สวัสดีค่ะชาว Dek-D ทุกคน อย่างที่รู้กันดีว่า “สหรัฐอเมริกา” เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ เพราะนอกจากจะมีประชากรจากหลายพื้นที่ย้ายเข้ามาอยู่อาศัย นักเรียนนักศึกษาทั่วโลกยังหลั่งไหลกันเข้ามาศึกษาหาความรู้อีกด้วย ซึ่งถ้าจะให้พูดถึงมหาวิทยาลัยดังในประเทศแห่งนี้ ก็ต้องบอกเลยว่ามีมากมายนับไม่ถ้วน
และหนึ่งในสถาบันคุณภาพคับคั่งที่ พี่ปุณ อยากจะมาแนะนำให้น้องๆ ได้รู้จักกันก็คือ ‘University of Miami’ มหาวิทยาลัยวิจัยเอกชนระดับท็อปของสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งมายาวนานเกือบร้อยปี ว่าแต่หลักสูตรการเรียนการสอนของที่นี่จะเป็นยังไง ทุนการศึกษาที่ว่าหลากหลายจะมีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!
‘University of Miami (UM)’ ก่อตั้งขึ้นในปี 1925 ที่เมืองคอรัลเกเบิลส์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเปิดสอนทั้งหมด 11 คณะ ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี-เอก ทั้งในรูปแบบโรงเรียนและวิทยาลัย โดยในปี 2022 QS World University Rankings ได้จัดให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับที่ 311 ของโลก อีกทั้งยังเป็น R1: Doctoral Universities หรือมหาวิทยาลัยที่มีผลงานวิจัยในระดับสูงมากอีกด้วยค่ะ
ทำความรู้จัก 11 หลักสูตรแห่ง UM
ด้วยความที่เป็นสถาบันขนาดใหญ่ มีนักเรียนนักศึกษากว่า 17,000 คนต่อปี มหาวิทยาลัยแห่งนี้จึงมีหลักสูตรน่าสนใจหลากหลายเพื่อให้ผู้เรียนเลือกได้ตามความชอบและความถนัด ทั้งในรูปแบบของโรงเรียนและมหาวิทยาลัย รวมทั้งสิ้น 11 คณะ ได้แก่
- School of Architecture
- College of Arts and Sciences
- Miami Herbert Business School
- School of Communication
- School of Education and Human Development
- College of Engineering
- School of Law
- Rosenstiel School of Marine and Atmospheric Science
- Miller School of Medicine
- Frost School of Music
- School of Nursing and Health Studies
โดยแต่ละคณะก็จะมีโปรแกรมและสาขาแยกย่อยที่แบ่งกันไปจัดการเรียนการสอนใน 3 วิทยาเขตหลัก Coral Gables, Miller School Campus, และ Rosenstiel School Campus ให้กับนักศึกษาปริญญาตรี โท และเอก ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละคณะ แต่ละสาขาก็สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่เลย
Student life
เรียนหนักก็ต้องพักให้สนุก!
นอกจาก University of Miami จะคอยซัพพอร์ตนักศึกษาทั้งด้านวิชาการและงานวิจัยแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจให้ผู้เรียนได้มารวมตัวทำกิจกรรมในเวลาว่างด้วย
โดยในด้านวิชาการก็จะมีตั้งแต่ ‘Writing Center’ ศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านการเขียนโปรเจกต์ ที่ผู้เรียนสามารถจองเวลาเข้ารับคำปรึกษาได้แบบตัวต่อตัวโดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอด 50 นาที, ‘Libraries’ คลังความรู้ที่มีอยู่ในทั้ง 3 วิทยาเขต, และ ‘Toppel Career Center’ ศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกงาน การหางาน และสถาบันพาร์ตเนอร์ของมหาวิทยาลัย
ส่วนด้านกิจกรรมก็จะมีทั้ง ‘The U Creates’ ศูนย์รวมนวัตกรรมและความสร้างสรรค์ทางศิลปะ, ‘Rathskeller’ สถานที่จัดอีเวนต์และร้านอาหารที่ดำเนินกิจการโดยนักศึกษาในมหาวิทยาลัย รวมไปถึง ‘Housing & Residental life’ หอพักนักศึกษาขนาดใหญ่ อีกหนึ่งแหล่งรวมตัวในรั้วมหาวิทยาลัยของทุกคน
นอกจากนี้ UM ยังมี ‘Student Health และ Wellness and Creation’ บริการด้านสุขภาพที่จะคอยดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้เรียนให้แฮปปี้ไปตลอดหลักสูตรอีกด้วย เรียกว่าเป็นสถาบันที่พร้อมสนับสนุนทุกก้าวสำคัญจริงๆ ค่ะ
Scholarships
เมื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ University of Miami ทางมหาวิทยาลัยก็จะมีการพิจารณาทุนให้ทันที โดยนักศึกษาปี 1 ทุกคนมีสิทธิเลือกสมัครและรับทุนได้หลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น
Stamps Scholarships
ทุนการศึกษาเต็มจำนวนที่ครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือ ค่าอาหาร ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตลอดระยะเวลา 4 ปี โดยมีมูลค่าทุนอยู่ที่ 12,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 405,000 บาท
Isaac Bashevis Singer Scholarships
อีกหนึ่งทุนเต็มจำนวนที่ตั้งชื่อตาม ‘Isaac Bashevis Singer’ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมและอาจารย์ประจำ UM โดยผู้มีสิทธิได้รับทุนต้องเป็นนักศึกษาใหม่ที่สมัครรอบ Early Decision I และ Early Action ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2021 นั่นเอง
President's Scholarship
ทุนสำหรับนักศึกษาทั้งในและต่างประเทศที่มีมูลค่าสูงกว่า 28,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 946,000 บาทต่อปี โดยผู้ที่ได้รับทุนจะต้องลงเรียนไม่ต่ำกว่า 24 หน่วยกิตในแต่ละปีการศึกษา และจะต้องรักษา GPA ให้อยู่ที่ 3.0 ขึ้นไป
นอกจากทุนเรียนดี UM ก็ยังมีทุนสนับสนุนให้กับนักศึกษาที่มีความสามารถพิเศษด้านดนตรีและกีฬาอย่าง ‘Music Scholarships และ Athletics Scholarships’ อีกด้วยค่ะ
หลังจากที่ได้ส่องหลักสูตร พร้อมทุนการศึกษาของ ‘University of Miami’ กันไป มีใครเริ่มสนใจอยากเก็บกระเป๋าบินไปเรียนต่อกันแล้วหรือยัง? บอกเลยว่าสถาบันนี้เขาโด่งดังทั้งเรื่องคุณภาพหลักสูตรและงานวิจัย ไม่ว่าจะไปเรียนต่อป.ตรี ป.โท หรือป.เอก UM เขาก็มีโปรแกรมรองรับให้ครบถ้วนทั้งสายวิทย์ สายศิลป์ และสายสุขภาพ น้องๆ คนไหนมีแพลนเรียนต่ออเมริกาก็อย่าลืมเก็บสถาบันแห่งนี้เข้าลิสต์ไว้ แล้วเตรียมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมต่อได้ทางเว็บไซต์เลย
เว็บไซต์มหาวิทยาลัยSources:https://www.topuniversities.comhttps://welcome.miami.edu/about-um/index.htmlhttps://www.facebook.com/UniversityofMiami/photos/?ref=page_internal https://admissions.miami.edu/undergraduate/financial-aid/scholarships/freshman/index.html
1 ความคิดเห็น