รู้หรือไม่! 23 เรื่องราวของ “เชสเตอร์ เบนนิงตัน” ตำนานแห่ง Linkin Park

          คืนวันพฤหัสที่ผ่านมา ขณะที่ทุกคนในประเทศไทยกำลังบอกลากันเพื่อเตรียมตัวเข้านอน มีข่าวร้ายจากอีกซีกโลกหนึ่งถูกส่งต่อผ่านช่องทางออนไลน์อย่างรวดเร็วว่า “เชสเตอร์ เบนนิงตัน” นักร้องนำวง Linkin Park วัย 41 ปี เสียชีวิตแล้วในบ้านพักที่ลอสแอนเจลิส...

          หลายคนร้องไห้ หลายคนอาลัย หลายคนตั้งข้อสงสัยกับการจากไปของเขา แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่า Linkin Park คือประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการนูเมทัล ที่สร้างปรากฎการณ์เขย่าวงการเพลงโลก และเพื่อเป็นการระลึกถึง เชสเตอร์ เบนนิงตัน ศิลปินในตำนานคนนี้ เรามาทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นกันค่ะ

          1. เชสเตอร์ ชารล์ส เบนนิงตัน คือนักร้องนำวงร็อคระดับตำนานอย่าง Linkin Park ผู้มีส่วนสำคัญมากในการทำเพลงให้วง ด้วยการนำประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิตมาถ่ายทอดผ่านบทเพลง จนทำให้อัลบั้มแรกของพวกเขา Hybrid Theory มียอดขายรวมกว่า 30 ล้านแผ่นทั่วโลก!

          2. เชสเตอร์เป็นผู้แต่งเพลง Crawling ที่ชนะรางวัล Grammy สาขา Best Hard Rock Performance ซึ่งเขาให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่าเป็นเพลงที่กล่าวถึงช่วงเวลาเมื่อควบคุมตัวเองไม่ได้จากการใช้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ ที่เขาเคยผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมา ทำให้สามารถถ่ายทอดได้ดี ชนิดที่ถ้าไม่ผ่านช่วงเวลาแย่ๆ แบบนั้นคงไม่มีทางแต่งเพลงนี้ขึ้นมาได้
 

          3. ใช่แล้วค่ะ เชสเตอร์เคยติดยาเสพติดมาก่อน เขาเริ่มใช้ยาตั้งแต่อายุแค่ 13 ปี ลองมาหมดแล้วทั้งฝิ่น กัญชา โคเคน แอมเฟตามีน LSD ฯลฯ สาเหตุที่เชสเตอร์เริ่มใช้สารเสพติด ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะปมที่เขาเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศในวัยเด็กนั่นเอง

          4. เชสเตอร์ถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยชายที่อายุมากกว่าตั้งแต่อายุแค่ 7 ขวบ ในเวลานั้นเขาไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเนื่องจากกลัวถูกเข้าใจว่าโกหกหรือเป็นเกย์ ทำให้เชสเตอร์เก็บความเจ็บปวดนี้ไว้กับตัวเอง และทนถูกล่วงละเมิดทางเพศนานติดต่อกัน 6 ปี ช่วงนี้นี่เองที่ทำให้เชสเตอร์เริ่มมีความคิดอยากจะฆ่าตัวตาย แต่เขาก็ใช้การวาดรูปและแต่งกลอนเพื่อเยียวยาจิตใจตนเอง

          5. เมื่อไม่นานมานี้ เชสเตอร์เล่าว่าเขากลับไปที่บ้านแม่และร้องไห้เมื่อเห็นรูปวัยเด็ก เพราะรูปเหล่านั้น ทำให้เชสเตอร์นึกถึงคืนวันอันแสนทรมานที่ถูกตบตีและล่วงละเมิดทางเพศนั่นเอง
 

          6. พื้นเพเดิม เชสเตอร์เป็นชาวแอริโซนา เขาเป็นลูกชายคนเล็กในครอบครัวที่แม่เป็นพยาบาลและพ่อเป็นตำรวจ แต่ทั้งคู่หย่าร้างกันเมื่อเชสเตอร์อายุได้ 11 ปี ทำให้เขาต้องแยกทางกับแม่ และติดอยู่กับพ่อที่มักเอาความเครียดจากงานมาลงที่บ้าน จนเชสเตอร์คิดว่าโลกนี้ไม่เหลือใครอีกต่อไป...

          7. เชสเตอร์เคยเลิกยาครั้งหนึ่งตอนอายุ 16 ปี เพราะเหตุการณ์ที่มีคนร้ายบุกเข้ามาใช้ปืนจี้หัวเพื่อนเขาถึงในบ้านระหว่างเขากำลังเมายาอยู่ แต่เลิกได้เพียงไม่นาน เชสเตอร์ก็กลับไปติดยาอีกครั้ง

          8. เมื่ออายุ 17 ปี เชสเตอร์ถูกส่งให้ไปอยู่กับแม่ในลอสแองเจลิส แต่ชีวิตไม่ได้สวยงามเหมือนดังที่คิดไว้ เพราะทันทีที่แม่จับได้ว่าเชสเตอร์ติดยา เขาก็ถูกขังไว้แต่ในบ้านไม่ให้ออกไปไหน
 

          9. ที่โรงเรียนมัธยมปลาย เชสเตอร์ตกเป็นเป้าหมายในการกลั่นแกล้ง เพื่อนๆ ในโรงเรียนเล่นงานเชสเตอร์อย่างหนัก ทั้งเตะและต่อย เนื่องจากในตอนนั้นเชสเตอร์ตัวผอมกะหร่อง และยังดูแตกต่างจากคนอื่นๆ อีกด้วย

          10. ช่วงวัยรุ่น เชสเตอร์คลั่งสเก็ตบอร์ดผาดโผนมาก ครั้งหนึ่งเขาเคยชวนเพื่อนๆ ไปเล่นสเก็ตบอร์ดกัน แต่เกิดอุบัติเหตุทำให้เพื่อนพลาดตกจากที่สูงจนศีรษะกระแทกพื้นเสียชีวิตทันที เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เชสเตอร์คิดฆ่าตัวตายหลายต่อหลายครั้ง และทำให้เขาไม่เล่นสเก็ตบอร์ดอีกเลย

          11. Linkin Park เปรียบได้กับของขวัญวันเกิดในปีที่ 23 ของเชสเตอร์ เพราะวันนั้นเขาได้รับสายจากเจฟฟ์ บลู ประธานค่ายเพลงในแอลเอ บอกว่ามีวงเจ๋งๆ วงหนึ่งต้องการนักร้องนำ พร้อมส่งเดโม่เพลงที่ร้องโดยนักร้องนำคนเก่า และเพลงที่มีแต่ทำนองให้เชสเตอร์ในวันต่อมา ซึ่งเชสเตอร์ก็ไม่รอช้า เขาเขียนเพลงให้วงใหม่และอัดเสียงตัวเองส่งกลับไป แน่นอนว่าหลังจากนั้น บลูก็เรียกให้เขาเข้าไปหาที่แอลเอทันที
 

          12. ช่วงแรกๆ ของการไปแอลเอ เชสเตอร์ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ต้องไปขอนอนตามบ้านเพื่อน บ้านญาติ หรือนอนอยู่ในรถตัวเอง รอจนสตูดิโอเปิดจึงเข้าไปนอนในสตูดิโอ

          13. Linkin Park เคยถูกค่ายเพลงต่างๆ ปฏิเสธมาแล้วถึง 44 ครั้ง! ก่อนจะได้มาร่วมงานกับค่ายยักษ์อย่าง Warner Bros ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยปฏิเสธพวกเขามาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน #ไม่ท้อก็ต้องชนะซักวัน!
 

          14. เชสเตอร์เป็นแฟชั่นนิสตาตัวพ่อ เวลาออกทัวร์คอนเสิร์ตแต่ละทีจะมีความแบกเสื้อผ้าไปทั้งตู้ จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าเข้าเซ็ต แม้แต่ถุงเท้าและกางเกงในก็ยังต้องเข้าธีมเดียวกัน! งานนี้เพื่อนในวงถึงกับเผาเลยว่า อย่าให้เชสเตอร์ได้เริ่มแต่งตัวเชียว เพราะจะนานมากกกก

          15. เห็นเป็นหนุ่มร็อคแบบนี้ เชสเตอร์ก็มีมุมตะมุตะมินะ อย่างเช่นการมีซีดีอัลบั้มของมาดอนน่าครบทุกอัลบั้มเป็นต้น #คิดภาพเชสเตอร์ร้องเพลงมาดอนน่าแป๊บ
 

          16. เอาจริงๆ เชสเตอร์เป็นคนโก๊ะๆ ประมาณนึง ทั้งเคยถูกแมงมุมพิษกัดระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต เคยยกกระเป๋าหนักจนไหล่หลุด เอ็นยึดเพราะเล่นบาส แถมยังเคยข้อมือหักตอนกระโดดลงมาหาคนดูในคอนเสิร์ตปี 2007 ไปอีก #อะไรจะขนาดนั้นนน
 

          17. ก่อนย้ายมาอยู่แอลเอ เชสเตอร์เคยเป็นพนักงานร้าน Burger King มาก่อน เขามีแฟนสาว 1 คน แต่ไม่มีเงินซื้อแหวนแต่งงานให้ จึงใช้วิธีสักรูปแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของกันและกันแทน #เก๋อะ

          18. เชสเตอร์ผ่านการแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง มีลูกทั้งหมด 6 คน นอกจากนี้เขายังมีแพะแคระ ไก่แจ้ เต่า ปลา หมา 6 ตัว และแมวอีก 2 ตัว เรียกว่าแทบจะเปิดฟาร์มได้อยู่แล้ว
 

          19. สำหรับใครที่อยากดูฝีมือการแสดงของเชสเตอร์ เปิดหนังเรื่อง Saw 3D ดูได้! แต่อาจจะต้องเตรียมถุงไว้นิดนึง เพราะเป็นหนังที่โหดเหี้ยมระดับภรรยาของเชสเตอร์ดูยังเกือบอ้วกพุ่งเลย -_-
 

ภาพจาก ภาพยนตร์ Saw 3D
 

          20. ในปี 2004 ที่สึนามิครั้งใหญ่ถล่มภาคใต้ของไทย รู้ไหมว่าเชสเตอร์เป็นศิลปินต่างชาติรายแรกๆ ที่บินมาช่วยเหลือ! ไม่เท่านั้น เขายังจัดตั้งกองทุน Music For Relief (MFR) ร่วมกับสมาชิกวง Linkin Park คนอื่นๆ เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงยังเคยมาร่วมงาน MTV Asia AID เพื่อการกุศลในเมืองไทยอีกด้วย #ว้าว!

          21. คริส คอร์เนลล์ คือเพื่อนสนิทของเชสเตอร์ ที่เพิ่งเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายไปเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้ทำให้เชสเตอร์โศกเศร้าอย่างหนักจนกล่าวว่า “เขาคิดสภาพโลกที่ไม่มีคริสอยู่ไม่ออกเลยจริงๆ” ในงานศพของคริส เชสเตอร์ขึ้นร้องเพลง Hallelujah ส่งเป็นครั้งสุดท้าย และเรื่องน่าสะเทือนใจก็คือ วันที่ 20 กรกฎา ซึ่งเชสเตอร์เลือกปลิดชีพตัวเองนั้น คือวันเกิดของคริส คอร์เนลล์ เพื่อนรักของเขานั่นเอง
 

          22. จริงๆ เชสเตอร์เคยบอกเรื่องคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ในวันที่ 30 มีนาคม ท่ามกลางงานปาร์ตี้เปิดอัลบั้ม One More Light ของ Linkin Park แต่ในวันนั้นไม่มีใครคาดคิดเลยว่า สี่เดือนต่อมา เขาจะทำจริงๆ...

          23. เพจของ Linkin Park บนเฟซบุ๊กมียอดไลค์มากถึง 62 ล้านไลค์! ถือเป็นวงร็อคที่มียอดไลค์สูงสุด ตอกย้ำว่าอย่างไรก็ตาม พวกเขาคือตำนานของวงการเพลงร็อคอย่างแท้จริง

 

          หลังจากได้รับรู้เรื่องของเขามากขึ้น น้องๆ คิดเหมือนพี่กวางไหมคะ ว่าผู้ชายคนนี้นั้นมีทั้งมุมทีเจ็บปวด น่าสงสาร น่าเห็นใจ และมุมที่น่ารัก น่าประทับใจ อยู่ภายในคนเดียวกัน แม้วันนี้เชสเตอร์จะไม่ได้อยู่มอบความสุขในพวกเราอีกแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าเรื่องราวของเขาจะยังคงอยู่ในจิตใจของแฟนๆ ทุกคน และเล่าตำนานนี้สืบต่อกันไปอีกนานเท่านาน น้องๆ ชาว Dek-D คนไหน เคยประทับใจเพลงของ Linkin Park หรือมีประสบการณ์ได้รับแรงบันดาลใจจากพวกเขาอย่างไรบ้าง เข้ามาแชร์กันได้เลยค่ะ :)