อันยองครับน้องๆ ชาว Dek-D หลังจากที่หลายคนถามกันเข้ามาเยอะมากว่าปีนี้ทุนรัฐบาลเกาหลีใต้จะเปิดรับสมัครหรือไม่? วันนี้ พี่วุฒิ เลยมีข่าวดีเกี่ยวกับทุนนี้มาฝาก ใครที่อยากได้ทุนเต็มจำนวนไปเรียนต่อที่เกาหลีห้ามพลาดเลยนะ ไม่รอช้าเลื่อนมาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าครับ!
Photo Credit: Freepik
รัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีจัดโครงการทุนการศึกษา สำหรับระดับปริญญาตรีประจำปีการศึกษา 2564 (2021 Global Korea Scholarship) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการศึกษาในระดับอุดมศึกษาและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาระหว่างมิตรประเทศ ซึ่งทุนรัฐบาลเกาหลีที่เปิดรับสมัครนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท และสำหรับปีนี้ มีโควตาทุนให้นักเรียนไทยถึง 7 โควตาด้วยกันครับ ได้แก่
1. สมัครผ่านสถานทูตเกาหลี (EMBASSY TRACK) : 3 คน
2. สมัครผ่านมหาวิทยาลัยท้องถิ่น (Regional Universities) เพื่อเรียนต่อคณะสายวิทยาศาสตร์ / วิศวกรรมศาสตร์เท่านั้น (Natural Science & Engineering Majors) : 2 คน
3. โปรแกรมสำหรับอนุปริญญา (Associate Degree Track) : 2 คน
*รายละเอียดแต่ละรูปแบบจะอธิบายด้านล่างอีกครั้งนะครับ
ทุน GKS ครอบคลุมค่าอะไรบ้าง?
- ค่าตั๋วเครื่องบิน (ไป-กลับ มอบให้แค่ตอนบินไปเรียนครั้งแรก และบินกลับหลังเรียนจบ)
- ค่าใช้จ่ายรายเดือน เดือนละ 900,000 วอน หรือประมาณเดือนละ 23,843 บาท
- ค่าใช้จ่ายสำหรับเรียนปริญญาตรีจนจบหลักสูตร
- ค่าตั้งรกราก 200,000 วอน (ประมาณ 5,314 บาท)
- คอร์สเรียนภาษาเกาหลี 1 ปี
- ค่าประกันสุขภาพ เดือนละ 60,000 วอน (ประมาณ 1,590 บาท)
- ถ้าสอบ TOPIK ได้ระดับ 5 หรือ 6 จะได้รับค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเดือนละ 100,000 วอน (ประมาณ 2,650 บาท)
- ค่าใช้จ่ายเมื่อสำเร็จการศึกษา 100,000 วอน (มอบให้สำหรับนักเรียนทุนที่บินกลับหลังเรียนจบ ส่วนคนที่อยู่เกาหลีต่อหลังเรียนจบจะไม่ได้รับ)
Photo Credit: Unsplash
ใครสมัครทุนรัฐบาลเกาหลี (ป.ตรี) ได้บ้าง?
1. มีสัญชาติไทยเท่านั้น (ต้องไม่มีเชื้อชาติหรือถือสัญชาติเกาหลี)
2. อายุต่ำกว่า 25 ปี นับถึงวันที่ 1 มีนาคม 2021 (เกิดหลัง 1 มีนาคม 1996)
3. จบการศึกษามัธยมปลายแล้วหรือคาดว่าจะจบภายใน 1 มีนาคม 2021 (ไม่รับผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว)
4. มีเกรดเฉลี่ยรวม 2.64 ขึ้นไป (เกรดเต็ม 4.00)
5. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
6. คนที่เรียนจบมัธยมที่เกาหลี (รวมถึงโรงเรียนนานาชาติในเกาหลี) จะไม่สามารถสมัครทุนนี้ได้
7. ต้องไม่เคยรับทุนระดับปริญญาตรี จากหน่วยงานอื่นๆ ของเกาหลีมาก่อน
8. สามารถสมัครทุนนี้ได้แค่โปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งเท่านั้น (จากทั้งหมด 3 แบบที่กล่าวไปด้านบน)
ผู้สมัครที่จะได้รับการพิจารณารับทุนเป็นพิเศษ
- มีคะแนนสอบภาษาเกาหลี TOPIK 3 ขึ้นไป จะได้รับคะแนนพิเศษ 10% จากคะแนนทั้งหมด
- หากเป็นบุตรหลานของทหารผ่านศึกในสงครามเกาหลี น้องๆ จะได้รับคะแนนพิเศษ 5% จากคะแนนทั้งหมด
- หากมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษจะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ เช่น มีใบรับรองคะแนนความสามารถภาษา TOEFL, TOEIC หรือ IELTS *ไม่ได้กำหนดคะแนนขั้นต่ำ (ผลสอบจะต้องไม่หมดอายุการใช้งาน)
- ผู้ที่สมัครผ่านสถานทูตและยื่นสมัคเรียนต่อคณะ/สาขาที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ (สายนี้กำลังบูมมากๆ ในเกาหลี)
- หากน้องๆ เป็นผู้สมัครในระดับโปรแกรมอนุปริญญา และมีผลงานได้รับรางวัลจากการแข่งขันในประเทศหรือต่างประเทศในสาขาที่เกี่ยวข้อง จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ
- เป็นผู้สมัครที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย
Photo Credit: Unsplash
หลังจากรู้คุณสมบัติของผู้สมัครไปแล้ว ต่อไปเรามาลงรายละเอียดกันว่า การสมัครแต่ละรูปแบบนั้นต่างกันยังไง และมีวิธีการสมัครอย่างไรบ้าง
รูปแบบ1: สมัครผ่านสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย (Embassy Track)
- โควตาสำหรับนักเรียนไทยใน track นี้ มอบให้ทั้งหมด 3 คน
- ทุนที่ได้ จะครอบคอร์สเรียนภาษาเกาหลี 1 ปี + ปริญญาตรี 4 ปี (ถ้าหากมีคะแนน TOPIK ระดับ 5 ขึ้นไป จะไม่ต้องเรียนปรับพื้นฐานภาษาเกาหลี 1 ปี)
- ผู้สมัครผ่านสถานทูตเกาหลี จะต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่อยากเรียนต่อ 3 แห่ง (พร้อมระบุสาขา) จาก 38 แห่งที่อยู่ในลิสต์ โดยน้องๆ จะต้องเลือกมหาวิทยาลัยทั้งจาก Type A และ Type B
- ต้องส่งเอกสารตัวจริง 1 ชุด และสำเนาที่ถ่ายจากชุดจริง 3 ชุด ทั้ง 4 ชุดแยกใส่ซองชุดละซอง
- สำหรับการสมัคร track นี้ น้องๆ จะต้องส่งเอกสารไปยังที่อยู่ ของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย พร้อมวงเล็บมุมซอง “สมัครทุนรัฐบาลเกาหลี (ป.ตรี) 2021” โดยส่งทางไปรษณีย์ไทยแบบลงทะเบียนหรือแบบด่วน (EMS) เท่านั้น มาตามที่อยู่ที่แจ้งให้ทราบ โดยเอกสารต้องถึง ภายในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563
ส่งเอกสาร : เอกสารทั้งหมดสามารถส่งได้ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2563 โดยต้องถึงภายใน 12 ตุลาคม 2563
วิธีการส่ง : ทางไปรษณีย์ไทยแบบลงทะเบียนหรือแบบด่วน (EMS) เท่านั้น
* ไม่สามารถส่งทางแมสเซนเจอร์ได้ (เช่น ไลน์แมน),ไม่สามารถมาส่งด้วยตนเองได้
ที่อยู่ส่งเอกสาร:
Embassy of the Republic of Korea (GKS)
23 Thim-Ruammit Road, Ratchadapisek, Huay-Kwang, Bangkok 10310
สอบถามเพิ่มเติม (ศูนย์การศึกษาเกาหลี ประจำประเทศไทย)
Tel: 02-115-1027, E-mail: kec9977@gmail.com
(จันทร์ ∼ ศุกร์ 08:30 น. ∼ 17:00 น. พักกลางวัน 12:00 น.∼ 13:00 น.)
Type A (มหาวิทยาลัยที่อยู่ในกรุงโซล 14 แห่ง)
|
|
Ajou University | Duksung Women's University |
Ewha Womans University | Hanyang University |
Konkuk University | Korea University |
Kookmin University | Kyung Hee University |
Korea Polytechnic University | Seoul National University |
Yonsei University | Sookmyung Women's University |
Seoul National University of Science and Technology |
Sungkyunkwan University |
และผู้สมัครจะต้องเลือกมหาวิทยาลัยจาก Type B อย่างน้อย 1 แห่ง
Type B (มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด 24 แห่ง) | |
Sun Moon University | Chungnam National University |
ChonnamNational University
|
Daegu University |
Daejeon University | Dongseo University |
Handong Global University | Hannam University |
Inje University | Jeju National University |
Kangwon National University | Keimyung University |
Kongju National University | Konyang University |
Kyungpook National University | National Korea Maritime & Ocean University |
Pai Chai University | Pukyong National University |
Pusan National University | Semyung University |
Silla University | Soonchunhyang University |
Busan University of Foreign Studies | Sunchon National University |
คำแนะนำเพิ่มเติม (สำคัญ)
หลักฐานยืนยันสัญชาตินั้น ต้องแนบเอกสารหลักฐานแสดงสัญชาติและแสดงความสัมพันธ์ของผู้สมัคร บิดามารดา โดยต้องส่งใบสูติบัตรหรือ สำเนาทะเบียนบ้านอย่างใดอย่างหนึ่ง (แนบสำเนาหนังสือเดินทางหรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัครและบิดามารดา)
ผู้ที่ต้องการสมัครมหาวิทยาลัยโคเรีย (Korea University) ต้องแนบเอกสารเพิ่มเติมของมหาวิทยาลัย สามารถตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติมของมหาวิทยาลัยได้ที่ไฟล์แนบ และตรวจสอบระเบียบการรับสมัครของมหาวิทยาลัยอย่างชัดเจน
- ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์: 22 ตุลาคม 2563
- รอบสัมภาษณ์: 28 ตุลาคม 2563
- ประกาศผลผู้ได้รับทุน: 30 ตุลาคม 2563
Photo Credit: Freepik
รูปแบบ2: สมัครผ่านมหาวิทยาลัยประจำภูมิภาค (Regional University Track)
- โควตานี้มอบให้นักเรียนไทยทั้งหมด 2 คน
- ทุนที่ได้ จะครอบคอร์สเรียนภาษาเกาหลี 1 ปี + ปริญญาตรี 4 ปี (ถ้าหากมีคะแนน TOPIK ระดับ 5 ขึ้นไป จะไม่ต้องเรียนปรับพื้นฐานภาษาเกาหลี 1 ปี)
- เป็นทุนแบบสมัครผ่านมหาวิทยาลัยในเขตต่างจังหวัด และรับเฉพาะสาขาด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและวิศวกรรมศาสตร์เท่านั้น
- เลือกสมัครได้เพียงสาขาใด สาขาหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเดียวเท่านั้น
- สาขาที่สมัครได้ เช่น วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
- ผู้สมัครจะต้องสอบถามและติดต่อจากมหาวิทยาลัยโดยตรง (แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดวันปิดรับสมัครไม่พร้อมกันและสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้รับผิดชอบของแต่ละมหาวิทยาลัยได้ในเอกสารที่แนบมา)
- ต้องส่งเอกสารตัวจริง 1 ชุด ไม่ต้องส่งสำเนา
รายชื่อมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด 24 แห่ง | |
Sun Moon University | Chungnam National University |
Chonnam National University
|
Daegu University |
Daejeon University | Dongseo University |
Handong Global University | Hannam University |
Inje University | Jeju National University |
Kangwon National University | Keimyung University |
Kongju National University | Konyang University |
Kyungpook National University | National Korea Maritime & Ocean University |
Pai Chai University | Pukyong National University |
Pusan National University | Semyung University |
Silla University | Soonchunhyang University |
Busan University of Foreign Studies | Sunchon National University |
Photo Credit: Freepik
รูปแบบ3: สมัครผ่านมหาวิทยาลัย เรียนต่อหลักสูตรอนุปริญญา (Associate Degree Track)
- โควตาสำหรับนักเรียนไทยมอบทั้งหมด 2 คน
- เข้าเรียนต่อหลักสูตรอนุปริญญา (Associate Degree) หลักสูตร 3-4 ปี + เรียนภาษาเกาหลี 1 ปี (ถ้าได้ TOPIK5 ไม่ต้องเรียนปรับพื้นฐานภาษาเกาหลี)
- เป็นทุนแบบสมัครผ่านมหาวิทยาลัย เพื่อเรียนต่อหลักสูตรอนุปริญญา
- เลือกสมัครได้เพียงสาขาใด สาขาหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเดียวเท่านั้น
- ผู้สมัครจะต้องสอบถามและติดต่อจากมหาวิทยาลัยโดยตรง (แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดวันปิดรับสมัครไม่พร้อมกันและสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้รับผิดชอบของแต่ละมหาวิทยาลัยได้ในเอกสารที่แนบมา)
- ต้องส่งเอกสารตัวจริง 1 ชุด ไม่ต้องส่งสำเนา
รายชื่อมหาวิทยาลัยที่สามารถสมัครได้
Chejuhalla University
Dong-Ah Institute of Media and Arts (ไอดอล คนดังในวงการบันเทิงเกาหลีเรียนเยอะมากกก)
Dong-Ah Institute of Media and Arts (ไอดอล คนดังในวงการบันเทิงเกาหลีเรียนเยอะมากกก)
Photo Credit: Freepik
สรุปเอกสารที่ใช้ในการสมัครทุนรัฐบาลเกาหลี
*จำเป็นต้องส่ง
1. ใบสมัคร (Form1)
2. Personal Statement (SOP) หรือเรียงความ (Form2)
3. Study Plan หรือแผนการศึกษา (Form3)
4. จดหมายรับรอง หรือ Letters of Recommendation จำนวน 2 ฉบับ (Form4)
5. แบบฟอร์มแสดงความยินยอมทำตามเงื่อนไขทุน หรือ GKS Application Agreement (Form5)
6. ใบประเมินตรวจสุขภาพ (Form6)
7. เอกสารแสดงการจบการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือคาดว่าจะจบ
8. เอกสารแสดงผลการศึกษาระดับม.ปลาย (Transcripts)
9. เอกสารแสดงสัญชาติของผู้สมัคร เช่น ใบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, สำเนาหนังสือเดินทาง หรืออื่นๆ
10. เอกสารแสดงสัญชาติของผู้สมัครและบิดามารดา เช่น บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สูติบัตร
*เอกสารอื่นๆ สามารถแนบประกอบไปก็ได้ หรือไม่แนบก็ได้ (Optional)
11. เกียรติบัตรรางวัล
12. เอกสารแสดงความสามารถทางภาษาเกาหลี (TOPIK)
13. เอกสารแสดงความสามารถทางภาษาอังกฤษ เช่น TOEIC, TOEFL หรือ IELTS
Note!
- เอกสารทั้งหมดต้องอยู่ในรูปภาษาอังกฤษหรือภาษาเกาหลีเท่านั้น พร้อมประทับตรารับรองจากกงสุล (หากไม่มี ให้นำไปแปล และแนบเอกสารต้นฉบับไปด้วย)
- เอกสารในการสมัครจะต้องใช้ตัวจริงเท่านั้น หากเป็นเอกสารที่เป็นสำเนา จะต้องเซ็นสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตรารับรองจากกงสุล
- เอกสารและระเบียบการสมัคร น้องๆ สามารถดาวน์โหลดได้ที่หน้าเว็บไซต์ของหน่วยงานการศึกษาของรัฐบาลเกาหลีหรือคลิกที่นี่
- อ่านรายละเอียดจากประกาศของสถานทูตเกาหลีที่ https://www.facebook.com/kecstudyinkorea/posts/2766426356961441
Facts: เรื่องต้องรู้สำหรับทุนรัฐบาลเกาหลี
- ทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ เป็นทุนฟรี ไม่มีเงื่อนไข ไม่ต้องทำงานใช้ทุนคืนหลังเรียนจบ
- ทุนนี้ไม่มีการสอบข้อเขียน จะเป็นทุนที่พิจารณาจากเอกสารประกอบการสมัครเป็นหลัก และเมื่อผ่านรอบเอกสาร จะมีสอบสัมภาษณ์อีกรอบ
- ยื่นคะแนนสอบอะไรบ้าง ? แม้ว่าการสมัครทุนรัฐบาลเกาหลี จะพิจารณาจากเกรด + เรียงความ (SOP) + แผนการศึกษา (Study Plan) เป็นหลัก แต่ถ้าหากน้องๆ มีผลสอบภาษาเกาหลี (TOPIK) หรือคะแนนภาษาอังกฤษแนบไปด้วย ก็จะเพิ่มโอกาสมากขึ้น เพราะว่าทุนนี้มีอัตราการแข่งขันที่สูงมากจริงๆ ว่าแล้วมาดูตัวอย่างน้องนักเรียนทุน GKS ปี 2020 ว่าเค้ายื่นคะแนนอะไรบ้าง?
สมัครผ่านสถานทูตเกาหลี
- พรปวีณ์ ธันยภรสกล (ปริ้น) : ยื่น IELTS 7.5, TOPIK4 กับเกรด 3.86 ค่ะ //จริงๆ สอบ TOPIK ได้ 5 แล้ว แต่รู้สึกยังไม่พร้อม ยังอยากเรียนวัฒนธรรมของเขาก่อนค่ะ (ถ้ายื่น 5 จะไม่ได้เรียนปรับภาษา 1 ปี)
- พิมพ์ชนก เปล่งขำ (ท็อป): ยื่น IELTS 7.5 และ TOPIK4 เกรด 3.91 ค่ะ
- นวพรรษ ประสิทธิกุล (ตาต้า): ยื่น TOEIC 879 เกรด 3.79 ค่ะ
สมัครผ่านมหาวิทยาลัยโดยตรง
- กฤติโชค รัตนขอดสกุล (โอเว่น): ยื่น IELTS 5.5 กับ TOPIK1 กับเกรด 3.98 ครับ
- ภูษนิศา หมอหวัง (เฟิร์น): ยื่น TOEIC เกรด 3.24 ค่ะ
คำแนะนำการสมัครทุน..จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง
ปริ้น: ทุนนี้ไม่ยากไม่ง่าย ไม่ต้องสอบ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเอกสารทั้งนั้นเลย ถ้ารู้ตัวว่าอยากเข้าคณะไหน ให้รีบทำกิจกรรมเยอะๆ เก็บเป็นพอร์ต อย่างปริ้นเองไปหาค่าย workshop ข้างนอกโรงเรียนเอง ส่วนภาษาเกาหลี มันไม่ยากถ้าเราพยายามใช้เยอะๆ จนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ส่วนตัวปริ้นเรียนเพิ่ม แนะนำให้พรีหนังสือจากเกาหลี ถ้าใครอยากเรียนแบบเรื่อยๆ แนะนำของ ม.อีฮวา มี 6 ระดับค่ะ
ท็อป: เรื่องสอบแนะนำให้เตรียมไว้ปีนึงเลย เพราะเราต้องอ่านหนังสือหรือเรียนเพิ่ม ถ้าเกิดมีผลสอบแล้วจะโล่งในระดับนึง เหลือแค่เตรียมเอกสารค่ะ อ่านให้ละเอียด เอกสารราชการจะค่อนข้างซับซ้อน ต้องใช้เวลากับขั้นตอนการเอาเอกสารไปแปลและประทับตราด้วย
ตาต้า: เข้าใจว่าทุนนี้การแข่งขันสูง เพราะตัดสินจากเอกสาร แต่อย่าบีบคั้นตัวเองจนท้อ ทุกคนมีดีในตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองด้อยกว่าใคร พยายามและตั้งใจสม่ำเสมอจนถึงนาทีสุดท้าย จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง และแนะนำให้น้องๆ เตรียมตัวเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย สมมติน้องสมัครปีหน้า พอ ม.5 ก็โหลดฟอร์มปีนี้มาดูแล้วเตรียมอะไรได้ก็รีบเตรียมก่อนเลยค่ะ
โอเว่น: อยากให้เตรียมตัวตั้งแน่เนิ่นๆ ยิ่งเตรียมตัวดี โอกาสยิ่งมาก คอยติดตามทางเว็บของไทยและศูนย์เกาหลีทุกๆ วัน ใครส่งแล้วก็หมั่นเช็กเมล ทั้งเมลจริงและเมล spam ที่สำคัญ พยายามทำกิจกรรมเยอะๆ และสิ่งที่สนใจไปด้วยนะครับ จะได้ตัดสินใจได้ว่าเราอยากเรียนสายไหนคณะไหน เราสามารถเอาประสบการณ์เหล่านั้นมาเขียน essay และตอบคำถามได้
เฟิร์น: อยากให้ตั้งใจมากๆ ทั้งทำเกรดและเรียนรู้ภาษาค่ะ ถ้าใครรู้ตัวเร็วจะดีมากๆ เลย
ทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ถือเป็นทุนที่น้องๆ หลายคนใฝ่ฝันเลยก็ว่าได้ และเป็นไม่กี่ทุนที่จัดเต็มมอบให้ฟรีแบบ full package ขนาดนี้ ดังนั้นทุน GKS จึงเป็นทุนที่มีอัตราการแข่งขันสูงมากๆ หากน้องๆ คนไหนสนใจก็ควรเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ กันได้เลย พยายามทำเกรดดีๆ อัปสกิลภาษา พร้อมเก็บพอร์ตเลิศๆ ไว้รอเลยครับ สำหรับใครที่จะสมัครของปีนี้ พี่ก็ขอให้โชคดีกันทุกคนนะครับ :D
อ่านบทสัมภาษณ์ของเหล่านักเรียนทุนรัฐบาลเพิ่มเติมได้ที่
2 ความคิดเห็น
ขออนุญาตนะคะ ตรงคำแนะนำเพิ่มเติมที่บอกว่า
"หลักฐานยืนยันสัญชาตินั้นต้องแนบเอกสารหลักฐานแสดงสัญชาติและแสดงความสัมพันธ์ของผู้สมัคร บิดามารดา โดยต้องส่งใบสูติบัตรหรือ สำเนาทะเบียนบ้านอย่างใดอย่างหนึ่ง (แนบสำเนาหนังสือเดินทางหรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัครและบิดามารดา)"
คือถ้าเราจะส่งสำเนา passport ยังไงก็ต้องส่งสูติบัตรไม่ก็ทะเบียนบ้านอยู่ดีหรอคะ ;-; เพราะในไกด์ไลน์เห็นบอกไว้ว่า Birth certificates or family registrar, passport copy, and etc. เลยคิดว่าอย่างใดอย่างนึงในนี้น่ะค่ะ