
ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีเจ๋งๆ ในยุคนี้ พี่ปุ๋ยว่าก็คงหนีไม่พ้นโทรศัพท์มือถือที่ทำได้มากกว่ามือถือดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป หรือจะเป็นกล้องรูปถ่ายที่พัฒนาไปไกลมากถ่ายปุ๊บหน้าใสปั๊บ ถ้าย้อนไปในอดีตเมื่อประมาณ 10-20 ปีที่แล้วมีเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นไม่แพ้ในยุคนี้เลยค่ะ เริ่มอยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่า สมัยก่อนเค้ามีฮิตเทคโนโลยีอะไรบ้าง ถ้าอยากรู้ตามพี่ปุ๋ยมาเลยค่ะ
Floppy Disk
แฟลชไดร์ฟ 32 ,64 GB อันเล็กจิ๋วที่ว่าแน่ๆ ในยุคนี้ชิดซ้ายไปเลยค่ะ เมื่อมาเจอที่เซฟงานระดับตำนานอย่าง Floppy Disk หรือที่หลายคนเรียกว่า แผ่นดิสก์ รูปทรงแผ่นสี่เหลี่ยม เดิมทีมีขนาดใหญ่ถึง 8 นิ้วเชียวนะ และปรับขนาดลงเรื่อยๆ จนเหลือ 3 นิ้วครึ่ง ความจุอยู่ที่ 1.44 MB หลายคนบอก
โอ้ย..ทำไม่ได้น้อยจังเซฟเพลงเดียวก็เต็มล่ะ ไม่ต้องตกใจไปค่ะเพราะสมัยก่อนไฟล์งานหรือโปรแกรมต่างๆ มีขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งต่างจากปัจจุบัน เลยเป็นเหตุทำให้ความนิยมของแผ่นดิสก์เลยลดลงเรื่อยๆ สุดท้ายก็กลายเป็นตำนานไปในที่สุด
คุ้นๆ มั้ยคะ หน้าตาแบบนี้นี่ไง ที่เป็นสัญลักษณ์ของปุ่ม Save
รูปประกอบ: pixabay.com
เทปคาสเซ็ท
ในช่วงยุค 90 ถ้าจะฟังเพลงไม่ได้กดดาวน์โหลดง่ายๆ แบบสมัยนี้นะจ๊ะ ต้องรอคลื่นวิทยุเปิด (บางคนก็โทรไปขอหลังไมค์ก็มี) หรือก็ตัดใจซื้อเทปคาสเซ็ทมันซะเลย ราคาในยุคนั้นอยู่ประมาณ 80 บาทไปจนถึง 100 บาทต้นๆ บางครั้งแอบสงสัยเราลงทุนซื้อเทปทั้งอัลบั้ม เพราะอยากฟังเพลงๆ เดียว เพื่อ? และถ้าศิลปินที่ชื่นชอบดันทำยอดขายถล่มทลาย เตรียมเงินซื้ออัลบั้มฉลองล้านตลับ ที่แค่เปลี่ยนปกกับเพิ่มมาสัก 2 เพลงได้เลยค่ะ เสียเงินไปอี๊ก! น่าเสียดายน้องๆ สมัยนี้ไม่มีโอกาสได้ทำอะไรคลาสสิคแบบนั้นอีกแล้ว

หน้าตาเทปเป็นแบบนี้ วันดีคืนดีวิทยุกินเทป ก็ต้องหาดินสอมาหมุนๆ ให้เนื้อเทปกลับเข้าไป สนุกมากมาย
รูปประกอบ: pixabay.com
วิดีโอเทป, ม้วนวิดีโอ
เรียกว่าเป็นพี่น้องกับเทปคาสเซ็ทก็ได้นะคะ เพราะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน ต่างกันที่ขนาดและวิดีโอเทปมีความพิเศษมาก ตรงที่สามารถแสดงผลเป็นภาพเคลื่อนไหว แน่นอนว่าดูหนัง ร้องคาราโอเกะ หรือ เล่นเกมส์ ได้หมดค่ะ หรือจะไว้อัดรายการที่ชอบเพลงที่ใช่ก็จัดไป อัดทับแล้วทับอีกโดยผ่านเครื่องเล่น ส่วนราคาเครื่องเล่นขอบอกว่าแพงเวอร์มากๆ
