7 สิ่งมีชีวิตสุดแปลก จากตำนานทั่วโลกที่ไม่ซ้ำใคร!

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com น้องๆ น่าจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในตำนานหรือสัตว์ประหลาดของหลายๆ ความเชื่อทั่วโลกมาบ้างแล้ว แต่ พี่พิซซ่า เชื่อว่าหลายคนต้องไม่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในตำนานเหล่านี้มาก่อนแน่ๆ เลยค่ะ ไปลองดูกันดีกว่าว่าจะมีตัวอะไรบ้าง

     พวกสัตว์ประหลาดหรือสิ่งมีชีวิตในตำนานต่างๆ มักเกิดขึ้นมาจากการพยายามหาคำอธิบายที่มนุษย์ในสมัยนั้นยังอธิบายไม่ได้ เช่นแต่ละพื้นที่ต่างก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับเทพดวงอาทิตย์และเทพดวงจันทร์เป็นของตัวเองเพราะทุกคนต่างก็เห็นดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เหมือนกัน แต่รายละเอียดของเทพแต่ละความเชื่อก็แตกต่างกันไป ทั้งรูปร่างหน้าตาและเรื่องราวการกำเนิด หรือแม้แต่ระดับความสำคัญของเทพนั้นๆ หรือแม้แต่ตำนานเกี่ยวกับปีศาจที่สร้างไต้ฝุ่น ปีศาจที่อยู่ในภูเขาที่เป็นสาเหตุของภูเขาไฟระเบิด

     สัตว์ประหลาดบางตัวในตำนานก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นคำเตือนบางอย่าง เช่นบางชนชาติมีความเชื่อว่าช่วงพลบค่ำจะมีผีร้ายออกมาล่าเหยื่อ นั่นก็คือกุศโลบายที่จะให้ทุกคนไม่ออกนอกบ้านในเวลานั้น เนื่องจากอาจมีโจรดักรอทำร้าย หรืออาจจะมืดจนมองไม่เห็นทางทำให้เดินชนโน่นนี่หรือหกล้มจนบาดเจ็บรุนแรงได้

     ถ้าเราศึกษาที่มาที่ไปของแต่ละสิ่งมีชีวิตในตำนานของแต่ละความเชื่อ ก็สามารถบอกได้ค่ะว่าในสมัยก่อนบริเวณนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร และผู้คนมีความเป็นอยู่อย่างไร

     สิ่งมีชีวิตในตำนานพื้นเมืองแต่ละที่จะไม่เหมือนกันเป๊ะ แต่ก็มีความคล้ายคลึงกัน คือมักจะเกี่ยวข้องกับธรรมชาติเหมือนกัน แต่สิ่งมีชีวิตที่พี่จะพาน้องๆ ไปรู้จักในวันนี้ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองค่ะ หาตัวที่มีเรื่องราวเหมือนกันในพื้นที่อื่นได้ค่อนข้างยาก ลองไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีตัวอะไรกันบ้าง


Pishtaco



Supernatural (CW)

     ตัวนี้คิดว่าหลายๆ คนต้องอยากให้มาอยู่แถวบ้านแน่ๆ เพราะมันคือปีศาจที่มาสูบกินไขมันในตัวคนค่ะ พิชทาโก้ (ไม่ใช่ฟิชทาโก้ที่แปลว่าทาโก้ปลานะ) เป็นความเชื่อในแถบเทือกเขาแอนดีสทวีปอเมริกาใต้ค่ะ ปัจจุบันก็ยังเป็นเหมือนผีท้องถิ่นในเปรูและโบลิเวียอยู่ พิชทาโก้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนปกติค่ะ โดยเฉพาะมักดูเหมือนชายผิวขาวทั่วไป (สีผิวอื่นก็มีบ้างแต่ไม่เยอะเท่า) คนท้องถิ่นเชื่อว่าพิชทาโก้มักล่อชาวพื้นเมืองไปฆ่าเพื่อดูดไขมันในร่างกายคนเป็นอาหาร แต่ก็มีพิชทาโก้บางตัวที่แค่หลอกคนไปดูดไขมันเฉยๆ แต่ไม่ได้ทำให้เหยื่อตาย

     จริงๆ แล้วชาวอินคามีความเชื่อเรื่องเทพเจ้า Viracocha มานานแล้วค่ะ ว่ากันว่าเทพ Viracocha เป็นเทพองค์สำคัญและเป็นผู้สร้างแทบจะทุกอย่างไม่ว่าจะจักรวาล ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว หรือแม้แต่เวลาและอารยธรรมอินคาทั้งหมด และชื่อ Viracocha ของเทพองค์นี้ก็แปลได้ว่าทะเลแห่งไขมัน ทำให้เห็นว่าชาวอินคามองว่าไขมันเป็นของมีค่ามาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะถ้าประชาชนอ้วนท้วนสมบูรณ์กันทั้งเมืองก็แปลว่าบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองดี อาหารการกินไม่ขาด สังคมสงบไม่มีสงครามค่ะ สมัยก่อนถึงกับมีความเชื่อว่าโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เกิดจากการขาดไขมันหรือมีปริมาณไขมันในร่างกายไม่สมดุล (เพราะคนป่วยมักซูบผอมลง)

     เมื่อชาวสเปนเข้ามาล่าอาณานิคมในบริเวณนี้และเกิดการต่อสู้กันอย่างรุนแรง ชาวพื้นเมืองก็ว่ากันว่าเห็นชาวสเปนเอาไขมันในตัวศพมารักษาบาดแผลให้ตัวเอง บ้างก็ว่าเห็นชาวสเปนต้มศพเพื่อนำไขไปใช้เคลือบปืนและอาวุธต่างๆ ที่เป็นสนิม ทำให้ชาวพื้นเมืองมองว่าชาวสเปนเหล่านี้คือพิชทาโก้แน่นอน แม้แต่กลุ่มหมอสอนศาสนาที่เข้ามาก็ถูกชาวพื้นเมืองต่อต้านเพราะเชื่อว่าจะเข้ามาหลอกฆ่าคนเพื่อเอาไขมันไปทาระฆังโบสถ์เพื่อให้ระฆังตีแล้วดังกังวานกว่าเดิม


Lausks



     เลาส์เป็นวิญญาณประจำฤดูหนาวในตำนานของชาวลัตเวียค่ะ เลาส์เป็นชายโสดสูงวัยที่สวมชุดขนสัตว์กันหนาวและถือขวานคริสตัลไว้ในมือ เขาจะมาปรากฏตัวในช่วงฤดูหนาวของทุกปี

     ชาวลัตเวียเชื่อว่าเสียงแตกๆ ที่ได้ยินตามผนังบ้าน ผนังตู้ หรือตามมุมต่างๆ ในห้องที่ได้ยินกันในช่วงฤดูหนาว คือเสียงที่เลาส์เอาขวานเดินเคาะตามบ้านเรือนต่างๆ เพื่อช่วยตรวจสอบความแข็งแรงของบ้านในการอยู่ต้านลมหนาวให้กับชาวบ้าน ส่วนรอยแดงตามแก้ม จมูก และหูในช่วงหน้าหนาว รวมไปถึงความรู้สึกชาบนใบหน้า ก็เชื่อกันว่าเกิดจากเลาส์เช่นกันค่ะ ประมาณว่าเวลาเลาส์เดินไปเช็กโครงสร้างบ้านเรือน ถ้าเดินผ่านใครเขาก็จะนึกสนุกหยิกแก้ม จมูก หรือหูคนนั้นไปด้วยระหว่างทาง

     จริงๆ ตำนานของหลายๆ ชนชาติในพื้นที่ที่มีหิมะตกก็มีเรื่องของวิญญาณที่มาหยิกแก้มจนเป็นที่มาของความรู้สึกหน้าชาในฤดูหนาวเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีตำนานที่ไหนที่จะมีวิญญาณไปเคาะผนังเพื่อเช็กโครงสร้างบ้านให้แบบนี้ค่ะ


Leshy



     ตัวนี้เป็นสัตว์ในตำนานของชาวสลาฟค่ะ ชาวสลาฟก็คือเชื้อชาติที่ปัจจุบันอาศัยอยู่บริเวณยุโรปตะวันออกเป็นส่วนใหญ่ค่ะ เช่นรัสเซีย โปแลนด์ ยูเครน เซอร์เบีย บัลแกเรีย และอีกหลายประเทศข้างเคียง ด้วยความที่ชาวสลาฟอาศัยกันในบริเวณกว้างมาก ทำให้เลชีเป็นที่รู้จักกันในหลายชื่อ แต่ชื่อที่รู้จักกันดีมากที่สุดก็คือเลชีค่ะ

     เลชีเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานผู้พิทักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่าในป่านั้นๆ ค่ะ เลชีมีลักษณะคล้ายมนุษย์คือมีสองแขนและเดินตัวตรงบนสองขา เลชีมีผิวขาวซีดอมฟ้าเพราะมีเลือดสีน้ำเงินและมีตาสีเขียวสด มักตกแต่งผมและหนวดเคราตัวเองด้วยลูกสน ดอกไม้และมอส เลชีสามารถย่อขยายร่างกายตัวเองได้และสามารถปลอมตัวได้ เลชีนิยมปลอมตัวเป็นผู้ชายหน้าตาธรรมดาที่ตัวสูง แต่จะใส่รองเท้าสลับข้างหรือพันผ้าพันคอสีแดงสด นอกจากนี้ก็ยังปลอมตัวเป็นต้นไม้ เป็นสัตว์ป่า หรือแม้แต่เป็นเห็ด

     เลชีเป็นเพื่อนสนิทกับฝูงหมาป่าและหมี และมีนิสัยขี้แกล้ง เลชีมักขโมยป้ายบอกทางในป่าไปซ่อนเพื่อให้นักเดินทางหลงทาง จากนั้นก็จะตะโกนด้วยเสียงแบบมนุษย์เรียกให้นักเดินทางหลงเข้าไปในถ้ำของมัน แล้วเลชีก็จะจั๊กจี๋มนุษย์คนนั้นจนขาดใจตาย แต่ก็ใช่ว่าเลชีจะนิสัยไม่ดีอย่างเดียวนะคะ เพราะงานหลักจริงๆ ของเลชีคือดูแลปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่า นอกจากนี้ยังช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงและไร่นาของชาวบ้านให้ด้วย ชาวบ้านสามารถเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเลชีตรงๆ ได้ และค่าตอบแทนก็คือชาวบ้านต้องมอบไม้กางเขนและแบ่งบุญที่ได้จากการไปเข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ให้เลชีด้วย


Domovoy



     โดโมวอยเป็นวิญญาณประจำบ้านตามความเชื่อของชาวสลาฟเช่นกันค่ะ ว่ากันว่าบ้านทุกหลังจะมีโดโมวอย 1 ตนคอยประจำอยู่ โดยมักจะอาศัยอยู่ที่เตาอิฐเป็นส่วนใหญ่ และโดโมวอยก็เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติไม่กี่อย่างที่ชาวสลาฟยังเชื่ออยู่ถึงปัจจุบัน

     โดโมวอยมีรูปลักษณ์ที่หลากหลาย แต่ที่นิยมกันมากที่สุดคือเป็นชายชราร่างเล็กขนาดประมาณเด็ก 5 ขวบค่ะ แต่โดโมวอยก็สามารถแปลงร่างได้ และมักแปลงร่างเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นเพื่อออกไปกวาดหน้าบ้านให้เจ้าของบ้านในยามที่เจ้าของบ้านนอนหลับพักผ่อน บางครั้งโดโมวอยก็แปลงร่างเป็นหมาหรือแมวเพื่อวิ่งเล่นในบ้าน ถ้าเจ้าของบ้านและทุกคนในบ้านนั้นรักบ้านและนับถือโดโมวอย และไม่เคยทำอะไรไม่ดีกับบ้าน โดโมวอยก็จะดูแลรักษาบ้านนั้นให้อย่างดี แต่ถ้าคนในบ้านทำบ้านสกปรกเละเทะ หรือทำผิดกฎที่โดโมวอยวางไว้ โดโมวอยก็จะป่วนคนในบ้านเต็มที่จนไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเป็นเดือนแน่นอน

     พวกกฎที่โดโมวอยวางไว้ก็เช่นห้ามเรียกชื่อโดโมวอยหลังมืด ห้ามพูดถึงโดโมวอยในแง่ร้าย และอย่าลืมวางอาหารแบ่งไว้ให้โดโมวอยก่อนเข้านอน เป็นต้น ถ้าทำดีกับโดโมวอยครบถ้วย โดโมวอยก็จะดูแลทั้งบ้านและทุกคนในบ้านให้ บ้านนั้นจะไม่มีวันอดอยาก ถ้ามีลูกสาวก็จะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีมากๆ แม้แต่สัตว์เลี้ยงต่างๆ ในบ้านก็จะเป็นสัตว์เลี้ยงนิสัยดีว่านอนสอนง่าย


Akaname



     ตัวนี้เป็นภูติจากตำนานของชาวญี่ปุ่นค่ะ ชื่อแปลตรงตัวได้ว่า "ผู้เลียสิ่งสกปรก" นั่นก็เพราะว่าอะคะนะเมะเป็นภูติที่อยู่ในห้องน้ำและคอยเลียทำความสะอาดอ่างน้ำและห้องอาบน้ำให้สะอาดนั่นเอง

    อะคะนะเมะมีลักษณะเหมือนเด็กแต่มีเท้าที่เป็นกรงเล็บ มีศีรษะแบนๆ และมีลิ้นยาวววววที่เอาไว้เลียสิ่งสกปรกต่างๆ ในห้องน้ำค่ะ แล้วก็เหมือนจะมีหน้าที่แค่นี้จริงๆ ไม่ได้ไปทำอะไรน่ากลัวกว่านี้ แต่ว่าชาวญี่ปุ่นถือว่ายังไงภูติผีก็คือภูติผี แค่เห็นก็น่ากลัวแล้วฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงที่จะต้องเจอ ชาวญี่ปุ่นจึงต้องคอยดูแลรักษาความสะอาดของห้องน้ำอยู่เสมอเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอกับอะคะนะเมะ (แต่ถ้าเป็นที่นี่คงยินดีมากที่อะคะนะเมะจะมาทำความสะอาดห้องน้ำให้ เราจะได้ไม่ต้องทำเองเนอะ)


Bonnacon (เรื่องนี้ไม่เหมาะอ่านตอนทานข้าว)



     บอนนาคอนเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานของยุโรปในช่วงยุคกลางค่ะ ยุคเดียวกับตำนานเกี่ยวกับอัศวินขี่ม้าขาวไปฆ่ามังกรเพื่อช่วยเจ้าหญิงนั่นเอง แต่ละพื้นที่ก็เรียกชื่อบอนนาคอนแตกต่างกันไปตามภาษาของตัวเอง แต่หลักๆ ก็จะรู้จักกันในชื่อบอนนาคอนค่ะ บอนนาคอนมีลักษณะโดยรวมคล้ายกับกระทิงสีดำหรือน้ำตาลแดง แต่มีเขามีม้วนเข้าหาตัวเองและมีขนตามด้านบนของลำตัวเหมือนกับของม้าค่ะ

     ด้วยความที่เขาม้วนเข้าด้านในทำให้ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวเองไม่ได้ บอนนาคอนเลยต้องมีกลไกอื่นในการป้องกันตัวเองค่ะ นั่นคือการปล่อยของเสียค่ะ เวลาโดนไล่ล่าบอนนาคอนก็จะวิ่งไปอึ๊ไป เพื่อพ่นใส่ศัตรูที่กำลังไล่ตามมา ของเสียของบอนนาคอนเป็นกรดรุนแรงด้วยนะคะ สามารถเผาทะลุผ่านได้แทบทุกอย่างแม้แต่โล่ของอัศวิน แถมบอนนาคอนยังมีพลังการเบ่งที่สุดยอดด้วย ของเสียสามารถพุ่งไปได้ไกลถึง 2 ใน 3 ของสนามฟุตบอลเลยทีเดียว


Sheela Na Gig



ภาพวาดตามจินตนาการของศิลปินกับภาพถ่ายรูปสลักของจริงจากอาคาร
(ขอให้โฟกัสที่หน้าชีลานากิกกับหน้าสัตว์ประหลาดเพศชายในภาพวาด สื่ออารมณ์ได้ดีมากค่ะ)
ภาพถ่ายชีลานากิกจาก: By The original uploader was Pryderi at English Wikipedia (Transferred from en.wikipedia to Commons.)
[GFDL (http://www.gnu.org/copyleft/fdl.html), CC-BY-SA-3.0 (http://creativecommons.org/licenses/by-sa/3.0/)
or GFDL (http://www.gnu.org/copyleft/fdl.html)], via Wikimedia Commons

     ชีลานากิกคือรูปสลักหญิงแก่เปลือยกายที่มีอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงขนาดใหญ่มากอยู่ตรงบริเวณหน้าท้อง และหญิงคนนั้นก็กำลังเอามือแหกบริเวณนั้นอยู่ (อธิบายลำบากมากเลยเนี่ย T__T จะติดเรตมั้ย) สามารถพบรูปสลักนี้ได้ตามโบสถ์หรืออาคารโบราณในเกรตบริเทนและไอร์แลนด์ค่ะ ว่ากันว่าศิลปินจะสลักรูปนี้ไว้เพื่อทำให้ปีศาจกลัวและไม่กล้าเข้ามาในอาคารนั้นๆ

     นอกจากความเชื่อที่ฟังเหมือนมุกเปิดกระโปรงให้โจรดูเพื่อให้โจรตกใจและวิ่งหนีไปแล้วนั้น ก็มีอีกตำนานที่เกี่ยวกับที่มาของชีลานากิกค่ะ ตำนานนี้ว่ากันว่าชีลานากิกเป็นแม่มดที่มีอารมณ์ทางเพศสูงตลอดเวลาแม้ว่าตัวเองจะสูงอายุแล้วก็ตาม เมื่อเกิดอารมณ์ชีลานากิกก็จะเดินหาชายหนุ่มตามหมู่บ้านเพื่อพาไปนอนด้วย โดยเธอจะเดินโชว์ตรงนั้นอ้าซ่าไปตลอดทาง

    ชายหนุ่มส่วนมากเมื่อเห็นว่าเธอเป็นยายแก่ๆ หน้าตาน่ากลัวก็มักปฏิเสธ ชีลานากิกก็จะฆ่าหนุ่มคนนั้นทิ้งเสีย แต่ถ้าเจอหนุ่มคนไหนใจดียอมช่วยป้าแก ชีลานากิกก็จะแปลงร่างเป็นสาวสวยสุดยอดให้ขณะมีอะไรกัน และจากนั้นจะมอบยศถาบรรดาศักดิ์ให้หนุ่มคนนั้นด้วย ฟังดูแล้วก็เป็นกุศโลบายที่ดีที่จะให้ผู้ชายไม่เลือกผู้หญิงที่หน้าตานะคะ 55555


     เป็นยังไงกันบ้างคะกับแต่ละเรื่องราวที่นำมาฝาก จริงๆ แต่ละตัวก็มีตำนานเป็นสิบเวอร์ชั่นเลยค่ะ พี่เลยเลือกตำนานที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครมาเป็นหลัก มีใครอยากให้สิ่งมีชีวิตไหนไปโผล่ที่บ้านตัวเองบ้างมั้ยคะ


อ้างอิง
Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด