รู้หรือไม่! 22 เรื่องน่ารักของ "โอ๊ต ปราโมทย์" ที่ไม่ได้มีดีแค่ตลกนะ! #โอ๊ตปราโมทย์

          โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน เชื่อพี่กวางสิว่าถ้าพูดชื่อนี้เมื่อซัก 1-2 ปีก่อน ต้องถูกถามกลับแน่ๆ ว่า "ปราโมทย์ วิเลปะนะเหรอ?" (ง่ะ...-_-) แต่ถ้าเป็นตอนนี้สิ รับรองทุกคนกรี๊ดหนักมากกก เพราะพี่โอ๊ตนี่แหละซุปตาร์คนใหม่ ที่โผล่ไปทางไหน ใครๆ เป็นต้องรีเควสต์ว่า "พี่โอ๊ต ด่าหนูหน่อย" 5555 (อะไรเนี่ย) เอาเป็นว่านอกจากมุมฮาๆ #หยาบแต่ไม่เหยียด แบบที่น้องๆ เห็นกันแล้ว พี่โอ๊ตยังมีแง่มุมเจ๋งๆ น่าสนใจอีกเยอะมากกก อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง ตามพี่กวางมาทำความรู้จักพี่โอ๊ตให้มากขึ้นกัน!
 

          1. สำหรับใครที่ยังงงๆ โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน คือซุปตาร์คนใหม่ ที่กำลังปังเวอร์วัง จากการเป็นคนขับรถปากจัดในรายการ The Boys & Paloy อยากรู้ว่ารายการเขาดังแค่ไหนลองคลิกไปส่องใน Youtube ดูก็ได้ บอกเลยว่าแต่ละ EP ยอดวิวไม่ต่ำกว่าล้าน!

          2. เห็นหน้าหล่อๆ แบบนี้ รู้ไหมว่าพี่โอ๊ตเป็นลูกครึ่งไทย-ปากีสถานนะจ๊ะ ส่วนอายุอานามก็ปาเข้าไป 32 ปีแล้ว

          3. พีคจากการเป็นพิธีกร(?)ก็จริง แต่อาชีพจริงๆ ของพี่โอ๊ตคือนักร้องในเครือ GMM ต่างหาก ประเด็นคือเห็นแบบนี้ พี่โอ๊ตขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อเพลงรักนะจ๊ะ ไม่เชื่อดูแต่ละเพลงที่พี่โอ๊ตร้องสิ ถ้าไม่เป็นเพลงซึ้งๆ ประกอบหนังละคร ก็ต้องเป็นเพลงคู่หวานๆ ฟังแล้วมดไต่ตามตัวไปเลย เอาที่ดังสุด คุ้นหูสุด ก็ต้องเพลง กะทันหัน จาก Project Love Pill2 by Fongbeer นี่ไง ร้องตามกันได้ทั้งเมือง
 

          4. เพื่อยืนยันว่าพี่โอ๊ตเป็นเจ้าพ่อเพลงรักตัวจริง ต้องเมาท์เลยว่าเพลงแรกในชีวิตพี่โอ๊ตคือเพลง คำสาป ประกอบหนังเกาหลีเรื่อง A Millionare's First Love (ใครเคยฟังบ้าง) นอกจากนั้นยังร้องเพลงประกอบละครอีกเยอะมากทั้ง ดาวเรือง, เกมร้ายเกมรัก, อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ แถมยังเคยอยู่วง Lowfat Band ในค่าย We Records ด้วย
 

          5. นอกจากร้องเพลงตัวเอง พี่โอ๊ตยังรับหน้าที่ร้องไกด์ให้ศิลปินใน GMM เยอะมากกก ไล่มาตั้งแต่ กอล์ฟ-ไมค์, เอ๊ะ จิรากร, ป๊อบ ปองกูล หรือแม้แต่พี่เบิร์ด ธงชัย พี่โอ๊ตก็ร้องไกด์ให้มาแล้ว!!!! #ยอมม

          6. เก่งขนาดนี้ รู้ไหมว่าจริงๆ คุณแม่พี่โอ๊ตไม่สนับสนุนให้เป็นนักร้องเลยนะ เพราะที่บ้านพี่โอ๊ตทำธุรกิจหลายอย่างมาก ทั้งร้านแอร์ โต๊ะสนุ๊ก สวนกล้วยไม้ อพาร์ทเมนท์ให้เช่า แถมด้วยร้านหมูกระทะอีก แต่อาศัยว่าบ้านพี่โอ๊ตมีลูกชายตั้ง 4 คน คุณแม่เลยหยวนๆ ยอมปล่อยพี่โอ๊ตไปก็ได้ #ขอบคุณค่ะคุณแม่

          7. พี่โอ๊ตสนใจดนตรีตั้งแต่เด็ก ตอนม.ต้นก็เริ่มหัดเล่นกีตาร์แล้วตั้งวงดนตรีกับเพื่อน ก่อนจะเปลี่ยนมาลองจับไมค์ช่วงม.ปลาย พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เลือกเรียนต่อด้านดนตรี ที่มหาวิทยาลัยรังสิต แถมยังได้เป็นนักร้องประสานเสียงในวงของมหาวิทยาลัยอีก ที่สำคัญคือได้รับเกียรติให้ร่วมร้องเพลงพระราชนิพนธ์ในงานมหาวิทยาลัยโลกมาแล้วด้วย

          8. เสียงดีขนาดนี้ อาจารย์ในคณะจึงดึงตัวไปร้องคอรัสในค่าย GMM ซึ่งพี่โอ๊ตก็ร้องดีซะจนพี่ๆ เรียกใช้งานรัวๆ ชนิดที่กว่า 70% ของคอรัสในเพลง GMM นั้นเป็นฝีมือพี่โอ๊ตนี่แหละ ผลงานเด่นเตะตาแบบนี้ ผู้ใหญ่เลยเปิดไฟเขียว จับพี่โอ๊ตเซ็นสัญญาซะเลย
 

          9. แต่ชีวิตศิลปินก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแม้พี่โอ๊ตจะเริ่มเดบิวต์ตั้งแต่ปี 2007 ด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์ ตามมาด้วยเพลงละครมากมาย ไหนจะทำโปรเจ็กต์ร่วมกับคนนู้นคนนี้คนนั้น แต่กว่าพี่โอ๊ตจะมีเพลงแรกที่เป็นเพลงของ โอ๊ต ปราโมทย์ จริงๆ ได้ ก็เพิ่งตอนปี 2017 นี่เอง ชื่อว่าเพลง "เมื่อวาน" เรียกว่ารอนานเป็น 10 ปี ในที่สุดก็มีงานที่เป็นชื่อตัวเองจริงๆ ซักที #เย้
 

          10. เอาจริงๆ ชีวิตการเป็นนักร้องของพี่โอ๊ตล้มลุกคลุกคลานพอสมควร เพราะร้องเพลงมาเป็นสิบปี แต่ไม่ประสบความสำเร็จซักที เคยถึงขั้นไม่มีงานเลยนานกว่า 2 ปี ต้องนอนอยู่บ้านเฉยๆ จนเงินร่อยหรอ ทำให้พี่โอ๊ตเริ่มคิดเรื่องออกจากวงการ โชคดีที่ได้มาทำรายการ The Boys & Paloy กับเพื่อนๆ นี่แหละ ถึงทำให้พี่โอ๊ตเริ่มเป็นที่สนใจและประสบความสำเร็จ จนกลับมามีไฟในการร้องเพลงอีกครั้ง #เย้
 

          11. รู้ไหมว่าตอนที่พี่โอ๊ตประสบความสำเร็จนั้น ถึงขั้นโทรไปร้องไห้กับพี่เป๊ก วง Zeal เลยนะ เพราะไม่คิดเลยว่าจะมาดังเอาตอนอายุสามสิบเข้าไปแล้ว

