4 เทคนิคปลดปล่อยพลังภาษาอังกฤษในตัวคุณ

4 เทคนิคปลดปล่อยพลัง ภาษาอังกฤษ ในตัวคุณ
แหล่งที่มา : เรียนภาษาอังกฤษ EF

        คุณทุกคนทราบดีว่าภาษาอังกฤษสำคัญกับคุณมากขึ้นๆในทุกๆ วัน แต่เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมคุณหรือเพื่อนของคุณเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ประถมถึงมัธยมหรือจนกระทั่งจบปริญญาแล้ว ยังรู้สึกไม่พร้อมกับการใช้ภาษาอังกฤษเลย บางทีคุณต้องลองย้อนถามตัวเองว่า คุณใช้ภาษาอังกฤษบ่อยแค่ไหน และอีกคำถามคือ คุณกลัวการใช้ภาษาอังกฤษอยู่มั้ย ถ้าคำตอบคือ ใช่!!! นี่คืออุปสรรคด่านเดียวที่ทำให้ความรู้ภาษาอังกฤษที่สั่งสมจาก 12 ปีในโรงเรียน และ 4 ปีในมหาวิทยาลัย ที่ปิดกั้นความสามารถของคุณเอาไว้

เทคนิคปลดปล่อยวิธีที่ 1 : ไป ต่าง ประเทศ ซะ !


        ใช่ ไปต่างประเทศ จะให้ดีต้องเป็นประเทศที่ชาวบ้านชาวเมืองเค้าใช้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ไม่ว่าจะไปเที่ยวแบบ Backpack หรือว่า แบบไปเรียนภาษาก็ดี แต่เราแนะนำไปเรียนด้วย+เที่ยวด้วย ดีที่สุด เพราะว่า “บรรยากาศมันเป็นใจ” เคยมั้ยที่คุณครูบอกว่า “คาบนี้ห้ามคุณพูดภาษาไทย คุณต้องพูดภาษาอังกฤษเท่านั้น” เคยมีใครทำสำเร็จบ้างมั้ย ส่วนใหญ่ไม่ถึงครึ่งคาบก็คุยเล่นเป็นภาษาไทยกันแล้ว แต่ที่ต่างประเทศ รอบข้างของคุณเป็นสถานการณ์บังคับให้คุณต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งที่ครูฝรั่งสอนก็นำไปใช้ได้ทันทีหลังเลิกเรียน ตั้งแต่ไปช้อปปิ้ง สั่งอาหาร เดินทางกลับบ้าน หรือซื้อตั๋วไปเที่ยวต่างเมืองกับเพื่อนๆต่างชาติ จริงมั้ย? เราแนะนำ 1 เดือนครึ่ง - 3 เดือนครึ่ง เชื่อเถอะ พ้นอาทิตย์แรกไป ภาษาอังกฤษคุณจะคล่องขึ้นแบบไม่รู้ตัว

สนใจเรียนภาษาและเที่ยวในต่างประเทศ : EF LEARN LANGUAGE
เทคนิคปลดปล่อยวิธีที่ 2 : อ่าน หนัง สือ การ์ตูน !


        ใช่! อ่านหนังสือการ์ตูน จริงๆคุณจะอ่านอะไรก็ได้นิยาย ข่าว นิตยาสาร แต่ต้องเป็นภาษาอังกฤษ เพราะว่า “หนังสือเล่มหนึ่งจะน่าอ่านทันทีถ้ามันมีเนื้อหาที่เราสนใจ” เคยมั้ยแอบอ่านนิยายหรือการ์ตูนใต้โต๊ะ ถ้าหากคุณชอบอ่านถึงเปลี่ยนมันเป็นภาษาอังกฤษก็เชื่อว่าคุณก็ยังอ่านมันอยู่ สิ่งที่ดีคือคุณได้คำศัพท์/ประโยคใหม่ๆจากบทสนทนา เย็นนี้ไปร้านหนังสือ Asia Book หรือ Kinokuniya ซื้อมาซักเล่มและพกติดตัวคุณไว้ตลอดเวลา หรือว่าจะดาวน์โหลด App การ์ตูนที่เป็นภาษาอังกฤษเก็บไว้อ่านตอนเดินทาง หรือชอบอ่านข่าวเราแนะนำ BANGKOK POST คือ เค้าแปลคำศัพท์ไว้ด้านล่างของข่าวด้วย อ่านอย่างน้อยวันละ 3 - 4 ข่าวก็ดี หรืออ่านหนังสือวันละครึ่งบท - 1 บท แบบเปิดพจนานุกรมไปด้วย ส่วนหนังสือการ์ตูน...เอาให้จบเล่มนึงต่อวันเราก็เช่ือว่าคุณทำได้

