วันนี้พี่แอนเจและคอลัมน์ It Girl ขอเอาใจสาวๆ ที่รักการถ่ายภาพ แต่ต้องการแรงบันดาลใจ หรืออยากมีไอดอลในการถ่ายภาพพี่แอนเจขอแนะนำสาวคนนี้เลย สุพัตรา หมั่นแสวง หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อนี้ ถ้าพูดอีกชื่อนึงจะร้องอ่อ กันเลยทีเดียวนั้นคือ "มานี มีใจ" นั้นเอง สาวๆ NUGIRL ที่ชอบถ่ายภาพ และสไตล์การแต่งตัวแบบ Minimal ต้องไม่พลาดเลย!
Q: ชื่อมานี มีใจมีที่มาจากอะไร?
มานี มีใจ: มันเกิดจากวันนึงเราไปเดินถนนคนเดิน แล้วเจอโปสการ์ดนึงเขียนว่ามานี มานีมีใจ แล้วเรารู้สึกชอบ Impression กับคำนี้ มันจริงใจ มันเชยๆ เราชอบอะไรเชยๆ แล้วในสมัยตอนนั้นคืออยู่ ม.4 - ม.5 ในโซเชียลเขาจะไม่ค่อยใช้ชื่อจริง เดี๋ยวนี้อาจจะทำไม่ได้เพราะ Facebook บังคับให้ใช้ชื่อจริง แต่เมื่อก่อนก็เอาคำว่ามานี มีใจมาใช้กับทุกๆโซเชียลที่เรามี ทั้งFacebook Email Hi5 ทุกคนก็จะรู้จักเราในนามมานี มีใจ แล้วเมื่อก่อนตอนทำงานศิลปะ หรือถ่ายภาพเราก็จะลงชื่อว่า มานี มีใจ พอสักปี 3-4 เราก็ตั้ง Facebook ขึ้นมาชื่อ Maneemejai Photographer เพื่อจะแยกผลงานการถ่ายภาพของเราเพื่อให้คนจำเราได้
Q: เริ่มถ่ายภาพตั้งแต่ตอนไหน ทำไมถึงชอบมัน?
มานี มีใจ: ย้อนกลับไป 10 กว่าปีเลย เมื่อก่อนเราชอบค้นภาพถ่ายเก่าๆ มานั่งดูเล่น เรารู้สึกว่า เรามีทางเดียวที่สามารถเห็นตัวเองได้โดยไม่ต้องมองกระจกคือ ภาพถ่าย ตั้งแต่นั้นมาก็ชอบถ่ายคน เพราะมันมีเรื่องราวอยู่ในทุกๆ รอยยิ้ม พอมีงานโรงเรียนหรืองานอื่นๆ เราก็ชอบพกกล้องถ่ายรูปไปถ่ายเพื่อนๆ แล้วเราชอบโมเมนท์ที่เพื่อนๆ ชอบรูปที่เราถ่าย
แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองอยากจะเป็นช่างภาพนะ คือเราชอบถ่ายรูปก็จริง แต่ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอยากเป็นช่างภาพเลย จนปี 3 - 4 เรายังคิดอยู่เลยว่าจบไปจะทำอะไรดี เพียงแต่ว่า การถ่ายภาพเป็นสิ่งเดียวที่เราทำมัน และอยู่กับมันได้นานที่สุด เรามีสมาธิกับมันที่สุด เราเคยลองทำหลายอย่างที่ไม่ใช่การถ่ายภาพนะ แบบภาพเพนท์ เห็นศิลปินคนอื่นเขาใช้เทคนิคนี้วาดภาพเราก็ลองทำตามบ้าง ปรากฏว่ามันตั้งใจเกินไป งานมันก็ออกมาไม่ค่อยดี แต่มันจะมีวิชานึงที่เป็นวิชาถ่ายรูปซึ่งไม่ใช่วิชาหลัก เป็นวิชาเพิ่มเติม แล้วเรารู้สึกว่า ทำไมเราถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดผ่านการถ่ายรูปได้ดีกว่าศิลปะแขนงอื่นๆ ทำให้วิทยานิพนจ์ของเราก็เลยออกมาเป็น ภาพถ่ายกับวิดีโอ
Q: ภาพถ่ายของมานีเรียกว่าภาพถ่ายแนวไหน?
มานี มีใจ: เมื่อก่อนตอนเรารู้ว่าเราชอบถ่ายภาพ ตอนนั้นเราก็เริ่มศึกษาด้วยตัวเอง เราไม่ได้เรียนถ่ายภาพมาโดยตรง แล้วเราเห็นผลงานของต่างชาติแล้วทำให้รู้ว่าการถ่ายภาพมันมีหลายแบบ หลายสไตล์ ช่วงแรกๆ ของการหัดถ่ายภาพอย่างจริงจังเป็นอะไรที่สนุกมากเพราะเรามีไอเดียตลอดเวลา อยากทำโน่น อยากทำนี่อยู่ตลอด ถ้าย้อนกลับไปดูงานเก่าๆ เราเทียบกับตอนนี้คือต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะเราได้ทดลอง มันเป็นผลงานที่เรารู้สึกว่า มันดีในตอนนั้น แต่ถ้ามองย้อนกลับไปในตอนนี้เรารู้สึกเหมือนกับว่า นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการทดลอง จนได้รู้ว่าเราชอบถ่ายภาพอะไรก็ได้ที่เป็นธรรมชาติ ของความเป็นธรรมชาติ สังเกตุจากงานเก่าๆ เราจนถึงตอนนี้ ถึงแม้จะมีเทคนิคที่ต่างกัน แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความเป็นธรรมชาติ แสงธรรมชาติ เราจะชอบดูสเน่ห์ของแสงในแต่ละช่วงเวลา เช้า กลางวัน เย็น เราชอบถ่ายท้องฟ้า เป็นคนชอบท้องฟ้าด้วยเวลาเราเดินทางเราชอบมองท้องฟ้า แล้วบอกคนข้างๆ ว่า “วันนี้ท้องฟ้าสวยนะ” เราเป็นคนที่โตมากับธรรมชาติ ท้องฟ้า ป่าไม้ แม่น้ำ สิ่งเหล่านี้มันปลูกฝังมากับเรา
Q: บอกได้ไหมว่าท้องฟ้าตอนกลางวัน กับท้องฟ้าตอนค่ำๆ ต่างกันยังไงในความรู้สึกของมานี แล้วมานีชอบแบบไหนมากที่สุด?
มานี มีใจ: เรารู้สึกว่า ตอนพระอาทิตย์ขึ้นมันให้ความรู้สึกของการเริ่มต้น มันมีพลัง แต่ถ้ากลางวันเราชอบแสงแดด เราเป็นคนเห็นท้องฟ้า เห็นแดดแล้วเราดีด มันทำให้นึกถึงอิสระของฤดูร้อน ตอนเด็กที่เราไปว่ายน้ำ มันสดใส ตอนเย็นๆ ตอนพระอาทิตย์ตกมันคือการสิ้นสุดของวัน พระอาทิตย์ตกแล้วมันแปลว่าสิ้นสุดวันแล้วนะหยุดทำงานได้แล้ว ได้เวลาพักผ่อน เวลาใครถามเราว่าเลิกงานตอนไหน ก็แสงหมดอะค่ะ
Q: นอกจากการถ่ายรูปในวันว่างๆ มานีชอบทำอะไร?
มานี มีใจ: วันว่างๆ เราชอบอยู่ห้อง 555 ส่วนใหญ่เราชอบอยู่ห้อง เพราะว่างานของเรามันต้องออกไปข้างนอก เดินทางไปโน่นไปนี่ แล้วจะไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่ห้อง เพราะฉะนั้นวันว่างๆ ของเราจะใช้เวลาอยู่ในห้อง มากสุดก็ออกไปเดินห้าง แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ห้องมากกว่าเวลาอยู่ห้องก็จะชอบทำความสะอาดห้อง ชอบซักรองเท้า เรารู้สึกว่าเรามีความสุขเวลาเห็นห้องสะอาดเป็นระเบียบ ที่บอกว่าซักรองเท้าคือเราเป็นคนที่มีรองเท้าสีขาวเยอะมาก การซักรองเท้าคือการให้รางวัลกับตัวเอง หรือไม่ก็แต่งรูป
Q: ไปช้อปปิ้งบ่อยแค่ไหน ใน 1 สัปดาห์?
มานี มีใจ: จริงๆ พอเดี๋ยวนี้มีโซเชียล IG หรืออะไรแบบนี้ เราก็จะมีความรู้สึกว่า ก่อนนอนก็เสียเงินได้ 5555 อยู่เฉยๆ ก็เสียเงินได้ เรา Follow ร้านที่เราชอบ พอเจอสไตล์ที่เราชอบก็จะแคปเชอร์ไว้อย่างร้าน CornerstoneBKK, Calico Clothshop หรือ April Pool Day แต่ว่าพวกห้างเราก็ชอบไปเดินนะ เราชอบไปเดินดูคน ดูเทรนด์เสื้อผ้า ไม่ได้ซื้อก็แฮปปี้ที่จะเดิน
Q: ซื้ออะไรบ่อยสุด?
มานี มีใจ: ส่วนใหญ่ก็เสื้อผ้า เราเป็นคนที่ชอบใส่อะไรที่มันสบายๆ ไม่ต้องแต่งเยอะ เสื้อผ้าก็ขอเป็นแบบใส่สบายๆ ใส่แล้วไม่อึดอัด ส่วนพวกเครื่องประดับอย่างใบหน้าเรา เรารู้สึกว่ามีแว่นอย่างเดียวมันก็เยอะแล้ว ถ้าจะไปใส่อะไรเพิ่มมันจะดูเยอะไปและด้วยการทำงานของเรา ถ้าใส่แหวน หรือทาเล็บ มันก็จะแบบเกะกะ ทำงานไม่ถนัด เราชอบอะไรที่สบายๆมากกว่า รองเท้าก็จะเป็นรองเท้าผ้าใบ พวกสปอร์ต ถ้าเป็น Converse ก็จะต้องมีมากกว่า 1 คู่ ใส่สลับๆ กันไป กระเป๋าก็จะเน้นถุงผ้า หรือเป้
Q: รู้สึกชอบคำว่า Hipster ไหม ถ้ามีคนมาเรียกเราว่า เราเป็น Hipster เราจะชอบไหม?
มานี มีใจ: ไม่มีใครเรียกตัวเองว่า Hipster แต่สำหรับเราแล้วแค่เค้าชอบผลงานของเรา เดินเข้ามาหาเราแล้วบอกว่าติดตามผลงานเรา มาขอถ่ายรูป แค่นั้นเราก็แฮปปี้แล้วไม่ได้แคร์ว่าจะต้องเรียกเราว่าอะไร ขอแค่เขาชอบผลงานเราก็พอ
Q: มีแรงบันดาลใจอะไรบ้างที่มานี ชอบมากๆ?
มานี มีใจ: เราจะไม่ได้มีไอดอลที่เป็นช่างภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่เป็นศิลปินมีไลฟ์สไตล์ ทัศนคติของเขาที่เราชอบตั้งแต่สมัยเรียนก็คือพี่แพร นัดดา เขาเป็นศิลปินแล้วเราก็ติดตามเขามาค่ะ จนเราได้รู้จักได้คุยกับเขาค่ะ พอยิ่งรู้จักเรายิ่งชอบเขา ชอบทัศนคติของเขา การใช้ชีวิตของเขามันใกล้เคียงกับเรา
Q : แนวเพลงที่ชอบ ?
Q : แนวเพลงที่ชอบ ?
มานี มีใจ : เพลงที่ชอบก็จะเป็นเพลงที่ฟังสบายๆ อย่างเพลงของพี่ญารินดาเราโตมากับเขาฟังเพลงเขาแล้วมันอินอย่างเช่น เพลงแค่ได้คิดถึง และพี่เจี้ยบ เธอเห็นท้องฟ้านั้นไหม รู้สึกว่าเราฟังตอนไหนก็ได้ ฟังในช่วงวัยไหนก็เพราะอะ ฟังแล้วมันมีแรงบันดาลใจ
Q : หนังที่ชอบดู ?
Q : หนังที่ชอบดู ?
มานี มีใจ : ส่วนหนังที่ชอบดู ส่วนใหญ่จะเป็นหนังที่เกี่ยวกับเด็ก หนัง Feel Good อย่างที่เราชอบเด็กเพราะว่าเด็กมีความไร้เดียงสา เป็นอะไรที่คอนโทรลไม่ได้อย่างเรื่อง Little Miss sunshine เรารู้สึกว่ามันเหมือนเรามากเลยนะ เด็กในเรื่องคือเด็กอ้วน แล้วใส่แว่นคิดดูดิแค่หุ่นก็เหมือนเราแล้ว เป็นเด็กขี้แพ้ที่มีความพยายาม ซ้อมเต้น อยากเข้าประกวดตลกในสายตาคนอื่น แต่มีความพยายามเราเลยชอบ
5 Item สำคัญที่ขาดไม่ได้!
5 Item สำคัญที่ขาดไม่ได้!
- แว่นค่ะ คือแว่นมันอยู่กับเรามาเกือบครึ่งชีวิต เราสายตาสั้น 600 แล้วขาดแว่นไม่ได้ ถ้าไปไหนไกลๆ ก็จะต้องมีแว่นสำรองไว้
- กระเป๋าตัง
- นาฬิกา
- กล้องถ่ายรูป
- แฟรช์ไดร์ฟ
Q: เร็วๆ นี้อยากทำอะไร?
มานี มีใจ: เร็วๆ นี้จะมีทำสตูดิโอกับเพื่อนๆ แต่อาจจะบอกรายละเอียดยังไม่ได้ค่ะ และก็จะมีนิทรรศการ “Portrait of Family” เป็นนิทรรศการที่เราได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง The Village Album คือหนังเรื่องนี้พระเอกกลับไปที่บ้านชาวเขาของตัวเอง เพื่อที่จะถ่ายรูปเพื่อเป็นสำเนาของหมู่บ้าน เพราะหมู่บ้านนี้โดนไล่ เราก็เลยอยากจะกลับไปถ่ายรูปให้คนในหมู่บ้านของเรา คือเราโตมาบนดอย แต่เราไม่ใช่คนดอยนะคือพ่อแม่ของเราเป็นครูบนดอย แล้วตอนนี้เขาก็ยังอยู่ที่นั้นอยู่ ซึ่งอีก 3 ปีเขาก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว และอีกอย่างในหมู่บ้านบนดอยนั้นไม่มีบ้านไหนที่มีรูปครอบครัวของตัวเองติดฝาผนังบ้านเลย เราก็อยากจะไปถ่ายรูปให้คนในหมู่บ้าน จัดที่ตัวเมืองเชียงใหม่เลย
Q: ฝากอะไรถึงสาวๆ NUGIRL ที่กำลังค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่ไม่มีความมั่นใจที่จะทำมันหน่อยค่ะ
มานี มีใจ: สำหรับคนที่กำลังค้นหาตัวเอง ให้ลองดูสิ่งที่ตัวเองชอบและอยู่กับมันได้นานไม่สมาธิสั้น และมีความสุข ทำมันไปเรื่อยๆ อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นอย่าไปมองแบบก้าวกระโดดว่าพอเราเริ่มทำอะไรสักอย่างแล้วเราต้องประสบความสำเร็จเลย คือทุกคนต้องเริ่มจากศูนย์ก่อนทั้งนั้น ทุกอย่างต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ถ้ารู้ว่าชอบอะไรก็ทำเลย
สาวๆ NUGIRL ที่กำลังค้นหาตัวเองอยู่ในตอนนี้แล้วรู้สึกไม่กล้าทำ หรือยังไม่รู้ว่าชอบอะไร ก็ลองเอาแนวคิด หรือเทคนิคของมานี มีใจไปปรับใช้ดูนะคะ หรือถ้าชอบสไตล์การแต่งตัวแบบ Minimal ลองดูไอเดียการแต่งตัวจากมานี มีใจไปใช้ได้เลย ^_^
สำหรับพี่แอนเจและคอลัมน์ It Girl ต้องลากันไปก่อนแล้ว ในเดือนหน้าพี่แอนเจจะพาใครมาแนะนำให้รู้จักบ้าง อย่าลืมติดตามกันนะคะ ^_^
ขอบคุณสถานที่ ร้าน Glazziq (www.glazziq.com)
มานี มีใจ (facebook.com/Maneemejai-Photographer)
4 ความคิดเห็น
น้องอุ๊ น่าร๊ากกก
