การเดินทางไปอวกาศครั้งหนึ่งๆ มักไปเป็นเวลานาน...หลายวัน ดังนั้นเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก สำหรับการเดินทางก็คงหนีไม่พ้น "เรื่องการกิน" ดังประโยคเด็ดที่ว่า "กองทัพเดินด้วยท้อง" งานนี้...พี่ผึ้งว่าถ้าอาหารไม่อร่อย รูปร่างไม่น่ากิน แล้วต้องทนทานซ้ำๆๆ นักบินอวกาศเป็นได้ "คลั่ง" แน่ 555

ไม่น่าแปลกใจเลยที่...นักบินอวกาศรุ่นเก่ามักบ่นถึงอาหารอวกาศว่า "ไม่น่ากิน" อย่าง จอห์น เกลน เห็นว่า การกินอาหารบนอวกาศนั้นน่ะง่าย แต่อาหารที่ให้เลือกนี่สิเป็นปัญหา เพราะมีให้เลือกไม่กี่อย่างเลย
หลังจากที่นักบินอวกาศรุ่นแรกๆ บ่น ถึงอาหาร เช่น "นัก บินรุ่นยานเมอร์คิว รี่" ที่ต้องกินอาหารเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ที่แห้งและแห้ง ดูดน้ำกึ่งเหลวในหลอดอะลูมิเนียม มีความเห็นพ้องว่า อาหารไม่อร่อยเลยและไม่ชอบดูดน้ำจากหลอดอะลูมิเนียม องค์การนาซ่าจำเป็นปรับปรุงอาหารให้กินง่ายขึ้น ถูกปากมากขึ้นและมีอาหารให้เลือกหลากหลาย
นักบินอวกาศรุ่นถัดมา คือ "รุ่นยานเจมินี่" จึงมีอาหารเพิ่มขึ้นหลายอย่าง เช่น กุ้งค็อกเทล ไก่ ผัก บัตเตอร์สกอตพุดดิ้ง แอปเปิ้ลซอส อาหารรุ่นนี้ยังเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กและเคลือบด้วยเจลาตินเพื่อป้องกันการแตกป่น และจัดอยู่ในแพ็กเกจที่ดีขึ้น ทำให้คุณภาพอาหารดีขึ้นไปด้วย
นักบินอวกาศรุ่น "ยานอพอลโล" เป็นรุ่นแรกที่มีน้ำร้อนให้ มีการนำเทคโนโลยีสกัดน้ำออกจากอาหาร ทำให้รสชาติอาหารดีขึ้น และยังมีเมนู "สพูนโบล" เป็นรุ่นแรก คือเมื่อเปิดถ้วยพลาสติกออกมาจะมีอาหารและใช้ช้อนตักกิน
นักบินอวกาศรุ่น "สกายแล็ป" มีพื้นที่สำหรับกินอาหารและมีโต๊ะไว้ให้นั่งกิน มีช้อน ส้อม มีด ตู้เย็น และมีอาหารให้เลือก 72 ชนิด
ส่วนนักบินรุ่น"กระสวยอวกาศ" มีอาหารพื้นฐานให้เลือก โดยหลังจากกินมาแล้ว 7 วัน อาหารถึงจะซ้ำ และยังเลือกรายการอาหารที่ชอบได้ด้วย แต่ต้องผ่านความเห็นชอบจากนักโภชนาการเสียก่อน เพื่อจะควบคุมอาหารให้เพียงพอต่อความจำเป็นของร่างกายได้

|
น้ำหนักของอาหารนั้นจะคำนวณไว้ว่าให้มีน้ำหนัก 3.8 ปอนด์ต่อคนต่อวัน โดย 1 ปอนด์ก็เป็นน้ำหนักของแพ็กเกจอาหารไปแล้ว จึงเหลืออาหารเต็มๆ แค่ 2.8 ปอนด์ ส่วนผักอย่างเช่น แครอตและขึ้นฉ่ายนั้น มีให้กินสดๆ 2 วันแรก ถ้าไม่กินจะเน่าเสีย
ปัจจุบัน อาหารอวกาศมีให้เลือกค่อนข้างมาก โดยเป็น "อาหารที่สกัดเอาน้ำออกแล้ว" เช่น ซุปไก่ ครีมเห็ด มะกะโรนีชีส ข้าวกับไก่ ไข่คน "อาหารที่ผ่านความร้อนเพื่อทำลายเชื้อจุลินทรีย์และเอนไซม์" เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่าในกระป๋อง พุดดิ้งในถ้วยพลาสติก ชิกเก้นอลาคิงที่อยู่ในห่อและต้องใช้กรรไกรตัดก่อนที่จะนำออกมากิน "อาหารที่มีความชื้นพอประ มาณ" คือสกัดเอาความชื้นออกเพื่อป้อง กันจุลินทรีย์ แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงความชื้นอยู่ 15-30% เพื่อให้อาหารมีความนุ่ม เช่น ลูกพีชแห้ง ลูกแพร์แห้ง ลูกแอปปริคอตแห้ง เนื้อแห้ง "อาหารตามธรรมชาติ" คืออาหารที่มีรูปแบบตามธรรมชาติ แค่ตัดซองด้วยกรรไกรก็นำมากินได้เลย เช่น ถั่ว กราโนล่าบาร์ และคุกกี้ "อาหารที่ผ่านการฉายรังสี" สำหรับอาหารประเภทนี้ ตอนนี้มีเมนูเดียวเท่านั้น คือสเต๊กเนื้อ
เมื่อมีรายการอาหารรวมทั้งเครื่องดื่มให้เลือกมากขึ้น จึงมีอาหารและเครื่องดื่มซึ่งเป็นเมนูในดวงใจของเหล่านักบินอวกาศ
10 อันดับอาหารและเครื่องดื่มโปรดที่ได้รับการโหวตจากเหล่านักบินให้เป็น "อาหารอวกาศ" มีดังนี้

|
อันดับแรกนั้นคือ "ช็อกโกแลตเอ็มแอนด์เอ็ม" เจ้าของสโลแกน "ละลายในปาก แต่ไม่ละลายในมือ" ที่จริงแล้ว องค์การนาซ่าไม่ได้ระบุว่าเป็นช็อกโกแลตยี่ห้อนี้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการโฆษณา จึงระบุแต่เพียงว่าเป็นช็อกโกแลตเคลือบเท่านั้น แต่เมื่อปี 1996 แชนนอน ลูซิด นักบินอวกาศหญิงเป็นผู้เปิดเผยยี่ห้อ โดยกล่าวว่า "บนสถานีอวกาศเมียร์น่าจะมีช็อกโกแลตเอ็มแอนด์เอ็มมากกว่านี้"
อันดับ 2 เป็นของหวานอีกเช่นกัน คือ "ไอศกรีม" ไอศกรีมแท่งนี้แห้งเหมือนกับชอล์กและไม่เย็น แต่เมื่อเอาเข้าปากไปแล้ว มันละลายและมีรสชาติเหมือนกับกินไอศกรีมจริงๆ การนำไอศกรีมขึ้นไปบนอวกาศนั้น ต้องสกัดน้ำออกให้หมดและไม่จำเป็นต้องแช่ในตู้เย็นเพื่อให้มันแข็ง
อันดับ 3 คือ "น้ำส้ม" มาในรูปผงน้ำส้ม ยี่ห้อดังที่นาซ่าใช้คือ "แท็ง"
อันดับ 4 "โค้กและเป๊ปซี่"
ปี 1985 นาซ่าให้ทั้งโค้กและเป๊ปซี่ขึ้นไปบนอวกาศ โดยนาซ่าให้เอาขึ้นไปทั้งกระป๋องแต่ประดิษฐ์ฝาเปิดให้ เพื่อนักบินอวกาศจะได้รับรสชาติเต็มๆ ของเครื่องดื่มรสที่ว่า แต่การทดลองนี้ประสบความล้มเหลวเพราะแรงโน้มถ่วงที่เท่ากับศูนย์รวมทั้งไม่มีตู้เย็น ต่อมานาซ่าจึงให้ทดลองขึ้นไปอวกาศอีกครั้ง โดยให้มีอยู่ในรูปถ้วยอัดด้วยความดันและมีที่เปิดถ้วย นักบินอวกาศจึงดื่มได้ตามใจปรารถนา
อันดับ 5 "สไปซี่กรีนบีน" หรือ "ถั่วเขียวรสเผ็ด" เมนูเด็ดของเชฟ "เอมเมอริล ลากาส" หนึ่งในเชฟหลายคนที่ได้รับเชิญจากองค์การนาซ่าให้มาทดลองกับลิ้นนักบินอวกาศ
อันดับ 6 "แคนาสแน็ก" คือคุกกี้ของแคนาดา เป็นคุกกี้โอ๊ตมีขนาดพอคำและเอามาประกบกัน ตรงกลางจะเป็นครีมเมเปิ้ล ครีมราสเบอร์รี่ ครีมบลูเบอร์รี่ ครีมน้ำผึ้ง ครั้งแรกที่นำขึ้นมาบนอวกาศคือ เมื่อนายเดฟ วิลเลียมส์ นักบินอวกาศชาวแคนาดาขึ้นมากับยาน STS-118 การที่ทำให้คุกกี้อยู่ในขนาดพอดีคำนั้นก็เพื่อจะได้ให้เข้าปากง่ายๆ ไม่มีเศษคุกกี้หล่นลงมา "แคนาสแน็ก" บรรจุอยู่ในซองสุญญากาศและบนคุกกี้มีสัญลักษณ์ใบเมเปิ้ลอยู่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแคนาดา
อันดับ 7 "สเปซ แรม ซุป" หรือ "สเปซ ราเม็ง ซุป" คือ บะหมี่ถ้วย นักบินอวกาศที่นำมากินคนแรกแน่นอนว่าต้องเป็นสัญชาติญี่ปุ่น คือ นายโซอิจิ โนกูจิ ที่เดินทางมากับยาน STS-114 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ราเม็งของยี่ห้อนิชชินดัดแปลงให้เป็นก้อนกลม ส่วนน้ำซุปนั้นให้แช่อยู่ในน้ำร้อนขนาด 70 องศาเซลเซียส เพราะบนอวกาศไม่มีน้ำเดือดให้ โดยมีให้เลือก 4 รส คือ รสซอสถั่วเหลือง รสเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น หรือ มิโสะ รสกะหรี่และรสหมู
อันดับ 8 "แอนไทแมตเทอร์" เป็นเครื่องดื่มให้พลังงานประเภทเดียวกับกระทิงแดง ผสมด้วยไวตามินและเกลือแร่ ผลิตโดยบริษัทไมโครกราวิตี้เอนเตอร์ไพรซ์
อันดับ 9 "เมล็ดมะเขือเทศและเมล็ดเบซิล" เป็นเมล็ดพืชที่ยานอวกาศขนไปมากที่สุด นางบาบร่า มอร์แกน นักบินอวกาศของแคนาดาที่ขึ้นไปกับยาน STS-118 หวังว่าเมื่อลงกลับพื้นโลกแล้ว จะให้เด็กๆ นำมาทดลองปลูก เพื่อเทียบเคียงดูว่า เมล็ดพืชที่ขึ้นไปบนอวกาศกับเมล็ดพืชที่อยู่บนโลก อย่างไหนเมื่อปลูกแล้วจะมีความเอร็ดอร่อยมากกว่ากัน
อันดับ 10 "ค็อกเทลกุ้ง" เป็นอาหารว่าง ถูกปากนักบินอวกาศเกือบทุกคน
นักบินอวกาศเดี๋ยวนี้...ชอบทานแต่ละอย่างเป็นอาหารทานเล่นทั้งนั้นเลย...มีแต่ของหวาน ของกินเล่น ที่สำคัญขนาด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือพวกเราๆ ชอบเรียกว่า "มาม่า" ยังได้ไปลอยต่องแต่งบนอวกาศให้นักบินอวกาศได้หม่ำกันให้อร่อย หุหุ พี่ผึ้งสงสัยว่า แต่ละคนจะต้องกินมากขนาดไหนถึงจะอิ่ม เล่นทานแต่ "ขนม" ดีไม่ดีได้ฟันผุหมดปากก่อนกลับโลกเท่านั้นเอง 555

พี่ผึ้ง : ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก สเปซดอทคอม และ ข่าวสด
|
3 ความคิดเห็น
ใครอยากกินลองไปที่พิพิฒพรรณสมิทโซเนียนที่วอชิงตันดีซีดูนะคับ อันละ5เหรียญได้
แต่ว่าชอบเอ็มแอนเอ็มเหมือนกัน โฮะๆๆ