สวัสดีครับ..ชาวเด็กเอ๋ย เด็กดีดอทคอม เมื่อวานนี้ [28 ตุลาคม 51] พี่ลาเต้ มีโอกาสดีสุดๆ ได้ไปดูภาพยนตร์รอบสื่อมวลชนมา..เป็นภาพยนตร์แนวผีลี้ลับที่เข้าฉายต้อนรับเทศกาลวันฮาโลวีนปีนี้..อย่างเรื่อง "โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต".. งานนี้เรียกได้ว่าตลอด 2 ชั่วโมงเต็มในโรงหนัง พี่ลาเต้ นับครั้งที่กะพริบตาได้เลยทีเดียว..ซึ่งก็หมายความว่าเรื่องนี้มันน่าติดตามจริงๆ แต่จะตรงไหน ยังไง วันนี้ พี่ลาเต้ จะมาเล่าให้ชาวเด็กดีได้ฟัง [ก่อนใคร] กันเลยครับ..
เรื่องย่อ "โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต" ภาพยนตร์เรื่องนี้..ทางผู้สร้างอย่าง "จีทีเอช" ได้ประกาศออกมาแล้วว่าเป็นหนังผีที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยมีมา..ซึ่งเป็นเรื่องราวของ เชน [เต๋อ] พนักงานฉายหนังที่กำลังมีปัญหาทางการเงิน จึงตัดสินใจร่วมมือกับ ยอด หัวหน้าห้องฉาย แอบทำการซูมคัดลอกหนังผีเรื่อง "วิญญาณอาฆาต" ซึ่งเป็นภาพยนตร์เข้าใหม่ และยังไม่มีใครได้ดู... ขณะนั้นนักเลงที่จ้างยอดมาซูมหนัง เห็นว่าแผนการซูมหนังในครั้งนี้ไม่คืบหน้า จึงขู่เอาชีวิตเชน และบังคับว่าจะต้องได้แผ่นซูมหนังก่อนภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายจริง..เชนจึงจำเป็นที่จะต้องแอบซูมหนังอีกครั้ง.. คืนนั้น..ขณะที่กำลังซูมหนัง เชนกระหน่ำโทรหายอดผู้ร่วมขบวนการที่หายไปอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็ไม่มีคนรับ และจู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของยอดก็ดังขึ้น ทั้งๆที่ในโรงหนังขณะนั้นมีเชนอยู่เพียงคนเดียว เชนพยายามหาที่มาของเสียงโทรศัพท์ จนในที่สุดพบว่า เสียงโทรศัพท์ของยอดดังออกมาจากลำโพงในโรงหนังนั่นเอง ส่วนยอดก็กลายเป็นศพอยู่ในจอหนังไปแล้ว..
ตัวอย่างภาพยนตร์ "โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต" เชนกลัวจนแทบจะเป็นบ้า แต่ก็ไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะกลัวถูกจับได้ว่าซูมหนัง และตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา เชนก็ได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดอยู่ในหนังเรื่อง "วิญญาณอาฆาต" ตลอดเวลา..จนกระทั่ง ส้ม [พั้นช์] พนักงานเดินตั๋วในโรงภาพยนตร์เดียวกันได้รู้ความจริง จึงบอกกับเชนว่าหนังผีเรื่องนี้สร้างมาจากเหตุการณ์จริงในอดีต และ "ชบา" ตัวละครเอกที่แขวนคอตายนี้ก็มีตัวตนอยู่จริง.. ทั้งเชน และส้มจึงตัดสินใจช่วยกันหาคำตอบของเรื่องเหล่านี้ ว่าทำไมยอดจึงเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เกี่ยวข้องอย่างไรกับฉากแขวนคอตายของชบา และที่สำคัญทำไมเหตุการณ์ในหนังผีเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นจริงกับเชน.. โปรแกรมนี้..คนดูอาฆาต.. ภาพยนตร์เรื่องนี้หากมองทางด้านเนื้อเรื่อง และการลำดับภาพแล้ว..ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมจริงๆ ทุกคนที่เข้าไปดูจนจบ จะไม่รู้สึกสงสัยในตัวละคร หรือเหตุการณ์ต่างๆ เพราะทุกอย่างได้ตอบโจทย์ เป็นเหตุเป็นผลกัน..จะไม่มีอารมณ์ที่ว่า "ฉากนี้เวอร์จัง.." แต่จะมีอารมณ์หลอนมาแทนที่ เพราะเหตุการณ์ในเรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นจริงได้กับทุกคน [โดยเฉพาะพนักงานโรงหนัง..] การเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังคงมาตรฐานเดิมของหนังผีไทยยุคไฮเทค คือเน้นเสียงกระตุ้นอารมณ์ หรือการลุ้นว่าผีจะออกมาตรงไหน จากไหน ซึ่งหากใครนึกภาพ นึกอารมณ์ไม่ออก ให้ลองนึกถึงภาพยนตร์เรื่องสี่แพร่งในเรื่องที่ 1 ตอน "เหงา" และเรื่องที่ 4 ตอน "Last Fright" ซึ่งลักษณะอารมณ์ และอาการกดดันของคนดูเป็นลักษณะนั้น.. พูดถึงภาพยนตร์สี่แพร่งแล้ว ก็ขอต่ออีกซักหน่อย เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มีมุก และการนำเสนอเร้าอารมณ์คนดู คล้ายๆ กับเรื่องสี่แพร่งมากๆ เท่าที่จำได้มีถึง 3 จุดด้วยกันคือ ฉากดับไฟ [สี่แพร่งตอน 1] หรือฉากควักลูกตา และฉากเฉลยอาถรรพ์ของชบา [สี่แพร่งตอน 2] แต่โดยรวมแล้ว..ก็ไม่ทำให้เหมือนจะจนน่าขัดใจ..
"เกลียดคำขอโทษ" เพลงนี้อธิบายอารมณ์ของเชน และส้มได้เป็นอย่างดี.. ด้านนักแสดงคงต้องยกนิ้วให้ เต๋อ ที่เรื่องนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระเอกอย่างเต็มตัว..สาวๆ หลายคนนอกจากจะสงสาร และลุ้นในชะตากรรมที่เขาจะต้องเจอก็ยังแอบหลงใหลในความหล่อของพระเอกคนนี้อีกด้วย..ตัวละครที่เต๋อเล่น ถือเป็นตัวละครหลักที่นำพาเรื่องลี้ลับเหล่านี้มาสู่คนรอบตัว การส่งมองอารมณ์ให้คนดูถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งก็ถือว่าสอบผ่าน..ด้านนางเอกสาว พั้นช์ ที่ถือว่าเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง..สวมบทบาทมาดพนักงานเดินตั๋วได้เนียนตลอดเรื่อง..อีกทั้งยังส่งอารมณ์คู่รักได้ดีทีเดียว..โดยเฉพาะฉากวิ่งหนีความมืด ที่ส่งอารมณ์ให้คนดูเกือบทั้งโรงต้องร่วมวิ่งไปกับตัวละครด้วย.. หากให้คะแนนเต็ม 10 จากภาพยนตร์เรื่องนี้...พี่ลาเต้ ขอควักคะแนนแบบไม่เสียดายให้ไปเต็มๆ 9 คะแนน เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวผี แต่ก็ไม่ทำให้คนที่ไม่กลัวผีได้ผิดหวัง..หลายเรื่องที่ผ่านมาที่เป็นหนังผี ส่วนใหญ่ทำอกมาได้หลอน แต่เรื่องนี้คนดูจะได้ทั้งหลอน และน่ากลัว ในอารมณ์เดียวกัน..จนคนดูหลายคนต่างพูดกันว่า "โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต" แต่ "โปรแกรมนี้ คนดูอาฆาต" แทน..เพราะทำได้สุด....จริงๆ อากัปกิริยาของคนที่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้.. - คนดูร้อยละ 100 เมื่อได้ดูหนังเรื่องนี้..จะเห็นอกใจเห็นใจพนักงานโรงหนังมาก..ถึงมากที่สุด.. - คนดูร้อยละ 90 ระหว่างที่นั่งดูจะไม่จ้องมองแค่เพียงจอหนัง แต่จะหันมามองรอบๆ และด้านบนเป็นระยะๆ..ตามขีดจำกัดความกลัว.. - คนดูร้อยละ 80 ไม่กล้าเข้าห้องน้ำในโรงหนังหลังภาพยนตร์ฉายจบ.. - คนดูร้อยละ 70 จะหลับตาปี๋ทุกครั้งตอนที่ผีเริ่มจะออกมา.. - คนดูร้อยละ 60 จะจดจำใบหน้าของ "ชบา" ตัวเอกของเรื่องได้แม่นยำกว่าใบหน้าพระเอกนางเอก..แม้กระทั่งดูเสร็จแล้ว กลับมาบ้านก็ยังจำได้[อีก].. - คนดูร้อยละ 50 ชื่นชอบ และเผลอหัวเราะในฉากจบของภาพยนตร์เรื่องนี้..
ทำไมโปสเตอร์ด้านซ้ายถึงมีแต่คนตาบอดนั่ง เพราะอะไร ไปพิสูจน์กันเอง.. - คนดูร้อยละ 40 ต้องปิดตาตั้งแต่ฉากแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้.. - คนดูร้อยละ 30 จะตั้งคำถามตลอดทั้งเรื่องว่า "จะเข้าไปบ้านชบาทำไมนะ.." - คนดูร้อยละ 20 ที่เป็นผู้หญิงไม่ควรเอาผ้าคลุมไหล่ เสื้อหนาวเข้าไปด้วย เพราะอาจจะทำให้ดูภาพยนตร์ไม่ครบ 100% - คนดูร้อยละ 10 ที่เป็นผู้ชายควรจะเลือกไปดูคนเดียว หากรู้ว่าตัวเองจะแต๋วแตกตอนที่ตกใจ.. เป็นยังไงกันบ้างครับ..หากน้องๆ ชาวเด็กดีคนไหนไม่มีอะไรกิจกรรมอะไรทำในช่วงฮาโลวีนปีนี้..ภาพยนตร์เรื่องนี้ช่วยน้องๆ ได้ครับ..รับรองได้ "วีน" และ "หวีด" ไปพร้อมกันแน่.. วันที่ 30 ตุลาคมนี้นะคร๊าบ..ที่จะเข้าฉายจริงๆ..และที่สำคัญ อย่าลืมจับตาดูฉากตอนจบให้ดีๆ นะครับ.. พี่ลาเต้ ขอเตือนห้ามพลาดโดดเด็ดขาด..และใครไปดูมาแล้วเป็นยังไงก็มาเล่าให้ฟังได้นะคร๊าบ.. |
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
130 ความคิดเห็น
ไม่อยากไปปดูเลยอะ
เราไปดูกันสองคนก็ได้เนอะ(ว่าไปนั่น=_=!)
รู้แล้วๆทำไมพี่ลาเต้ไปดูคนเดียว
อย่างที่บอกไง
เพราะพี่ลาเต้เค้าจะได้แต๋วแตกไม่อายใคร
อิอิ(ล้อเล่นๆอย่าเครียดครับ^^)
^^~
แซวเล่นๆ
โอวววว น่ากลัวขนาดนั้ น ไม่ไปดูดีกว่ามั้ ยเนี่ย
เดี๋ยวช๊อ คตายก่อ นนนนน
แต่ก็อยากดูๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
^ ^ ว่าแต่ทำไ มพี่ลาเต้ไปดูไม่ชวนกันมั้งเลยน้า
> <
-_____-;; นู๋ล้อเล่น
แต่สงสัยจะ 20 % เนี่ยย ..เอาไปคลุมเวลาหนาว 555
ไม่ได้ปิดตาน้าาา....(ซะที่ไหน ?)
.
.
น่ากลัวมากเลยรึเปล่าอ่า
อยากดูแบบกลัวจนแทบช็อคตายย O[]O;
555 ออกแนวโรคจิต