ม.6 ต้องรู้!! 5 เทคนิคลดอาการ "ตื่นเต้น" ตอนสัมภาษณ์

           สวัสดีค่ะน้อง ๆ พี่แป้ง มั่นใจเลยว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เคยผ่านการสัมภาษณ์มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สัมภาษณ์ไปเรียนต่อ สัมภาษณ์เข้าโรงเรียน หรือ สัมภาษณ์ตอนหารายได้พิเศษย่อมมีความตื่นเต้นด้วยกันทั้งนั้น และรับรองเลยว่าน้อง ๆ ทุกคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยต้องผ่านการสอบสัมภาษณ์ด้วยกันทุกคนไม่ว่าจะเป็นสอบตรง,กสพท. หรือ แอดมิชชั่นกลาง แต่จะมากน้อยเพียงใดแล้วแต่สถาบันนะคะ

           เวลาสอบข้อเขียนเนี่ยคนเรามักจะมีความตื่นเต้นเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งเพิ่งลองสอบสนามแรก ๆ แล้วยิ่งตื่นเต้น เพื่อนจากที่ไหนก็ไม่รู้มาเยอะแยะ สมัยพี่แป้งสอบครั้งแรกของ มศว ที่สนามสอบอิมแพค พี่แป้ง ยังแอบคิดในใจเลยว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันเยอะขนาดนี้เลยหรอ? ถ้า UFO ตกมานี่ประชากรหายเกือบแสนเลยนะเนี่ย แต่ว่าตอนสอบข้อเขียนก็ตื่นเต้นแค่นั้น สุดท้ายเราทำข้อสอบคนเดียว ตอนสอบคนอื่นจะหายไปหมดก้มหน้าก้มตาฝนข้อสอบต่อไป

           แต่สอบสัมภาษณ์นี่ซิ!! นอกจากในห้องสัมภาษณ์จะมีเราแต่งชุดนักเรียนคนเดียวแล้ว ยังมีสายตาดุบ้างไม่ดุบ้างจากกรรมการผู้สอบสัมภาษณ์เราอีก บางคนนี่ตื่นเต้นถึงขนาดพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว วันนี้ พี่แป้ง มีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะมาช่วยลดความตื่นเต้นเมื่อต้องสัมภาษณ์ อย่าลืมจดจำให้ดีนะคะ


 >> ฮัลโหล ซ้อม ๆ หน้ากระจกดูไหม? <<

          ก่อนที่เราจะไปสัมภาษณ์นั้น พี่แป้ง แนะนำว่าลองซ้อมก่อนเลย จำลองสถานการณ์ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเราจะต้องตอบอย่างไร เพราะในความเป็นจริงแล้วเราซ้อมแทบตายสุดท้ายประสิทธิภาพที่ได้มันจะเหลือเพียงแค่ 60-70% เท่านั้น ที่เหลือคือหายไปกับการตื่นเต้นหมดแล้ว ถ้าซ้อมไว้ก่อนจะได้ฝึกสมาธิและโอกาสที่พลาดจะลดน้อยลงค่ะ
          แต่ถ้าให้ได้ผลดีบวก ๆ เลยก็ยืมตัวคุณพ่อ คุณแม่ คุณเพื่อนมาช่วยก็ดีนะคะ ลองฝึกพวกคำถามพื้นฐานไปก่อน เช่น  แนะนำตัวเองซิ(แนะนำยังไงให้กรรมการสนใจ ไม่ต้องไปเต้นเร้งเต้นกานะ อายเขา) ชื่ออะไร เรียนที่ไหน ทำไมอยากเข้าที่นี่ เคยทำกิจกรรมอะไรบ้าง แล้วมั่นใจหรือเปล่าว่าจะเรียนจบ!! ประมาณนี้นะคะ ส่วนคำถามนอกจากนี้ก็จะเป็นประมาณว่ารู้จักสถาบันมากแค่ไหน รู้อะไรเกี่ยวกับคณะบ้าง มีความรู้แค่ไหน และก็พวกคำถามแปลก ๆ ที่เหนือความคาดหมาย อันนี้ซ้อมไม่ได้จริง ๆ ต้องตอบโดยส่วนลึกของจิตใจล้วน ๆ เลย ลองไปอ่านดู (คำถามสุดฮา)



 >> ถ้าหน้าดุมา ฉันก็ "ยิ้มสู้" ไป <<

          50% ของความตื่นเต้นตอนสัมภาษณ์คือ หน้าอาจารย์ เดี๋ยวดุ เดี๋ยวเฉย เดี๋ยวยิ้ม โอ๊ย....ตามอารมณ์ไม่ถูก บางคนถึงขนาดว่าอยู่ ๆ ก็ปวดท้องไม่รู้สาเหตุ เราสามารถลดอาการเหล่านั้นได้จากการ "ยิ้ม" คิดอะไรไม่ออกยิ้มสู้ไว้ก่อน บอกให้เขารู้ว่าเราก็มีความมั่นใจในตัวเองนะ การยิ้มสำหรับคนไทยจะทำให้อะไร ๆ ดู soft ลงได้ ไม่มากก็น้อยละนะ
          แต่ถ้าอาจารย์ถามว่า "คุณจะยิ้มทำไม ไม่ใช่เรื่องตลกนะ" ก็อย่าหุบยิ้มทันทีนะคะ เพราะมันจะแสดงว่าที่เรายิ้มไปไม่จริงใจเลย เราก็อาจจะตอบไปเบา ๆ ว่า "เปล่าเห็นเป็นเรื่องตลกนะคะ ไม่อยากให้บรรยากาศดูตึงเครียด หนูมั่นใจว่าเรียนที่นี่ไม่ใช่บรรยากาศแบบนี้แน่นอน มีแต่ความอบอุ่น เป็นกับเอง....." อะไรก็ว่าไป แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ด้วยนะคะ สิ่งที่สำคัญยังไงก็ต้องมีสติ สติมา ปัญญาเกิดค่ะ ต้องทั้งฉลาด และ เฉลียวด้วย



 >> เผลอ "หลุด" ตอนไม่พอใจ จะทำไงดี <<

          อันนี้ทั้ง ตื่นเต้น ทั้งโกรธ ไม่พอใจ ปนเปไปหมด บทสรุปคือสติสตางค์ที่มีมาหลุดหายกระจายหมด เคยมีกรณีที่เป็นแบบนี้แล้วยืนชี้หน้าด่ากรรมการว่าไม่มีสมองมาแล้วนะคะ ต้องเข้าใจพื้นฐานของการสัมภาษณ์ก่อนว่ากรรมการต้องการที่จะวัดวุฒิภาวะทางอารมณ์ ถ้าน้อง ๆ ไม่มี ก็เรียนไม่ได้ อย่างกรณีที่บอกไปถ้าเรียน ๆ ไปยืนชี้หน้าต่อว่าอาจารย์ผู้สอนว่าไม่มีสมองมาสอนได้ไง ไม่ถึงจุดจบกันทั้งคณะหรอคะ?
          เพราะฉะนั้นการที่เราแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ต้องคุมสติก่อน ถ้าอาการไม่พอใจเกิดขึ้นพยายามทำให้ใจเย็น อาจจะนับเลข นับแกะ หรืออะไรก็ได้ให้ผ่อนคลายลง โดยปกติสัมภาษณ์อย่างเดียวก็ตื่นเต้นฉี่จะราด มามีอารมณ์ไม่พอใจเสริมอีก ร้อยทั้งร้อยถ้าคุมไม่ไหวยังไงก็หลุดค่ะ ให้ท่องไว้ว่า "นี่คือการสัมภาษณ์ ไม่ใช่ชีวิตจริง เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ทำให้ดีที่สุดก็พอ" อนาคตเราอยู่ที่ขั้นนี้นะ อย่าลืม!!!


 >> กรรมการถามมา แต่แบบว่า.....ตอบไม่ได้ อย่าแถนะ!! <<

         ความตื่นเต้นทำให้เราลืมทุกสิ่งอย่าง เพราะฉะนั้นวิธีแก้ง่าย ๆ เลยก็คือบอกกรรมการไปเลยว่า "ไม่ได้ค่ะ" หรือ "ได้ครับ" เพราะว่าถ้าเราตอบไปว่าได้แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้มันจะมีคำถามตามมา อย่างพี่คนนี้โดนอ่านภาษาอังกฤษแล้วแปลด้วย(แต่ไหลมาได้จนรอด) ถ้าเราตอบว่าไม่ได้เราต้องมีเหตุผลด้วย เช่น ไม่ทราบครับ แต่ผมมั่นใจว่าถ้าผมได้เรียนที่นี่ ก่อนที่ผมจะกลายเป็นบัณฑิตของที่นี่ผมต้องหาคำตอบได้อย่างแน่นอนครับ


 >> ตื่นเต้น ๆ ให้ตายเหอะจะผ่านอารมณ์แบบนี้ไปได้อย่างไร? <<

          อย่างที่บอกไปสัมภาษณ์มันต้องตื่นเต้นแน่ ๆ อาจจะเกิดอารมณ์ว่าคิดอะไรไม่ออกแล้ว อยากเรียนที่นี่ก็อยาก อยากออกจากห้องนี้ก็อยาก ทำอย่างไรดี จะยืนไม่ไหวแล้วนะ ให้น้อง ๆ ลองนึกภาพน้อง ๆ ได้ใส่ "ชุดนิสิต/นักศึกษา" สถาบันนั้น ๆ แล้วความภูมิใจและความหึกเหิม(มาจากไหนไม่รู้)มันจะช่วยบรรเทาความตื่นเต้นลง ขอให้น้อง ๆ จำไว้ว่าโอกาสสัมภาษณ์เรามีครั้งเดียวนะคะ พลาดแล้วพลาดเลยนะ ยิ่งสอบตรงด้วยแล้วสัมภาษณ์จะอัพระดับมากกว่าแอดมิชชั่นซะอีก ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะคะ ถ้าเราภูมิใจและอยากเข้าที่นั่นจริง ๆ เราต้องทำได้



            เทคนิคง่าย ๆ ทำไม่อยากเลยใช่ไหมล่ะ? พี่แป้ง บอกแล้วว่าเป็นเคล็ดลับง่าย ๆ พี่แป้ง เคยใช้ได้ผลมาแล้วนะสมัยที่ยังเป็นนักเรียน แต่ก็รอดกลับมาได้ พื้นฐานที่สำคัญที่สุดคือต้องมั่นคงเข้าไว้ บางคนอ่อนไหวต่อความรู้สึกบวกกับความตื่นเต้นตอนสัมภาษณ์ ทำอะไรไม่ถูกอยู่ ๆ ก็ร้องไห้เลยก็มี และแน่นอนว่าคะแนสอบสัมภาษณ์ก็จะไหลตามน้ำตาไปด้วย

            การสอบสัมภาษณ์เป็นการวัดความรู้สึกทางอารมณ์ของเราถ้าเราไม่ปกติพอที่จะเรียนในคณะนั้น ๆ อาจารย์ท่านคงไม่ปล่อยเราเข้าไปเรียนแน่ ๆ ช่วงนี้สอบตรงก็มากันต่อแถวไม่ทัน อย่าลืมนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ตอนสอบสัมภาษณ์ด้วยนะคะ ใครที่ไปสอบสัมภาษณ์มาแล้ว หรือ อยากแชร์ประสบการณ์ความตื่นเต้นก็มาแชร์กันเลย เพื่อน ๆ รออยู่!!!!!




Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

19 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Hamcheese CIB Member 8 ก.ย. 55 19:47 น. 11
มีอีกเทคนิคมาฝากจ้า เป็นสิ่งที่เราทำประจำเวลาสอบสัมภาษณ์ 
ถ้าเกิดเขิน เวลาที่ต้องมองตาคนที่สอนสัมภาษณ์ ให้มองไปที่ปลายจมูกเขา
เพราะการสัมภาษณ์ ไม่ใช่จะก้มหน้าก้มตาตอบได้ ต้องมองเขาเพื่อให้เขารู้ว่าเราใส่ใจกับคำถามของคุณจริงๆนะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Destiny 11 ก.ย. 55 10:33 น. 18
ที่จะไปสอบสัมภาษณ์มันเป็นภาษาอังกฤษอ่ะค่ะ อยากขอคำแนะนำว่าเขาจะถามประมาณไหน แล้วคนที่สัมภาษณ์เราเป็นคนไทยหรือต่างชาติค่ะ? ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด