แต่ใครจะไปเชื่อว่า กว่าจะได้ก้าวสู่เวทีนางงามระดับโลก สาวๆ จากเวเนซูเอล่าต้องฝ่าฟันและเจอความลำบากเยอะมากๆ วันนี้เลยถือโอกาสแปลเรื่องราวสารคดีจากช่อง BBC อังกฤษ ในตอนที่ชื่อว่า Secret of South America : Extreme Beauty Queens ที่เคยออกอากาศไปเมื่อต้นปี 2014 มาฝากค่ะ
ถ้าดูจากแผนที่โลก เวเนซูเอล่าอยู่ห่างจากไทยมากกกกค่ะ คนละซีกโลกเลยก็ว่าได้
และเราก็รับรู้เรื่องจากประเทศนี้ค่อนข้างน้อยมาก นอกจากนางงามแล้ว ก็แทบไม่รู้อะไรเลย
เมืองหลวงของที่นี่ชื่อว่า คาราคัส ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ
ไม่ใช่แค่นั้น แต่เมืองนี้ยังเป็นความฝันของสาวๆ เวเนซูเอล่าแทบทุกคน
เพราะเวทีการประกวดนางงามอย่าง Miss Venezuela จัดขึ้นที่นี่
ในเวเนซูเอล่า การประกวดนางงามคือเวทีการประกวดที่คนทั้งประเทศติดตาม
ในวันประกวดรอบชิงชนะเลิศ มีคนติดตามดูทางทีวีมากกว่า 15 ล้านคนหรือครึ่งหนึ่งของประชากร
ดูซะก่อนว่าคนเข้ามาชมเยอะมากกกแค่ไหน (นึกว่าประกวดเดอะสตาร์รอบชิงชนะเลิศ)
และว่ากันว่า ถ้าเดินไปถามผู้หญิงเวเนซูเอล่าว่าความฝันสูงสุดคืออะไร
มากกว่าครึ่งจะตอบว่า "อยากเป็นนางงาม" มันคือความฝันอันยิ่งใหญ่ เพราะอะไรนะ?
การคัดเลือกนางงามที่จะเข้าสู่เวที Miss Venezuela เวทีใหญ่ของประเทศ
จะเริ่มคัดเลือกจากเมืองต่างๆ เพื่อหาตัวแทนมาขึ้นสู่เวทีในรอบชิงชนะเลิศ
ซึ่งปัจจุบันการประกวดนางงามของที่นั่น ถูกทำออกมาให้คล้าย Reality Show เลยล่ะ
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คนทั้งประเทศจะให้ความสำคัญและติดตามเวทีนี้อย่างเอาจริงมาก
และสำหรับประธานการจัดประกวด Miss Venezuela นั่นก็คือ "ออสเมล"
ไม่มีใครในเวเนซูเอล่าไม่รู้จักเขา เขาคือบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อประเทศนี้มากๆ
ป้ายโฆษณายักษ์ของเวทีการประกวดที่มีรูปออสเมลและสาวงามทั้งหลาย
ออสเมล เป็นที่พูดถึงในแง่ของการมีตาแหลม แบบว่ามองปรื๊ดเดียวก็บอกได้เลยว่า
อย่างสาวคนนี้ก็โดนติเรื่องฟันหน้าสองซี่
ส่วนสาวงามคนนี้ก็เป็นอีกคนที่ถูกวิจารณ์เรื่องรูปร่างหน้าตา เธอเล่าว่า
ออสเมลจะบอกมาเลยว่า ต้องไปศัลยกรรมทำอะไรมาเพิ่ม ถึงจะดูดีขึ้น
ส่วนผู้เข้าประกวดคนนี้ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย เธอร้องไห้เสียใจมาก
เธอบอกว่า การเป็นนางงามคือความฝันทั้งชีวิต เป็นความฝันของครอบครัว ของพ่อแม่
เธอตั้งเป้าว่าเธอจะต้องเข้ารอบ แม้จะตกรอบ แต่ก็หวังว่าปีหน้าจะประสบความสำเร็จ
รายการพาไปติดตามชีวิตของผู้เข้าประกวดรายหนึ่ง
เธอชื่อ นาบ้า มาร์เกรท เป็นตัวเก็งในการประกวดที่น่าจับตามอง
ชีวิตของเธอสะท้อนให้เห็นชีวิตที่แท้จริงคนของเวเนซูเอล่าจำนวนมาก
รู้กันหรือไม่ว่า เวเนซูเอล่าคือประเทศหนึ่งที่อันตรายที่สุดในโลก
โดยเฉพาะในเมืองหลวงนั้น ว่ากันว่ามีคนถูกฆ่าตายทุกๆ 14 นาทีเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะยาเสพติด การโจรกรรม การลักพาตัว การฆาตกรรม เกิดขึ้นทุกๆ ชั่วโมง
นาบ้าก็เช่นกัน เธออาศัยอยู่ในสลัมกลางเมืองคาราคัส ครอบครัวเปิดร้านขายของชำในสลัมแห่งนี้
เธอบอกว่า การเป็นนางงามคือความฝันอันสูงสุดของเธอที่ฝันมาตั้งแต่เด็ก
เพราะเธอก็เหมือนกับผู้หญิงอีกจำนวนมากในประเทศนี้ที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น
เพราะสภาพแวดล้อมที่นี่มันแย่มาก พี่ชายของเธอก็เคยมีเรื่องจนถูกยิงเสียชีวิต
เธอตั้งใจและเตรียมพร้อมสำหรับการประกวดโดยไปทำจมูกและทำหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น
เสียเงินไปประมาณเกือบ 3 แสนบาท ซึ่งที่บ้านก็ยินดีเพราะเข้าใจในความตั้งใจนี้
สำหรับการลดน้ำหนักก่อนการประกวดจะเริ่ม เธอจะใช้วิธีติดแผ่นตาข่ายไว้ที่ลิ้น
ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการเคี้ยวและกลืนอาหาร ทำให้กินอาหารได้น้อยลง (แบบนี้ก็มีด้วย)
ต่อมา ทางรายการพาไปดู Beauty School หรือ โรงเรียนฝึกนางงาม!!
นักเรียนจำนวนมากของที่นี่คือเด็กตัวเล็กตัวน้อยที่มีความฝันอยากเป็นนางงาม โอ้ววว
ท่านั่งจัดว่าไม่ธรรมดา
เด็กๆ ที่นี่จะได้เรียนทั้งมารยาท การเดินแบบ การโพสท่าถ่ายรูป การเต้น การแต่งหน้า
ต่อมา ทางรายการพาไปดูเบื้องหลังการซ้อมเต้นของผู้เข้าประกวด Miss Venezuela
ผู้เข้าประกวดรายนี้บอกว่า เธอหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงชีวิตของเธอ พูดทีไรก็จะร้องไห้
ยอมไม่ยุ่งเกี่ยวกับความรักหรือมีแฟน เพื่อที่จะโฟกัสแต่เรื่องการประกวดนางงามเท่านั้น
ต่อมา รายการเข้าพูดคุยกับ ออสเมล (ขวามือคือพิธีกรจาก BBC)
ออสเมล เล่าว่า ตั้งแต่เด็กๆ เขาเป็นโรคสมาธิสั้น เขาไม่มีสมาธิจะทำอะไรเลย
สิ่งเดียวที่เขาจดจ่อทำได้คือ การนั่งวาดรูปผู้หญิงสวยๆ งามๆ
บางครั้งเวลาสนทนากับคนอื่น แล้วฝ่ายตรงข้ามมีปอยผมตกมา
เขาก็อดไม่ได้ที่จะจับปอยผมให้ทัดหู เพราะอยากให้คนตรงหน้าดูดี
และวันประกวดรอบสุดท้ายก็มาถึง
นาบ้า (หน้าสด) เตรียมพร้อมแล้วที่หลังเวที เธอบอกว่าจะตั้งใจให้ดีที่สุด
พอขึ้นเวทีแล้ว ก็แปลงโฉมเป็นแบบนี้เลย โอววว นับถือช่างแต่งหน้าจริงๆ
คำถามที่เธอได้รับนั้นก็ตรงกับชีวิตจริงของเธอซะเหลือเกิน เพราะคำถามมีอยู่ว่า
แต่ตัวเราเองนั่นแหละที่จะเป็นคนทำให้ความสำเร็จนั้นเกิดขึ้น
การประกวดดำเนินไปเรื่อยๆ จนในที่สุด กรรมการเตรียมประกาศ 5 คนสุดท้าย!
ครอบครัวของนาบ้าดูเหมือนจะลุ้นมากทีเดียว
และผลที่ออกมาคือ นาบ้าได้เข้ารอบจริงๆ!!
อย่างไรก็ตาม แม้เธอไม่ได้คว้ามงกุฎ Miss Venezuela 2013 แต่ก็คว้ารองชนะเลิศอันดับ 1 มาครอง
ภาพจากคืนการประกวด
และแน่นอนว่า ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป ตำแหน่งนี้ทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้น
รวมถึงเป็นที่เชิดหน้าชูตาของเพื่อนบ้านในสลัมที่เธออยู่อาศัยทีเดียวเลยแหละ
บรรยากาศหลังจากรับตำแหน่ง ผู้คนในสลัมต่างออกมาแสดงความยินดี
เรื่องราวของนางงามในเวเนซูเอล่าสามารถสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่นั่นได้เป็นอย่างดีทีเดียวเลยค่ะ ทุกคนไม่ว่าใครต่างก็อยากมีชีวิตที่สุขสบายและดีขึ้นทั้งนั้นแหละเนาะ
Thank you&Credit : BBC Documentary : Secret of South America
8 ความคิดเห็น
ว้าววว ลำบากจริงๆ แต่คุ้มค่ากับความสำเร็จนะ ^^
ยอมรับในหัวใจที่มุ่งมั่นของพวกเธอจริงๆ อยู่ในที่แบบนั้นยังพยายามมุมานะทำตามความฝันให้ถึงที่สุด แม้สภาพแวดล้อมไม่อำนวยก็ตาม เรื่องหน้าตาเรามองข้ามไปเลย เราโฟกกัสเจาะจงแนวคิดของเค้าเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า
ถึงจะไม่ได้แชมป์ แต่แค่เข้ารอบลึกก็มีเกียรติมากกว่าอดีตขนาดนี้ ก็สุดยอด
ความภาคภูมิใจสูงสุดของสาวเวเนฯ คือ ได้เป็นนางงาม
ส่วนสาวไทย อย่าหยุดสวย เพราะกระเทยไทยนานวันเข้าจะแซงชะนีอยู่ละ
ส่วนออสเมลถือว่าโชคดีนะ ที่โรคสมาธิสั้นที่เป็นอยู่ทำให้ชีวิตสาวๆดูดีและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ
เค้าคัดแล้ว คัดอีก บ้างปีก็ได้ผี บางปีก็ได้หมู อย่างหนูมิกปีนี้ ชุดราตรีนึกว่างูกินสุนัข
มิน่า เวลาเห็นนางงามเวเนซูเอล่าทีไร จะรู้สึกประเทศนี้เค้าคัดนางงามเก่งแฮะ สวยทุกปี
มันเป็นวาระแห่งชาติ ซีเรียสจริงจังขนาดนี้นี่เอง สุดยอดอ่ะ
โห อ่านแล้วอึ้งเลย
เค้าทุ่มเททั้งๆที่มีโอกาสเพียงน้อยนิด น่านับถือ
แล้วก็ไม่กังวลเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมกันเลย
(คือบรรทัดสุดท้ายเป็นมุมมองของเราเฉยๆ
ถึงแม้ว่าตอนนี้คนไทยก็ทำศัลยกรรมกันแล้วบ้างก็ตาม)
ไม่ใช่แค่เวเนซูเอล่า แต่ฟิลิปปินส์ก็ไม่น้อยหน้า
ฟิลิปปินส์เองก็เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนางงามมาก ขนาดที่ว่าคุยได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องนางงาม เพราะนางงามของเขาสวยที่สุด เวเนสวยที่สุดแต่ปินส์สวยสุดกว่า