สนใจ App อ่านการ์ตูน : MANGA ROCK
สนใจอ่านข่าวภาษาอังกฤษง่ายๆ : BANGKOK POST
เทคนิคปลดปล่อยวิธีที่ 3 : ดู หนัง วัน ละ เรื่อง !


        ใช่! ดูหนัง เชื่อว่าเกือบทุกคนที่อยากเก่งอังกฤษจะดูหนังฝรั่ง Soundtrack ซับไทย แต่จริงๆแล้วคุณเข้าไปตั้งใจอ่านซับหรือฟัง Soundtrack กันแน่ ย้ำไว้เลยว่า... “การดูหนังฝรั่งซับไทยไม่ทำให้เก่งอังกฤษ จะช่วยก็ต่อเมื่อคุณปิดซับเท่านั้น” คุณลองเลือกหนังฝรั่งที่คุณชอบมาซัก 10 เรื่อง ลองปิดซับดูสิ เชื่อมั้ยว่าคุณจะเข้าใจเกินครึ่งเรื่อง แต่ที่มากกว่านั้นคือ คุณจะได้ฟังบทสนทนาจริงๆ แต่ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าตัวละครพูดอะไรและอยากเปิดซับ เราแนะนำว่าเป็นซับอังกฤษจะดีกว่า แต่คุณหาไม่ได้จากเว็บดูหนังออนไลน์ในไทยทั่วไป ดังนั้นซื้อหนัง DVD, Blu-ray มาดู หรือว่าถ้าคุณอยากดูหนังออนไลน์จริงๆต้องพวกเว็บต่างประเทศ เราแนะนำว่าวันละ 1 เรื่อง คุณก็แฮปปี้แล้ว

สนใจดูหนังซับอังกฤษ : ORORO.TV
เทคนิคปลดปล่อยวิธีที่ 4 : คบ เพื่อน ต่าง ชาติ !


       เคยได้ยินประโยคที่ว่า “อยากเก่งภาษาอังกฤษ ให้หาแฟนเป็นฝรั่ง” มั้ย? คุณก็รู้ว่าเมื่อใดที่มีความรักมาเป็นสื่อกลาง ภาษาก็ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เราไม่ได้บอกให้คุณตั้งหน้าตั้งตาหาแฟน แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือ จะทำยังไงให้คุณอยากใช้ภาษาอังกฤษตลอดไป บางทีหาเพื่อนซี้ต่างชาติและให้มิตรภาพเป็นสื่อกลางทางภาษาก็ไม่เลว แต่ความท้าทายคือจะหาจากไหน เว็บแชทหรอ ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร สำหรับเรา เราคิดว่าหาเพื่อนต่างชาตินั้นไม่ยาก เพียงแค่คุณเข้าร่วมโครงการเรียนซัมเมอร์ช่วงปิดเทอมได้เรียน กิน เที่ยว ทำกิจกรรมร่วมกันเป็นหมู่คณะจะทำให้รู้จักกันมากขึ้น หลังจากนี้จะไปเที่ยวประเทศไหนคุณก็มีเพื่อนอยู่ทั่วทุกมุมโลกคอยต้อนรับอย่างแน่นอน และวันที่คุณกลับมาบ้านคุณจะทราบดีว่า คุณจะไม่สามารถหยุดใช้ภาษาอังกฤษได้ เพราะ หลังจากนี้คุณไม่ได้มีเพื่อนเพียงแค่คนไทยอีกต่อไป

