คุณทุกคนทราบดีว่าภาษาอังกฤษสำคัญกับคุณมากขึ้นๆในทุกๆ วัน แต่เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมคุณหรือเพื่อนของคุณเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ประถมถึงมัธยมหรือจนกระทั่งจบปริญญาแล้ว ยังรู้สึกไม่พร้อมกับการใช้ภาษาอังกฤษเลย บางทีคุณต้องลองย้อนถามตัวเองว่า คุณใช้ภาษาอังกฤษบ่อยแค่ไหน และอีกคำถามคือ คุณกลัวการใช้ภาษาอังกฤษอยู่มั้ย ถ้าคำตอบคือ ใช่!!! นี่คืออุปสรรคด่านเดียวที่ทำให้ความรู้ภาษาอังกฤษที่สั่งสมจาก 12 ปีในโรงเรียน และ 4 ปีในมหาวิทยาลัย ที่ปิดกั้นความสามารถของคุณเอาไว้
เทคนิคปลดปล่อยวิธีที่ 1 : ไป ต่าง ประเทศ ซะ !
ใช่ ไปต่างประเทศ จะให้ดีต้องเป็นประเทศที่ชาวบ้านชาวเมืองเค้าใช้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ไม่ว่าจะไปเที่ยวแบบ Backpack หรือว่า แบบไปเรียนภาษาก็ดี แต่เราแนะนำไปเรียนด้วย+เที่ยวด้วย ดีที่สุด เพราะว่า “บรรยากาศมันเป็นใจ” เคยมั้ยที่คุณครูบอกว่า “คาบนี้ห้ามคุณพูดภาษาไทย คุณต้องพูดภาษาอังกฤษเท่านั้น” เคยมีใครทำสำเร็จบ้างมั้ย ส่วนใหญ่ไม่ถึงครึ่งคาบก็คุยเล่นเป็นภาษาไทยกันแล้ว แต่ที่ต่างประเทศ รอบข้างของคุณเป็นสถานการณ์บังคับให้คุณต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งที่ครูฝรั่งสอนก็นำไปใช้ได้ทันทีหลังเลิกเรียน ตั้งแต่ไปช้อปปิ้ง สั่งอาหาร เดินทางกลับบ้าน หรือซื้อตั๋วไปเที่ยวต่างเมืองกับเพื่อนๆต่างชาติ จริงมั้ย? เราแนะนำ 1 เดือนครึ่ง - 3 เดือนครึ่ง เชื่อเถอะ พ้นอาทิตย์แรกไป ภาษาอังกฤษคุณจะคล่องขึ้นแบบไม่รู้ตัว
สนใจเรียนภาษาและเที่ยวในต่างประเทศ : EF LEARN LANGUAGE
ใช่! อ่านหนังสือการ์ตูน จริงๆคุณจะอ่านอะไรก็ได้นิยาย ข่าว นิตยาสาร แต่ต้องเป็นภาษาอังกฤษ เพราะว่า “หนังสือเล่มหนึ่งจะน่าอ่านทันทีถ้ามันมีเนื้อหาที่เราสนใจ” เคยมั้ยแอบอ่านนิยายหรือการ์ตูนใต้โต๊ะ ถ้าหากคุณชอบอ่านถึงเปลี่ยนมันเป็นภาษาอังกฤษก็เชื่อว่าคุณก็ยังอ่านมันอยู่ สิ่งที่ดีคือคุณได้คำศัพท์/ประโยคใหม่ๆจากบทสนทนา เย็นนี้ไปร้านหนังสือ Asia Book หรือ Kinokuniya ซื้อมาซักเล่มและพกติดตัวคุณไว้ตลอดเวลา หรือว่าจะดาวน์โหลด App การ์ตูนที่เป็นภาษาอังกฤษเก็บไว้อ่านตอนเดินทาง หรือชอบอ่านข่าวเราแนะนำ BANGKOK POST คือ เค้าแปลคำศัพท์ไว้ด้านล่างของข่าวด้วย อ่านอย่างน้อยวันละ 3 - 4 ข่าวก็ดี หรืออ่านหนังสือวันละครึ่งบท - 1 บท แบบเปิดพจนานุกรมไปด้วย ส่วนหนังสือการ์ตูน...เอาให้จบเล่มนึงต่อวันเราก็เช่ือว่าคุณทำได้
สนใจ App อ่านการ์ตูน : MANGA ROCK
ใช่! ดูหนัง เชื่อว่าเกือบทุกคนที่อยากเก่งอังกฤษจะดูหนังฝรั่ง Soundtrack ซับไทย แต่จริงๆแล้วคุณเข้าไปตั้งใจอ่านซับหรือฟัง Soundtrack กันแน่ ย้ำไว้เลยว่า... “การดูหนังฝรั่งซับไทยไม่ทำให้เก่งอังกฤษ จะช่วยก็ต่อเมื่อคุณปิดซับเท่านั้น” คุณลองเลือกหนังฝรั่งที่คุณชอบมาซัก 10 เรื่อง ลองปิดซับดูสิ เชื่อมั้ยว่าคุณจะเข้าใจเกินครึ่งเรื่อง แต่ที่มากกว่านั้นคือ คุณจะได้ฟังบทสนทนาจริงๆ แต่ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าตัวละครพูดอะไรและอยากเปิดซับ เราแนะนำว่าเป็นซับอังกฤษจะดีกว่า แต่คุณหาไม่ได้จากเว็บดูหนังออนไลน์ในไทยทั่วไป ดังนั้นซื้อหนัง DVD, Blu-ray มาดู หรือว่าถ้าคุณอยากดูหนังออนไลน์จริงๆต้องพวกเว็บต่างประเทศ เราแนะนำว่าวันละ 1 เรื่อง คุณก็แฮปปี้แล้ว
สนใจดูหนังซับอังกฤษ : ORORO.TV
เคยได้ยินประโยคที่ว่า “อยากเก่งภาษาอังกฤษ ให้หาแฟนเป็นฝรั่ง” มั้ย? คุณก็รู้ว่าเมื่อใดที่มีความรักมาเป็นสื่อกลาง ภาษาก็ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เราไม่ได้บอกให้คุณตั้งหน้าตั้งตาหาแฟน แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือ จะทำยังไงให้คุณอยากใช้ภาษาอังกฤษตลอดไป บางทีหาเพื่อนซี้ต่างชาติและให้มิตรภาพเป็นสื่อกลางทางภาษาก็ไม่เลว แต่ความท้าทายคือจะหาจากไหน เว็บแชทหรอ ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร สำหรับเรา เราคิดว่าหาเพื่อนต่างชาตินั้นไม่ยาก เพียงแค่คุณเข้าร่วมโครงการเรียนซัมเมอร์ช่วงปิดเทอมได้เรียน กิน เที่ยว ทำกิจกรรมร่วมกันเป็นหมู่คณะจะทำให้รู้จักกันมากขึ้น หลังจากนี้จะไปเที่ยวประเทศไหนคุณก็มีเพื่อนอยู่ทั่วทุกมุมโลกคอยต้อนรับอย่างแน่นอน และวันที่คุณกลับมาบ้านคุณจะทราบดีว่า คุณจะไม่สามารถหยุดใช้ภาษาอังกฤษได้ เพราะ หลังจากนี้คุณไม่ได้มีเพื่อนเพียงแค่คนไทยอีกต่อไป
สนใจเรียนซัมเมอร์ในต่างประเทศ : EF SUMMER COURSE
คุณจะเห็นว่าคนที่เก่งภาษาอังกฤษนั้นเค้ามี 2 อย่างนี้คือ 1.ใช้บ่อย และ 2.ไม่กลัวที่จะใช้ เราเชื่อว่าทุกคนที่เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ประถมสามารถสื่อสารได้ เพียงแต่ทักษะต่างๆนั้นยังไม่ได้รับการปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ หวังว่าเทคนิคทั้ง 4 นี้จะช่วยสร้างลักษณะนิสัยในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น อาจไม่ได้ทำให้คุณได้เกรดภาษาอังกฤษเลิศ แต่เรามั่นใจว่าจะทำให้ภาษาอังกฤษได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณตลอดไป
8 ความคิดเห็น
ใช้แต่เทคนิคที่ 3 , 4 เอง แต่ก็สนุกมากเลย
เคยดูการ์ตูนเรื่องนึงที่มีพากย์ไทยถึง 20 ตอน แต่ซับอังกฤษมีถึง 43 ตอน คือรอให้ทั้งพากย์ไทยและซับไทยมา รอมาทั้งอาทิตย์ก็ยังไม่มาเลยตัดสินใจ ทั้งดูทั้งแปลเองเลยค่ะ 5555 ต้องจำให้ดีด้วยว่าคำนี้เราแปลว่าอะไร พอพากย์ไทยหรือซับไทยออกมาก็เหมือนกับการที่ครูเฉลยคำตอบเลยค่ะ ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ทำให้รู้สึกสนุกมากขึ้นด้วย
ปิดเทอมนี่เราก็ตั้งใจจะดูหนังวันละเรื่องอยู่พอดี เราว่าควรเริ่มจากดูการ์ตูนเพราะศัพท์มันจะง่ายกว่าหนังใหญ่ๆ ปกติหนังเราเปิดซับอิ๊งตลอดถ้าเจอคำไหนไม่รู้ก็เปิดdict จนพอรู้ศัพท์เยอะเข้า หลังๆก็เปิดdictน้อยลง ทำงี้ภาษากระเตื่องขึ้นเยอะเบลย
ไม่ใช่มีแค่เพื่อนฝรั่ง แฟนฝรั่งไปเลย 555 แต่เพื่อนนี่ก็มีหลายชื้อชาตินะ แต่ส่วนใหญ่อเมริกัน กับ สเปน จะเยอะหน่อย ได้มาจากเกม Dark Legends เป็นเกมที่พิมพ์ไทยไม่ได้ แถมคนไทยเล่นน้อยมากๆ
ลองดูหนังฝรั่งแบบไม่มีซับแล้วทักษะการฟังภาษาอังกฤษดีขึ้นเยอะเลย
เมื่อก่อนนี้ฟังไม่รู้เรื่องเลยนะ เดี๋ยวนี้เริ่มฟังออกแล้ว
แต่ก็แอบมีปัญหานะ บางทีก็ฟังไม่ออก
เพราะฝรั่งบางคนเวลาพูดก็ควบเสียง บางคนก็พูดเสียงในลำคอ บางคนก็พูดเร็ว
แต่แนะนำการ์ตูนอนิเมชั่นนะ เพราะคนพากย์ค่อนข้างพูดชัดและค่อนข้างพูดช้า
อาจจะเพราะส่วนมากคนดูเป็นเด็กมั้ง???
จึงฟังง่ายกว่าหนังทั่วไปอ่ะ แนะนำเลย 555
1.ไปต่างประเทศ
คือตอนไปมันเป็นสถานะการณ์บังคับให้พูด
ไม่ว่าจะซื้อของ สั่งอาหาร เราก็พูดผิดๆถูกๆ สำเนียงไทยอีกด้วย
จนคนในประเทศนั้นบอก ต้องสำเนียงอย่างงี้นะ บลาๆ คือบอกเลยว่าอายมาก
ถึงจะรู้ว่าเขาไม่ถือสาอะไร ก็เหอะ จากที่ไม่สนใจภาษาอังกฤษ ก็ตั้งใจเรียนมากขึ้น
2.อ่านหนังสือการ์ตูน
อันนี้ เลือกตั้งแต่ สโนว์ไวท์ ราพันเซล และก็เป็นพวกหนังสือประวัติคนดัง
จะเป็นแบบด้านหน้าอังกฤษด้านหลังไทย มีเกร็ดความรู้อยู่ใต้ล่าง และก็คำอ่าน ยากๆมาให้
จำไม่ได้ว่าสำนักพิมพ์อะไรแต่คือดีมาก อ่านตั้งนิทานเด็กแรกเกิดเลย เพราะตัวเองไม่มีพื้นฐาน
3.ดูหนังวันละเรื่อง
ด้วยความที่ชอบดูหนังฝรั่ง(ซับไทย-.-) ก็เลยเดี๋ยวนี้ช่วงปิดเทอมดูหนังสองเรื่องสองประเภท
ประเภทที่1 หนังหนังที่ชอบดู (harry potter//twilight บลาๆ)
ด้วยความที่มีหลายภาค ก็ดูวันละภาค เปิดซับฝรั่งดู ไม่เปิดดิกด้วย เราเปิดให้ชินกับคำพูดเขา
แต่พอมาฟังเสียงฝรั่งโดยไม่มีซับ ดูรู้เรื่องเพราะจำเหตุการณ์ได้ว่าตอนมีซับเขาพูดไรไว้บ้าง
แต่ให้มาฟังโดยไม่ดูรูปกลับแปลไม่ได้...
เลยทำให้ประเภทที่1ดูให้ชินกับเสียง สำเนียง และจับจุดเวลาพูด พอฟังไปนานๆ
ทำให้สมองเริ่มประมวลว่าคำนี้แปลว่าอะไร เพราะที่เราฟังเราฟังผ่านๆไม่ได้มานั่งจับประโยค
บางครั้งพอเร็วเกินไป ก็ทำให้ข้ามไป จึงดูซ้ำๆให้มันชินค่ะ
ประเภทที่2 หนังที่เราไม่เคยดู
ดูแบบซับฝรั่ง ประเภทนี้เราจะเปิดดิกค่ะ
หาสมุดมาเล่มนึง หรือกระดาษพอจบเรื่องนั้นก็ทำเล่มให้สวยงาม
ก็แปลที่เราไม่เข้าใจ คืออันนี้ต้องว่างจริงๆ แต่ก็ทำค่ะ อยากเก่ง อยากพูดได้
พอเปิดมาประโยคแรกถ้าไม่เข้าใจก็จะกดหยุดไว้ แล้วหาทุกคำ ในประโยค ทำงี้ไปเรื่อยๆ
จะเขียนหน้ากระดาษอย่างงี้ค่ะ
-(ประโยคภาษาอังกฤษ)
-(แยกเป็นคำแบบ แปลตามตัวในดิกเลย พร้อมคำอ่านวงเล็บไว้)
-(ตีความหมาย สรุปว่าเขาพูดอะไร)
ทำอย่างงี้ทุกครั้งที่ไม่เข้าใจเลยค่ะ คือบอกเลย ดูไม่รู้เรื่อง และก็เมื่อยมากๆด้วย
เราก็ไม่ได้ทำทุกวันนะคะ แต่ก็ฝึกฝนบ่อยๆ เพราะบางทีอยากดูหนังเรื่องนั้น
อย่างน้อยก็ 7 วันต้องทำที ไม่เคยปล่อยเลยจากนี้เลย จากหนังที่สนุกก็เริ่มไม่สนุก
เพราะต้องมานั่งหา บลาๆ แต่ก็ยังหาเพราะตั้งปณิธานว่าต้องทำให้ได้
บางที ถึง ฉากที่มันมาก ค้างตรงคำพูด มันจะฆ่ากันตายอยู่แล้ว
บอกตัวเอง 'เอ้า รีบหาสิโวย อยากรู้' คือลุ้นจริงๆตอนนั้น 5555+
คำที่เป็นชื่อเราก็เขียนเป็นชื่อไม่ได้มีวงเล็บคำอ่านแต่ใด
พอคำไหนซ้ำก็เปิดหน้าหาถ้าจำได้ก็จะเขียน แต่บางทีก็อยากเขียน'เปิดไปหน้า9.'
แต่คิดแล้ว เราขี้เกียจไปไหม -..- ...
จากหนัง 2 ชั่วโมง กลายเป็น 4-5 ชั่วโมง เพราะบางทีหนีไปเล่น เฟส ฟังเพลง
บางทีปิดไปเลยก็มี แล้วอีกวันมาทำใหม่
พอทำเสร็จ เราก็จะอ่านที่เขียนไว้ค่ะ คือตอนเขียนนี่บรรจงเลย
เพราะไม่อยากมานั่งเขียนใหม่ทั้งเรื่อง ก็อ่านผ่านๆพอให้คุ้น
แล้วก็จะกลับมาดูหนังอีกรอบ ยอมรับว่าไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ตอนแรก
เพราะตอนแปลดูแต่ซับไม่ได้ดูสถานการณ์หรอกว่าเขาเป็นไง
จะแค่ตื่นเต้นเวลาแปลแล้วคำพูดมันเป็นสถานการณ์ที่ลุ้นไรเงี้ยค่ะ มีบางฉากที่กอไปดูรูป
พอดูก็จะมองซับบ้างบางที ถึงแม้เราจะแปลประโยคไม่ได้สวยหรู แปลไม่ถูกบ้าง
แต่พอเห็นรูปก็พอเข้าใจอยู่ ขั้นตอนนี้บางทีก็ไม่ทำเพราะขี้เกียจ บางทีดูทั้งซับไทยกับฝรั่ง
บางประโยคเป็นคำคม ถ้าชอบ เวลาอาบน้ำ
ก็จะนำไปพูดหน้ากระจกหรืออาบไปพูดไป แล้วมโนว่าตัวเองเป็นตัวละครนั้น//อาการหนักมาก
ทำให้พอดูประเภทที่สองนานๆก็จะกลายเป็นประเภทที่1
ดูทั้งๆที่ไม่เปิดดิก ไม่ดูสมุดที่ตัวเองจด
4.คบเพื่อนต่างชาติ
อันนี้เราเจอจากเว็บเอาค่ะ
ส่วนใหญ่จะขอ skype แต่คือเราไม่ได้เล่นด้วย เลยไม่มีจะให้
แต่ฝรั่งก็ไม่ค่อยเชื่อ เหมือนคิดว่าทุกคนต้องมี เอ้า -.-
เราไม่เคยคุยเปิดหน้ากับฝรั่งเพราะไม่มั่นใจ และก็ ไม่กล้าด้วย เป็นงั้นไป
ก็จะเปิดแปลภาษาเวลาคุยค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่คำถามเดิมๆ
ทำให้บางที่ไม่ต้องพึ่งแปลภาษาเอาเลยค่ะ เราคิดว่าการคุยเพศเดียวกัน
ทำให้เราสบายใจมากกว่า เลยเลือกคุยแต่ผู้หญิง
แต่ก็เคยเจอฝรั่งคุยแต่เรื่องอย่างว่า ... เราก็ไม่ตอบเขาค่ะ
ไม่รู้จะตอบอะไรด้วย บางทีก็โกหกว่ามีแฟนแล้ว แต่โปรไฟล์ สถานะ โสด -.-
รู้สึกตัวเองพูดมากไปแล้ว ไปดีกว่า 55555+
ปล.ข้อความลับ แอดเพื่อนมาได้นะคะ
ปล2.เขาอยู่ม.2เนอะ เพื่อจะเจอรุ่นเดียวกัน
ปล3.อยากเป็นเด็กทุนค่ะ เลยพยายามตั้งใจ พยายามเอาชนะความขี้เกียจ 5555+
ดูหนังหรือซีรี่ย์อ่ะครับเเจ่ม ได้รู้ศัพท์สำเนียงบางคำที่เเปลกๆ เเล้วก็อ๋อ อย่างนี้นี่เอง บางครั้งคำศัพท์คนต่างชาติเค้าก็ไม่ออกเสียงอย่างที่เราเข้าใจกัน เป็นวิธีที่ดีเหมือนกันครับ
เราแนะนำอีกอย่าง โหลดแอพ Smule ร้องเพลงอังกฤษเลยค่ะ
เพราะแอพนี้ฝรั่งเค้าร้องกันเราจะจับการพูดและสำเนียงเค้าได้ และฝึกพูดไปในตัวด้วยย
#ฟินสุดดดๆ #บางคนหล่อและร้องพราะมาก5555555