินยามื้อถัดไปตามปกติ ไม่ควรเพิ่มเป็น 2 เท่า อาจทำให้ยาออกฤทธิ์มากเกินไปก็ได้
ดังนั้น ทุกครั้งที่กินยาต้องเรียนรู้ว่ายากลุ่มบรรเทาอาการ (ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของยาที่หมอให้มา) หรือเป็นยากลุ่มที่ใช้รักษาจำเพาะ ถ้าเป็นกลุ่มหลังก็ต้องหาวิธีเตือนตัวเองอย่างให้ลืมเป็นดีที่สุด
น้องๆ ก็อย่าลืมทานยาตามที่หมอสั่งนะจ๊ะจะได้หายเร็วๆ ด้วย อิอิ
พี่นัทก็จะพยายามเตือนตัวเองเหมือนกัน...
ขอบคุณข้อมูลจากนิตยสารหมอชาวบ้าน
|
13 ความคิดเห็น
รู้งี้ก็ดี
อิอิ
ว่าแล้ว ไป ทาน ยาดีกว่า
ไม่สบายอยู่เหมือนกาน
เหอๆๆ
กำ--*
ไม่ค่อยป่วยอ่ะ...
ถึก!
555
ทั้งๆที่ไม่ค่อยกินอาหารมีประโยชน์ ไม่ได้ออกกำลังกาย นอนดึกอีก
สงสัยทำบุญมาเยอะ 55 ฉะนั้น ทำบุญกันเยอะๆนะพวกเรา^^
กินไป 3 เม็ด ก็ทิ้งแล้วค่ะ !*
555555555555 5
หมอให้ยามาเท่าไร ไม่เคยกินหมดเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ จะลืมทานยาเป้นบางครั้ง และ ตอนกลางวัน เนื่องจากกลัวยาจะหาย เลยไม่นำติดตัวไปทานที่โรงเรียนค่ะ
ข อ บ คุ ณ ค ร ะ
ที นี้ จ ะ ไ ด้ รู้ ว่ า เ ว ล า เ ร า ลื ม กิ น ย า
จ ะ ต้ อ ง ทำ ยั ง ไ ง แ ล้ ว ล่ ะ
อิ อิ
ขอบคุณ