น้องๆ คนไหนที่กำลังเครียด กำลังเหนื่อย กำลังท้อใจ มาทางนี้ด่วนๆ เลยค่ะ เพราะว่าวันนี้พี่แพมมีหนังดีๆ ที่นอกจากจะมีความบันเทิงเริงใจแล้ว ยังแถมมุมมองดีๆ ที่จะช่วยชาร์จแบต ช่วยเพิ่มพลังใจในการใช้ชีวิตอีกเพียบ ใครอยากจะยิ้ม อยากอารมณ์ดี วันนี้พี่แพมกับ Dek-D Recommended มี 10 หนังฝรั่ง Feel Good ดี๊ดี ดูแล้วมีแรงบันดาลใจ มาเเนะนำกันค่ะ
Begin Again เพราะรักคือเพลงรัก
ระดับความ Feel Good 
“ความรักจะเป็นเพลงที่เพราะที่สุด ที่คุณเคยได้ยิน”
(ภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Begin Again)
เรื่องของคู่รักนักดนตรีที่ฝ่ายหญิงฝันสลาย เพราะฝ่ายชายนอกใจ แถมยังอยากจะก้าวไปเป็นร็อคสตาร์ฉายเดี่ยว นางเอกของเราก็เลยหลบมารักษาแผลใจโดยการเล่นดนตรีกลางคืน จนมาเจอกับโปรดิวเซอร์เพลง(เคย)ดัง ก็เลยจับมือกันเดินหน้าสานฝันที่จะเป็นนักดนตรีต่อไป แต่เส้นทางการเป็นนักดนตรีบางทีมันก็ไม่ได้สวยงามอย่างทีคิดไว้ นางเอกจะทำยังไงต่อไป ต้องไปติดตามค่ะ
ความดีงามของเรื่องนี้คือการสื่ออารมณ์โดยใช้เพลงประกอบ ที่นอกจากจะเพราะแล้ว ยังสามารถสื่ออารมณ์และความหมายของเรื่องราวและตัวนักแสดงได้เป็นอย่างดี ออกจากโรงปุ๊ปต้องพุ่งตัวมาหาอัลบัมซาวด์แทร็คฟังทันที เนื้อเรื่องก็ดี นักแสดงก็เริ่ด (โดยเฉพาะพี่อดัมของเก๊า ><) แค่นี้ Begin Again ก็เข้าไปอยู่ในดวงใจของใครหลายๆ คนแล้วล่ะค่ะ
UP ปู่ซ่าบ้าพลัง
ระดับความ Feel Good 
"การผจญภัยที่แท้จริงอยู่ข้างนอก"
(ภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง UP)
เปิดฉากมาด้วยเส้นทางความรักที่สวยงามของคุณปู่คาร์ลกับภรรยา ตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งแต่งงานสร้างครอบครัว และสุดท้ายคุณย่าก็ตายจากไป ทิ้งให้คุณปู่เศร้าสร้อยเหงาหงอย อยู่คนเดียวเหงาเปลี่ยวหัวใจ คิดวุ่นวายจะไปไหนดีหว่า คิดไปคิดมาคุณปู่ก็คิดได้ว่ามีสัญญาติดค้างกับภรรยา ว่าจะพาไปเที่ยวน้ำตกมหัศจรรย์ที่อเมริกาใต้ คุณปู่ก็เลยใช้ลูกโป่งหอบเอาบ้านลอยไปทั้งหลัง แถมพ่วงเอาเด็กน้อยลูกเสือข้างบ้านติดมาด้วย
ความเลอค่าของหนังเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่จุดหมายของการเดินทาง แต่อยู่ที่ระหว่างทางต่างหาก ว่าคุณปู่คาร์ลกับลูกหมู เอ๊ย ลูกเสือตัวน้อยได้เจอกับอะไร ได้เรียนรู้และค้นพบความหมายหรือไม่ ใครอยากรู้ว่าทั้งคู่เจอะเจออะไรบ้าง ต้องไปดูด่วนๆ เลยค่ะ
Love Actually ทุกหัวใจมีรัก
ระดับความ Feel Good
"Love actually is all around จริงๆ แล้ว ความรักก็อยู่รอบๆ ตัวเรา"
(ภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Love actually)
ในขณะที่โลกอยู่ท่ามกลางความโหดร้ายและความเกลียดชัง แต่หนังเนื่องนี้กลับเล่าเรื่องราวเกี่ยวความความรักหลายแบบ หลายสไตล์ หลายเพศ หลายวัย อาจมีสมหวังบ้าง ผิดหวังบ้าง ยิ้มบ้าง ร้องไห้บ้าง แต่ทุกๆ เรื่องราวกลับเต็มไปด้วยความสวยงามของความรัก และทำให้รู้ว่าความรักมีอยู่รอบๆ ตัวเรา เพียงแต่ว่าเราจะมองมันเห็นหรือไม่ เท่านั้นเอง
สิ่งที่พี่แพมชอบในเรื่องนี้เป็นพิเศษก็คือ บรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ของฝรั่ง ที่อบอวลไปการเฉลิมฉลอง ความสนุกสนานและความรัก ในแบบที่เมืองร้อนตับแลบอย่างบ้านเราไม่มี TT และฉากที่ยังติดตาตรึงใจมากที่สุดก็คือ ฉากเปิดป้ายบอกรักในตำนาน ถ้ามีใครทำแบบนี้ให้นะ พี่แพมรักตายเลย ><
The Terminal เดอะ เทอร์มินัล ... ด้วยรักและมิตรภาพ
ระดับความ Feel Good
"เพราะชีวิตคือการรอคอย"
(ภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง The Terminal)
"วิคเตอร์ นาวอร์สกี้" ชายชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าอเมริกา แต่ประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของเค้ากลับเกิดการจราจลอย่างรุนแรง ทำให้สถานภาพของเค้าเกิดปัญหา เดินทางเข้าอเมริกาไม่ได้ จะกลับบ้านเกิดก็ไม่ได้อีก งานนี้เค้าก็เลยต้องใช้ชีวิตอยู่ในสนามบิน โดยที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้แม้แต่นิดเดียว แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีอยู่นะคะ เพราะว่าพี่วิคเตอร์แกก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ด้วยความมองโลกในแง่ดี ค่อยๆ ปรับตัว ปรับใจและใช้ชีวิตแบบมีความหวัง และมีความสุขอยู่กับการรอคอย
ดูเหมือนจะเป็นหนังเครียดนะ แต่เพราะความโลกสวยของตาวิคเตอร์นี้แหละค่ะ ที่ทำให้ฟีลของหนังเรื่องนี้กู๊ดกว่าที่คิด แถมยังได้ข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตกลับมาเพียบเลย
Wall-E หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย
ระดับความ Feel Good
"ฉันไม่ต้องการมีชีวิต ฉันต้องการใช้ชีวิต"
(ภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Wall-E)
การ์ตูนสุดน่ารักเรื่องราวของ "วอลล์-อี" หุ่นยนต์เก็บขยะตัวสุดท้ายของดาวโลก ที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆ ยกเว้นแมลงสาบ เค้าอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายมาตลอด จนได้พบกับหุ่นยนต์ "อีฟ" ที่ถูกส่งมาสำรวจโลก เรื่องราวความรักฉบับหุ่นยนต์จึงเริ่มต้นขึ้น พออีฟต้องกลับดาวไป วอลล์-อีจึงแอบตามไปด้วย แล้วเค้าก็ได้พบกับโลกใบใหม่ที่เปลี่ยนไปแบบที่คาดไม่ถึง เทคโนโลยีสุดล้ำที่ทำให้มนุษย์แทบจะไม่ต้องกระดิกตัวไปไหน เมื่อมนุษย์เริ่มกลายเป็นหุ่นยนต์ขึ้นทุกวันๆ และหุ่นยนต์กลับมีชีวิตจิตใจแทน โลกนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องติดตามค่ะ
นอกเหนือจากความน่ารักของวอลล์อีและผองเพื่อนแล้ว เรื่องนี้ยังมีข้อคิดดีๆ แฝงมาเพียบเลยค่ะ ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี รวมถึงการใช้ชีวิตในโลกปัจจุบัน ที่พี่แพมก็คิดนะ ถ้าเรายังทำร้ายโลกแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ วันหนึ่งเราอาจจะต้องไปหาดาวดวงใหม่ เอาไว้อยู่อาศัยแบบในหนังก็เป็นได้
About Time ย้อนเวลาให้เธอ(ปิ๊ง)รัก
ระดับความ Feel Good
"แม้จะย้อนเวลาไปสักกี่ครั้ง ถ้าเราไม่ใช่คนที่ใช่ ก็ไม่สามารถทำให้คนๆ นั้นรักเราได้"
(ภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง About Time)
ถ้าเราสามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ จะกลับไปทำอะไรกันคะ? หลายคนก็คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากกลับไปแก้ไขเหตุการณ์ที่เคยทำผิดพลาดไป อยากตัดสินใจใหม่ ถ้ารู้ว่าทำแล้วเป็นแบบนี้ รู้งี้ไม่ทำดีกว่า ก็เหมือนกับพระเอกของเรื่องนี้ค่ะ เค้าเลือกที่จะเดินทางท่องเวลากลับไปแก้ไขอดีตที่ผิดพลาด เพื่อปัจจุบันจะดีขึ้น แต่มันจะดีขึ้นจริงๆ หรือ?
แน่นอนว่าในชีวิตจริง เรากลับไปแก้ไขอะไรในอดีตอย่างพระเอกไม่ได้แน่ๆ เพราะฉะนั้นเราควรเห็นคุณค่าของทุกๆ วัน ทำทุกวินาทีให้มีค่า เพราะอะไรที่เราทำลงไป ย่อมส่งผลกระทบต่ออนาคตของเราแน่นอน หนังรักโรแมนติก คอมเมดี้ที่ดูแล้วอมยิ้ม แถมข้อคิดดีๆ แฮปปี้ทันทีที่ดูจบเลยค่ะ
The Secret Life of Walter Mitty ชีวิตพิศวงของวอลเตอร์ มิตตี้
ระดับความ Feel Good
“หยุดฝันแล้วออกไปใช้ชีวิตซะ”
(ภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง The Secret Life of Walter Mitty)
เรื่องราวของ "มิตตี้" ผู้ชายวัยกลางคน ผู้มีชีวิตซ้ำซากจำเจอุดอู้อยู่ในบริษัทนิตยสาร LIFE แต่สิ่งที่ทำให้เค้าจรรโลงใจได้ ก็คือการได้อยู่ในโลกจินตนาการที่ล้ำแบบสุดๆ แต่มาวันหนึ่งชีวิตของมิตตี้ก็ต้องแขวนอยู่บนเส้นด้าย เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของบริษัท ที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปเป็นนิตยสารออนไลน์ แน่นอนว่าพนักงานที่ไม่มีความจำเป็นนักก็ต้องถูกไล่ออกไปด้วย และเค้าก็ดันทำภาพที่ต้องใช้ขึ้นปกนิตยสารหาย ดังนั้นมิตตี้จึงต้องออกเดินทางตามหาภาพถ่ายที่หายไป และแล้วการผจญภัยสุดท้าทายของเค้าก็เริ่มต้นขึ้น
ดูหนังเรื่องนี้แล้วพี่แพมอยากจะแพ็คกระเป๋า แล้วออกไปเดินทางท่องเที่ยวทันทีทันใดเลยค่ะ เพราะว่ามิตตี้ได้ค้นพบอะไรที่ยิ่งใหญ่ และได้เจอความหมายของการใช้ชีวิต จากการได้ออกเดินทางไปท่องโลกกว้าง ถึงแม้ว่าดูไปดูมาแล้วเราอาจจะงงว่าตรงไหนคือชีวิตจริง ตรงไหนคือโลกมโน แต่ความดีงามที่สุดของเรื่องนี้คือ นักแสดงดี๊ดี เพลงประกอบเริ่ด ภาพก็งามเวอร์วังอลังการ เอาเป็นว่าไปหามาดูเลยค่ะ พี่แพมคอนเฟิร์ม
The Intern โก๋เก๋ากับบอสเก๋ไก๋
ระดับความ Feel Good
“ประสบการณ์ไม่เคยแก่”
(ภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง The Intern)
เรื่องราวของ "จูลส์" CEO สาวรุ่นใหม่ไฟแรงเฟร่อ เจ้าของบริษัทขายเสื้อผ้าออนไลน์ แต่บริษัทของเธอดันขายดิบขายดี และประสบความสำเร็จมากเกินไป จนทำให้CEOสาวยุ่งหัวหมุนเกินที่จะรับไหว และทางบริษัทก็รับเด็กฝึกงานอาวุโส "ลุงเบน" ชายหนุ่มเหลือน้อยวัย 70 เข้ามาพอดี ดูยังไง้ยังไงก็แตกต่างกันแบบสุดขั้ว แต่สำหรับสองคนนี้กลับเข้ากันได้ดีอย่างประหลาด ต่างคนต่างมาเติมเต็มความบกพร่องของกันและกัน จนกลายเป็นคู่หูดูโอ้โก๋เก๋าเก๋ไก๋ในที่สุด
เอาใจพี่แพมไปเต็มๆ เลยค่ะ สำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะได้อมยิ้มไปกับความน่ารักของลุงเบนและสาวจูลส์ไปตลอดทั้งเรื่อง ถ้าน้องๆ คนไหนกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาอะไรใหญ่ๆ แล้วยังหาทางออกไม่ได้ พีแพมขอให้ลองไปปรึกษาผู้ใหญ่ในบ้านดู ปู่ ย่า ตา ยายนี่แหละค่ะ บางทีเราอาจจะได้ทางออก แบบที่เด็กๆ อย่างเราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
THE MARTIAN กู้ตาย 140 ล้านไมล์
ระดับความ Feel Good
"การเป็นตัวเองง่ายกว่า การพยายามเป็นอะไรที่คนอื่นต้องการ"
(ภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง The Martian)
"มาร์ค แวทนีย์" มนุษย์อวกาศที่ถูกผองเพื่อนทิ้งไว้กลางทาง กลางดาวอังคารเพียงตัวคนเดียว ใครๆ ก็คิดว่าเค้าตายแน่ๆ ซี้แหงแก๋ไปแล้วชัวร์ แต่เค้ายังมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย เค้าต้องอาศัยความพยายาม ใช้มันสมองทุกขด และความอดทนอย่างหนักหน่วงเพื่อใช้ชีวิตให้อยู่รอด รอวันที่ทางโลกจะมารับกลับบ้าน ถึงจะต้องเดียวดายอยู่ไกลบ้านตั้ง 140 ล้านไมล์ แต่มนุษย์อวกาศพันธุ์อึดของเรายังมีความหวังอยู่เสมอ เก่งจริงๆ ยอมใจพี่มาร์คเลย
ถ้าเป็นพีแพมก็คงกลั้นใจตายไปแล้วล่ะค่ะ แต่พระเอกของเรากลับมีวิธีสร้างกำลังใจในแบบที่คาดไม่ถึง ถึงแม้จะมีอุปสรรคมากมายอยู่ตรงหน้า แต่เค้าไม่เคยยอมแพ้ มุ่งมั่นสู้ต่อไป โดยที่คนดูอย่างเราเอาใจช่วยแบบสุดๆ และถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นแนววิทยาศาสตร์จี๋ ทฤษฎีจ๋า แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง เพราะขนาดคนที่สอบตกวิทยาศาสตร์มาตลอดชีวิต อย่างพี่แพมยังเข้าใจ เพราะฉะนั้นใครๆ ก็ดูได้ ไม่ต้องห่วงเลย
Forrest Gump อัจฉริยะปัญญานิ่ม
ระดับความ Feel Good
"ชีวิตมันก็เหมือนกล่องช็อคโกแลต คุณไม่มีทางรู้หรอกว่ากำลังจะได้รสอะไร"
(ภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump)
หนังที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดในดวงใจของคนทั้งโลก เป็นเรื่องราวของ "ฟอร์เรสท์ กัมพ์" ชายหนุ่มที่มีไอคิวและพัฒนาการต่ำกว่าคนทั่วไป แต่สิ่งที่เค้ามีเหนือกว่าใครๆ ก็คือจิตใจที่ใสซื่อ บริสุทธิ์ ความดีงาม ความโลกสวยสดใส ทำให้เด็กปัญญานิ่มอย่างฟอร์เรสท์ กัมพ์ ประสบความสำเร็จแบบที่ใครๆ คาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ชีวิตของเราบางครั้งก็เจอกับรสขม หลายๆ ครั้งก็ได้ลิ้มรสหวาน ไม่ว่าจะต้องเจอกับรสไหนๆ ก็แค่ขอให้มีความสุขในการลิ้มรสชาติของชีวิต ง่ายๆ แค่นี้ เราก็จะมีความสุขแล้ว
Biri Gal
ระดับความ Feel Good
"ไม่ต้องตั้งใจเรียนก็ได้ แค่เข้าไปแล้วสนุกก็พอ"
(ภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Biri Gal)
เรื่องนี้ไม่ใช่หนังฝรั่งฟีลกู๊ดแต่อย่างใด แต่พี่แพมขอแถมท้ายให้กับน้องๆ ชาว Dek-D วัยใส วัยแอดมิชชั่นโดยเฉพาะ เพราะว่าเป็นหนังฟีลกู๊ดสัญชาติญี่ปุ่น ที่เป็นเรื่องราวของ "คุโด้ ซายากะ" นักเรียนชั้น ม.5 สาวเกล สุดแซบซ่าก๋ากั่นประจำโรงเรียน ที่ขึ้นชื่อสุดๆ ในเรื่องความเกเร และสติปัญญาเทียบเท่าเด็ก ป.4 จนไม่มีคุณครูคนไหนอยากจะสนใจ ยกเว้นคุณแม่ของเธอที่คอยอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้เสมอ จนกระทั่งวันนึงที่ "คุโด้ ซายากะ" ถูกพักการเรียน ใครๆ ก็คิดว่าอนาคตของเธอต้องดับวูบแน่นอน
แต่นางเอกของเราได้ไปเรียนพิเศษกับอาจารย์คนหนึ่ง ซึ่งสามารถปลุกพลังบางอย่างในตัว "คุโด้ ซายะกะ" จนเธอสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของญี่ปุ่นได้สำเร็จ พี่แพมขอแนะนำว่า น้องๆคนไหนที่กำลังท้อ กำลังเหนื่อย รู้สึกหมดกำลังใจ ก็ขอให้ดูนางเอกของเราเป็นตัวอย่างค่ะ ขอแค่มีความพยายาม ตั้งใจให้เต็มที่ ถึงแม้ว่าสุดท้ายอาจจะไม่สำเร็จอย่างที่หวังไว้ แต่ถ้าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เราก็จะไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ได้ทุ่มเทลงไปอย่างแน่นอน
เป็นยังไงบ้างคะกับ 10+1 หนัง Feel Good ที่พี่แพมแนะนำไป ถูกใจน้องๆ รึเปล่าเอ่ย ถ้าน้องๆ ชาว Dek-D คนไหน มีหนังฟีลกู๊ดในดวงใจ เรื่องไหนดี เรื่องไหนเด็ด ก็เข้ามาแนะนำกันได้ มาแบ่งปันรอยยิ้มให้ผองเพื่อนกันดีกว่าค่ะ ^^
17 ความคิดเห็น
=v= เราชอบเรื่องคุณปู่กะหมู่อ้วนนะ ดูไม่เคยจบสักที-*-
ชอบมิตตี้ ดูจบแล้วแบบว่า ...
ชีวิตคนเรามีอะไรที่ให้ค้นหาอีกเยอะ
//ไปหาดูเรื่องอื่นที่ยังไม่ได้ดูดีกว่า ชอบบทความนี้จัง
ยอมใจจจ ชอบ Mitty กับ Martian มากกกก
ที่หนึ่งในดวงใจผมยกให้ Forrest gump กับ Cast away เลยครับ จำได้ว่าตอนดูครั้งแรกนี้หนังจบแต่เรานอนไม่หลับไปหลายวัน อินจัด
ขอเพิ่ม Elizabeth Town
เรื่องนี้สุดยอดมาก ดูกี่ทีก็ยิ้มออกมาได้ Feel Good จริงๆ
ว่าแต่เรื่องนี้จะนับไหมหนออ.. "Hachiko" เรื่องย่อคงไม่ต้องเล่าหรอกเนอะ รู้ๆกันอยู่ สำหรับเราถือว่าเป็นหนังครอบครัวFeel good(?) ที่ยอดเยี่ยมเรื่องนึงเลย แต่มันค่อนข้าง จะเศร้าไปนิด(มั้ง) ส่วนข้อคิดก็คงเป็นอืม.. คงเป็นเรื่องความซื่อสัตย์ ความรัก และ ครอบครัวกระมัง
ป.ล. จริงๆไม่ค่อนข้าง เศร้าอะ ตอนดูจริงนี่น้ำตาคลอเบ้า ; A ; แต่ยังไงๆ เราก็รักเรื่องนี้มากเลยนะ~