How To หลุดพ้นจาก Friend Zone : ทำยังไงให้เป็นได้มากกว่าเพื่อน!

 

          ถามใจตัวเองดีๆ เรากำลังติดอยู่ในพื้นที่อันตรายที่เรียกว่า Friend Zone หรือเปล่า คนแอบรักเพื่อนที่ไม่ว่าทำยังไง้ยังไง ก็ยังเป็นได้แค่เพื่อน ทั้งที่เพื่อนมีเยอะแล้ว อยากเป็นมากกว่านี้จะได้มั้ย? จะไปต่อยังไงดี? มาดูวิธีทางจิตวิทยา ที่อยากบอกว่าลองดูก็ไม่เสียหายนะ
 

ภาพจาก pixabay.com

 

คนแบบไหนที่มักจะติดอยู่ใน Friend Zone 
 

- คนที่ “ขี้อาย” เกินไป อายเกินกว่าจะกล้าพูดความรู้สึกออกมาตรงๆ 

- คนที่ทำตัว “น่ารัก” เกินไป กับคนที่แอบชอบ 

- คนที่ “ยอม” เกินไป 

- คนที่ “กลัวการถูกปฏิเสธ”
 

ภาพจาก pixabay.com

 

5 วิธีเด็ด! เปลี่ยนสเตตัสจาก Just Friend เป็นคนรัก
 

วิธีที่ 1 : ใจแข็งเข้าไว้ ให้ความสำคัญน้อยลง
 

          เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อรายไหนรายนั้น เวลาอยู่ด้วยกันแล้วมักจะสนใจเพื่อนที่ชอนจนจนออกหน้าออกตา เรียกว่าสนใจจนเกินไปด้วยซ้ำ ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ตัวร้อนเป็นไข้ก็มียา ลืมเอาหนังสือเรียนมาเหรอ เอาของเราไปก่อนสิ เป็นแบบนี้ทุกวันเฉพาะกับเพื่อนที่แอบชอบเท่านั้น นี่เรากำลังทำให้ตัวเองดูง่ายๆ เกินไปหรือเปล่า ลองปรับพฤติกรรมตัวเอง สนใจเพื่อนให้น้อยลงหน่อย ทำเป็นไม่รู้รายละเอียดบ้าง หรือไม่ทันสังเกตบ้าง สนใจเป็นแค่บางเรื่องบ้าง ความสนใจเราจะได้ดูเป็นพิเศษขึ้น และในทางจิตวิทยาบอกว่า ความสนใจที่ลดลง เป็นการแสดงออกให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าว่าเราพร้อมจะเดินจากไป หากความสัมพันธ์นี้ไม่มีการตอบรับนั่นเอง
 

ภาพจาก pixabay.com

 

วิธีที่ 2 : เว้นระยะห่าง สร้างความโหยหา
 

          จากปกติที่ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ ลองเว้นช่องว่างถอยห่างออกมาบ้าง ทำตัวไม่ว่างบ้าง ไม่ใช่ว่าเพื่อนเอ่ยปากนัดเมื่อไหร่ ว่างเมื่อนั้น พร้อมเจอเสมอเมื่อเธอต้องการ แทนที่จะเรียกเมื่อไหร่ก็มา เปลี่ยนเป็นว่า ยุ่งๆ อยู่บ้าง ทิ้งระยะห่างให้รู้สึกได้โหยหาและคิดถึงเราบ้างก็ดีนะ

 

วิธีที่ 3 : เมคคู่แข่ง สร้างแรงจูงใจ
 

          มันจะไปท้าทายอะไรถ้าชีวิตคนเรามีแค่ตัวเลือกเดียวละ จริงมั้ย? แทนที่จะมีเธอหรือเขาเป็นเพื่อนสนิทที่ทุ่มเทให้เพียงคนเดียว ก็ลองเปิดใจออกไปทำความรู้จักคนใหม่ๆ สนิทกับเพื่อนใหม่ๆ ดูบ้าง ให้คนข้างๆ เห็นว่า เราไม่ได้เอาชีวิตไปผูกติดกับเขาเพียงแค่คนเดียวสักหน่อย ให้เขาได้รู้สึกอิจฉาและเหมือนกับว่าได้มีการแข่งขันดูบ้าง จะเพิ่มความน่าสนใจ และเริ่มหันกลับมาฉุกใจคิดว่าชีวิตของเขาและเธออาจจะต้องการเรามากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้  
 

ภาพจาก pixabay.com

 

วิธีที่ 4 : เปลี่ยนแนวใหม่ ให้เขาทำตามใจเรา 
 

          ปกติแล้วคนที่ตกอยู่ใน Friend Zone มักจะเป็นคนที่ทุ่มเทและทำทุกอย่างให้ตามี่อีกฝ่ายขอมาตลอดใช่มั้ยล่ะ ทีนี้ นักจิตวิทยาบอกว่า ลองทำกลับกันดูบ้าง แทนที่จะเออๆ ออๆ ยอมตามใจ และทำตามที่อีกฝ่ายขอให้ทำ ก็เปลี่ยนเป็นเรานี่แหละที่ออกปากขอให้อีกฝ่ายทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ หรือบอกในสิ่งที่เราต้องการดูบ้าง เช่น ปกติเธอไม่ชอบกินผัก แต่ลองให้เธอกิน อาจจะท้าทายเธอ หรือขอร้องดีๆ การที่อีกฝ่ายได้ทำอะไรแปลกๆ แหวกแนว ตามใจเราบ้าง ก็เป็นประสบการณ์ที่เชื่อเถอะว่าลืมไม่ลง แถมยังมีเรื่องให้คุยต่อ โม้กันต่อ ที่สำคัญ  ยิ่งพวกเขาลงทุนและทุ่มเทให้เราเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ของเราก็ยิ่งมีค่าและความหมายต่อพวกเขามากเท่านั้น  

 

วิธีที่ 5 : มีของให้ ตอบแทนที่ทำเพื่อเรา
 

          เวลาที่เราร้องขอให้เขาที่เราแอบชอบทำอะไรสักอย่างแล้วเขาทำตาม ก็อย่าลืมให้ของขวัญเป็นรางวัลกลับไปบ้าง ดีมาดีกลับ จะได้ไม่รู้สึกว่าเราแค่ชี้นิ้วสั่ง หรือบังคับฝืนใจให้เค้าทำตาม 
 

ภาพจาก pixabay.com

 

          ถ้าทำทั้ง 5 วิธี แล้วไม่มีแนวโน้มจะหลุดจาก Friend Zone ไปได้เลย  หรือถูกย้ำแต่คำว่า “เราคือเพื่อนที่ดีที่สุด” พี่แก้วก็ว่าก็อาจถึงเวลาต้องทำใจจริงๆ เรื่องความรักบังคับกันได้ที่ไหน คนไม่ใช่ ทำดีแค่ไหนก็ไม่ได้ใจอยู่ดี  แต่ถ้าเค้าเองก็พอมีใจอยู่บ้าง แค่อาจจะยังปากแข็ง ทำซึน หรือยังไม่รู้ใจตัวเอง ทั้ง 5 วิธีนี้แหละจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เขารู้สึกมากกว่าเพื่อนได้แน่นอนค่ะ ใครที่ยังตกใน Friend Zone บ้าง มาประสบการณ์กันหน่อยสิคะ 

 

ข้อมูลจาก
psychologytoday.com (1)
psychologytoday.com (2)