Spoil
- "Midnight Sun" เรื่องราวความรักของหญิงสาวที่สัมผัสแดดไม่ได้ เสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิต!
- เค้าโครงเรื่องมาจากหนังรักสุดซึ้ง "A Song to the Sun" ของญี่ปุ่น
- บทพระเอกเรื่องแรกของ "แพทริก ชวาร์เซเน็กเกอร์" ลูกชายคนเหล็กในตำนาน
- "เอิ๊ต ภัทรวี" ร้องเพลง Burn So Bright ประกอบภาพยนตร์ฝากชาว Dek-D โดยเฉพาะ!
__________________________
วันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ใครยังไม่ได้มีแพลนไปเที่ยวไหน นักร้องสาวสวยเสียงใส "เอิ๊ต ภัทรวี" ก็มาชวนชาว Dek-D หนีร้อนไปนั่งดูหนังรักสุดฟินเรื่อง "Midnight Sun หลบตะวัน ฉันรักเธอ" หนังรักที่จะทำให้เรารักคนข้างๆ มากขึ้น!
Midnight Sun เป็นเรื่องราวความรักของหญิงสาวที่สัมผัสแดดไม่ได้!
เรื่องราวของ "เคที ไพรซ์" หญิงสาวที่มีโรคประจำตัวที่ค่อนข้างร้ายแรง ไม่สามารถเจอกับแสงแดดโดยตรงได้ ไม่งั้นอาจเสียชีวิต ด้วยความที่เขาต้องใช้เวลาอยู่ในบ้านตอนกลางวัน ตอนกลางคืนก็จะออกไปร้องเพลง เล่นดนตรีข้างนอก แล้วก็ได้ไปเจอกับผู้ชายคนนึงที่เป็นรักแรก คือเคทีเฝ้ามองหนุ่มหล่อคนนี้ ผ่านทางหน้าต่างมาโดยตลอด พอได้ออกไปเล่นดนตรีตอนกลางคืน ก็ทำให้ได้เจอตัวจริง แล้วก็กลายเป็นความรัก แต่ติดตรงที่เคทีเดทได้เฉพาะตอนกลางคืนแถมยังเก็บอาการป่วยของตัวเองไว้เป็นความลับอีกด้วย
Midnight Sun ดัดแปลงมาจาก A Song to the Sun ของญี่ปุ่น
Midnight sun มีโครงเรื่องมาจากเรื่อง A Song to the Sun ที่เป็นเวอร์ชั่นญี่ปุ่น แต่เขาก็ปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมของคนอเมริกัน เอิ๊ตชอบนางเอกตั้งแต่เวอร์ชันญึ่ปุ่นแล้ว เพราะว่าร้องเพลงเพราะ แล้วก็แต่งเพลงเองด้วย ส่วน "เบลลา โทรน" นางเอกเวอร์ชั่นนี้ก็เป็นคนที่ร้องเพลง แล้วก็ออกไปเล่นดนตรีสดตามที่ต่างๆ ซึ่งเอิ๊ตชอบมาก อินมากกก เพราะเอิ๊ตเองก็เคยไปเล่นเปิดหมวกมาเหมือนกันค่ะ
แลกกับการได้รู้จักความรัก ถึงต้องตายก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง
เอิ๊ตว่าทุกคนอยากได้รับความรัก ความอบอุ่น เอิ๊ตเองก็เป็นคนนึงที่ให้คุณค่ากับความรักเหมือนกัน ถ้าสมมติว่าตัวเองจะต้องป่วยหนักแบบนางเอก ก็อาจจะยอมเสี่ยง เพื่อให้ตัวเองได้รู้สึกรัก รู้สึกได้รับความรักแบบนี้ มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงนะคะ
ถ้าออกไปเจอแดดไม่ได้ "เอิ๊ต" คงใช้ชีวิตอยู่ใน Food Land
ถ้าเอิ๊ตใช้ชีวิตตอนกลางวันแบบนางเอกไม่ได้ เอิ๊ตคงต้องใช้ชีวิตอยู่ใน Food Land หนักมาก 555 แต่คงใช้ชีวิตคล้ายๆ ในเรื่องอะค่ะ ถึงมีโรคร้ายแต่เขายังมีความฝัน ซึ่งทำให้เราเห็นว่า เฮ้ย! ความฝันนี่แหละ ที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนไปได้ เอิ๊ตก็คงทำตามความฝัน เล่นดนตรีต่อไป แต่ก็คงคิดถึงแสงแดด คงไม่ได้ถ่ายรูปแสงธรรมชาติสวยๆ จริงๆ ก็น่าเสียดายเหมือนกันนะ
3 เหตุผลที่ทุกคนควรไปดู Midnight Sun
หนึ่งเลยก็คือ "แพทริก ชวาร์เซเน็กเกอร์" พระเอกของเราหล่อและยิ้มสวยมาก เขาเป็นลูกชายของอาโนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ คนเหล็ก และนี่ก็เป็นเรื่องแรกที่เขาเป็นพระเอก แล้วเขาก็ทำได้ดีมาก
เหตุผลที่ 2 ก็อยากให้ไปฟังเพลงค่ะ มีเพลงเพราะๆ ความหมายดีๆ เยอะมาก เพลงที่เอิ๊ตชอบและอยากให้ทุกคนลองฟังชื่อเพลงว่า Walk with me คือเพลงมันโรแมนติกอ่ะ เอิ๊ตขอทำนายไว้เลยว่า ในอนาคตเพลงนี้ต้องดังแน่นอน
สุดท้ายเอิ๊ตอยากให้ทุกคนชวนคนที่รักไปดูด้วยกัน แล้วมันจะทำให้รู้สึกว่า ความจริงแล้วเราโชคดีมากเลยนะ ที่เราได้รักกันแบบไม่มีอุปสรรค
คนโสดดูได้ คนไม่โสดก็ดูดี๊ดี
คนโสดก็ต้องไปดูเลยค่ะ เพราะพระเอกหล่อ อันนี้เราขอเน้นย้ำว่าแพทริกหล่อจริงๆ คนโสดก็เข้าไปกรี๊ดพระเอกกันได้ ส่วนคนมีคู่ก็ยิ่งเหมาะเข้าไปใหญ่ เพราะเรื่องนี้จะทำให้เราได้รู้ว่า ความรักที่มันมีอุปสรรคมันทรมานนะ เราจะได้หันมารักกันดีๆ รักกันให้มากขึ้น
เปิดพื้นที่ฝากร้าน
Midnight Sun ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังรักโรแมนติก แต่มันทำให้เรามีไฟในใจได้ เพราะมีเรื่องของความฝัน เราดูแล้วอาจจะได้เห็นว่าสุดท้ายแล้วเราต้องการอะไร เราอาจจะมีแรงบันดาลใจ ก็อยากให้ทุกคนไปดูกันเยอะๆ ค่ะ
แล้วก็ฝากเพลงใหม่ล่าสุดของเอิิ๊ต ชื่อเพลงว่า "ถ้าฉันหายไป" ก็เป็นเพลงปิดอัลบั้ม About time - EP ของค่ายมิวสิคมูฟ เรคคอร์ด ก็สามารถหาซื้อได้แล้วนะคะ
ก่อนจากกันไปเอิ๊ตก็ฝาก ost. เพราะๆ ของหนังเรื่องนี้มาให้ชาว Dek-D ได้ฟังกัน ชื่อเพลงว่า "Burn So Bright" ใครที่ชอบเพลงนี้ ก็อย่าลืมตีตั๋วเข้าไปฟินกับ "Midnight Sun หลบตะวัน ฉันรักเธอ" 12 เมษายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์!
0 ความคิดเห็น