สนใจเรียนซัมเมอร์ในต่างประเทศ : EF SUMMER COURSE


        คุณจะเห็นว่าคนที่เก่งภาษาอังกฤษนั้นเค้ามี 2 อย่างนี้คือ 1.ใช้บ่อย และ 2.ไม่กลัวที่จะใช้ เราเชื่อว่าทุกคนที่เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ประถมสามารถสื่อสารได้ เพียงแต่ทักษะต่างๆนั้นยังไม่ได้รับการปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ หวังว่าเทคนิคทั้ง 4 นี้จะช่วยสร้างลักษณะนิสัยในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น อาจไม่ได้ทำให้คุณได้เกรดภาษาอังกฤษเลิศ แต่เรามั่นใจว่าจะทำให้ภาษาอังกฤษได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณตลอดไป
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวประชาสัมพันธ์ - Columnist ข่าวประชาสัมพันธ์ภายในเว็บไซต์ Dek-D.com

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

จับเม้าส์แล้วกดแป้นพิมพ์ Member 16 ต.ค. 58 03:42 น. 6

1.ไปต่างประเทศ

คือตอนไปมันเป็นสถานะการณ์บังคับให้พูด

ไม่ว่าจะซื้อของ สั่งอาหาร เราก็พูดผิดๆถูกๆ สำเนียงไทยอีกด้วย

จนคนในประเทศนั้นบอก ต้องสำเนียงอย่างงี้นะ บลาๆ คือบอกเลยว่าอายมาก

ถึงจะรู้ว่าเขาไม่ถือสาอะไร ก็เหอะ จากที่ไม่สนใจภาษาอังกฤษ ก็ตั้งใจเรียนมากขึ้น 

2.อ่านหนังสือการ์ตูน

อันนี้ เลือกตั้งแต่ สโนว์ไวท์ ราพันเซล และก็เป็นพวกหนังสือประวัติคนดัง

จะเป็นแบบด้านหน้าอังกฤษด้านหลังไทย มีเกร็ดความรู้อยู่ใต้ล่าง และก็คำอ่าน ยากๆมาให้ 

จำไม่ได้ว่าสำนักพิมพ์อะไรแต่คือดีมาก อ่านตั้งนิทานเด็กแรกเกิดเลย เพราะตัวเองไม่มีพื้นฐาน 

3.ดูหนังวันละเรื่อง

ด้วยความที่ชอบดูหนังฝรั่ง(ซับไทย-.-) ก็เลยเดี๋ยวนี้ช่วงปิดเทอมดูหนังสองเรื่องสองประเภท

ประเภทที่1 หนังหนังที่ชอบดู (harry potter//twilight บลาๆ)

ด้วยความที่มีหลายภาค ก็ดูวันละภาค เปิดซับฝรั่งดู ไม่เปิดดิกด้วย เราเปิดให้ชินกับคำพูดเขา

แต่พอมาฟังเสียงฝรั่งโดยไม่มีซับ ดูรู้เรื่องเพราะจำเหตุการณ์ได้ว่าตอนมีซับเขาพูดไรไว้บ้าง

แต่ให้มาฟังโดยไม่ดูรูปกลับแปลไม่ได้...

