เห็นเบื้องหน้าที่สวยๆ หล่อๆ เริ่ดๆ จนน่าอิจฉา น้องๆ ชาว Dek-D เชื่อมั้ยคะว่า 7 ซุป'ตาร์เหล่านี้ มีชีวิตเบื้องหลังในวัยเด็กที่ดร่ามา เคล้าน้ำตา เรียกได้ว่ารันทดจนไม่อยากจะเชื่อว่าจะก้าวมาถึงจุด ๆ นี้ได้ ว่าแต่จะใครต้องเผชิญอะไรกันบ้าง ตามพี่แพมมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
เลดี้ กาก้า
ถูกข่มขืน!!!
(ภาพจาก https://instagram.com/ladygaga)
กว่าจะก้าวมาเป็นตัวแม่ระดับโลกได้ ใครจะไปรู้ว่าขุ่นแม่กาก้าต้องผ่านอะไรร้ายๆ มาบ้าง ตอนอายุ 19 กาก้าถูกโปรดิวเซอร์อายุรุ่นราวคราวพ่อที่เคยร่วมงานด้วยข่มขืน ด้วยความที่ยังเป็นเด็กใสๆ อ่อนต่อโลก กาก้าจึงเก็บงำความลับอันเลวร้ายนั้นไว้ ไม่กล้าบอกใคร และเธอต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเข้ารับการรักษา เยียวยาสภาพจิตใจและร่างกายกว่า 4 - 5 ปี ถึงจะตื่นขึ้นมาพบกับฝันดีๆ อีกครั้งหนึ่ง
(ภาพจาก https://instagram.com/ladygaga)
กาก้าสลัดความกลัวทิ้งแล้วเดินหน้าเป็นนักร้อง นักแต่งเพลงเพื่อสร้างความสุข และแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ต่อไป เจ๋งจริงๆ สมเเล้วที่ยกให้เป็นตัวแม่ของเหล่ามอนสเตอร์ทั่วโลก
มาดอนน่า
ถูกข่มขืน!!!
(ภาพจาก https://instagram.com/madonna)
ราชินีเพลงป็อปที่โด่งดังแทบจะทะลุจักรวาลอย่างมาดอนน่า ก็เคยเจอเหตุการณ์เลวร้ายมาเช่นเดียวกัน ย้อนไปปี 1978 ตอนนั้นมาดอนน่าอายุ 19 ปี กำลังเป็นสาวเต็มตัวออกจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่เธอได้รับทุนการศึกษาให้เรียนเต้น แต่เธอเลือกที่จะเดินทางมานิวยอร์กเพื่อที่จะเดินหน้าทำตามความฝันนั่นก็คือการเป็นแดนเซอร์และนักร้องมืออาชีพ
(ภาพจาก https://instagram.com/madonna)
แต่หนทางไม่ได้สวยงามอย่างที่ฝัน ปีแรกในเมืองศิวิไลซ์ เธอเคยถูกเอามีดจี้หลังและบังคับขืนใจ ที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นคืออพาร์ตเมนต์ที่เธออาศัยอยู่ยังถูกปล้นไปถึง 3 ครั้ง และเพื่อที่จะหาเงินมาดำรงชีพ มาดอนน่าจำเป็นต้องรับจ้างเป็นนางแบบโป๊เปลือย ให้นักเรียนใช้เป็นแบบวาดรูป โห...การที่ยานแม่มาดอนน่าสามารถข้ามผ่านเรื่องแย่ๆ แล้วมายืนอยู่จุดนี้ได้ พี่แพมต้องยอมรับเลยค่ะว่าเธอเข้มแข็งมากจริงๆ ข้าน้อยขอคารวะ
เลห์ตัน มีสเตอร์
เกิดในคุก!!!
(ภาพจาก https://instagram.com/itsmeleighton)
ควีนบี หรือ แบลร์ วอลดอร์ฟ สาวไฮโซ สวย เริ่ด เชิด หยิ่งในซีรีส์ Gossip Girl ที่โด่งดังไปทั่วโลก เห็นในซีรีส์ชีวิตดี๊ดีแบบนี้ พี่แพมขอบอกเลยว่าชีวิตวัยเด็กของเธอนั้นตรงกันข้ามเลยล่ะค่ะ เพราะว่า เลห์ตันเกิดในคุก! ตอนนั่นพ่อและแม่ของเธอถูกจับกุมในข้อหาลักลอบขนยาเสพติดจากจาไมก้าเข้าอเมริกา และก็เป็นช่วงที่แม่ของเธอตั้งท้องเลห์ตันอยู่พอดี ทำให้ต้องคลอดเลห์ตันออกมาในระหว่างที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำเลยล่ะ
(ภาพจาก https://instagram.com/itsmeleighton)
เมื่อแรกเกิดเลห์ตันมีโอกาสได้อยู่กับคุณแม่แค่สามเดือน ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปให้ญาติคนอื่นดูแล แต่เลห์ตันเองก็เติบโตมาได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ด้วยหน้าตาที่น่ารัก สวยมีเสน่ห์ จนไปเตะตาแมวมอง ก็เลยได้เริ่มต้นเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ไต่เต้าจากบทเล็กๆ น้อยๆ ในละครทีวี จนตอนนี้ดังเปรี้ยงปร้างกลายเป็นไอดอลของวัยรุ่นทั่วโลกไปแล้ว
ชารีส เธอรอน
ภาพติดตา...แม่ฆ่าพ่อ
วันเด็กของสาวสวยคนนี้ถือว่าเป็นฝันร้ายที่ติดตา ฝังใจเธอมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะว่าตอนอายุ 15 ชารีสอยู่ในเหตุการณ์ที่แม่ยิงพ่อผู้ให้กำเนิดตายต่อหน้าต่อตา แต่เหตุผลที่แม่ทำลงไปก็เป็นเพราะว่าถูกสามีขี้เมาทำร้ายจนทนไม่ไหว ก็เลยคว้าปืนมายิงใส่เป็นการป้องกันทั้งตัวเองและลูกสาวด้วย ไม่ให้ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจไปมากกว่านี้ (ปาดน้ำตา TT)
(ภาพจาก https://instagram.com/charlizeafrica)
ถึงแม้ว่าพ่อจะตาย และแม่ต้องติดคุก แต่ชารีสก็พยายามใช้ชีวิตให้ดี มีความสุขมากที่สุดเท่าที่เด็กคนนึงจะเป็นได้ เธอต้องไปอยู่โรงเรียนประจำ และมุ่งมั่นเรียนบัลเลต์อย่างเอาจริงเอาจัง จนได้เป็นนักเต้นบัลเลต์มืออาชีพ และก้าวเข้าสู่เส้นทางนางแบบและนักแสดงจนประสบความสำเร็จ มีทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำมาการันตีฝีมือ ว่าเก่งจริง อะไรจริง
มาร์ก วอห์ลเบิร์ก
วัยรุ่น เลือดร้อน
(ภาพจาก https://instagram.com/markwahlberg)
เห็นหล่อๆ ล่ำๆ หน้าตาดูใจดีแบบนี้ น้องๆ เชื่อมั้ยคะว่า มาร์ก วอห์ลเบิร์ก สมัยเด็กๆ เคยเป็นอันธพาลมาก่อน!!! อาจเป็นเพราะว่าเขาเกิดมาในครอบครัวยากจนและอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เลวร้าย ทำให้หลงผิดกลายเป็นเด็กเกเรตั้งแต่อายุ 14 ปี มาร์กติดโคเคนอย่างหนัก ไม่สนใจการเรียน ลาออกมาเข้าร่วมกับแก๊งเด็กเหลือขอในละแวกบ้านเดียวกัน แต่ละเรื่องที่พากันไปทำก็ดีดีทั้งนั้น ทั้งปล้น ทั้งขโมย ทั้งเสพและค้ายาเสพติด จนกระทั่งวันหนึ่งเขาเข้าไปทำร้ายชาวชาวเวียดนามจนตาบอด เพียงเพื่อต้องการขโมยเหล้า 2 ขวด จากเหตุการณ์นี้ทำให้มาร์กถูกจับ ติดคุก 45 วันเลยทีเดียวเชียว
(ภาพจาก https://www.facebook.com/markwahlberg)
ตอนที่อยู่ในคุกเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต แต่ก็ทำให้มาร์กคิดอะไรได้หลายๆ อย่าง หลังจากนั้นเขาก็กลับตัวกลับใจ ออกมาทำงานเป็นช่างก่ออิฐ เป็นเด็กเสิร์ฟเพื่อหาเงินประทังชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่งโชคก็เข้าข้างโจรกลับใจ เมื่อพี่ชายของเขาประสบความสำเร็จในฐานะบอยแบนด์ The New Kids on the Block ทำให้มาร์กมีโอกาสเข้าไปอัดเสียงและเริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงในที่สุด พอมีชื่อเสียงโด่งดังเขาก็ยังไม่เคยลืมอดีตอันขมขื่นเลยนะคะ มาร์กได้จัดตั้งมูลนิธิช่วยเหลือวัยรุ่นที่มีปัญหาเพราะไม่อยากให้เด็กคนไหนจะมาเผชิญชะตากรรมเหมือนอย่างเขาอีก น่าชื่นชมจริงๆ ค่ะ
เคียร่า ไนท์ลีย์
อ่านหนังสือไม่ออก!!!
น้องชาว Dek-D น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตานักแสดงสาวสวย เคียร่า ไนท์ลีย์ กันเป็นอย่างดีนะคะ แต่ถ้าใครยังคิดไม่ออก สาวคนนี้ก็เป็นเจ้าของเสียงหวานๆ ในเพลง Lost Star เวอร์ชั่นผู้หญิงที่ฮิตกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองยังไงล่ะ ทั้งสวย ทั้งเก่งแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าตอนเด็กๆ เธอป่วยเป็นโรคบกพร่องในการอ่านหนังสือ อาการก็คืออ่านหนังสือไม่ได้ อ่านยังไงก็ไม่ออก ไม่เหมือนกับเพื่อนๆ คนอื่นในโรงเรียน เห็นแบบนี้คุณแม่ก็เลยพาไปตรวจ จึงพบว่าที่อ่านไม่ออก ไม่ได้เป็นเพราะฉลาดน้อย หรือว่าขี้เกียจแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะอาการป่วยนั่นเอง
(ภาพจาก https://www.facebook.com/BeginAgainMovie)
คุณแม่ใช้ความฝันของเคียร่าที่อยากเป็นนักแสดงมาเป็นตัวกระตุ้นในการรักษา มีอยู่วันหนึ่งคุณแม่เอาบทละครของนักแสดงในดวงใจมาให้เคียร่าอ่าน แล้วบอกกับเธอว่า ถ้าอ่านบทไม่ออกก็จะเป็นนักแสดงไม่ได้ ด้วยความชอบในตัวนักแสดงบวกกับความมุ่งมั่นตั้งใจอยากจะเป็นดารา ทำให้เคียร่าตั้งใจหัดอ่านและสามารถก้าวผ่านอุปสรรคชิ้นโตไปได้ในที่สุด พี่แพมขอปรบมือดังๆ ให้ทั้งเคียร่าและคุณแม่เลย
ทอม ครูซ
อ่านหนังสือไม่ออก!!!
(ภาพจาก https://www.facebook.com/officialtomcruise)
พูดไป ใครจะเชื่อว่า นักแสดงชื่อดังแถวหน้าของโลกอย่าง ทอม ครูซ อ่านหนังสือไม่ออก!!! ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อค่ะ เค้าป่วยเป็นโรคบกพร่องทางการอ่าน โรคเดียวกับสาวเคียร่าเป๊ะเลยล่ะ อาการของทอมก็คือเขาไม่สามารถจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือได้ อ่านอะไรเข้าไปก็รู้สึกว่างเปล่า จำอะไรไม่ได้เลย
ปัญหาหานี้ติดตัวเขามานานถึง 22 ปี ขณะที่เขากำลังถ่ายทำหนังเรื่อง Top Gun ครูซได้พบกับ L.Ron Hubbard ผู้ก่อตั้งลัทธิไซแอนโทโลจีผู้ที่ช่วยพัฒนาทักษในการเรียนรู้และการอ่าน โดยที่ครูซฝึกที่จะจำเป็นภาพและใช้จินตนาการเพื่อทำให้เค้าเข้าใจในสิ่งที่อ่านมากขึ้น จนในที่สุดเค้าก็ก้าวผ่านอุปสรรคชิ้นบิ๊กเบิ้มนี้ไปได้ เยี่ยม!
โรคแปลกๆ แบบนี้ก็ยังมีดาราและคนดังอีกหลายคนเลยนะคะ ที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมแบบเดียวกัน เช่น พระเอกหนุ่มสุดหล่อ ออร์เลนโด้ บลูม หรือนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะผู้เปลี่ยนแปลงโลก อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักร้องนักแต่งเพลงระดับตำนาน จอห์น เลนนอน และศิลปินชื่อก้องโลก ปีกัสโซ่ โอ้โห..แต่ละคนอัจฉริยะระดับโลกทั้งนั้นเลยอ่ะ
น้องๆ ชาว Dek-D อ่านจบแล้วคิดเหมือนพี่แพมมั้ยคะว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เราเลือกที่จะเป็นได้ เหมือนกับ 7 ดาราดัง ถ้าในวันนั้นเค้าท้อแท้และยอมแพ้กับโชคชะตา ก็คงจะไม่ได้มาเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างในทุกวันนี้หรอกค่ะ
น้องๆ ชาว Dek-D คนไหน มีเรื่องราวดีๆ แบบนี้ก็อย่าเก็บไว้คนเดียวล่ะ เอามาแชร์ให้เพื่อนๆ อ่านกันด้วยนะ อ่อ...เรืองราวดีดียังไม่หมดแค่นี้ พี่แพมยังมี ชีวิตสุดทึ่ง! ของ 10 ไอดอลที่เคยจนมาก่อน น้องๆ คนไหนอยากได้แรงบันดาลใจดีๆ ก็ คลิกที่นี่เลยจ้า
ข้อมูลจาก
http://www.todayifoundout.com
10 ความคิดเห็น
เด็กที่เกิดในคุกตอนที่พ่อแม่แท้ๆถูกจำคุกน่าสงสารมากๆ
เราทึ่งคนๆหนึ่งคือ เคที่ ไม่รู้เหมือนกันนะว่ามีใครคิดเหมือนเรารึเปล่า ถึงนางจะไม่ได้เจออะไรหนักๆแต่นางเจอเยอะ!
1 พ่อแม่เป็นคริสเตียน เป็นหมอศาสนา ภาพยนต์เรื่องเดียวที่ได้ดูคือ sister 2 (ถ้าจำไม่ผิด)
2 เคที่ เซ็นสัญญา และถูกทิ้งๆขว้างๆ 3-4 ครั้ง
3. ต้องย้ายบ้านไปๆมาๆเพราะพ่อแม่ต้องไปสอนศาสนาที่นั่นที่โน่นที
4 เคที่เคยถูกล้อเรื่องหน้าอก
5 เข้าวงการเพลงมาเร็วก็จริง แต่กว่าคนจะรู้จักใช้เวลาเกือบ 10 ปี
เพราะงี้เราเลยนับถือนาง แต่คนอื่นอาจไม่คิดเหมือนเราก็ได้นะ 555 (เราเริ่มชอบนางเพราะข้อ 4)
โรคอ่านหนังสือไม่ออก/ไม่สามารถอ่านหนังสือได้ ชื่อโรคว่า ดิสเล็กเซีย ค่ะ
เราเคยอ่านเจอในหนังสือ กุลยุทธ์ล้มยักษ์
เท่าที่จำได้อาการคือ ไม่สามารถเขียนหรืออ่านสะกดคำได้/ต้องใช้เวลานานในการอ่านหรือเขียน ซึ่งนานกว่าคนปกติทั่วไปหลายเท่าตัว เช่น ถ้าเราอ่านหนังสือหนึ่งเล่มจบในหนึ่งวัน คนที่ป่วยเป็นโรคดิสเล็กเซียอาจใช้เวลาหนึ่ง-สองอาทิตย์อ่านหนังสือหนึ่งเล่ม
ถ้าจำไม่ผิด เหมือนจะไม่มียารักษาโรคดิสเล็กเซีย
เราไม่ทราบว่าที่ไทยมีคนเป็นเยอะมั้ย แต่ Negroponte หนึ่งในผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ของโลกไอที ผู้บุกเบิกสาขาการออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นผู้ก่อตั้ง Media Lab ของสถาบัน MIT ให้ความคิดเห็นในรายการวิทยุว่า “ดิสเล็กเซียหรือปัญหาอ่านเขียนเกี่ยวข้องกับพรสวรรค์ ที่พบบ่อยในสถาบัน MIT จนอาจกล่าวได้ว่า ดิสเล็กเซีย เป็นโรคประจำถิ่นของ MIT หรือเรียกอีกชื่อว่า “ MIT disease”
จากข้อความที่เราอ่านเจอนี่มันเหมือนสามารถพบเจอได้ง่ายในต่างประเทศ...
รอผู้รู้มาชี้แจ้งต่อไป...