5 เรื่องน่ารู้แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ของ "เกาะฮาวาย"

        สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... เจอกับ พี่เป้ และวัฒนธรรมต่างประเทศน่าสนใจเช่นเคยนะคะ ^^ ถ้าพูดถึงประเทศ "สหรัฐอเมริกา" แล้ว หลายๆ คนคงนึกถึงประเทศใหญ่ๆ ที่อยู่ทางใต้ของแคนาดาและอยู่ทางเหนือของเม็กซิโก แต่หลายคนอาจจะลืมไปว่า อเมริกามีทั้งหมด 50 รัฐ โดยมี 49 รัฐอยู่บนผืนแผ่นดินใหญ่ และมีอีก 1 รัฐที่อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก นั่นก็คือ "รัฐฮาวาย" หรือเกาะฮาวายนั่นเอง เพราะฉะนั้นวันนี้จึงมีเรื่องน่ารู้สนุกๆ จากเกาะฮาวายมาฝากค่ะ

(อยู่ไกลไปมั้ยเนี่ย ?)

ฮาวาย....ไม่มีปัญหาการเหยียดสีผิว

         ต้องบอกน้องๆ ก่อนว่า คนฮาวายพื้นเมืองแท้ๆ จะหน้าตาไม่เหมือนคนอเมริกันพวกฝรั่งตาน้ำข้าวนะคะ บางคนก็หน้าแนวเอเชียน บางคนก็เหมือนลูกครึ่งอเมริกัน-เอเชียน แต่ที่น่าแปลกก็คือ อัตราส่วนพลเมืองบนเกาะฮาวายนั้น เป็นคนฮาวายจริงๆ แค่ประมาณ 9% เท่านั้น !!! อีกเกือบ 40% เป็นคนเอเชีย (โดยเฉพาะคนฟิลิปปินส์และญี่ปุ่น) ส่วนที่เหลืออีก 50% นั้นเป็นฝรั่งอเมริกันค่ะ

         แต่ถึงจะมีคนหลายเชื้อชาติ แต่ที่นี่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเหยียดสีผิวหรือเชื้อชาติเท่าไหร่ ต่างจากรัฐในอเมริกาบนแผ่นดินใหญ่ที่ยังสามารถพบปัญหาเรื่องนี้ได้ทั่วไปค่ะ ดีจังเนาะ

ฮาวาย....มีภาษาของตนเอง

        ฮาวายเป็นรัฐเดียวในอเมริกาที่มีภาษาเป็นของตัวเองด้วยค่ะ !! โดยภาษาฮาวายเป็นภาษาในตระกูลโพลีเนเซียน มีพยัญชนะเพียง 13 ตัว และแน่นอนว่าประชากรที่พูดภาษาฮาวายก็คือคนฮาวายแท้ๆ ค่ะ 

        แต่ในช่วงปี 1896 (ร้อยกว่าปีมาแล้ว) ได้มีการออกกฏหมายว่า ในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาต่างๆ ต้องทำการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น จึงทำให้ "ภาษาฮาวาย" ของรัฐฮาวายไม่ใช่ภาษาหลัก และกลายเป็น "ภาษาต่างประเทศ" สำหรับคนฮาวายไปซะอย่างนั้น รวมถึงหากนักเรียนคนไหนหลุดพูดภาษาฮาวายออกมา ก็จะถูกครูลงโทษด้วยค่ะ บางคนก็โดนลงโทษด้วยการตีที่หน้าผาก หรือหากใครอยู่โรงเรียนประจำ ก็จะโดนลงโทษไม่ให้กลับบ้านในวันหยุด

         ส่วนคำที่มาจากภาษาฮาวายที่เราน่าจะคุ้นกันดีก็คือ Ukulele หรือเครื่องเล่นอูคูเลเล่สุดฮิต และคำว่า Aloha ที่แปลว่า สวัสดี / ลาก่อน

ฮาวาย....คือบ้านเกิดคนดังระดับโลก

         น้องๆ รู้มั้ยว่า ประธานาธิบดีคนเก่งแห่งอเมริกาอย่าง "บารัก โอบาม่า" ก็เคยใช้ช่วงชีวิตหนึ่งที่เกาะฮาวายค่ะ โดยเขาเกิดที่เมืองโฮโนลูลู เมืองหลวงของรัฐฮาวาย (พ่อแม่ของโอบาม่าเป็นนักศึกษามาเรียนที่ฮาวายและพบรักกันที่นี่) แต่ต่อมาทั้งคู่ได้หย่าจากกัน โอบาม่าได้ย้ายตามแม่มาอยู่ที่อินโดนีเซีย แต่พออายุ 10 ขวบ ก็ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่เกาะฮาวายอีกครั้งค่ะ ดังนั้นจึงเรียกได้ว่า เกาะฮาวายนี่แหละที่เป็นบ้านเกิดของโอบาม่า

         หรือแม้แต่ดาราชื่อดังอย่าง "นิโคล คิดแมน" ที่ถึงแม้จะเป็นคนออสเตรเลียน แต่เธอก็เกิดที่เมืองโฮโนลูลู เกาะฮาวาย เพราะพ่อและแม่ของเธอได้ย้ายไปอยู่ที่นั่นเพื่อทำวิจัย ดังนั้นนิโคล คิดแมนจึงเกิดที่นั่นและได้ใช้ชีวิตช่วงวัยเด็กที่ฮาวายค่ะ

ฮาวาย....อยู่ไกลแสนไกล

         เกาะฮาวายได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่แห่งหนึ่งของโลกที่อยู่โดดเดี่ยวที่สุด เพราะอยู่ห่างจากอเมริกาแผ่นดินใหญ่ถึงเกือบ 4,000 กิโลเมตร !! หากโดยสารเครื่องบินจากลอสแองเจลิสซึ่งอยู่ทางตะวันตกของอเมริกาบินไปยังฮาวาย ต้องใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมงเลยล่ะค่ะ 

         แต่ถึงจะเป็นเกาะที่อยู่กลางมหาสมุทรไกลแสนไกลแบบนี้ ขอบอกว่าถูกใจนักวิทยาศาสตร์นักล่ะ ! เพราะสามารถทำการทดลองนั่นนี่ได้สะดวก ไม่มีใครรบกวน โดยเฉพาะด้านดาราศาสตร์นี่สุดยอดค่ะ เพราะที่นี่มีกล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไว้สำหรับดูดาว !!! แหม ฟ้าใส ไม่มีอะไรรบกวน เหมาะแก่การดูดาวจะตายไป

ฮาวาย....มีพระราชวัง

         ฟังดูไม่น่าใช่เรื่องน่าแปลกใช่มั้ยคะ แต่ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวของอเมริกาแล้ว เราแทบไม่ค่อยได้ยินเกี่ยวกับ "วัง" กันซักเท่าไหร่ เพราะวังเป็นที่อยู่ของกษัตริย์ แต่ทั้งหมดนั้นได้ถูกปฏิวัติไปหมดแล้วในช่วงปฏิวัติอเมริกา

         แต่ที่เกาะฮาวายนั้นได้ชื่อว่าเป็นรัฐแห่งพระราชวังค่ะ เช่น Iolani Palace (พระราชวังอิโอลานิ) ตั้งอยู่ที่เมืองโฮโนลูลู ก่อสร้างโดยกษัตริย์คาลาคาอูในปี 1882 ใช้เป็นที่พำนักของพระองค์และราชินีลิลิวโอคาลานี (น้องสาว) ต่อเมื่อราชวงศ์ได้ล่มสลาย พระราชวังแห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้างไว้ แต่ปัจจุบันได้รับการบูรณะและจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมค่ะ หากใครมีโอกาสไปเที่ยวฮาวาย ก็อย่าลืมไปเยี่ยมชมนะคะ

         นั่นก็คือเรื่องน่ารู้จากฮาวายค่ะ อยู่ไกลขนาดนี้ พี่เป้ คงต้องขอนอนฝันก่อนละกัน อยากไปซักครั้งในชีวิต ว่าแต่ใครเคยไปเที่ยวฮาวายก็มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังหน่อยนะว่าเป็นยังไงบ้าง ???

ข้อมูลประกอบ : time.com