ไปดูมาแล้ว บุปผาราตรี 3.2

            สวัสดีครับ.. ไปดูมาแล้ว พี่ลาเต้ และ พี่ต้น สองทีมงานหัวฟูแห่งเว็บไซต์เด็กดีดอทคอมไปดูหนังเรื่อง บุปผาราตรี 3.2 มาแล้วครับ..อิอิ.. ไปดูในรอบสื่อมวลชนมาที่โรงภาพยนตร์ SFW ครับ งานนี้ขอบอกว่าผิดคาดอย่างแรง แรง แรง !

            ก็จะไม่ให้ผิดคาดได้อย่างไรเล่า เพราะหนังบุปผาราตรีภาค 3.2 นั้นมาแปลกแหวกแนวจากภาคเดิมๆ ที่ผ่านมาที่จะเน้นความน่ากลัว ความตลกโปกฮา แต่ภาค 3.2 นี้ต้องบอกว่าเขาเน้นที่เรื่องราวความรัก ความสะเทือนใจของตัวละครเป็นหลัก อุ้ย! น่าติดตามจัง

 >>> เริ่มฉายบุปผาราตรี 3.2

            บุปผาราตรี 3.2 เป็นภาคต่อของเรื่องราวผีสาวบุปผาที่กลับชาติมาเกิดใหม่ แต่ไม่ว่าจะเกิดชาติภพไหนกลับต้องถูกข่มเหงทางเพศจากผู้ชาย และถูกฆ่าตายซ้ำรอยทุกชาติไป ผีบุปผาจึงมีความอาฆาตแค้นที่จะฆ่าผู้ชายทุกคนที่ใกล้เธอ

            หรั่ง [มาริโอ้] เป็นหนึ่งในผู้ชายที่เข้ามาเช่าอพาร์ทเมนท์อยู่ในห้อง 605 ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับห้อง 609 ห้องของบุปผาราตรี [พลอย] และการพบเจอกันของทั้งคู่ในฐานะเพื่อนบ้านข้างห้องในครั้งนี้ จึงได้ก่อเกิดเป็นความรัก และความผูกพันธ์ขึ้นมา

            เมื่อความรัก เกิดขึ้นพร้อมกับความแค้น และเกิดพร้อมกับเหตุการณ์ที่ผู้ชายในออสก้าอพาร์ทเมนท์ต้องจบชีวิตลงวันละคนสองคน เรื่องราวความรักระหว่างผีสาวบุปผา และหรั่ง จะประทับใจ หรือสะเทือนใจมากน้อยแค่ไหน ไปติดตามดู !

 >>> บุปผาลาเต้ วิจารณ์ บุปผาราตรี

            วินาทีแรกที่ภาพยนตร์เริ่มฉาย เสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นสามารถนับครั้งได้เลย เท่าที่ พี่ลาเต้ นับได้มีประมาณ 7 ครั้ง แต่ก็ต้องบอกว่า 7 ครั้งที่นับได้นี้เป็นความตลก ความฮาที่หาไม่ได้จากภาพยนตร์อื่นๆ มุขแนวนี้หาได้จากบุปผาราตรีที่เดียว และคนดูก็ฮาจากใจจริงๆ แถมภาคนี้คนดูจะได้เห็นผีบุปผาเล่นมุขอีกด้วย

            ด้านความน่ากลัว ถึงจะมีน้อย แต่ก็ต่อยหนัก เพราะทุกครั้งที่ผีออกมา คนดูแทบอยากแกล้งหลับเป็นตาย ไม่อยากรู้ ไม่อยากเห็นอะไรทั้งนั้น เพราะกลัว เช่น ฉากพลอยปากฉีก หรือฉากผีเด็กวิ่งถือมีดไล่กรีดคน เรียกได้ว่าคงมาตรฐานของผีบุปผาที่ยืนอยู่เฉยๆ คนดูก็กลัวได้สบายมาก

 >>> บรรยากาศในโรงภาพยนตร์

            ขณะที่ฉากเรียกอารมณ์ และความรู้สึกสะเทือนใจก็ทยอยออกมาให้ได้หดหู่ตั้งแต่กลางเรื่อง คนดูจะได้เกลียด ได้โกรธ และได้เห็นใจตัวละครไปพร้อมๆ กัน และไม่น่าเชื่อว่าหนังผีเน้นฮาภาคนี้ ยังสามารถเรียกน้ำตาคนดู จากฉากท้ายๆ ตอนอ่านจดหมายได้อีกด้วย [รวมถึง พี่ลาเต้ ด้วย ฮือ ฮือ]

            ทางด้านตัวละครจากภาค 3.1 ก็ยังอยู่ครบถ้วนในภาค 3.2 ไม่ว่าจะเป็นเจ๊สาม หมอผีคง น้องแพนเค้ก หรือคู่ตำรวจอลเวง ที่ถึงแม้จะออกมาแค่ 6 ฉาก แต่ก็ฮากระจายทั้ง 6 ฉาก แถมภาคนี้มีผีหุ่นห่อผ้าขาวมาร่วมแจมด้วย ยิ่งสร้างความฮา และจังหวะสะดุ้งให้กับคนดูได้ไม่น้อย

>>> ประเมินค่าบุปผาราตรี 3.2

            หากเต็ม 10 คะแนน พี่ลาเต้ ควักให้เรื่องนี้ไปชิวๆ 7.2 คะแนน [เลียนแบบ 3.2] เพราะประทับใจในความฮาที่หาจากเรื่องอื่นไม่ได้ ความน่ากลัวที่ไม่ต้องแต่งแต้มผีให้อลังการมากมาย เพียงแค่ผียืนเฉยๆ คนดูก็ฉี่แตกได้ และสุดท้ายกับฉากประทับใจที่ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นในหนังผีแนวนี้

            ขณะที่ 2.8 แต้มที่หักไป หักให้กับความงงในบางฉาก เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไป ไม่มีเหตุไม่มีผล หากคนที่คิดมาก คิดเยอะไปดูเรื่องนี้อาจจะงง และไม่รู้เรื่องได้ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าผ่าน คุ้มค่าที่จะเสียตังค์ไปดูกับเพื่อนๆ

            บุปผาราตรี 3.2 ถึงแม้มาตรฐานความฮา และความน่ากลัวจะยังแพ้ภาคแรก แต่ภาคนี้ก็มีหลายอย่างที่ภาคแรกไม่มีเช่นกัน น้องๆ ชาวเด็กดีคนไหนที่อยากจะรู้ว่า ผีเด็กตายเพราะอะไร ใครเป็นคนฆ่า ต้องไปดู แล้วจะสะเทือนใจเช่นเดียวกับพี่ ! 20 สิงหาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์

>>> 6 ฉากการันตีความฮาๆ ในบุปผาราตรี 3.2

            1. ฉากหลวงพี่โจอี้หนีผีบุปผาฯ

            2. ฉากคู่ตำรวจอลเวง เดินผ่านศพ

            3. ฉากน้องแพนเค้กให้การกับตำรวจ

            4. ฉากทายปัญหาใครเป็นตาของซินเดอเรลา

            5. ฉากรถเมล์สายมักกะสัน - คลองตัน

            6. ฉากนักพนันนานาชาติ ร้อน !

            ลาเต้ลิขิต 1 : ดูฉากสุดท้ายของหนังตอนจบ เหมือนจะมีภาค 4 ต่อ ต้องรอลุ้นๆๆ

            ลาเต้ลิขิต 2 : ใครดูแล้ว มาตอบพี่ลาเต้หน่อยว่า ใครเป็นตาของซินเดอเรลา ? เอาคำตอบตามในหนังนะ..อิอิ..