สวัสดีคร้าบ.. เมื่อวานนี้ [7 เมษายน 2552] พี่ๆ ทีมงานเด็กดีดอทคอมนำทีมโดย พี่จูน พี่ปอย พี่นา และพี่ลาเต้ ได้ยกพลลงน้ำไปขึ้นบกที่ฝั่งสาทร ก่อนนั่งรถไฟลอยฟ้าเดินทางไปชม ภาพยนตร์เรื่องบุปผาราตรี ภาค 3.1 ที่โรงภาพยนตร์ SFW เซนทรัลเวิล์ดครับ.. และหลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว.. พี่ลาเต้ ก็คั๊นค้น ไม่ใช่คันอะไร.. เพราะคันปากอยากมาเล่าให้น้องๆ ฟังนั้นเอง..

 

   เรื่องเล่าบุปผาราตรี 3.1  

 

            หากน้องๆ ยังจำกันได้ตอนจบของบุปผาราตรี ภาค 2 ผีสาวบุปผาได้ถูกหมอผีปราบ และเผาไปเรียบร้อยแล้ว.. แล้วเหตุไฉนในบุปผาราตรี ภาค 3.1 ผีสาวบุปผาจึงกลับมาอีกครั้ง.. ซึ่ง พี่ลาเต้ ก็ขอเล่าเนื้อเรื่องให้ฟังดังต่อไปนี้คร๊าบ.. บุปผาราตรี ภาค 3.1 เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงนักเรียนประถมคนหนึ่ง ที่ประสบอุบัติเหตุจนสามารถระลึกชาติได้.. และเธอก็ได้รู้ว่าชาติที่แล้ว เธอคือ บุปผาราตรี!

 

 

            เด็กหญิงคนนี้ คือบุปผาราตรีที่กลับชาติมาเกิด แต่ไม่ว่าเธอจะเกิดในชาติภพไหน บุปผาราตรี ก็จำต้องเผชิญกับเรื่องราวการถูกข่มเหงทางเพศจากผู้ชายหลายๆ คนทุกชาติไป.. ดังเช่นชาตินี้ เด็กผู้หญิงคนดังกล่าว ต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์ถูกพ่อเลี้ยงทารุณอย่างสุดโหด ก่อนจะถูกโรคจิตข่มขืน จนเสียชีวิตในห้อง 609 ของออสการ์อพาร์ทเมนต์ ซ้ำรอยเมื่อชาติที่แล้ว..

 

            ด้วยชะตากรรมที่ต้องพบเจอ กับการถูกข่มเหงรังแกจากผู้ชายในทุกชาติไป จึงทำให้ผีสาวบุปผาเกิดความอาฆาตพยาบาท และมุ่งหมายที่จะฆ่าผู้ชายทุกคนที่อาศัยในออสการ์อพาร์ทเมนต์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ หรั่ง [มาริโอ้] เด็กหนุ่มน่าตาดี ที่เข้ามาเช่าห้องอาศัยในชายคาออสการ์อพาร์ทเมนต์

 

            ต่อไปนี้ชะตากรรมของหรั่งและชาวออสการ์อพาร์ทเมนต์จะเป็นอยู่อย่างไร และมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน.. ขณะเดียวกันจุดจบความอาฆาตของผีสาวบุปผาราตรี จะลงเอยอย่างไร พี่ลาเต้ ขอไม่บอก แต่ให้น้องๆ ไปพิสูจน์กันเองในโรงภาพยนตร์

 

   บุปผาราตรี ปะทะ บุปผาลาเต้ ตอนที่ 1 

 

            หากน้องๆ คนไหนที่ไม่อยากไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ด้วยเหตุผลสั้นๆ ว่า "กลัว" พี่ลาเต้ ขอบอกว่าน้องๆ คิดผิดอย่างมาก เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ "น่าฮา" มากกว่า "น่ากลัว" แค่เปิดฉากแรกน้องๆ ก็จะรู้สึกได้เลยว่า.. "มุกนี้คิดได้ไงอะ"

 

            ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดเรื่องขึ้นมาอาจทำให้น้องๆ หลายคนเกิดอาการงงและฮาไปในเวลาเดียวกัน ก่อนจะคิดขึ้นในใจว่า "นี่เรามาดูหนังผิดเรื่อง หรือเปล่า?" ต่อจากนั้นเรื่องราวก็จะนำเข้าสู่ต้นตอสาเหตุที่มาความอาฆาตของผีสาวบุปผา.. และจุดนี้เองคนในโรงภาพภาพยนตร์ก็จะรู้สึกสะเทือนใจในบางฉาก เช่น ฉากพ่อเลี้ยงบอกให้ลูกกินข้าว..

 

 

            เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้ จะตัดสลับระหว่างความฮา และความน่ากลัวอยู่ตลอดเวลา.. แต่ก็มีบางฉากที่เกิดความฮาไปพร้อมๆ กับความน่ากลัว เช่น ฉากกลุ่มเพื่อนๆ ของหรั่งมากินเลี้ยงที่ห้อง.. หรือฉากในบ่อนการพนันที่เรียกเสียงฮา และความน่ากลัวมาพร้อมๆ กันได้ไม่น้อย..

 

            ทันที่หนังตัดสลับไปที่ฉากยามค่ำคืนของออสการ์อพาร์ทเมนต์ คนดูในโรงภาพยนตร์ทุกคนจะนิ่งเงียบ และรอระทึกขวัญอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันเมื่อภาพตัดไปที่บ่อนการพนัน คนดูก็พร้อมใจกันยกผ้าปิดหน้าลง และเตรียมอ้าปากหัวเราะได้ทันที..

 

   บุปผาราตรี ปะทะ บุปผาลาเต้ ตอนที่ 2  

 

            ด้านนักแสดงนั้น คนที่โดดเด่นเกี่ยวกับความสยองมากที่สุด คงต้องยกให้ "ปลา" เด็กนักเรียนหญิงที่เป็นบุปผาราตรีกลับชาติมาเกิด ซึ่งคนดูไม่ค่อยจะชอบให้ออกเท่าไหร่ จะออกมาแต่ละทีเล่นเอาหลับตาไม่กล้าดูไปหลายวินาที ขณะที่ตัวละครที่โดดเด่นเรื่องความฮาคงต้องยกให้ ตัวละคร "แพนเค้ก" ซึ่งจะสวยสด งดความเศร้า เล่าความฮาขนาดไหน.. ต้องลองไปพิสูจน์ครับ รับรองไม่ผิดหวัง..

 

            หลายๆ คนที่ยังจำ "เจ๊สี่" เจ้าของออสการ์อพาร์ทเมนต์ในภาคที่ 1 ได้ ในภาคนี้ก็จะมี "เจ๊สาม" มารับช่วงต่อ.. อีกทั้ง "หมอผีคง" หมอผีที่ถูกมีดปักหลังในภาคก่อนๆ ก็ยังคงอยู่สร้างความฮา และรอปราบผีบุปผาอีกเช่นเคย..

 

            ส่วนตัวเอกของเรื่องอย่าง "บุปผา" [พลอย ไลลา] ก็ยังคงสวยปนน่ากลัวเช่นเคย แต่ภาค 3.1 นี้จะออกน้อยไปหน่อย.. ขณะที่ตัวเอกฝ่ายชายอย่าง "หรั่ง" [มาริโอ้ เมาเร่อ] คงไม่ต้องบรรยาย เพราะหล่อขึ้น และล่ำขึ้น อย่างเห็นได้ชัด.. คาดว่าคงจูงใจสาวแท้ สาวเทียม เทใจไปช่วยลุ้นให้คลาดแคล้วจากผีบุปผากันอย่างแน่นอน..

 

 

            หากมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน พี่ลาเต้ ขอให้แบบฟันธงแบบไม่เกรงใจ โดยให้ไป 85 คะแนน.. โดย 15 คะแนนที่หายไป พี่ลาเต้ ตัดจากการดำเนินเนื้อเรื่องที่ผู้กำกับพยายามมัดเข้าไว้ จนแน่นมากเกินไป จนลืมในรายละเอียดหลายๆ อย่าง.. บางฉากบางตอนไม่มีเหตุผล เกิดขึ้นแล้วก็หายไปดื้อๆ สร้างความสงสัยให้คนดูเมื่อนึกถึงได้ไม่น้อย..

 

            ขณะที่ในเรื่องความน่ากลัว และสยองขวัญ พี่ลาเต้ ให้เต็ม และเชื่อว่าใครที่ดูภาค 3.1 นี้แล้วก็ยังจะต้องกลัว สยอง และติดตาแน่นอน.. ขณะที่ความฮาก็ทำได้แบบต่อเนื่อง มีมาสลับให้ได้ขำอยู่บ่อยๆ แต่บางฉากก็เหมือนกับว่าเน้นตลกมากเกินไป จนคนดูบางคนเริ่มที่จะไม่ตลกตาม..

 

            หากเปรียบเทียบในภาคก่อนๆ บุปผาราตรี ภาค 3.1 ยังถือว่ายังรักษามาตรฐานเดิมไว้ได้ดี โดยน้องๆ คนไหนที่ชอบอารมณ์ความฮาแบบภาค 1 และอารมณ์สยองแบบภาค 2 คงไม่ผิดหวังสำหรับภาค 3.1 นี้แน่นอน.. ส่วนภาค 3.2 ที่จะฉายต่ออีกไม่นานนี้เท่าที่ได้สัมผัสภาค 3.1 มา พี่ลาเต้ ยืนยันว่าต้องไปดูภาค 3.2 แน่นอน..

 

 

   5 ฉากแนะนำใน บุปผาราตรี ภาค 3.1  

 

             - ฉากเปิดของภาพยนตร์ขณะเล่นผีถ้วยแก้วให้สังเกต "พีค ภัทรศยา" ให้ดีๆ

 

             - ฉากบทสวดมนต์นะโมตัสสะ ของกลุ่มพ้องเพื่อนมาริโอ้..

 

             - ฉากทายปัญหาอะไรเอ่ย.. ของกลุ่มนักพนัน..

 

             - ฉากหนูตดเหม็นหรือเปล่าจ๊ะ..

 

             - ฉากพูดระหว่าง เดฟ [ศิษย์เก่าโรงเรียนวัดดอน] และแพนเค้ก [ศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีวัดระฆัง]

 

             สุดท้ายนี้ หากน้องๆ คนไหนที่ไปดูภาพยนตร์บุปผาราตรีภาค 3.1 กันมาแล้ว.. อย่าลืมมาตอบคำถาม พี่ลาเต้ ด้วยนะว่า... "สีอะไรเอ่ย.. โง่ที่สุด.." รอคำตอบอยู่เด้อ..อิอิ..

 

 


 

พี่ลาเต้
พี่ลาเต้ - Columnist นักข่าวสายการศึกษา เกาะติดทุกข่าวแทนน้องๆ ตัวถีบ ตัวดันให้ ม.6 สอบติด

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

78 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
*+.+*Ma Uchi*+.+* Member 8 เม.ย. 52 15:42 น. 10
เห็นด้วยกับ คห.9ที่สุดในโลก 555+ ล้อเล่นนะพี่ลาเต้ (ปล.ทำไมพี่ลาเต้ถึงชื่อลาเต้อ่ะ สีเหมือนหลอ???55+)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
lolita-taiiz Member 8 เม.ย. 52 16:22 น. 14
ตอนนั้นไปดู Knowing ที่เอสพลานาด มีคนเค้าเอาหุ่นน้องปลาเนี่ยแหละ ขี่คอ แล้วเดินไปเดินมา มองไปเห็น แทบกรี๊ด ตกใจ -..- คนสะดุ้งกันเต็มอ่ะ ฮ่าๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ป้าช้างที่น่ารัก Member 8 เม.ย. 52 18:14 น. 18
ต้องไปดูให้ได้แน่นอนค่ะ งิงิ แค่เห็นไตเติ้ลก็น่ากลัว ปนตลกแระ ต้องติดตามมม
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด