สวัสดีค่าชาว Dek-D ด้วยเรื่องมาตรฐานการศึกษา ระยะเวลาเรียน และคุณภาพชีวิต ทำให้อังกฤษเป็นเป้าหมายที่ชาวต่างชาตินิยมไปเรียนต่อมากๆ เดี๋ยววันนี้เรามีสรุปเส้นทาง 6 ปีในลอนดอนของ “พี่ต้า-วิชญ์พล เตชะวิวัฒนาการ” หนึ่งในนักเรียน ทุน ก.พ. ที่ได้ไปเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมปลาย หรือหลักสูตร A-Levels ที่ Cambridge Tutors College ตามด้วย ป.ตรี University College London (UCL) และ ป.โท London School of Economics and Political Science (LSE) // เรียกว่าน่าดึงดูดทั้งทุนและสถาบันเลยค่ะ~
ที่สำคัญ!! อย่าพลาดงานฟรีและดีที่เราจะมาบอกต่อท้ายบทความนะคะ ใครมีข้อสงสัยจดไว้แล้วมาปรึกษา-ขอคำแนะนำจากรุ่นพี่นักเรียนทุนที่ไปเรียนต่ออเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน ได้ที่งาน Dek-D’s TCAS Fair 2022 ในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 (*พี่ต้าก็มางานนี้ด้วย) ว่าแล้วเรามาเริ่มออกเดินทางกันเลยค่า
1. ได้ทุน ก.พ.ไปเรียนที่อังกฤษแบบยิงยาว
สวัสดีน้องๆ ทุกคน พี่ชื่อ ต้า นะครับ (วิชญ์พล เตชะวิวัฒนาการ) ได้รับทุน ก.พ. ของปี 2554 เพื่อศึกษาต่อในระดับมัธยมปลาย-ปริญญาตรี-โท ที่อังกฤษ รวมระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในอังกฤษก็ 6 ปีเลยครับ
การสอบทุน ก.พ. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จะเปิดรับสมัครตั้งแต่เดือนกันยายนถึงตุลาคมของทุกปี พี่สอบทุน ก.พ. ปี 2554 ในสาขาวิชาสายศิลป์ ซึ่งวิชาที่สอบจะมี
1. ภาษาอังกฤษ 100 คะแนน (ข้อสอบเป็นตัวเลือกทั้งหมด โดยคำถามจะคล้ายกับ GAT Eng และ O-net Eng)
2. ภาษาไทยและสังคมศึกษา 100 คะแนน (เน้นทดสอบการย่อความ การเขียนเรียงความเชิงบรรยาย และการเขียนเรียงความเชิงวิเคราะห์)
*บางคนก็ต้องสอบวิชาอื่นเพิ่มเติมด้วย เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปศึกษาต่อในสาขาใดในระดับมหาวิทยาลัย) โดยที่ผลคะแนนภาษาอังกฤษของเราจะสำคัญมากนะครับ เพราะจะเป็นวิชาแรกที่จะถูกตรวจ และหากคะแนนภาษาอังกฤษของเราต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของผู้เข้าสอบทั้งหมดวิชาอื่นๆ ก็ไม่ได้รับการตรวจนะครับ
เมื่อผ่านรอบข้อเขียน ก็จะเป็นการสอบสัมภาษณ์ที่เป็นด่านสุดท้ายเพื่อประเมินความ
เหมาะสมของผู้ที่จะได้รับทุนครับ ซึ่งขั้นตอนการคัดเลือกที่พี่เล่ามาทั้งหมดก็ยังคงใช้อยู่ในปัจจุบันนะครับ
*สามารถศึกษาระเบียบการทุนปี 2565 เพื่อเป็นแนวทางการเตรียมตัวได้ที่ https://www.dek-d.com/studyabroad/58798/
2. ปรับตัวกับความต่างของ ม.ปลาย ระบบไทย vs. อังกฤษ
หลังจากได้ทุน ก.พ. พี่ก็ได้เข้าเรียนต่อในระบบการศึกษา ม.ปลาย ของอังกฤษ หรือที่เรียกว่า A-Levels เป็นระยะเวลา 2 ปี ครับ เหตุผลสำคัญของการไปเรียนมัธยมปลายอีกรอบหนึ่ง คือ มหาวิทยาลัยของอังกฤษจะมีระบบการคัดเลือกที่ต่างจากของไทย ดังนั้นเกรดเฉลี่ยมัธยมของเราเลยไม่สามารถใช้เป็นตัวประกอบในการสมัครเรียนต่อได้ นักเรียนทุนเกือบทั้งหมดจึงต้องลงเรียนใหม่เพื่อสะสมคะแนนตามระบบการเรียนต่อของอังกฤษครับ
ในส่วนของวิชาเรียน สิ่งที่ต่างจากไทยอย่างชัดเจนเลยคือนักเรียนลงเรียนเพียง 3-4 วิชาที่สำคัญต่อการสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ได้เน้นลงเรียนทุกวิชา เช่น ถ้าจะเรียนต่อสาขาวิทยาศาสตร์ในมหาลัย ก็ลงเรียนเพียงวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา เท่านี้เองครับ ซึ่งมหาลัยก็จะดูผลการสอบเพียงวิชาที่เราลงเรียน
พี่ต้าเรียน Cambridge Tutors College หรือเรียกย่อๆ ว่า CTC เป็นโรงเรียนมัธยมในชานเมืองลอนดอนโดยแนวทางการเรียนในระบบการศึกษาอังกฤษจะต่างจากที่เราคุ้นเคยในระบบการศึกษาไทยมาตลอด โดยเฉพาะวิชาในสาขาสังคมศาสตร์ก็จะเน้นการเขียน การวิเคราะห์เชิงเหตุผล และการแลกเปลี่ยนความเห็นในชั้นเรียนโดยมีหลักฐานและข้อมูลสนับสนุน บางคำถามไม่มีคำตอบตายตัวซะทีเดียว แต่จะกระตุ้นให้เราคิดในหลายๆ มุม
พี่ลงเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Maths) ประวัติศาสตร์ (History) การเมือง (Politics) และเศรษฐศาสตร์ (Economics) ช่วงแรกต้องปรับตัวค่อนข้างมากเลย เพราะเจอเนื้อหาใหม่และเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด โดยเฉพาะตอนที่ต้องเขียน essay รวมถึงการอภิปรายในห้องเรียน ไม่ใช่การท่องจำและกากบาทเลือกคำตอบอีกต่อไป การสอบทั้ง 3 วิชาก็เป็นการเขียน essay 100% ไม่มีการเก็บคะแนนมาก่อนล่วงหน้า ถือว่าเป็นการสอบที่โหดพอสมควรเลยครับ
Note: ระบบ A-Level เรียนกันยังไง?
การเรียนในระบบ A-Level นักเรียนจะต้องเลือกเรียน 3-4 วิชา จากจำนวนหลายวิชาของ A-Level ที่โรงเรียนเปิดสอน ถ้าเป็นพวกโรงเรียนใหญ่ๆ จะมีวิชาเปิดสอนเยอะมาก แต่แม้วิชาเรียนจะน้อยก็เข้มข้นมากก (ก.ไก่ล้านตัว) และจะมีการสอบวัดผลออกมาเป็นเกรด A* A B C D E จากนั้นจะใช้คะแนนดังกล่าวไปยื่นสมัครมหาวิทยาลัย ซึ่งกรณีต้องการยื่น ม.ดังๆ อย่างน้อยเกรดที่ได้ควรได้ต้อง A ทุกวิชา แต่ถ้ายังไม่พอใจเกรดตัวเองก็สอบใหม่จนกว่าจะถึงเป้าหมายก็ได้เช่นกัน
*อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ A-Level ได้ที่ https://www.dek-d.com/studyabroad/49778/
3. สมัครมหาวิทยาลัยผ่านระบบ UCAS
เมื่อถึงฤดูการสมัครเข้ามหาลัยซึ่งจะเริ่มในปีที่สองของการเรียน A-Levels เราก็จะต้องเตรียมตัวและเอกสารเพื่อสมัครผ่านระบบ “The Universities and Colleges Admissions Service” หรือมีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า “UCAS” โดยต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว แนบเรียงความแนะนำตัวเอง (Personal Statement) พร้อมจดหมายรับรองจากอาจารย์ (Recommendation Letter)
เราสามารถเลือกลำดับของมหาวิทยาลัยและสาขาได้ 5 อันดับตามความต้องการของเราได้เลย ซึ่งระบบ UCAS ก็จะแจ้งผลผ่านทางเว็บไซต์ว่าเราสอบติดลำดับใดใน 5 อันดับที่เราเลือกมา
4. เลือกเรียน ป.ตรี University College London (UCL)
ในระบบ UCAS พี่เลือกสาขา Arts and Sciences (BASc) หรือ สาขาสหวิทยาการ โดยมีวิชาเอกเป็นด้าน Societies ที่ University College London (UCL) เป็นลำดับที่ 1 แล้วพี่ก็ได้มาเรียนที่นี่ครับ! เหตุผลที่เลือก UCL ก็คืออยู่ใจกลางกรุงลอนดอน อีกทั้งยังเป็นมหาลัยที่โด่งดังอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย (อันดับ 8 ของโลกโดย QS World University Rankings 2023)
อีกอย่างหนึ่งคือสาขาที่พี่เลือกเรียนนี้มีเพียงไม่กี่มหาลัยในอังกฤษที่เปิดสอน ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่เปิดกว้างให้เราสามารถเลือกวิชาเรียนได้อย่างหลากหลาย โดยพี่ได้เลือกคลาสที่เราสนใจและเหมาะกับการทำงานในอนาคต เช่น Quantitative Methods, Migration and Health, Macroeconomics, International Develpment, Human Ecology from Geographical Perspective, Comparative Politics และ Mandarin Chinese เป็นต้น
โดยวิชาเรียนที่รอบด้านนี้ช่วยให้เราสามารถเชื่อมประเด็นในสาขาต่าง ๆ ได้ โดยไม่ยึดติดกับมุมมองเชิงวิชาการเพียงมุมใดมุมหนึ่ง ซึ่งสอดรับกับโลกการทำงานในอนาคตและการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบายที่ต้องวิเคราะห์ในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งเเวดล้อม อย่างสมดุล
5. จบ ป.โท London School of Economics and Political (LSE)
ต่อมาในระดับปริญญาโท พี่ได้ศึกษาต่อ ณ London School of Economics and Political Science (LSE) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นในสาขาเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งหนึ่งของสหราชอาณาจักรและโลก ซึ่งพี่ไปศึกษาในสาขานโยบายสาธารณะ (Public Policy) ที่เน้นไปทางด้านการโยกย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศ (International Migration)
ในหลักสูตรนี้พี่ได้เรียนนโยบายการจัดการเคลื่อนย้ายแรงงานและผู้ลี้ภัย รวมไปถึงกฎหมายการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) และยังได้แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนร่วมคลาสในประเด็นการเคลื่อนย้ายแรงงานภายในภูมิภาคอาเซียนด้วย
แล้วเพื่อนร่วมชั้นแต่ละคนก็มี background น่าสนใจมากๆ เช่น บางคนเคยมีประสบการณ์ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือ อาสาสมัครช่วยเหลือผู้อพยพจากสงครามในซีเรีย หรือแม้กระทั่งเพื่อนที่เคยทำงานในทำเนียบขาวสมัยประธานาธิบดี บารัค โอบามา
6. กลับมาทำงานในหน่วยงานมันสมองของรัฐ
หลังจากเรียน ม.ปลาย-ป.ตรี-ป.โท มาทั้งหมด 6 ปี พี่ก็ได้กลับมาทำงานที่กองยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ภายใต้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ “สภาพัฒน์ฯ” ที่ถือเป็นมันสมองของภาครัฐ มีหน้าที่หลักๆ คือการคิดนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศครับ
ภารกิจที่พี่รับผิดชอบจะมีตั้งแต่ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion) และอาเซียน (ASEAN) เป็นงานที่ทั้งท้าทายและสนุกเลยนะครับ ได้นำความรู้ที่ได้เรียนมาประยุกต์ให้เข้ากับการทำงานอีกด้วย รวมทั้งยังมีโอกาสเดินทางไปประเทศต่างๆ เพื่อร่วมประชุม หารือ ผลักดันท่าทีและการเจรจาของประเทศไทยด้วย
__________
สุดท้ายนี้อยากฝากรุ่นน้องที่อยากศึกษาต่อในต่างประเทศว่า “การเรียนต่อต่างประเทศในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ไม่ยากเมื่อเทียบกับสมัยก่อนๆ เพราะทุนการศึกษาในปัจจุบันมีจำนวนมากในหลากหลายสาขาวิชา มีทั้งทุนรัฐบาลไทย ทุนรัฐบาลต่างประเทศ ทุนองค์กรภาคเอกชน ไปจนถึงทุนของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ สิ่งสำคัญ คือ เราต้องมีความตั้งใจ มุ่งมั่น ใฝ่หาความรู้และโอกาสพี่เชื่อว่าการสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ยากเกินเอื้อมแน่นอนครับ”
สามารถติดตามและทักทายพี่ต้า รวมถึงเรียนรู้เกร็ดภาษาอังกฤษดีๆ ได้ที่ FB page https://www.facebook.com/IELTSAccelerator และทาง IG https://www.instagram.com/ielts_accelerator ได้เลยนะครับ
. . . . .
You’re Invited!
เจอพี่ต้าได้ในงาน Dek-D’s TCAS Fair 2022
ปิดท้ายด้วยโอกาสดีและฟรี! ใครกำลังวางแผนขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ หรืออยู่ระหว่างเก็บข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เร็วๆ นี้จะมีอีเวนต์ Dek-D’s TCAS Fair 2022 ซึ่งคอลัมน์เรียนต่อต่างประเทศของเรา (หมายเลข 2-3) ก็จะมีเชิญรุ่นพี่ทุนรัฐบาลฯ (ก.พ.), เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และไต้หวัน รวมถึง “พี่ต้า” เจ้าของประสบการณ์เรียนต่อที่ทุกคนเพิ่งอ่านจบนั่นเองค่า พี่ต้าจะมานั่งประจำบูธเพื่อให้คำปรึกษาน้องๆ แบบเป็นกันเอง สงสัยอะไรจดคำถามมาเลย!
งานนี้จะจัดในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 (เวลา 9.00-17.00 น.) ที่ไบเทคบางนา Hall EH98 (BTS บางนา ทางออกประตู 1) มี skywalk เชื่อมไปไบเทคบางนาชั้น 2 นะคะ แถมข้างๆ ยังมีงาน Dek-D’s Fandom Fair จัดอยู่ข้างๆ ด้วย คลิกเข้าสู่หน้าเว็บไซต์งานแฟร์เพื่อดูรายละเอียดและวิธีเดินทางได้เลยค่ะ :D
เข้าสู่เว็บไซต์งานแฟร์ปี 2022
1 ความคิดเห็น