เลยทำให้ประเภทที่1ดูให้ชินกับเสียง สำเนียง และจับจุดเวลาพูด พอฟังไปนานๆ 

ทำให้สมองเริ่มประมวลว่าคำนี้แปลว่าอะไร เพราะที่เราฟังเราฟังผ่านๆไม่ได้มานั่งจับประโยค

บางครั้งพอเร็วเกินไป ก็ทำให้ข้ามไป จึงดูซ้ำๆให้มันชินค่ะ

ประเภทที่2 หนังที่เราไม่เคยดู 

ดูแบบซับฝรั่ง ประเภทนี้เราจะเปิดดิกค่ะ

หาสมุดมาเล่มนึง หรือกระดาษพอจบเรื่องนั้นก็ทำเล่มให้สวยงาม

ก็แปลที่เราไม่เข้าใจ คืออันนี้ต้องว่างจริงๆ แต่ก็ทำค่ะ อยากเก่ง อยากพูดได้

พอเปิดมาประโยคแรกถ้าไม่เข้าใจก็จะกดหยุดไว้ แล้วหาทุกคำ ในประโยค ทำงี้ไปเรื่อยๆ

จะเขียนหน้ากระดาษอย่างงี้ค่ะ

-(ประโยคภาษาอังกฤษ)

-(แยกเป็นคำแบบ แปลตามตัวในดิกเลย พร้อมคำอ่านวงเล็บไว้)

-(ตีความหมาย สรุปว่าเขาพูดอะไร)

ทำอย่างงี้ทุกครั้งที่ไม่เข้าใจเลยค่ะ คือบอกเลย ดูไม่รู้เรื่อง และก็เมื่อยมากๆด้วย

เราก็ไม่ได้ทำทุกวันนะคะ แต่ก็ฝึกฝนบ่อยๆ เพราะบางทีอยากดูหนังเรื่องนั้น

อย่างน้อยก็ 7 วันต้องทำที ไม่เคยปล่อยเลยจากนี้เลย จากหนังที่สนุกก็เริ่มไม่สนุก

เพราะต้องมานั่งหา บลาๆ แต่ก็ยังหาเพราะตั้งปณิธานว่าต้องทำให้ได้

บางที ถึง ฉากที่มันมาก ค้างตรงคำพูด มันจะฆ่ากันตายอยู่แล้ว 

บอกตัวเอง 'เอ้า รีบหาสิโวย อยากรู้' คือลุ้นจริงๆตอนนั้น 5555+

คำที่เป็นชื่อเราก็เขียนเป็นชื่อไม่ได้มีวงเล็บคำอ่านแต่ใด

พอคำไหนซ้ำก็เปิดหน้าหาถ้าจำได้ก็จะเขียน แต่บางทีก็อยากเขียน'เปิดไปหน้า9.'

แต่คิดแล้ว เราขี้เกียจไปไหม -..- ...

จากหนัง 2 ชั่วโมง กลายเป็น 4-5 ชั่วโมง เพราะบางทีหนีไปเล่น เฟส ฟังเพลง

บางทีปิดไปเลยก็มี แล้วอีกวันมาทำใหม่ 

พอทำเสร็จ เราก็จะอ่านที่เขียนไว้ค่ะ คือตอนเขียนนี่บรรจงเลย 

เพราะไม่อยากมานั่งเขียนใหม่ทั้งเรื่อง ก็อ่านผ่านๆพอให้คุ้น

แล้วก็จะกลับมาดูหนังอีกรอบ ยอมรับว่าไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ตอนแรก

เพราะตอนแปลดูแต่ซับไม่ได้ดูสถานการณ์หรอกว่าเขาเป็นไง

จะแค่ตื่นเต้นเวลาแปลแล้วคำพูดมันเป็นสถานการณ์ที่ลุ้นไรเงี้ยค่ะ มีบางฉากที่กอไปดูรูป

พอดูก็จะมองซับบ้างบางที ถึงแม้เราจะแปลประโยคไม่ได้สวยหรู แปลไม่ถูกบ้าง

แต่พอเห็นรูปก็พอเข้าใจอยู่ ขั้นตอนนี้บางทีก็ไม่ทำเพราะขี้เกียจ บางทีดูทั้งซับไทยกับฝรั่ง

บางประโยคเป็นคำคม ถ้าชอบ เวลาอาบน้ำ

ก็จะนำไปพูดหน้ากระจกหรืออาบไปพูดไป แล้วมโนว่าตัวเองเป็นตัวละครนั้น//อาการหนักมาก

ทำให้พอดูประเภทที่สองนานๆก็จะกลายเป็นประเภทที่1 

ดูทั้งๆที่ไม่เปิดดิก ไม่ดูสมุดที่ตัวเองจด

4.คบเพื่อนต่างชาติ

อันนี้เราเจอจากเว็บเอาค่ะ 

ส่วนใหญ่จะขอ skype แต่คือเราไม่ได้เล่นด้วย เลยไม่มีจะให้

แต่ฝรั่งก็ไม่ค่อยเชื่อ เหมือนคิดว่าทุกคนต้องมี เอ้า -.-

เราไม่เคยคุยเปิดหน้ากับฝรั่งเพราะไม่มั่นใจ และก็ ไม่กล้าด้วย เป็นงั้นไป

ก็จะเปิดแปลภาษาเวลาคุยค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่คำถามเดิมๆ 

ทำให้บางที่ไม่ต้องพึ่งแปลภาษาเอาเลยค่ะ เราคิดว่าการคุยเพศเดียวกัน

ทำให้เราสบายใจมากกว่า เลยเลือกคุยแต่ผู้หญิง   

แต่ก็เคยเจอฝรั่งคุยแต่เรื่องอย่างว่า ... เราก็ไม่ตอบเขาค่ะ 

ไม่รู้จะตอบอะไรด้วย บางทีก็โกหกว่ามีแฟนแล้ว แต่โปรไฟล์ สถานะ โสด -.-

รู้สึกตัวเองพูดมากไปแล้ว ไปดีกว่า 55555+

ปล.ข้อความลับ แอดเพื่อนมาได้นะคะ

ปล2.เขาอยู่ม.2เนอะ เพื่อจะเจอรุ่นเดียวกัน

ปล3.อยากเป็นเด็กทุนค่ะ เลยพยายามตั้งใจ พยายามเอาชนะความขี้เกียจ 5555+

2
ARGuZ Member 17 ต.ค. 58 15:34 น. 6-1
โทษนะคะ เว็บที่หาเพื่อนคุยเว็บไหนหรอคะ คือเราก็เคยหาจากเว็บเหมือนกัน แต่สมัครเป็นสมาชิกแต่ละครั้งคือไม่เคยสมัครได้เลยอะค่ะเสียใจ
0
กำลังโหลด

8 ความคิดเห็น

Panidaporn Tadpai Member 14 ต.ค. 58 21:29 น. 1

ใช้แต่เทคนิคที่ 3 , 4 เอง แต่ก็สนุกมากเลย

เคยดูการ์ตูนเรื่องนึงที่มีพากย์ไทยถึง 20 ตอน แต่ซับอังกฤษมีถึง 43 ตอน คือรอให้ทั้งพากย์ไทยและซับไทยมา รอมาทั้งอาทิตย์ก็ยังไม่มาเลยตัดสินใจ ทั้งดูทั้งแปลเองเลยค่ะ 5555 ต้องจำให้ดีด้วยว่าคำนี้เราแปลว่าอะไร พอพากย์ไทยหรือซับไทยออกมาก็เหมือนกับการที่ครูเฉลยคำตอบเลยค่ะ ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ทำให้รู้สึกสนุกมากขึ้นด้วย 555+

0
กำลังโหลด
Beīyr̒ Member 15 ต.ค. 58 00:31 น. 2

ปิดเทอมนี่เราก็ตั้งใจจะดูหนังวันละเรื่องอยู่พอดี เราว่าควรเริ่มจากดูการ์ตูนเพราะศัพท์มันจะง่ายกว่าหนังใหญ่ๆ ปกติหนังเราเปิดซับอิ๊งตลอดถ้าเจอคำไหนไม่รู้ก็เปิดdict จนพอรู้ศัพท์เยอะเข้า หลังๆก็เปิดdictน้อยลง ทำงี้ภาษากระเตื่องขึ้นเยอะเบลย เย้

0
กำลังโหลด
Moommimyhrean Member 15 ต.ค. 58 20:20 น. 3

ไม่ใช่มีแค่เพื่อนฝรั่ง แฟนฝรั่งไปเลย 555 แต่เพื่อนนี่ก็มีหลายชื้อชาตินะ แต่ส่วนใหญ่อเมริกัน กับ สเปน จะเยอะหน่อย ได้มาจากเกม Dark Legends เป็นเกมที่พิมพ์ไทยไม่ได้ แถมคนไทยเล่นน้อยมากๆ

0
กำลังโหลด
@!k@w@_k Member 15 ต.ค. 58 22:36 น. 4

ลองดูหนังฝรั่งแบบไม่มีซับแล้วทักษะการฟังภาษาอังกฤษดีขึ้นเยอะเลย

เมื่อก่อนนี้ฟังไม่รู้เรื่องเลยนะ เดี๋ยวนี้เริ่มฟังออกแล้ว

แต่ก็แอบมีปัญหานะ บางทีก็ฟังไม่ออก

เพราะฝรั่งบางคนเวลาพูดก็ควบเสียง บางคนก็พูดเสียงในลำคอ บางคนก็พูดเร็ว

แต่แนะนำการ์ตูนอนิเมชั่นนะ เพราะคนพากย์ค่อนข้างพูดชัดและค่อนข้างพูดช้า

อาจจะเพราะส่วนมากคนดูเป็นเด็กมั้ง???

จึงฟังง่ายกว่าหนังทั่วไปอ่ะ แนะนำเลย 555

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
จับเม้าส์แล้วกดแป้นพิมพ์ Member 16 ต.ค. 58 03:42 น. 6

1.ไปต่างประเทศ

คือตอนไปมันเป็นสถานะการณ์บังคับให้พูด

ไม่ว่าจะซื้อของ สั่งอาหาร เราก็พูดผิดๆถูกๆ สำเนียงไทยอีกด้วย

จนคนในประเทศนั้นบอก ต้องสำเนียงอย่างงี้นะ บลาๆ คือบอกเลยว่าอายมาก

ถึงจะรู้ว่าเขาไม่ถือสาอะไร ก็เหอะ จากที่ไม่สนใจภาษาอังกฤษ ก็ตั้งใจเรียนมากขึ้น 

2.อ่านหนังสือการ์ตูน

อันนี้ เลือกตั้งแต่ สโนว์ไวท์ ราพันเซล และก็เป็นพวกหนังสือประวัติคนดัง

จะเป็นแบบด้านหน้าอังกฤษด้านหลังไทย มีเกร็ดความรู้อยู่ใต้ล่าง และก็คำอ่าน ยากๆมาให้ 

จำไม่ได้ว่าสำนักพิมพ์อะไรแต่คือดีมาก อ่านตั้งนิทานเด็กแรกเกิดเลย เพราะตัวเองไม่มีพื้นฐาน 

3.ดูหนังวันละเรื่อง

ด้วยความที่ชอบดูหนังฝรั่ง(ซับไทย-.-) ก็เลยเดี๋ยวนี้ช่วงปิดเทอมดูหนังสองเรื่องสองประเภท

ประเภทที่1 หนังหนังที่ชอบดู (harry potter//twilight บลาๆ)

ด้วยความที่มีหลายภาค ก็ดูวันละภาค เปิดซับฝรั่งดู ไม่เปิดดิกด้วย เราเปิดให้ชินกับคำพูดเขา

แต่พอมาฟังเสียงฝรั่งโดยไม่มีซับ ดูรู้เรื่องเพราะจำเหตุการณ์ได้ว่าตอนมีซับเขาพูดไรไว้บ้าง

แต่ให้มาฟังโดยไม่ดูรูปกลับแปลไม่ได้...

เลยทำให้ประเภทที่1ดูให้ชินกับเสียง สำเนียง และจับจุดเวลาพูด พอฟังไปนานๆ 

ทำให้สมองเริ่มประมวลว่าคำนี้แปลว่าอะไร เพราะที่เราฟังเราฟังผ่านๆไม่ได้มานั่งจับประโยค

บางครั้งพอเร็วเกินไป ก็ทำให้ข้ามไป จึงดูซ้ำๆให้มันชินค่ะ

ประเภทที่2 หนังที่เราไม่เคยดู 

ดูแบบซับฝรั่ง ประเภทนี้เราจะเปิดดิกค่ะ

หาสมุดมาเล่มนึง หรือกระดาษพอจบเรื่องนั้นก็ทำเล่มให้สวยงาม

ก็แปลที่เราไม่เข้าใจ คืออันนี้ต้องว่างจริงๆ แต่ก็ทำค่ะ อยากเก่ง อยากพูดได้

พอเปิดมาประโยคแรกถ้าไม่เข้าใจก็จะกดหยุดไว้ แล้วหาทุกคำ ในประโยค ทำงี้ไปเรื่อยๆ

จะเขียนหน้ากระดาษอย่างงี้ค่ะ

-(ประโยคภาษาอังกฤษ)

-(แยกเป็นคำแบบ แปลตามตัวในดิกเลย พร้อมคำอ่านวงเล็บไว้)

-(ตีความหมาย สรุปว่าเขาพูดอะไร)

ทำอย่างงี้ทุกครั้งที่ไม่เข้าใจเลยค่ะ คือบอกเลย ดูไม่รู้เรื่อง และก็เมื่อยมากๆด้วย

เราก็ไม่ได้ทำทุกวันนะคะ แต่ก็ฝึกฝนบ่อยๆ เพราะบางทีอยากดูหนังเรื่องนั้น

อย่างน้อยก็ 7 วันต้องทำที ไม่เคยปล่อยเลยจากนี้เลย จากหนังที่สนุกก็เริ่มไม่สนุก

เพราะต้องมานั่งหา บลาๆ แต่ก็ยังหาเพราะตั้งปณิธานว่าต้องทำให้ได้

บางที ถึง ฉากที่มันมาก ค้างตรงคำพูด มันจะฆ่ากันตายอยู่แล้ว 

บอกตัวเอง 'เอ้า รีบหาสิโวย อยากรู้' คือลุ้นจริงๆตอนนั้น 5555+

คำที่เป็นชื่อเราก็เขียนเป็นชื่อไม่ได้มีวงเล็บคำอ่านแต่ใด

พอคำไหนซ้ำก็เปิดหน้าหาถ้าจำได้ก็จะเขียน แต่บางทีก็อยากเขียน'เปิดไปหน้า9.'

แต่คิดแล้ว เราขี้เกียจไปไหม -..- ...

จากหนัง 2 ชั่วโมง กลายเป็น 4-5 ชั่วโมง เพราะบางทีหนีไปเล่น เฟส ฟังเพลง

บางทีปิดไปเลยก็มี แล้วอีกวันมาทำใหม่ 

พอทำเสร็จ เราก็จะอ่านที่เขียนไว้ค่ะ คือตอนเขียนนี่บรรจงเลย 

เพราะไม่อยากมานั่งเขียนใหม่ทั้งเรื่อง ก็อ่านผ่านๆพอให้คุ้น

แล้วก็จะกลับมาดูหนังอีกรอบ ยอมรับว่าไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ตอนแรก

เพราะตอนแปลดูแต่ซับไม่ได้ดูสถานการณ์หรอกว่าเขาเป็นไง

จะแค่ตื่นเต้นเวลาแปลแล้วคำพูดมันเป็นสถานการณ์ที่ลุ้นไรเงี้ยค่ะ มีบางฉากที่กอไปดูรูป

พอดูก็จะมองซับบ้างบางที ถึงแม้เราจะแปลประโยคไม่ได้สวยหรู แปลไม่ถูกบ้าง

แต่พอเห็นรูปก็พอเข้าใจอยู่ ขั้นตอนนี้บางทีก็ไม่ทำเพราะขี้เกียจ บางทีดูทั้งซับไทยกับฝรั่ง

บางประโยคเป็นคำคม ถ้าชอบ เวลาอาบน้ำ

ก็จะนำไปพูดหน้ากระจกหรืออาบไปพูดไป แล้วมโนว่าตัวเองเป็นตัวละครนั้น//อาการหนักมาก

ทำให้พอดูประเภทที่สองนานๆก็จะกลายเป็นประเภทที่1 

ดูทั้งๆที่ไม่เปิดดิก ไม่ดูสมุดที่ตัวเองจด

4.คบเพื่อนต่างชาติ

อันนี้เราเจอจากเว็บเอาค่ะ 

ส่วนใหญ่จะขอ skype แต่คือเราไม่ได้เล่นด้วย เลยไม่มีจะให้

แต่ฝรั่งก็ไม่ค่อยเชื่อ เหมือนคิดว่าทุกคนต้องมี เอ้า -.-

เราไม่เคยคุยเปิดหน้ากับฝรั่งเพราะไม่มั่นใจ และก็ ไม่กล้าด้วย เป็นงั้นไป

ก็จะเปิดแปลภาษาเวลาคุยค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่คำถามเดิมๆ 

ทำให้บางที่ไม่ต้องพึ่งแปลภาษาเอาเลยค่ะ เราคิดว่าการคุยเพศเดียวกัน

ทำให้เราสบายใจมากกว่า เลยเลือกคุยแต่ผู้หญิง   

แต่ก็เคยเจอฝรั่งคุยแต่เรื่องอย่างว่า ... เราก็ไม่ตอบเขาค่ะ 

ไม่รู้จะตอบอะไรด้วย บางทีก็โกหกว่ามีแฟนแล้ว แต่โปรไฟล์ สถานะ โสด -.-

รู้สึกตัวเองพูดมากไปแล้ว ไปดีกว่า 55555+

ปล.ข้อความลับ แอดเพื่อนมาได้นะคะ

ปล2.เขาอยู่ม.2เนอะ เพื่อจะเจอรุ่นเดียวกัน

ปล3.อยากเป็นเด็กทุนค่ะ เลยพยายามตั้งใจ พยายามเอาชนะความขี้เกียจ 5555+

2
ARGuZ Member 17 ต.ค. 58 15:34 น. 6-1
โทษนะคะ เว็บที่หาเพื่อนคุยเว็บไหนหรอคะ คือเราก็เคยหาจากเว็บเหมือนกัน แต่สมัครเป็นสมาชิกแต่ละครั้งคือไม่เคยสมัครได้เลยอะค่ะเสียใจ
0
กำลังโหลด
HokoriOuji Member 16 ต.ค. 58 12:47 น. 7

ดูหนังหรือซีรี่ย์อ่ะครับเเจ่ม ได้รู้ศัพท์สำเนียงบางคำที่เเปลกๆ เเล้วก็อ๋อ อย่างนี้นี่เอง บางครั้งคำศัพท์คนต่างชาติเค้าก็ไม่ออกเสียงอย่างที่เราเข้าใจกัน เป็นวิธีที่ดีเหมือนกันครับ

0
กำลังโหลด
น้องหมิวว\' จุดจุด Member 18 ต.ค. 58 14:48 น. 8

เราแนะนำอีกอย่าง โหลดแอพ Smule ร้องเพลงอังกฤษเลยค่ะ

เพราะแอพนี้ฝรั่งเค้าร้องกันเราจะจับการพูดและสำเนียงเค้าได้ และฝึกพูดไปในตัวด้วยย

#ฟินสุดดดๆ #บางคนหล่อและร้องพราะมาก5555555

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด