Waka Waka! สวัสดีครับชาว Dek-D ทุกคน เชื่อว่าถ้านึกถึงการไปเรียนต่างประเทศแล้ว หลายคนอาจจะเลือกปักหมุดไปยังประเทศฮิตๆ ในแถบยุโรป อเมริกา หรือไม่ก็โซนเอเชียกันใช่มั้ยครับ ซึ่งนั่นทำให้เราอาจมองข้าม ‘ดินแดนแห่งทองคำ’ อย่างประเทศ ‘แอฟริกาใต้’ กันไป แม้ว่าจะเป็นจุดหมายที่คนไทยไม่ค่อยให้ความสนใจในการเรียนต่อนัก แต่น้องๆ รู้ไหมว่าที่นั่นมีข้อดีแฝงอยู่เพียบ!
และมีมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพการศึกษาแน่นๆ อย่าง ‘University of Cape Town’ เปิดสอนอยู่ด้วย ซึ่งที่นี่มีดีกรีเป็น No.1 ของทวีปแอฟริกากันเลยทีเดียว มาดูกันว่าชีวิตของนักศึกษาที่มีแคมปัสอยู่ในเมืองท่องเที่ยวดังอย่าง ‘เคปทาวน์’ จะว้าวแค่ไหน และมีอะไรเด็ดๆ หรือน่าสนใจบ้าง รีบวาร์ปตามพี่น้ำพุกันเลยครับ~
เรียนต่อแอฟริกาใต้ ดียังไงบ้าง?
เด่นด้านการศึกษา
ประเทศแอฟริกาใต้มีมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกอยู่ถึง 2 แห่ง ได้แก่ University of Cape Town (UCT) และ University of Witwatersrand (WITS) ซึ่งทั้งสองที่ก็เป็นตัวตึงด้านการศึกษาและการทำวิจัย แถมยังมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่หลากหลายให้เลือกเรียนกันอีกด้วย
ศูนย์กลางความหลากหลาย
ที่นี่อุดมไปด้วยความหลากหลายและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นทางด้านภาษา วัฒนธรรม อาหาร ประวัติศาสตร์ ศิลปะ หรือผู้คน น้องๆ รู้หรือเปล่าว่าแค่ประเทศแอฟริกาใต้ที่เดียวก็มีภาษาทางการใช้ถึง 11 ภาษาแล้ว เช่น Afrikaans, Sepedi และ Setswana เป็นต้น // ถ้าได้ไปเรียนที่นั่นรับรองว่าเราจะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับคนจากหลากหลายพื้นที่แน่นอน!
Note: แม้จะมีภาษาทางการถึง 11 ภาษา แต่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอนเป็นหลัก รวมถึงการสนทนาในชีวิตประจำวันของคนที่นั่นด้วยเช่นกันครับ
ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก จับต้องได้
หากเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษอย่างในแถบยุโรปหรือสหรัฐอเมริกาแล้ว ค่าเล่าเรียนรวมถึงค่าครองชีพที่แอฟริกาใต้จะถือว่าอยู่ในระดับที่พอจับต้องได้ ด้วยเหตุนี้เองนักเรียนต่างชาติจำนวนไม่น้อยจึงให้ความสนใจในการมาเรียนที่นี่เป็นพิเศษ
แปลกใหม่ ท้าทาย ไม่เหมือนใคร
ปัญหาทำให้ฉันเติบโต~ ใครอยากลองออกจาก comfort zone ลองเปิดใจและเก็บแอฟริกาใต้ไว้ในลิสต์ก่อนก็ได้นะ เพราะอย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าที่นี่ป็นประเทศที่น่าสนใจในการเรียนต่อ แต่ในไทยกลับไม่ค่อยมีใครพูดถึงเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างนั้นการพาตัวเองไปอยู่ในประเทศที่ไม่แมส ก็อาจทำให้เราได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร และได้เพิ่มความท้าทายให้ตัวเอง ที่สำคัญคือได้อัปสกิลภาษาอังกฤษแบบฉ่ำๆ รวมถึงได้ซึมซับภาษาและวัฒนธรรมพื้นเมืองที่มี diversity สูงอีกด้วย!
................
ทำความรู้จัก University of Cape Town
- ตั้งอยู่อยู่ในเมือง ‘เคปทาวน์’ (Capetown) เมืองหลวงของแอฟริกาใต้ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ มัดรวมทั้งทะเล ป่าไม้และภูเขามาไว้ในเมืองเดียว อากาศบริสุทธิ์ แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ อีกหลายแห่ง จนได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘เมืองที่ใครๆ ก็ต้องไปเที่ยวให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต’
- สถานที่ตั้งของ UCT สวยงามไม่แพ้กับแลนด์มาร์กอื่นๆ ในเมือง เพราะแคมปัสหลัก (Upper Campus) ของมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่ตีนเขาของภูเขาเทเบิล (Table Mountain) ด้านหลังโอบล้อมไว้ด้วยภูเขา ส่วนด้านหน้าก็สามารถมองเห็นวิวของตัวเมืองและมหาสมุทรได้อีก เรียกว่าเรียนกันท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติกันแบบฟินๆ เลยทีเดียว
- UCT เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในแอฟริกาใต้ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1829 เริ่มจากการเป็นวิทยาลัยชายล้วน หลังจากนั้นจึงเริ่มรับนักเรียนหญิงเข้ามา (เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยแรกๆ ของโลกที่รับผู้หญิงเข้าเรียน)
- ขึ้นชื่อเรื่องวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าและสนับสนุนความยุติธรรมในสังคม โดย UCT เคยมีการจัดตั้งขบวนการเพื่อต่อสู้กับนโยบายการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกา (Apartheid) ทำให้ปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยจะให้ความสำคัญกับเรื่องความเท่าเทียมและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักเรียนอย่างเต็มที่
- เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ในทวีปแอฟริกา และอันดับที่ 171 ของโลก (ผ่านการจัดอันดับของ QS World University Rankings 2024 Top universities in Africa) แถมโดดเด่นในด้านการวิจัยและด้านนวัตกรรมต่างๆ เป็นอันดับต้นๆ ของทวีปแอฟริกาอีกด้วย
- บุคลากรและศิษย์เก่าได้รับ 5 รางวัลโนเบลหลากหลายสาขา
- ในแต่ละปีที่นี่จะมีนักเรียนกว่า 29,000 คน และมีนักเรียนจากต่างชาติกว่า 5,000 คนจาก 100 ประเทศทั่วโลก
ส่องไฮไลต์ชีวิตนักเรียนในรั้ว UCT
1.ห้องสมุดสุดล้ำ
ถ้าพูดถึงจุดเด่นของ University of Cape Town ก็ต้องพูดถึงห้องสมุดขนาดยักษ์ของมหาวิทยาลัยอย่าง ‘Chancellor Oppenheimer Library’ ที่มีคอลเล็กชันของหนังสือ บทความ บทวิจัย และเอกสารวิชามากมายกว่า 1 ล้านเล่มไว้นักเรียนและคนภายนอกได้มาศึกษาค้นคว้า โดยเค้ามีสาขาย่อยของห้องสมุดแยกออกไปอีก 7 แห่ง (แต่ห้องสมุดที่แคมปัสหลักมีขนาดใหญ่และมีโซนหลากหลายมากที่สุด) และที่สำคัญคือเปิดให้เข้าใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ใครจะมาอ่านหนังสือโต้รุ่งหรือนั่งทำงานก็แวะมาเช็กอินได้ตลอดเวลาเลย
2.ชมรมหลากหลาย
นอกจากจะเด่นเรื่องวิชาการแล้ว UCT เค้าก็จัดหนักจัดเต็มกับกิจกรรมนอกห้องเรียนด้วย โดยที่นี่มีมากกว่า 100+ ชมรม (Societies) มัดรวมไว้ตั้งแต่หมวดวิชาการ, ความเชื่อและศาสนา, ชาติและวัฒนธรรม, หมวดการเมือง และความสนใจเฉพาะทาง
นอกจากนี้ถ้าเป็นสายรักสุขภาพและชอบออกกำลังกาย UCT มี ‘ชมรมกีฬา’ ให้เลือกเกิน 40 ชมรม เช่น ฟุตบอล ยิงธนู รักบี้ แข่งเรือพาย ไปจนถึงศิลปะการป้องกันตัวก็มี ใครสนใจชอบอะไรก็ตามไป join เพิ่มความสนุกให้ชีวิตวัยเรียนได้เลย!
3. คลับสายชิลกลางแคมปัส
สายแฮงเอาต์ต้องรักสิ่งนี้! เพราะที่ UCT เค้ามี ‘UCT Club’ หรือชมรมที่สร้างเพื่อนักเรียนหรือบุคลากรของมหาวิทยาลัยได้เข้ามานั่งดื่ม นั่งชิล จับกลุ่มเม้าท์มอยโดยเฉพาะ เมนูอาหารต่างๆ ทั้งราคาถูก แถมยังมีบอร์ดเกมให้เล่นกันกับเพื่อนแบบจอยๆ และที่ตั้งคลับนี้ก็อยู่ใจกลามหาวิทยาลัย จึงป็นแหล่งรวมตัวกันของกลุ่มนักเรียน UCT เลยครับ
คณะที่เปิดสอน
ที่ UCT มีทั้งหมด 6 คณะ ครอบคลุมทั้งสายวิทย์ & สายศิลป์ ดังนี้
- Commerce (คณะพาณิชยศาสตร์)
- Engineering & the Built Environment (คณะวิศวกรรมศาสตร์และสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้าง)
- Health Sciences (คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ)
- Humanities (คณะมนุษยศาสตร์)
- Law (คณะนิติศาสตร์)
- Science (คณะวิทยาศาสตร์)
ค่าเล่าเรียน
ส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยในแอฟริกาใต้จะไม่ได้เก็บค่าเล่าเรียนต่อเทอมแบบตายตัว แต่จะขึ้นอยู่กับจำนวนรายวิชาที่เราเลือกลงเรียนมากกว่า ในส่วนของค่าเทอมที่ UCT นั้นจะแตกต่างกันตามสาขา หลักสูตรที่เลือกเรียน และขึ้นอยู่กับว่าเป็นนักเรียนในพื้นที่/นักเรียนต่างชาติครับ โดยเรตคร่าวๆ แบ่งตามระดับ ดังนี้
- ระดับปริญญาตรี ปีละ ZAR 100,000 ถึง ZAR 140,000 (≈ 49,7000 - 69,600 บาท)
- ระดับปริญญาโท ปีละ ZAR 60,000 ถึง ZAR 90,000 (≈ 29,800 - 44,700 บาท)
Note: อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน ZAR 1 = 2.01 บาท (10 ก.ค. 67)
การสมัครเรียน
- สมัครเรียนผ่านเว็บไซต์: http://applyonline.uct.ac.za *ต้องสมัครมาชิกก่อนจึงจะสมัครเรียนได้
- มีค่าสมัครสำหรับนักเรียนต่างชาติอยู่ที่ ZAR300 (≈ 600 บาท)
- แต่ละคณะอาจมีเกณฑ์รับเรียนแตกต่างกัน ศึกษาเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย
Note: สำหรับปีการศึกษา 2025 ต้องรออัปเดตจากทางมหาวิทยาลัยอีกทีครับ
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เรียนจบในระดับชั้นมัธยมปลาย หรือเทียบเท่า Grade 12
- ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติขั้นต่ำที่หลักสูตรกำหนด
- ต้องมีผลการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษขั้นต่ำ IELTS 6.5 Overall หรือ TOEFL 88
- นักเรียนต่างชาติทุกคนที่จะสมัครเข้าเรียนต้องผ่านการประเมินวุฒิการศึกษาที่เรียกว่า Matriculation Exemption Certificate ผ่านทาง Marticulation Board เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติการเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่แอฟริกาใต้
..........
จบกันไปแล้วครับสำหรับการแนะนำ ม.อันดับหนึ่งของแอฟริกาใต้อย่าง University of Cape Town ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจและแปลกใหม่มากๆ คนที่รักธรรมชาติและอยากเพิ่มเติมสีสันให้ชีวิตในการเรียนต่อต่างประเทศ หวังว่ามหาวิทยาลัยเคปทาวน์จะเป็นอีกตัวเลือกที่น้องๆ ให้ความสนใจกันนะครับ~
สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักที่นี่เพิ่มเติมก็สามารถคลิกเข้าไปศึกษารายละเอียดต่างๆ ได้ในเว็บไซต์และในหนังสือแนะนำของ UCT ได้เลยครับ
เว็บไซต์มหาวิทยาลัยดาวน์โหลดหนังสือชี้ชวนของ UCT
0 ความคิดเห็น