สรุปมาให้แล้ว! ระเบียบการ "ทุนรัฐบาลเกาหลี GKS" เรียนต่อระดับปริญญาตรี ปี 2021


         อันยองครับน้องๆ ชาว Dek-D หลังจากที่หลายคนถามกันเข้ามาเยอะมากว่าปีนี้ทุนรัฐบาลเกาหลีใต้จะเปิดรับสมัครหรือไม่? วันนี้ พี่วุฒิ เลยมีข่าวดีเกี่ยวกับทุนนี้มาฝาก  ใครที่อยากได้ทุนเต็มจำนวนไปเรียนต่อที่เกาหลีห้ามพลาดเลยนะ ไม่รอช้าเลื่อนมาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าครับ! 
 

Photo Credit: Freepik
 
        รัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีจัดโครงการทุนการศึกษา สำหรับระดับปริญญาตรีประจำปีการศึกษา 2564 (2021 Global Korea Scholarship) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการศึกษาในระดับอุดมศึกษาและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาระหว่างมิตรประเทศ ซึ่งทุนรัฐบาลเกาหลีที่เปิดรับสมัครนั้น จะแบ่งออกเป็น 3   ประเภท และสำหรับปีนี้ มีโควตาทุนให้นักเรียนไทยถึง 7 โควตาด้วยกันครับ ได้แก่
 
1. สมัครผ่านสถานทูตเกาหลี (EMBASSY TRACK) : 3 คน
2. สมัครผ่านมหาวิทยาลัยท้องถิ่น (Regional Universities) เพื่อเรียนต่อคณะสายวิทยาศาสตร์ / วิศวกรรมศาสตร์เท่านั้น (Natural Science & Engineering Majors) : 2 คน
3.   โปรแกรมสำหรับอนุปริญญา (Associate Degree Track) : 2 คน
 
*รายละเอียดแต่ละรูปแบบจะอธิบายด้านล่างอีกครั้งนะครับ
 
ทุน GKS ครอบคลุมค่าอะไรบ้าง?

- ค่าตั๋วเครื่องบิน (ไป-กลับ มอบให้แค่ตอนบินไปเรียนครั้งแรก และบินกลับหลังเรียนจบ)
- ค่าใช้จ่ายรายเดือน เดือนละ 900,000 วอน หรือประมาณเดือนละ 23,843 บาท
- ค่าใช้จ่ายสำหรับเรียนปริญญาตรีจนจบหลักสูตร
- ค่าตั้งรกราก 200,000 วอน (ประมาณ 5,314 บาท)
- คอร์สเรียนภาษาเกาหลี 1 ปี 
- ค่าประกันสุขภาพ เดือนละ 60,000 วอน (ประมาณ 1,590 บาท)
- ถ้าสอบ TOPIK ได้ระดับ 5 หรือ 6 จะได้รับค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเดือนละ 100,000 วอน (ประมาณ 2,650 บาท)
- ค่าใช้จ่ายเมื่อสำเร็จการศึกษา 100,000 วอน​ (มอบให้สำหรับนักเรียนทุนที่บินกลับหลังเรียนจบ ส่วนคนที่อยู่เกาหลีต่อหลังเรียนจบจะไม่ได้รับ)
 

Photo Credit: Unsplash
 
ใครสมัครทุนรัฐบาลเกาหลี (ป.ตรี) ได้บ้าง?

1. มีสัญชาติไทยเท่านั้น (ต้องไม่มีเชื้อชาติหรือถือสัญชาติเกาหลี)
2. อายุต่ำกว่า 25 ปี นับถึงวันที่ 1 มีนาคม 2021 (เกิดหลัง 1 มีนาคม 1996)
3. จบการศึกษามัธยมปลายแล้วหรือคาดว่าจะจบภายใน 1 มีนาคม 2021 (ไม่รับผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว) 
4. มีเกรดเฉลี่ยรวม 2.64 ขึ้นไป (เกรดเต็ม 4.00)
5. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
6. คนที่เรียนจบมัธยมที่เกาหลี (รวมถึงโรงเรียนนานาชาติในเกาหลี) จะไม่สามารถสมัครทุนนี้ได้
7. ต้องไม่เคยรับทุนระดับปริญญาตรี จากหน่วยงานอื่นๆ ของเกาหลีมาก่อน 
8. สามารถสมัครทุนนี้ได้แค่โปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งเท่านั้น (จากทั้งหมด 3 แบบที่กล่าวไปด้านบน)

 
ผู้สมัครที่จะได้รับการพิจารณารับทุนเป็นพิเศษ

- มีคะแนนสอบภาษาเกาหลี TOPIK 3 ขึ้นไป จะได้รับคะแนนพิเศษ 10% จากคะแนนทั้งหมด
- หากเป็นบุตรหลานของทหารผ่านศึกในสงครามเกาหลี น้องๆ จะได้รับคะแนนพิเศษ 5% จากคะแนนทั้งหมด
- หากมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษจะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ เช่น มีใบรับรองคะแนนความสามารถภาษา TOEFL, TOEIC หรือ IELTS *ไม่ได้กำหนดคะแนนขั้นต่ำ (ผลสอบจะต้องไม่หมดอายุการใช้งาน) 
- ผู้ที่สมัครผ่านสถานทูตและยื่นสมัคเรียนต่อคณะ/สาขาที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ (สายนี้กำลังบูมมากๆ ในเกาหลี)
- หากน้องๆ เป็นผู้สมัครในระดับโปรแกรมอนุปริญญา และมีผลงานได้รับรางวัลจากการแข่งขันในประเทศหรือต่างประเทศในสาขาที่เกี่ยวข้อง จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ
- เป็นผู้สมัครที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย
 

Photo Credit: Unsplash
 
        หลังจากรู้คุณสมบัติของผู้สมัครไปแล้ว ต่อไปเรามาลงรายละเอียดกันว่า การสมัครแต่ละรูปแบบนั้นต่างกันยังไง และมีวิธีการสมัครอย่างไรบ้าง 
 
รูปแบบ1: สมัครผ่านสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย (Embassy Track)

- โควตาสำหรับนักเรียนไทยใน track นี้ มอบให้ทั้งหมด 3 คน
-   ทุนที่ได้ จะครอบคอร์สเรียนภาษาเกาหลี 1 ปี + ปริญญาตรี 4 ปี (ถ้าหากมีคะแนน TOPIK ระดับ 5 ขึ้นไป จะไม่ต้องเรียนปรับพื้นฐานภาษาเกาหลี 1 ปี) 
- ผู้สมัครผ่านสถานทูตเกาหลี จะต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่อยากเรียนต่อ 3 แห่ง (พร้อมระบุสาขา) จาก 38 แห่งที่อยู่ในลิสต์ โดยน้องๆ จะต้องเลือกมหาวิทยาลัยทั้งจาก Type A และ Type B 
-  ต้องส่งเอกสารตัวจริง 1 ชุด และสำเนาที่ถ่ายจากชุดจริง 3 ชุด ทั้ง 4 ชุดแยกใส่ซองชุดละซอง
- สำหรับการสมัคร track นี้ น้องๆ จะต้องส่งเอกสารไปยังที่อยู่ ของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย พร้อมวงเล็บมุมซอง “สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี (ป.ตรี) 2021”  โดยส่งทางไปรษณีย์ไทยแบบลงทะเบียนหรือแบบด่วน (EMS) เท่านั้น มาตามที่อยู่ที่แจ้งให้ทราบ โดยเอกสารต้องถึง ภายในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563 
 
ส่งเอกสาร : เอกสารทั้งหมดสามารถส่งได้ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2563  โดยต้องถึงภายใน 12 ตุลาคม 2563
วิธีการส่ง : ทางไปรษณีย์ไทยแบบลงทะเบียนหรือแบบด่วน (EMS) เท่านั้น 
* ไม่สามารถส่งทางแมสเซนเจอร์ได้ (เช่น ไลน์แมน),ไม่สามารถมาส่งด้วยตนเองได้
 
ที่อยู่ส่งเอกสาร: 
Embassy of the Republic of Korea (GKS)
23 Thim-Ruammit Road, Ratchadapisek, Huay-Kwang, Bangkok 10310
 
 สอบถามเพิ่มเติม (ศูนย์การศึกษาเกาหลี ประจำประเทศไทย)
  Tel: 02-115-1027, E-mail: kec9977@gmail.com
(จันทร์ ∼ ศุกร์ 08:30 น. ∼ 17:00 น. พักกลางวัน 12:00 น.∼ 13:00 น.)
 
Type A (มหาวิทยาลัยที่อยู่ในกรุงโซล 14 แห่ง)
Ajou University Duksung Women's University
Ewha Womans University Hanyang University
Konkuk University Korea University
Kookmin University Kyung Hee University
Korea Polytechnic University Seoul National University
Yonsei University Sookmyung Women's University
Seoul National University of
Science and Technology
Sungkyunkwan University

และผู้สมัครจะต้องเลือกมหาวิทยาลัยจาก Type B อย่างน้อย 1 แห่ง
 
Type B (มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด 24 แห่ง)
Sun Moon University Chungnam National University
ChonnamNational University
Daegu University
Daejeon University Dongseo University
Handong Global University Hannam University
Inje University Jeju National  University
Kangwon National University Keimyung University
Kongju National University Konyang University
Kyungpook National University National Korea Maritime & Ocean University
Pai Chai University Pukyong National University
Pusan National University Semyung University
Silla University Soonchunhyang University
Busan University of Foreign Studies Sunchon National University

คำแนะนำเพิ่มเติม (สำคัญ) 
หลักฐานยืนยันสัญชาตินั้น ต้องแนบเอกสารหลักฐานแสดงสัญชาติและแสดงความสัมพันธ์ของผู้สมัคร บิดามารดา โดยต้องส่งใบสูติบัตรหรือ สำเนาทะเบียนบ้านอย่างใดอย่างหนึ่ง (แนบสำเนาหนังสือเดินทางหรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัครและบิดามารดา)
ผู้ที่ต้องการสมัครมหาวิทยาลัยโคเรีย (Korea University) ต้องแนบเอกสารเพิ่มเติมของมหาวิทยาลัย สามารถตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติมของมหาวิทยาลัยได้ที่ไฟล์แนบ และตรวจสอบระเบียบการรับสมัครของมหาวิทยาลัยอย่างชัดเจน
 
  • ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์: 22 ตุลาคม 2563
  • รอบสัมภาษณ์: 28 ตุลาคม 2563
  • ประกาศผลผู้ได้รับทุน: 30 ตุลาคม 2563
     

Photo Credit: Freepik
 
รูปแบบ2: สมัครผ่านมหาวิทยาลัยประจำภูมิภาค (Regional University Track)

- โควตานี้มอบให้นักเรียนไทยทั้งหมด 2 คน
- ทุนที่ได้ จะครอบคอร์สเรียนภาษาเกาหลี 1 ปี + ปริญญาตรี 4 ปี (ถ้าหากมีคะแนน TOPIK ระดับ 5 ขึ้นไป จะไม่ต้องเรียนปรับพื้นฐานภาษาเกาหลี 1 ปี) 
- เป็นทุนแบบสมัครผ่านมหาวิทยาลัยในเขตต่างจังหวัด และรับเฉพาะสาขาด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและวิศวกรรมศาสตร์เท่านั้น
- เลือกสมัครได้เพียงสาขาใด สาขาหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเดียวเท่านั้น
- สาขาที่สมัครได้ เช่น วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
- ผู้สมัครจะต้องสอบถามและติดต่อจากมหาวิทยาลัยโดยตรง (แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดวันปิดรับสมัครไม่พร้อมกันและสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้รับผิดชอบของแต่ละมหาวิทยาลัยได้ในเอกสารที่แนบมา) 
- ต้องส่งเอกสารตัวจริง 1 ชุด  ไม่ต้องส่งสำเนา
 
รายชื่อมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด 24 แห่ง
Sun Moon University Chungnam National University
Chonnam National University
Daegu University
Daejeon University Dongseo University
Handong Global University Hannam University
Inje University Jeju National  University
Kangwon National University Keimyung University
Kongju National University Konyang University
Kyungpook National University National Korea Maritime & Ocean University
Pai Chai University Pukyong National University
Pusan National University Semyung University
Silla University Soonchunhyang University
Busan University of Foreign Studies Sunchon National University

 

Photo Credit: Freepik
 
รูปแบบ3: สมัครผ่านมหาวิทยาลัย เรียนต่อหลักสูตรอนุปริญญา (Associate Degree Track)

- โควตาสำหรับนักเรียนไทยมอบทั้งหมด 2 คน
- เข้าเรียนต่อหลักสูตรอนุปริญญา (Associate Degree) หลักสูตร 3-4 ปี + เรียนภาษาเกาหลี 1 ปี (ถ้าได้ TOPIK5 ไม่ต้องเรียนปรับพื้นฐานภาษาเกาหลี)
- เป็นทุนแบบสมัครผ่านมหาวิทยาลัย เพื่อเรียนต่อหลักสูตรอนุปริญญา
- เลือกสมัครได้เพียงสาขาใด สาขาหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเดียวเท่านั้น
- ผู้สมัครจะต้องสอบถามและติดต่อจากมหาวิทยาลัยโดยตรง (แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดวันปิดรับสมัครไม่พร้อมกันและสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้รับผิดชอบของแต่ละมหาวิทยาลัยได้ในเอกสารที่แนบมา) 
- ต้องส่งเอกสารตัวจริง 1 ชุด  ไม่ต้องส่งสำเนา
 
รายชื่อมหาวิทยาลัยที่สามารถสมัครได้
Chejuhalla University
Dong-Ah Institute of Media and Arts (ไอดอล คนดังในวงการบันเทิงเกาหลีเรียนเยอะมากกก)
Inha Technical College
Kyungbok University
Yeungjin University
Yeungnam University College
 

Photo Credit: Freepik
 
สรุปเอกสารที่ใช้ในการสมัครทุนรัฐบาลเกาหลี
 
*จำเป็นต้องส่ง

1. ใบสมัคร (Form1)
2. Personal Statement (SOP) หรือเรียงความ (Form2)
3. Study Plan หรือแผนการศึกษา (Form3)
4. จดหมายรับรอง หรือ Letters of Recommendation จำนวน 2 ฉบับ (Form4)
5. แบบฟอร์มแสดงความยินยอมทำตามเงื่อนไขทุน หรือ GKS Application Agreement (Form5)
6. ใบประเมินตรวจสุขภาพ (Form6)
7. เอกสารแสดงการจบการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือคาดว่าจะจบ
8.  เอกสารแสดงผลการศึกษาระดับม.ปลาย (Transcripts)
9. เอกสารแสดงสัญชาติของผู้สมัคร เช่น ใบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, สำเนาหนังสือเดินทาง หรืออื่นๆ    
10. เอกสารแสดงสัญชาติของผู้สมัครและบิดามารดา เช่น บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สูติบัตร 
 
*เอกสารอื่นๆ สามารถแนบประกอบไปก็ได้ หรือไม่แนบก็ได้ (Optional)

11. เกียรติบัตรรางวัล
12.  เอกสารแสดงความสามารถทางภาษาเกาหลี (TOPIK)
13. เอกสารแสดงความสามารถทางภาษาอังกฤษ เช่น  TOEIC, TOEFL หรือ   IELTS  
 
Note!
- เอกสารทั้งหมดต้องอยู่ในรูปภาษาอังกฤษหรือภาษาเกาหลีเท่านั้น พร้อมประทับตรารับรองจากกงสุล (หากไม่มี ให้นำไปแปล และแนบเอกสารต้นฉบับไปด้วย)
- เอกสารในการสมัครจะต้องใช้ตัวจริงเท่านั้น หากเป็นเอกสารที่เป็นสำเนา จะต้องเซ็นสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตรารับรองจากกงสุล
- เอกสารและระเบียบการสมัคร น้องๆ สามารถดาวน์โหลดได้ที่หน้าเว็บไซต์ของหน่วยงานการศึกษาของรัฐบาลเกาหลีหรือคลิกที่นี่ 
- อ่านรายละเอียดจากประกาศของสถานทูตเกาหลีที่ https://www.facebook.com/kecstudyinkorea/posts/2766426356961441
 

 

Facts:  เรื่องต้องรู้สำหรับทุนรัฐบาลเกาหลี

- ทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ เป็นทุนฟรี ไม่มีเงื่อนไข ไม่ต้องทำงานใช้ทุนคืนหลังเรียนจบ
- ทุนนี้ไม่มีการสอบข้อเขียน จะเป็นทุนที่พิจารณาจากเอกสารประกอบการสมัครเป็นหลัก และเมื่อผ่านรอบเอกสาร จะมีสอบสัมภาษณ์อีกรอบ 
- ยื่นคะแนนสอบอะไรบ้าง ? แม้ว่าการสมัครทุนรัฐบาลเกาหลี จะพิจารณาจากเกรด + เรียงความ (SOP) + แผนการศึกษา (Study Plan) เป็นหลัก แต่ถ้าหากน้องๆ มีผลสอบภาษาเกาหลี (TOPIK) หรือคะแนนภาษาอังกฤษแนบไปด้วย ก็จะเพิ่มโอกาสมากขึ้น เพราะว่าทุนนี้มีอัตราการแข่งขันที่สูงมากจริงๆ   ว่าแล้วมาดูตัวอย่างน้องนักเรียนทุน GKS ปี 2020 ว่าเค้ายื่นคะแนนอะไรบ้าง?

สมัครผ่านสถานทูตเกาหลี
  • พรปวีณ์ ธันยภรสกล (ปริ้น) :  ยื่น IELTS 7.5, TOPIK4 กับเกรด 3.86 ค่ะ //จริงๆ สอบ TOPIK ได้ 5 แล้ว แต่รู้สึกยังไม่พร้อม ยังอยากเรียนวัฒนธรรมของเขาก่อนค่ะ (ถ้ายื่น 5 จะไม่ได้เรียนปรับภาษา 1 ปี)
  • พิมพ์ชนก เปล่งขำ (ท็อป):  ยื่น IELTS 7.5 และ TOPIK4 เกรด 3.91 ค่ะ
  • นวพรรษ ประสิทธิกุล (ตาต้า):  ยื่น TOEIC 879 เกรด 3.79 ค่ะ

สมัครผ่านมหาวิทยาลัยโดยตรง
  • กฤติโชค รัตนขอดสกุล (โอเว่น):  ยื่น IELTS 5.5 กับ TOPIK1 กับเกรด 3.98 ครับ
  • ภูษนิศา หมอหวัง (เฟิร์น):  ยื่น TOEIC เกรด 3.24 ค่ะ​


(อ่านรีวิวการสมัครทุนของ 5 นักเรียนทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ปี 2020 คลิกที่นี่)
 
คำแนะนำการสมัครทุน..จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง

ปริ้น:  ทุนนี้ไม่ยากไม่ง่าย ไม่ต้องสอบ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเอกสารทั้งนั้นเลย ถ้ารู้ตัวว่าอยากเข้าคณะไหน ให้รีบทำกิจกรรมเยอะๆ เก็บเป็นพอร์ต อย่างปริ้นเองไปหาค่าย workshop ข้างนอกโรงเรียนเอง ส่วนภาษาเกาหลี มันไม่ยากถ้าเราพยายามใช้เยอะๆ จนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ส่วนตัวปริ้นเรียนเพิ่ม แนะนำให้พรีหนังสือจากเกาหลี ถ้าใครอยากเรียนแบบเรื่อยๆ แนะนำของ ม.อีฮวา มี 6 ระดับค่ะ
 
 ท็อป:  เรื่องสอบแนะนำให้เตรียมไว้ปีนึงเลย เพราะเราต้องอ่านหนังสือหรือเรียนเพิ่ม ถ้าเกิดมีผลสอบแล้วจะโล่งในระดับนึง เหลือแค่เตรียมเอกสารค่ะ อ่านให้ละเอียด เอกสารราชการจะค่อนข้างซับซ้อน ต้องใช้เวลากับขั้นตอนการเอาเอกสารไปแปลและประทับตราด้วย
 
 ตาต้า:  เข้าใจว่าทุนนี้การแข่งขันสูง เพราะตัดสินจากเอกสาร แต่อย่าบีบคั้นตัวเองจนท้อ ทุกคนมีดีในตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองด้อยกว่าใคร พยายามและตั้งใจสม่ำเสมอจนถึงนาทีสุดท้าย จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง และแนะนำให้น้องๆ เตรียมตัวเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย สมมติน้องสมัครปีหน้า พอ ม.5 ก็โหลดฟอร์มปีนี้มาดูแล้วเตรียมอะไรได้ก็รีบเตรียมก่อนเลยค่ะ
 
 โอเว่น:  อยากให้เตรียมตัวตั้งแน่เนิ่นๆ ยิ่งเตรียมตัวดี โอกาสยิ่งมาก คอยติดตามทางเว็บของไทยและศูนย์เกาหลีทุกๆ วัน ใครส่งแล้วก็หมั่นเช็กเมล ทั้งเมลจริงและเมล spam ที่สำคัญ พยายามทำกิจกรรมเยอะๆ และสิ่งที่สนใจไปด้วยนะครับ จะได้ตัดสินใจได้ว่าเราอยากเรียนสายไหนคณะไหน เราสามารถเอาประสบการณ์เหล่านั้นมาเขียน essay และตอบคำถามได้ 
 
 เฟิร์น:  อยากให้ตั้งใจมากๆ ทั้งทำเกรดและเรียนรู้ภาษาค่ะ ถ้าใครรู้ตัวเร็วจะดีมากๆ เลย

 
        ทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ถือเป็นทุนที่น้องๆ หลายคนใฝ่ฝันเลยก็ว่าได้ และเป็นไม่กี่ทุนที่จัดเต็มมอบให้ฟรีแบบ full package ขนาดนี้  ดังนั้นทุน GKS จึงเป็นทุนที่มีอัตราการแข่งขันสูงมากๆ หากน้องๆ คนไหนสนใจก็ควรเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ กันได้เลย พยายามทำเกรดดีๆ อัปสกิลภาษา  พร้อมเก็บพอร์ตเลิศๆ ไว้รอเลยครับ สำหรับใครที่จะสมัครของปีนี้ พี่ก็ขอให้โชคดีกันทุกคนนะครับ :D 
 
พี่วุฒิ
พี่วุฒิ - Columnist มนุษย์ 4 มิติผู้หลงใหลในเพลงเกาหลี ชาเนสที และหมูกระทะ

แสดงความคิดเห็น

กระทู้นี้ถูกปิดการแสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

iwbs 22 ก.ย. 63 15:36 น. 1
ขอโทษนะคะอยากจะถามว่าถ้าพี่ไปเรียนตอนเดือนกุมภาแล้วจัดการยังไงกับการจบม.6คะ แล้วก็ในข้อกำหนดของทุนเกาหลีต้องจบม.6ก่อน1มีนาคมด้วยเลยสงสัยค่ะรบกวนหน่อยนะคะ
4

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
mn :) Member 22 ก.ย. 63 21:44 น. 2

ขออนุญาตนะคะ ตรงคำแนะนำเพิ่มเติมที่บอกว่า

"หลักฐานยืนยันสัญชาตินั้นต้องแนบเอกสารหลักฐานแสดงสัญชาติและแสดงความสัมพันธ์ของผู้สมัคร บิดามารดา โดยต้องส่งใบสูติบัตรหรือ สำเนาทะเบียนบ้านอย่างใดอย่างหนึ่ง (แนบสำเนาหนังสือเดินทางหรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัครและบิดามารดา)"

คือถ้าเราจะส่งสำเนา passport ยังไงก็ต้องส่งสูติบัตรไม่ก็ทะเบียนบ้านอยู่ดีหรอคะ ;-; เพราะในไกด์ไลน์เห็นบอกไว้ว่า Birth certificates or family registrar, passport copy, and etc. เลยคิดว่าอย่างใดอย่างนึงในนี้น่ะค่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด