หนังฟอร์มยักษ์ที่หลายคนนับวันรอประจำปีนี้ จะเป็นเรื่องไหนไปได้ ถ้าไม่ใช่หนึ่งในจักรวาล J.K. อย่าง Fantastic Beasts and Where to Find Them ที่คนดูพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คุ้มค่าการรอคอยจริงๆ! แถมยังทำให้ เอ็ดดี้ เรดเมย์น ในบท นิวท์ สคามันเดอร์ ขึ้นแท่นพ่อมดหนุ่มในฝันของสาวๆ ไปเลยด้วย ว่าแล้วจะช้าอยู่ทำไม เราไปทำความรู้จักตัวตนจริงๆ ของพี่เอ็ดกันเลยดีกว่า
ในที่สุดบ้านฮัฟเฟิลพัฟก็มีหนุ่มฮอตแล้ววว
ภาพจาก Facebook : Fantastic Beasts Movie
1. เอ็ดดี้ เรดเมย์น ที่เราเรียกๆ กันนั้น มีชื่อจริง(แบบเต็มๆ)ว่า เอ็ดเวิร์ด จอห์น เดวิด เรดเมย์น เป็นนักแสดงวัย 34 ปี สายเลือดผู้ดีอังกฤษ แอบปนด้วยเชื้อสก็อต ไอริช และเวลส์นิดๆ แค่นี้ก็แซบแล้วว่ามะๆ
2. แฟนหนังทั่วโลกรู้จักเขาจากบท สตีเฟน ฮอว์คิง ใน The Theory of Everything เพราะเอ็ดดี้ตีบทแตกยับ ระดับที่คว้ามาได้ทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำ บวกรางวัลอื่นๆ อีก 11 รางวัล จากที่โดนเสนอชื่อเข้าชิงตั้ง 40 เวที!!! #โหดดดด
3. นอกจากการแสดงแล้ว เอ็ดดี้ยังมีพลังเสียงไม่ใช่เล่น การันตีด้วยบทมาริอุส ในภาพยนตร์เพลงอลังๆ อย่าง Les Miserables แล้วยังตีบทสาวประเภทสองใน The Danish Girl ซะแตกยับ จนได้เสนอชื่อชิงออสการ์ 2 ปีซ้อน ไม่พอยังเอาดีด้านถ่ายแบบจนปังเวอร์วัง ระดับได้เป็นพรีเซนเตอร์ Burberry คู่คาร่า เดอเลวีญ ไปอีก #พี่ครบเครื่องค่ะ
อ่าน "รู้หรือไม่! คาร่า เดอเลวีญ" ได้ ที่นี่เลย https://www.dek-d.com/teentrends/40800/
ภาพจาก http://www.vogue.co.uk/
4. เอ็ดดี้เข้าสู่จักรวาล J.K. ในบทนิวท์ สคามันเดอร์ ผู้เขียนตำรา Fantastic Beasts and Where to Find Them ซึ่งทีมงานคอนเฟิร์มเลยว่าเอ็ดดี้คือตัวเลือกแรกและตัวเลือกเดียวของพวกเขา เพราะดวงตากลมๆ กับรอยยิ้มละมุน แถมยังเป็นหนุ่มอังกฤษแท้ๆ ที่ทั้งฉลาด ตลก แล้วยังเข้ากับสัตว์ได้อีก (มีความนิวท์มากกก) ที่สำคัญ ทีมงานบอกด้วยว่า เอ็ดดี้นี่ดูแล้วให้ฟีลผู้ชายยุค 1926 สุดๆ ไปเลย (คืออะไรเนี่ย)
5. เป็นนักแสดงอังกฤษทั้งที โปร์ไฟล์ครอบครัวจะธรรมดาได้ไง เพราะคุณปู่ทวดของเขาคือ ท่านเซอร์ ริชาร์ด เรดเมย์น ส่วนเอ็ดดี้เอง เมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งอังกฤษชั้น OBE ในวันเกิดพระราชินีไป #มีความไฮมากถึงมากที่สุด
6. ถ้าพูดถึงความไฮ อย่าคิดว่ามีแค่นี้! เพราะเอ็ดดี้จบจาก Eton College โรงเรียนมัธยมชายล้วนสุดไฮโซแห่งอังกฤษ ไม่พอ! เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเจ้าชายวิลเลียมด้วย!!
7. นอกจากเป็นเพื่อนร่วมชั้น สมัยเรียนเอ็ดดี้ยังอยู่ทีมรักบี้เดียวกับเจ้าชายวิลเลี่ยม ความฮาคือเอ็ดดี้เล่าว่าสมัยนั้นเวลาไปแข่งน่ะสบายมาก เพราะใครๆ ก็อยากวิ่งชนว่าที่กษัตริย์อังกฤษทั้งนั้น ทำให้คนอื่นในทีมเล่นกันแบบชิลๆ ไป ผิดกับเจ้าชายวิลเลี่ยมที่รับบทหนักสุดๆ 5555 #เห็นใจเจ้าชายกรุณากด9
เค้าว่านี่เป็นรูปรวมหนุ่มป๊อบของอีตันในยุคนั้น หูยยย เท่เวอร์
ภาพจาก http://www.mirror.co.uk/
8. เอ็ดดี้เคยโกหกว่า “ขี่ม้าได้” เพื่อให้ได้เล่นซีรีส์ Elizabeth I ซึ่งเอ็ดก็ขี่ได้จริงๆ นะ แต่ขี่ครั้งสุดท้ายตอน 4 ขวบนู่น 555 งานนี้เวลาถ่ายจริง กองถ่ายถึงขั้นปั่นป่วนแบบสุด เพราะสรุปว่าเอ็ดดี้คุมม้าไม่อยู่ จนผู้กำกับต้องคว้าไมโครโฟนมาแล้วตะโกนอย่างโมโหสุดๆ เลยว่า “เรดเมย์น ไอ้เด็กเลี้ยงแกะ!!!” ก่อนจะสั่งเลิกกอง แล้วไล่เอ็ดดี้ไปเรียนขี่ม้าซะ 5555
9. เอ็ดดี้ต้องลดน้ำหนัก 7 กิโลเพื่อรับบทสตีเฟน ฮอว์คิง ซึ่งเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากกก เพราะช่วงนั้นเอ็ดเพิ่งบิวท์กล้ามจากเรื่อง Jupiter Ascending มาหมาดๆ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับงอแงว่าอุตส่าห์ซิทอัพ กับกินอกไก่มาเป็นเดือนๆ จนเกือบมีซิกซ์แพ็คทั้งที อย่างน้อยขอเอาหุ่นแบบนี้ไปเดินชายหาดก่อนไม่ได้รึไง T__T โถ น่าสงสาร 55555
อะหือออ เห็นแล้วอยากรู้เลยว่าพี่เอ็ดจะไปเดินหาดไหน ขอไปดูใกล้ๆ ด้วยยย
ภาพจาก ภาพยนตร์ Jupiter Ascending
10. ส่วน Fantastic Beasts and Where to Find Them นั้น เอ็ดดี้ก็ต้องใช้เวลากว่า 6 เดือน ในการปรับบุคลิกเป็นนิวท์ สคามันเดอร์แบบที่ J.K. ต้องการ รวมถึงต้องฝึกการอยู่ร่วมกับสัตว์พันธุ์ต่างๆ ด้วย
11. นอกจากที่ว่ามา เอ็ดดี้ยังฝึกอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากกก คือการ “ควงไม้กายสิทธิ์ด้วยปลายนิ้ว” (เดี๋ยวๆๆ -_-“) เพราะเจ้าตัวบอกว่า อิจฉาเวลาเห็นเพื่อนนั่งควงปากกามาตลอด เลยมีความฝันว่าอยากทำบ้าง ประเด็นคือพี่เอ็ดฝึกอยู่นานเป็นเดือนๆ ก็ยังทำไม่ได้ จนไปนั่งสัมภาษณ์ที่ BBC แล้วหยิบไม้มาควงเล่นๆ เท่านั้นแหละ ทำได้เฉย!!! เทปนั้นเอ็ดดี้เลยถึงกับตะลึง รีบถามตากล้องใหญ่เลยว่า “ถ่ายทันใช่ไหมครับ!!!” น่าเอ็นดู๊~~
12. ตามสคริปต์เดิม เอ็ดดี้ต้องถอดเสื้อโชว์กล้าม (และรอยแผล) ในฉากห้องนอนที่บ้านทีน่า ซึ่ง J.K. เขียนไว้เลยว่า "นิวท์หุ่นแซบ!" ทำให้เอ็ดดี้ไม่รอช้า รีบไปเข้ายิมปั๊มซิกซ์แพ็คทันที แต่ปรากฏว่าตอนแสดงจริงดันมัวอวดกล้ามมากไปหน่อย จนผู้กำกับตัดสินใจว่า ตัดฉากนี้ทิ้งเถอะ 555 แต่เอ็ดดี้ก็ยังไม่วายคิดว่าที่ตัดฉากกล้ามของเขาทิ้งเนี่ย เพราะผู้กำกับไม่อยากให้คริส แฮมเวิร์ธมาเห็นแล้วอิจฉามากกว่า #เอาที่เอ็ดสบายใจเล้ย
โอ๋ๆ ไม่งอนสิตัวเองงง
ภาพจาก BBC
13. เอ็ดดี้เคยมาแคสบททอม ริดเดิ้ลตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ไม่ผ่าน (เอ้า!) ซึ่งเขาก็คิดนะว่าตัวเองผมแดงๆ น่าจะเหมาะกับบทวิสลีย์มากกว่า แต่หลายปีต่อมาก็ถูกทีมงานเลือกให้รับบทนิวท์ สคามันเดอร์เลย เดาว่าคงเห็นอะไรในตัวเอ็ดตั้งแต่วันนั้นแน่ๆ
14. สำหรับสาวๆ ทั้งหลาย พี่กวางต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะเอ็ดดี้ไม่โสดแล้วจ้า แฟนสาวของเขาชื่อว่า ฮันนาห์ แบ็กชอว์ ซึ่งไม่ใช่คนในวงการบันเทิงแต่อย่างใด แต่เป็น PR สาวในบริษัทการเงินแห่งหนึ่ง (โชคดีมากๆ) ทั้งคู่เพิ่งแต่งงานกันไปเมื่อปี 2014 และมีพยานรักด้วยกันเรียบร้อย #ดีใจด้วยนะคุณพ่อเอ็ดดี้
15. แอบเล่านิดนึงว่าเอ็ดดี้ได้พบแฟนสาวครั้งแรกตั้งแต่สมัยมัธยม เพราะเขาถูกโรงเรียนหญิงล้วนข้างๆ เชิญไปเดินแฟชั่นโชว์! เอ็ดดี้โม้เลยว่าตอนนั้นสาวกรี๊ดกันตรึม ไม่ใช่เพราะอะไร เพราะเอ็ดเดินต่อจากหนุ่มฮอตที่สุดในอีตันต่างหาก (ซะงั้น 555) แม้จะเป็นอะไรที่เฟลมาก แต่นี่แหละคือครั้งแรกที่เอ็ดดี้ได้เจอภรรยาคนปัจจุบัน #มีความโรแมนติก
16. เอ็ดดี้ได้อันดับ 1 ในการโหวต “50 Best Dressed British Men” โดยนิตยสาร GQ ความลับคือ...จริงๆ แล้วคนที่เลือกเสื้อผ้าให้เขาใส่อยู่เสมอเป็นภรรยา สาเหตุก็เพราะว่า เอ็ดดี้ตาบอดสีนั่นเอง 55555
หนุ่มอังกฤษใส่สูทคือดีงามมม
ภาพจาก Facebook : Fantastic Beasts Movie
17. เอ็ดดี้เคยติดมือถือมากๆๆๆ ชนิดที่ว่าว่างไม่ได้ต้องหยิบมาเล่นตลอด ทำให้เขาตัดสินใจหักดิบด้วยการเปลี่ยนจากสมาร์ทโฟนเป็นมือถือธรรมดา ผลคือทำให้เอ็ดดี้รู้สึกดีขึ้นก็จริง แต่ต้องใช้เวลาเช็กอีเมลต่างๆ ก่อนนอนนานกว่า 2 ชั่วโมงจนภรรยาเซ็งสุดๆ เอ็ดดี้เลยบอกว่า ครับ ตอนนี้ผมกลับมาใช้สมาร์ทโฟนแล้ว 5555 #พ่อบ้านใจกล้า
18. เอ็ดดี้เป็นอีกหนึ่งหนุ่มหล่อที่ไม่เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่เจ้าตัวบอกว่าแอบส่องทวิตเตอร์อยู่บ่อยๆ นะ ดังนั้นใครรักเอ็ดดี้ก็โพสต์เวิ่นเว้อไว้ในทวิตได้ มีเปอร์เซ็นต์สูงเลยล่ะที่เจ้าตัวจะมาเห็น ^^
ภาพจาก Facebook : Fantastic Beasts Movie
โอ๊ยยย ยิ่งได้รู้จักยิ่งหลงรักหนุ่มแบ๊วจากบ้านฮัฟเฟิลพัฟคนนี้ จนแทบรอ Fantastic Beasts ภาค 2 ไม่ไหวแล้ว น้องๆ ล่ะ ใครกรี๊ดหนุ่มคนนี้เพราะอะไรบ้าง หรือตกหลุมรักมาจากบทบาทไหน คอมเมนต์ไว้ได้เลย
ข้อมูลจาก
http://www.boomsbeat.com/
http://www.uselessdaily.com/
http://variety.com/
http://www.telegraph.co.uk/
https://www.bustle.com/
http://www.gaypopbuzz.com/
http://www.starpulse.com/
http://www.snitchseeker.com/
http://www.inquisitr.com/
http://www.ibtimes.com/
http://www.dailymail.co.uk/
http://www.dailymail.co.uk/
http://www.vogue.co.uk/
http://www.mirror.co.uk/
http://ewn.co.za/
http://metro.co.uk/
https://www.thesun.co.uk/
15 ความคิดเห็น
เวลายิ้มทีนี่ใจละลาย
ทำไมเอ็ดดี้น่าย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกขนาดเน้ >__<
อุตส่าห์จิ้นนะเเล้วนะน่าจะเอาข้อที่14 ไว้หน้าๆเราจะได้กดปิดทันไม่ต้องมาตกหลุมรักมากขนาดนี้
โฮกกกกก
เอ็ดดี้หมีน้อย เเต่งงานเเล้วทำไมไม่บอกกัน
น่ารักที่สุดดดดด ฮือออ หลงแรง /////
หนุ่มฮอตฮัฟเฟิลพัฟก็มีเซดริกแล้วอ่ะนะ (แต่...ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
รู้สึกเหมือนเรเวนคลอไม่ค่อยมีซะงั้น
ตาบอดสีแล้ว 55555 นี่หมายถึงอะไรคะ คือพูดจริง พูดเล่น หรือขำอะไร ก็ไม่ใช่เรื่องน่าขำนะ งง
แค่นี้ก็ตกหลุมรักจะแย่แล้ว
ตัดทำไมผู้กำกับ ตัดทำม้ายยยยยยยยยยยยยยยย ฉากนิวท์มันโชว์แพคน่ะตัดทำไม!!