เรียกว่าเป็นพี่น้องกับเทปคาสเซ็ทก็ได้นะคะ เพราะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน ต่างกันที่ขนาดและวิดีโอเทปมีความพิเศษมาก ตรงที่สามารถแสดงผลเป็นภาพเคลื่อนไหว แน่นอนว่าดูหนัง ร้องคาราโอเกะ หรือ เล่นเกมส์ ได้หมดค่ะ หรือจะไว้อัดรายการที่ชอบเพลงที่ใช่ก็จัดไป อัดทับแล้วทับอีกโดยผ่านเครื่องเล่น ส่วนราคาเครื่องเล่นขอบอกว่าแพงเวอร์มากๆ
จนมาถึงยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างไปอย่างรวดเร็ว ดูหนังฟังเพลงในแผ่นเดียวจบจากแผ่นซีดีหรือแฟลชไดร์ฟ อย่างที่น้องๆ คุ้นเคยในปัจจุบัน ทำให้วิดีโอเทปค่อยๆ เลือนลางและจางหายไปในที่สุด แอบเสียดายแทนที่วัยรุ่นยุคนี้อดเห็น
PCT
โทรศัพท์ในตำนานของวัยรุ่นเมืองกรุงยุคก่อนโน้นนน ไม่ใช่ไอโฟน ไม่ใช่แอนดรอยด์ แต่มันคือ PCT ค่ะ รูปร่างหน้าตาก็คล้ายโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กๆ นี่แหละ แต่ใช้พ่วงกับโทรศัพท์บ้าน ที่มีบริการแค่ในกรุงเทพเท่านั้น ต่างจังหวัดหมดสิทธิ์ค่ะ มาพร้อมโปโปรโมชั่นโคตรถูก! โทรครั้งละ 3 บาท (ข้ามวันข้ามคืนก็ 3 บาท) แต่อาจโทรติดยากไปนิด สัญญาณอาจขาดๆ หายๆ เคาะๆ สักหน่อยเดี๋ยวก็มา โทรหากันไปโทรหากันมาสนุกเฟร่อ ออกมาหลากหลายรุ่นสีสวยงามทั้งนั้น แต่สุดท้ายก็สู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ไหวยอมถอยออกไป คนแพ้ก็ต้องดูแลตัวเองตามไประเบียบ
เพจเจอร์
ในช่วงยุค 90 เพจเจอร์ เรียกว่าเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่ปังมาก! โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น มีไว้รับฝากข้อความ โดยหลักการคือเราจะต้องโทรไปหาเจ้าหน้าที่รับฝากข้อความ และบอกข้อความที่ต้องการส่งเช่น "คิดถึงเธอทุกนาที แม้ตอนนี้ตัวจะไกลกัน" (อ้วกได้ไม่ห้าม อิอิ) บ้างข้อความก็หวานจนมดขึ้นขนาดเจ้าหน้าที่ยังเขินแทน ก็แหม...ไม่ได้มีสติ๊กเกอร์ไลน์มุ้งมิ้งๆ ให้ส่งนี่นา
Walkman - ซาวอะเบาต์
ต้นกำเนิดเสียงเพลงพกพาเป็นเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาในตำนาน! ที่ฮิตกันไปทั่วโลกเลยค่ะ ใครๆ ก็อยากได้มาครอบครอง กระแสนิยมพอๆ กับไอโฟนหรือสมาร์ทโฟนรุ่นเจ๋งๆ ในยุคนี้ และยี่ห้อที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีคือ Sony โดยเปิดตัวครั้งแรก ในปี 1970 ถูกอกถูกใจคนรักเสียงเพลงยอดขายถล่มทลาย ด้านโซนี่เองก็พัฒนามาเรื่อยๆ จากเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ท มาเป็นเครื่องเล่นแผ่นซีดี เครื่องเล่นแผ่นมินิดิสก์ ก่อนจะมาเป็นเครื่องเล่นไฟล์เพลงดิจิตอลในที่สุด (MP3 Walkman) อย่างที่เห็นในปัจจุบันว่าพกพาสะดวกมากขึ้น รูปทรงเล็กจิ๋วสวยเริ่ด ที่ตอนนี้มีคู่แข่งเป็นไอพอดนั่นเอง
Wrist Computer
มาปิดท้ายกันที่ Wrist Computer นาฬิกาข้อมือพร้อมคอมพิวเตอร์พกติดตัว จะบอกว่าเป็นต้นตระกูลของ smartwatch ที่เห็นกันในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ค่ะ เป็นระบบการทำงานคอมพิวเตอร์ย่อส่วนโดยมีแผ่นคีย์บอร์ดไว้ใช้งานแสดงผลที่หน้าปัดนาฬิกาเล็กๆ ยุคนั้นนับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมมากๆ จนมาถึงยุคดิจิตอลที่มาแรงแซงทางโค้ง ที่หดคีย์บอร์ดอันใหญ่ยักษ์กลายเป็นปุ่มสัมผัส เจ๋งไปอีก Wrist Computer ก็เลยหายไป เหลือไว้เพียงความทรงจำเท่านั้น
จาก 7 เทคโนโลยีในอดีตที่พี่ปุ๋ยได้นำมาฝาก บอกได้เลยว่าเราโลกของเราก้าวมาไกลมากจริงๆ ในระยะเวลา10-20 ปีที่ผ่านมา และที่สำคัญกำลังพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องเลยค่ะ แล้วถ้าเลือกได้ น้องๆ อยากเห็นการพัฒนาเทคโนโลยีด้านใดมากที่สุดหรืออยากแนะนำอะไรเพิ่มมาพูดคุยกันค่ะ
12 ความคิดเห็น
ทันใช้หลายอันเลยนะเนี่ย บ่งบอกอายุ 555
รู้สึกแก่มากอะ เพราะทันเกือบทั้งหมด จะมีก็แต่ wriest computer นี่แหละที่ไม่เคยเห็น และมีอีก 2 อย่างที่อยากจะบอกว่าทัน คือ โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นกระติกน้ำแข็ง สมัยนั้นเครื่องละเป้นแสนเลยะ โทรศัพท์อะไรโคตรแพง และอีกรุ่นก็ โทรศัพท์มือถือรุ่นกระดุกหมา อันนี้ก็ใช้กันเยอะเหมือนกัน^^
-เราก็ไม่ได้แก่อะไรนะ... หรือเพราะเรามันบ้านนอก เลยเคยเห็นมาเกือบหมดแล้ว..(ไม่ทัน wriest computer)
ม้วนวิดิโอ ดิส แและเทป ยังอยู่อยู่เลย
ยิ่งม้วนวิดิโอนี่ยังใช้ดูหนังเก่าๆอยู่เลย 55555
มือถือกระดูกหมา - ขอบอกที่บ้านยังมีอยู่นะค่ะเนี่ย
แผ่นดิส - โหพีคสุดค่ะ ขนาด 3.5 นิ้ว อันเพิ่งค้นเจอในกล่องเก็บของ สมัย ป.6 เริดมาก
เทป - ที่บ้านยังใช้อยู่นะค่ะเนี่ย พร้อมเครื่องเล่นเทป
ม้วนวีดีโอ - อันนี้ก็อีกอันนึง มีทั้งเครื่องเล่น และม้วน
ซาวเบา - พีคมากกกกกกกกกก เพราะมีเก็บไว้