          12. ไหนๆ ก็พูดถึงพี่เป๊ก วง Zeal แล้ว เมาท์เลยแล้วกันว่านี่แหละคู่จิ้นพี่โอ๊ต! เพราะคู่นี้เขาสนิทกันม้ากมาก ทั้งทำรายการ "เที่ยวอยู่ได้" ด้วยกัน ฟอร์มวง "ตาโปดแบนด์" ด้วยกัน (เล่นเฉพาะที่ร้าน) แถมพี่โอ๊ตอะไรๆ ก็พี่เป๊ก คำก็พี่เป๊ก สองคำก็พี่เป๊ก บางทีเนียนๆ เรียกพี่เป๊กว่าสามีไปอี๊กกก (เดี๋ยวนะ) งานนี้กระแสจิ้นเป๊กโอ๊ตต้องมา จัดแฮชแท็ก #pexoat ไปเลยรัวๆ
 

          13. อย่างที่บอกไป ว่าพี่โอ๊ตกับพี่เป๊กเขามีวงเฉพาะกิจร่วมกันด้วยนะจ๊ะ ชื่อวง "ตาโปดแบนด์" เล่นที่ร้าน People on Pause Cafe ซึ่งเป็นร้านของพี่โอ๊ตเอง วันดีคืนดีก็มีคนดังแวะเวียนมาร้องแจม ไม่ว่าจะพี่เป๊ก เปรมณัช พี่พิชญ์ กาไชย หรือแม้แต่พี่พลอย หอวังก็ยังเคยขึ้นไปร่วมแจมมาแล้ว (หูยยย) แต่วงนี้เขาไม่มีตารางเล่นแน่นอนหรอกนะ ใครอยากรู้ว่าตาโปดแบนด์จะแสดงวันไหนบ้าง ลองไปเช็กในเฟซบุ๊กของร้านดูแล้วกัน
 

 
          14. แต่ถึงจะมีคู่จิ้น แถมยังชอบบอกว่า "เมียตายแล้ว" บ่อยๆ (เดี๋ยวนะพี่โอ๊ต...) แต่จริงๆ พี่โอ๊ตแมนๆ มีแฟนนะครับ! แฟนสาวของพี่โอ๊ตนั้นสวยมากกกกก เป็นถึงแอร์โฮสเตสสายการบินดัง ที่สำคัญคือคบกันมาเกือบ 10 ปี ตั้งแต่สมัยพี่โอ๊ตยังไม่ดัง ไม่มีอะไรเลย ไม่เรียกรักแท้ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว
 

          15. ถ้าพูดถึงพี่โอ๊ต หลายคนคงต้องนึกถึงพี่ป๊อบ ปองกูล เพราะคู่นี้เขาให้ฉายาตัวเองว่า "คู่จุดต่ำตมของวงการ" (พี๋โอ๊ตพูดเอง พี่กวางไม่เกี่ยว 555) เรียกว่างานไหนมีสองคนนี้โผล่ไป การันตีความฮาแบบลงไปนอนหัวเราะได้เลย แต่รู้ไหมว่านอกจากความสนิทสนมหน้าจอแล้ว ในการทำงาน พี่โอ๊ตก็เป็นคนร้องคอรัสและร้องไกด์ให้เพลงของพี่ป๊อบเกือบทั้งหมดเลยด้วยนะ
 

          16. เห็นพี่โอ๊ตฮาๆ ร่าเริงแบบนี้ รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วมีมุมที่อ่อนไหวและเซนซิทีฟมากเหมือนกัน เวลาพี่โอ๊ตเศร้าเรื่องอะไรจะเศร้าสุดๆ แต่ไม่ค่อยพูดออกมา ทำให้ช่วงหนึ่งต้องเข้าพบจิตแพทย์เพราะกลัวจะเป็นโรคซึมเศร้าเลย

          17. พี่โอ๊ตเป็นคนร้องเพลงเป๊ะได้อีก เรียกว่าถ้าโน้ตแรกไม่พลาด โน้ตต่อไปก็หายห่วง เทพขนาดที่ขึ้นคอนเสิร์ตนี่ไม่ต้องใส่ Ear Monitor เลยก็ยังได้ ในส่วนของเนื้อเพลงนั้นก็หายห่วง เพราะพี่โอ๊ตมีวิธีจำแบบไม่เหมือนใคร ซึ่งไม่ใช่การท่องจำ แต่ใช้วิธีดูแล้วแคปเจอร์เป็นภาพติดไว้ในสมอง เพราะพี่โอ๊ตบอกว่า ให้มานั่งท่องมันไม่ไหวจริงๆ #แบบนี้ก็ได้เหรอ

          18. เสียงดีแค่ไหน แต่เอาจริงๆ พี่โอ๊ตไม่ชอบฟังเพลงตัวเองเลย แม้แต่เสียงตัวเองพี่โอ๊ตก็บอกว่าไม่ชอบฟัง อยู่บนรถนี่เปิดเพลงคนอื่นตลอด ส่วนไอดอลในการร้องเพลงของพี่โอ๊ตนั้น คือไมเคิล บูเบลจ้า
 

          19. พี่โอ๊ตเป็นคนหมกมุ่นกับอะไรแล้วหมกมุ่นสุดๆ เคยหมกมุ่นเรื่องถ่ายรูปมากถึงขั้นศึกษาผ่าน Youtube แบบเป็นจริงเป็นจังจนเซียน แถมยังสร้างห้องล้างฟิล์มไว้ในบ้านอีกต่างหาก เอากับเขาซี้
 

          20. ตอนเข้าวงการใหม่ๆ มีผู้ใหญ่บอกให้พี่โอ๊ตลดความอ้วน เพราะเดี๋ยวใส่เสื้อผ้าไม่หล่อ พี่โอ๊ตก็พยายามนะ แต่สุดท้ายแล้วพี่โอ๊ตคิดว่าตัวตนของพี่โอ๊ตไม่ใช่การแต่งตัวเท่ๆ ซักหน่อย แต่มาจากข้างใน มาจากฝีมือและนิสัยสนุกๆ ต่างหาก ดังนั้นสำหรับพี่โอ๊ต รูปร่างอ้วนๆ จึงไม่ใช่ปัญหาเลย
 

          21. นอกจากเป็นนักร้อง พิธีกรแล้ว พี่โอ๊ตยังเป็นนักแสดงด้วยนะ ทั้งเล่นซีรีส์ เล่นหนัง โดยเฉพาะหนังเรื่อง "โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง" ที่พี่โอ๊ตเล่นนั้น ผู้กำกับบอกเลยว่าเป็นหนังที่เขียนคาแร็กเตอร์ตัวละครขึ้นมาจากพี่โอ๊ต เพื่อให้พี่โอ๊ตเล่นจริงๆ ใครได้ดูเรื่องนี้แล้วเป็นไงบ้าง รีวิวได้เลย
 

          22. สำหรับน้องคนไหนที่กำลังกรี๊ดๆ พี่โอ๊ต อยากติดตามผลงาน ช่วงนี้พี่โอ๊ตก็มีให้ตามเยอะมาก ไม่ว่าจะรายการ The Boys & Paloy, รายการ "เที่ยวอยู่ได้" กับพี่เป๊ก และดีเจคลื่น 104.5 EFM ช่วง จันทร์ Shock โลก The Return! กับดีเจอาร์ต หรืออยากคุยกับพี่โอ๊ตแบบฮาๆ ก็เข้าไปคุยได้ทางทวิตเตอร์ @oatpramote เลย 

 

          อ่านครบ 22 ข้อ ใครคิดเหมือนพี่กวางบ้าง ว่าอยากมีพี่ชายแบบพี่โอ๊ตแล้วสิ! น่าจะทั้งฮาทั้งพึ่งพาได้ในเวลาเดียวกัน เอาเป็นว่าน้องๆ คนไหนชื่นชอบพี่โอ๊ตในเรื่องอะไรบ้าง มาคุยกัน ไม่แน่นะ พี่โอ๊ตอาจจะแอบอ่านคอมเมนต์ของน้องๆ อยู่ก็ได้ ใครจะรู้ อิอิ