8 สิ่งที่ ม.6 ต้อง "หยุดทำ" ... เพื่อสานฝันแอดมิชชั่นให้ติด

           วัสดีค่ะ น้อง ๆ เด็กแอดมิชชั่นทุกคน ตอนนี้พอมานั่งนับ ๆ ดูแล้วเหลือเวลาอีกแค่ 7 เดือนเท่านั้นนะคะ สำหรับการเตรียมตัวเพื่อสอบ GAT PAT และนำไปเป็นคะแนนแอดมิชชั่น โดยรอบแรกจะสอบเดือนธันวาคม ส่วนรอบที่ 2 จะสอบเดือนมีนาคมปีหน้าค่ะ

           ... พี่แป้งเชื่อว่ามีน้อง ๆ จำนวนไม่น้อยเลยที่ยังไม่ได้เริ่มอ่านหนังสือ เพราะว่ามัวแต่คิดว่ายังมีเวลาเหลืออีกเยอะ น้อง ๆ ต้อง
"หยุด" เถลไถลได้แล้วนะคะ อะไรบ้างที่เด็กแอดฯจะต้องหยุดก่อนเพื่อเตรียมตัวแอดมิชชั่น พี่แป้งมีคำตอบให้ค่ะ



>> หยุดบอกว่า "ไม่มีเวลา"

           การที่เรามัวแต่พร่ำบอกตัวเองว่าเราไม่มีเวลา เอาเวลาจากไหน ไหนละเวลาอ่านหนังสือ ถ้าให้พูดตรง ๆ เลยมันก็เป็น "ข้ออ้าง" ของคนที่ขี้เกียจอ่านหนังสือนั่นเองค่ะ เหมือนกันว่าเรารู้อยู่แล้วว่ายังไงเราก็ต้องอ่านหนังสือ แต่เรากลับเอาข้ออ้างเรื่องเวลามาทำให้เราไม่อ่าน มันก็จะยิ่งเสียเวลาเข้าไปอีกนะคะ เด็กแอดฯทุกคนมีเวลาเท่ากัน ถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ ถ้าเกิดว่าน้อง ๆ ยังมองภาพเวลาของตัวเองไม่ออก พี่แป้งแนะนำว่าให้ลองนั่งลิสต์ดูว่า ใน 24 ชั่วโมงของเราเราเอาเวลาไปทำอะไรบ้าง นอนกี่ชั่วโมง อาบน้ำ กินข้าว ไปเรียน เดินทาง แล้วน้อง ๆ จะเห็นเวลาที่เหลือ ซึ่งมากพอให้อ่านหนังสือเตรียมสอบสบาย ๆ เลยค่ะ


>> หยุดคิดว่า "ฉันทำไม่ได้"

           มันเป็นความคิดแบบลบสุดขั้วเลยนะคะ กับการที่บอกตัวเองว่า "ฉันทำไม่ได้หรอก" หยุดค่ะ หยุดความคิดนี้เลยถือว่าพี่แป้งขอละกันเนาะ มันเป็นความคิดที่ทำให้เราเริ่มต้นกับอะไรไม่ได้เลยนะคะ เปลี่ยนความคิดใหม่เป็นว่า "ฉันต้องทำได้" ... พี่แป้งเคนเจอเคสน้องคนนึงที่ว่าไม่สนใจเรียนเลยจนคุณพ่อป่วยเป็นโรคหัวใจเพราะเครียดมากเกินไป น้องเขาเห็นแบบนั้นเลยพยายามมากเพื่อสอบเข้าหมอ ตอนนี้ก็ได้เรียนแพทย์สมใจไปแล้วค่ะ ถ้าเกิดน้อง ๆ มัวคิดว่าทำไม่ได้และไม่ได้ทำอะไรเลย ภาพที่น้อง ๆ ฝันไว้ว่าจะได้เรียนคณะนั้นคณะนี้มันก็ไม่มีวันเป็นจริงขึ้นมาหรอกนะคะ


>> หยุดโลก "โซเชียล" สักพัก

          โลกโซเชียลเป็นอะไรที่ดูดและสูบเวลาในการอ่านหนังสือมากมาเลยค่ะ เหมือนกับว่าถ้าได้เริ่มเข้าไปแล้วออกมายากมาก จะต้องมีสเตตัสนั้น เม้นท์กับคนนี้ เม้าท์กระทู้โน้น มันก็จะไม่รู้จักจบจักสิ้น เริ่งจาก Facebook ก็จะลามไปที่ IG Twitter BB และสื่ออื่น ๆ ไปอีก ก็ไม่จบสักที เพราะฉะนั้นหันไปมองโซเชียลทั้งหลายแล้วบอกเลยค่ะว่า ... ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพัก ... แล้วก็ใช้สื่อให้เป็นประโยชน์แทนค่ะ เข้าได้แค่เอาไว้ตามข่าวรับตรง แอดมิชชั่น การสอบอะไรก็ว่าไป เมื่อทรายข่าวแล้วก็ปิด ถ้าทำใจเก็บไม่ได้ก็เอาเครื่องมือสื่อสารฝากไว้กับคุณพ่อคุณแม่ก็ได้ค่ะ ไว้อ่านเสร็จค่อยกลับมาเข้าโซเชียลดีกว่าเนาะ


>> หยุด "เที่ยว" แบบไร้สาระ

          เที่ยวแบบไร้สาระคืออะไร คือการเที่ยวที่เราเสียเวลาเปล่า ๆ โดยไม่ได้ความสุขหรือพลังกลับมาเลยค่ะ คนเราแต่ละคนมีการหาความสุขที่แตกต่างกัน แต่ว่า!! ช่วงเวลาของการเตรียมสอบแอดมิชชั่นเหลืออีกแค่ปีเดียวเอง หยุดเที่ยวกันก่อนดีกว่ามั้ย? เอาเป็นว่าให้ตั้งใจเลยว่าถ้าเราทำได้แล้วค่อยเที่ยว ลดการเที่ยวเดินห้าง ดูหนัง โยนโบว์ ร้องเกะ กันไปก่อน อาจมีบ้าง นาน น๊านนนนนน ครั้ง เพื่อเป็นการผ่อนคลาย แต่ว่าขอให้เอาเวลามาเต็มที่กับการเตรียมตัวสอบเข้าก่อน ถ้าสอบติดแล้ว อยากเที่ยวไหนเที่ยวโลด สมัยพี่แป้งก็สอบก็งดเที่ยวเลยเหมือนกันค่ะ พอสอบติดเท่านั้นแหละ ไปตั้งกะเชียงใหม่ยันภูเก็ตเลย 555+


>> หยุดโทษ "โชคชะตา" เรื่องความเก่ง

          พี่แป้งเชื่อว่ามีน้อง ๆ จำนวนไม่น้อยเลยที่คิดว่า เราโง่ เราไม่เก่ง เราไม่ฉลาด จะไปสู้อะไรคนอื่นเขาได้ แล้วทำไมเราต้องโทษโชคชะตาที่ทำให้เกิดมาเป็นแบบนี้หล่ะคะ คนเก่งต่อให้เก่งแค่ไหนก็แพ้คนขยันนะคะ ไม่ว่าเราจะเป็นแบบไหนถ้าเราขยันพอพี่แป้งว่าอะไรก็ทำได้ค่ะ คนเราจะเก่งก็ต้องมีการฝึกฝน มีประสบการณ์เพิ่มพูนความรู้ ถ้าเรารู้ตัวว่าเราอ่านเท่าไหร่ก็ไม่จำ เราก็ต้องขยันมากกว่าเดิมเพื่อให้จำให้ได้ คอนเซปต์มันก็มีแค่นี้เองค่ะ โชตชะตา หรือจะสู้ ลิขิตตน ถ้าเกิดพลาดขึ้นมาแล้วเรามองอดีตว่าเราพยายามไม่พอ อันนั้นนี้เจ็บกว่าพยายามตอนนี้อีกนะคะ สู้ ๆ


>> หยุด "ตามเพื่อน" เพราะกลัวเรียนไม่ได้

          ไม่รอดมาหลายรายแล้วค่ะกันคนที่คิดอะไรไม่ออกก็ "ตามเพื่อน" หยุดเลยค่อขอร้อง คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน มีความชอบและความถนัดต่างกัน การที่เราบอกว่าเพื่อนไปไหนไปด้วยดีกว่าจะได้ไม่เสียเพื่อนและจะได้เรียนรอดด้วย การเรียนมหา'ลัยนั้นต่างจากม.ปลายนะคะ เนื้อหาจะเป็นแบบเฉพาะของแต่ละสาขานั้น ๆ ถ้าเราไม่ชอบฝืนใจเรียนเท่าไหร่ก็ไม่รอดค่ะ เลือกเรียนในสิ่งที่เราอยากเรียนจริง ๆ ดีกว่าค่ะ เมื่อเข้ามหา'ลัยไปก็จะได้เพื่อนที่สังคมนึง ส่วนเพื่อน ๆ ม.ปลายก็จะยังไม่หายไปไหน มีเพื่อนหลาย ๆ ระดับดีจะตาย ทั้งเพื่อนมหา'ลัย เพื่อนม.ปลาย เพื่อนประถม และยิ่งสมัยนี้มีโซเชียลไว้ติดต่อกันหลายทาง รับรองไม่ทิ้งกันแน่ค่ะ ^_^


>> หยุด "รับ" กิจกรรมทุกอย่างไว้คนเดียว

         การเรียน ม.6 แน่นอนว่ากิจกรรมส่วนใหญ่จะตกมาที่พี่ใหญ่สุดของโรงเรียนอย่าง ม.6 แน่นอน ซึ่งเราจะทำตัวเป็นแม่พระพ่อพระเพื่อรับทุกกิจกรรมมาไว้กับตัวไม่ได้นะคะ เพราะจะทำให้เราไม่มีเวลาในการเตรียมตัวสอบเลย พี่แป้งแนะนำว่าให้แบ่ง ๆ กันรับผิดชอบไปคนละกิจกรรมดีกว่าเนาะ จะได้มีเวลาในการเตรียมงาน ทำการบ้าน และก็เตรียมตัวสอบด้วย เป็นเด็กแอดฯมันเหนื่อย แต่ถ้าเราแบ่งเวลาเป็นและเลือกรับกิจกรรมที่เราไหวมันก็ไม่เหนื่อยอย่างที่คิดค่ะ ช่วงเวลาของ ม.6 เป็นช่วงเวลาที่สนุกและผูกพันกันมาก เพราะเราต้องร่วมฝ่าฟันไปด้วยกัน ทั้งเรียน ทั้งกิจกรรม ทั้งเตรียมสอบ เรียกได้ว่าครบรส



>> หยุด "โลเล" เปลี่ยนใจ ไม่มีทิศทาง

         อาการโลเลในความหมายนี้ก็คือว่า เลือกไม่ได้สักทีว่าอยากจะเรียนอะไร คณะนั้นก็อยากเรียน คณะนี้ก็ใช่ คณะโน้นก็น่าสนใจ สรุปเลยไม่มีทิศทางสักทีว่าจะไปทางไหน หยุดอาการนี้แล้วตั้งเป้าไปเลยค่ะว่าจะเข้าคณะไหน เพราะว่าถ้ายังโลเลอยู่ น้อง ๆ จะต้องอ่านหนีงสือแบบหว่านแห่มากเลยค่ะ อ่านทุกอย่างเพื่อจะได้สอบทุกอย่างที่อยากเข้า แล้วสุดท้ายมันจะไม่ได้ดีสักอย่าง เด็กแอดฯก็เป็นเด็กคนนึง ไม่ใช่เครื่องจักร อ่านหนังสือมากก็เบลอนะคะ เลือกมาสักทาง เลิกโลเล แล้วลุยไปให้เต็มที่ดีกว่าค่ะ


            ถ้าทำตามได้ครบทั้ง 8 ข้อ แต่ว่าไม่
"อ่านหนังสือ" ก็จบเหมือนกันนะคะ ก็เท่ากับว่าเราไม่ได้ทำอะไรเลย การหยุดทั้ง 8 สิ่งที่ว่าก็เพื่อที่จะให้น้อง ๆ อ่านหนังสือหรือเรียนพิเศษให้เต็มที่ ยังไงก็ ม.6 แล้ว เหลือเวลาน้อยจริง ๆ ค่ะ ส่วนน้อง ๆ เด็กแอดฯรุ่นอื่นก็เริ่มเตรียมตัวได้แล้วนะคะ เวลาและวารีไม่ยินดีจะคอยใคร เดี๋ยวอีกแป๊บเดียวก็จะวนมาถึงรุ่นตัวเอง อ่านไม่ทันนี่จบเลยนะคะ ก่อนจะไปอยากให้น้อง ๆ แชร์กันว่า "วิธีไหนที่อ่านหนังสือแล้วเจ๋งที่สุด!!" เม้นลงในคอมเมนต์ด้านล่างได้เลยค่ะ เราจะไปด้วยกันเนาะ เด็กแอดฯ 57 .....

.

Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ไอแอม'มม แรบบิท Member 28 ต.ค. 56 12:55 น. 47

วิธีอ่านให้เจ๋งง

 ตั้งใจ

1.เปิดสารบัญหรือหัวข้อเนื้อหาืี่ที่เราต้องรุ้ทั้งหมด

2.หาสมุดไม่มีเส้นหรือกระดาษหน้าเดียวเย็บเล่มวางไว้ข้างๆหนังสือ

3.หาปากกาสีสดให้ได้สีที่เยอะที่สุดเตรียมไว้

4.ถ้ายังไม่อาบน้ำ(เพิ่งกลับจากเรียน หรือ เพิ่งตื่นนอน) ให้อาบน้ำ ล้างหน้าให้เรียบร้อยก่อน เพราะจะทำำให้เราสดชื่นขึ้นมาก

5.ปิดทีวี ปิดคอม ปิดมือถือ(ตั้งระบบสั่น) ปิดเพลง 

6.เริ่มลงมืออ่านหนังสือ โดย

  - ให้อ่านแบบเปิดผ่านหน้าละ 2 วิ แล้วสมมติให้ตรงกลางหน้านั้นมีตัว X ตัวใหญ่ๆอยุ่ ทำจนหมดทุกเรื่องที่ต้องอ่าน (ใช้เวลารวมๆประมาน 3-5 นาทีก้พอ)

  - กลับมาอ่านอีกครั้งโดยเริ่มจากอ่านหัวข้อ แล้วแลกเชอร์ลงบนกระดาษไม่มีเส้นที่เตียมไว้ (อาจทำเป็นมายแมพ หรือ ช้อตโน้ตสั้นๆ พยายามเขียนตัวใหญ่ๆไว้ก่อน)

  -แนะนำว่าให้เขียนคำถามตัวใหญ่ๆไว้ตรงข้างๆแล็กเชอร์ของเรา แล้วให้ตอบคำถามนั้นหลังจากที่อ่านจบแล้ว

7.เมื่ออ่านจบแนะนำให้หลับตา แล้วนั่งทวนสิ่งที่เราอ่านว่าเป็นอย่างไร นึกเป็นภาพรวมแล้วแตกย่อยๆออกมา ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที 

**** หลังจากอ่านจบแต่ละวิชา ให้เราพักสมองโดยการเดินเล่น จิบชา โกโก้ร้อน หรือทานขนมที่เราชอบ หรือฟังเพลง ร้องเพลง เป็นการให้รางวัลตัวเองเนื่องจากทำสำเร็จแล้วสัก 15- 30 นาที อย่าอ่านวิชาต่อไปเลยโดยไม่หยุดพัก อ่านหนังสือ เพราะจะทำให้สมองเราล้าจนเกินไปจ้าาา

เยี่ยม

วิธีนี้เป็นวิธีของเราเอง... รักเลย เท่านี้ หวังว่าจะทำให้เพื่อนๆมีความสุขกับการอ่านหนังสือมากขึ้นน้ะจ้ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Blackcat~Paw Member 20 ก.ค. 56 18:51 น. 7
วิธีอ่านคือ~
1. ลิสต์รายการที่จะอ่านในวันนั้นๆ เวลา พักกี่นาที ฯลฯ(ของเราวิชาละ 3-4 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย ส่วนวิทย์ คณิต วิชาที่ยากก็ 5-7 ชั่วโมง)

2.หาของกิน ขนม น้ำบลาๆๆๆ(เอานิยาย ไอพอด โทรศัพท์ ของล่อใจต่างๆไปซ่อนหรือฝากพ่อแม่)

3.หาห้องเงียบๆ(ของเราเป็นห้องนอน)เตรียมหนังสือวิชาที่จะอ่าน(ตามลิสต์)มา กับกระดาษแล้วก็ปากกาสี เมจิก 

4.อ่านตามเวลาเลย อ่านแล้วกินพร้อมขนมเหมือนอ่านนิยายก็ได้.. พยายามอย่านอนอ่าน เดี๋ยวง่วง 

5.สรุปเนื้อหาที่จะอ่านคร่าวๆเป็นMind mapping แล้วเช็คกับในหนังสือ แก้ส่วนที่ผิด

6.อ่านทบทวนอีกรอบ



0
กำลังโหลด
MONOLIZA 20 ก.ค. 56 12:55 น. 3
วิธีที่เราอ่านหนังสือแล้วรู้สึกได้ผลที่สุด!คือ
1.นั่งอ่านบนโต๊ะคอม
2.เปิดคอมเปิดเพลงฟังคลอเบาๆ
3.หาของกินมาเตรียมไว้ไม่ให้ท้องว่าง+น้ำเย็นๆพร้อมน้ำแข็ง
4.แล้วก็ตั้งใจอ่าน อ่านให้เข้าใจไม่ใช่ท่องจำ แล้วสรุปสิ่งที่อ่านออกมา

ปล.เราอ่านแบบนี้มาตลอดแล้วรู้สึกว่ามันช่วยเราได้เยอะมาก
เพราะปกติเราอ่านแบบจริงจังแล้วสักพักจะรู้สึกง่วงนอนรู้สึกเบื่อ
แต่พอเราลองอ่านแบบสบายๆเรากลับไม่รู้สึกง่วงหรือเบื่อเลย
0
กำลังโหลด
DaniLLP 20 ก.ค. 56 15:32 น. 5
วิธีที่อ่านหนังสือดีที่สุดคือ
ก่อนอ่าน งีบสัก 30 นาที
พอตื่นขึ้นมาแล้วจะทำให้สอมงตื่นตัว ไม่ง่วงง่าย จากนั้นตั้งใจอ่านหนัง
หากระดาษมาจดส่วนที่เรารู้สึกว่า "อ๋อ!!!" อธิบายออกมาเป็นภาษาของเรา
ถ้าอ่านอันไหนยังไม่เข้าใจ เข้าไปหาคำตอบที่ Google เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่า
ไม่ได้อ่านแค่ในหนังสืออย่างเดียว แต่สำหรัยคนที่ติดคอม วันไหนไม่ได้เปิดรู้สึกจะตาย
วิธีนี้น่าจะช่วยได้ ไม่เป็นการหักดิบด้วย
0
กำลังโหลด

47 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Fray Member 20 ก.ค. 56 12:03 น. 2
วิธีอ่านหนังสือที่ดีที่สุดของเด็กสมัยนี้ .....

1. ปิดมือถือ 
2. ปิดคอม  
3. ปิดไวไฟ สามจี สี่จี หรือแม้กระทั่งฟรีอินเตอร์เน็ตก็ไม่ต้องเชื่อมต่อ!
4. ปิดทีวี


ถ้าทำได้ครบทุกอย่าง รับรองว่าอ่านหนังสือสอบได้ชิลๆค่ะ :D #โดนถีบ

ปล. แต่มันได้ผลจริงๆนะ 555+
0
กำลังโหลด
MONOLIZA 20 ก.ค. 56 12:55 น. 3
วิธีที่เราอ่านหนังสือแล้วรู้สึกได้ผลที่สุด!คือ
1.นั่งอ่านบนโต๊ะคอม
2.เปิดคอมเปิดเพลงฟังคลอเบาๆ
3.หาของกินมาเตรียมไว้ไม่ให้ท้องว่าง+น้ำเย็นๆพร้อมน้ำแข็ง
4.แล้วก็ตั้งใจอ่าน อ่านให้เข้าใจไม่ใช่ท่องจำ แล้วสรุปสิ่งที่อ่านออกมา

ปล.เราอ่านแบบนี้มาตลอดแล้วรู้สึกว่ามันช่วยเราได้เยอะมาก
เพราะปกติเราอ่านแบบจริงจังแล้วสักพักจะรู้สึกง่วงนอนรู้สึกเบื่อ
แต่พอเราลองอ่านแบบสบายๆเรากลับไม่รู้สึกง่วงหรือเบื่อเลย
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
DaniLLP 20 ก.ค. 56 15:32 น. 5
วิธีที่อ่านหนังสือดีที่สุดคือ
ก่อนอ่าน งีบสัก 30 นาที
พอตื่นขึ้นมาแล้วจะทำให้สอมงตื่นตัว ไม่ง่วงง่าย จากนั้นตั้งใจอ่านหนัง
หากระดาษมาจดส่วนที่เรารู้สึกว่า "อ๋อ!!!" อธิบายออกมาเป็นภาษาของเรา
ถ้าอ่านอันไหนยังไม่เข้าใจ เข้าไปหาคำตอบที่ Google เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่า
ไม่ได้อ่านแค่ในหนังสืออย่างเดียว แต่สำหรัยคนที่ติดคอม วันไหนไม่ได้เปิดรู้สึกจะตาย
วิธีนี้น่าจะช่วยได้ ไม่เป็นการหักดิบด้วย
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Blackcat~Paw Member 20 ก.ค. 56 18:51 น. 7
วิธีอ่านคือ~
1. ลิสต์รายการที่จะอ่านในวันนั้นๆ เวลา พักกี่นาที ฯลฯ(ของเราวิชาละ 3-4 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย ส่วนวิทย์ คณิต วิชาที่ยากก็ 5-7 ชั่วโมง)

2.หาของกิน ขนม น้ำบลาๆๆๆ(เอานิยาย ไอพอด โทรศัพท์ ของล่อใจต่างๆไปซ่อนหรือฝากพ่อแม่)

3.หาห้องเงียบๆ(ของเราเป็นห้องนอน)เตรียมหนังสือวิชาที่จะอ่าน(ตามลิสต์)มา กับกระดาษแล้วก็ปากกาสี เมจิก 

4.อ่านตามเวลาเลย อ่านแล้วกินพร้อมขนมเหมือนอ่านนิยายก็ได้.. พยายามอย่านอนอ่าน เดี๋ยวง่วง 

5.สรุปเนื้อหาที่จะอ่านคร่าวๆเป็นMind mapping แล้วเช็คกับในหนังสือ แก้ส่วนที่ผิด

6.อ่านทบทวนอีกรอบ



0
กำลังโหลด
Pandazdada Member 20 ก.ค. 56 18:56 น. 8

ขอบคุณนะค่ะพี่แป้ง
ดิฉันเป็นเด็นแอดฯ57ค่ะ
ได้รับรู้ดิฉันจะนำไปปรับใช้อย่างรวดเร็วนะค่ะ
0
กำลังโหลด
KMPS 20 ก.ค. 56 22:17 น. 9
อ่านบนโต๊ะหนังสือ
กินไปอ่านไป
กินอาหารบำรุงสมอง
เราไม่แน่ใจจะได้ผลรึป่าว แต่เราทำแล้วได้ผล
(ได้ผลดีสุดตอนช่วงใกล้สอบสำหรับเราอ่ะ)
อ่านเสร็จก่อนนอนก็เช็คเมลล์ ประมาณนั้น
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
คนตั้งใจ 20 ก.ค. 56 23:15 น. 11
วิธีอ่านหนังสือก็สไตล์ใครสไตล์มันอ่ะนะ แบบถนัดอ่านคนละแบบ แต่ของเราก็คือ
1.อ่านเสร็จทำข้อสอบ
2หาอะไรเคี้ยวอยู่ในปากจะได้ไม่ง่วงนอน เช่น อมลูกอม หรือกินผลไม้ก็ได้จะได้ไม่อ้วน
3แยกสมุดแต่ละวิชา และ สรุปแต่ละเรื่องที่เราอ่านลงสมุด
4.หาพวกแรงบันดาลใจ หรือ เรื่องที่เราไม่ได้แปะไว้บนโต๊ะ หรือ ที่ๆเราเห็น จะได้สร้างแรงบันดาลใจ และจำเรื่องที่เราไม่ได้ได้
5.อย่าเลิกล้มความตั้งใจ ต้องบอกว่าเราต้องทำให้ได้
เด็ก ม.6 สู้ๆๆ อีกแค่ไม่ถึงปี เราก็ป็นคนหนึ่งที่จะพร้อมสู้ไปกับพวกเธอ
0
กำลังโหลด
กิ่่งกาญจน์ 21 ก.ค. 56 10:51 น. 12
วิธีอ่านหนังสือให้ได้ผลของเราคือ
1.อ่านแบบผ่านๆรอบ1
2.อ่านรอบ2แบบละเอียดแล้วขีดเส้นใต้ส่วนที่สำคัญ
3.เขียนสรุปเนื้อหาที่อ่านเพราะถ้าอ่านอย่างเดียวมันจำได้ไม่นาน ถ้าเขียนสรุปด้วยก็เหมือนได้อ่านอีกรอบนึง
4.ของเราเราจะอ่านหนังสือเรียนติดต่อกันสัก 2 ชั่วโมงแล้วหยุดพักไปทำสิ่งที่อยากทำ(อ่านการ์ตูน เล่นเกม อะไรก็ว่าไป)สักแปปแล้วมาอ่านต่อเพื่อที่จะได้ไม่เบื่อเสียก่อน
5.ไม่อ่านตอนที่รู้สึกล้าเพราะมันจะจำไม่ค่อยได้ เราจะชอบตื่นมาอ่านตอนดึกๆมากเพราะมันเงียบสงบและมีสมาธิดี
ของเราก็มีเท่านี้ เราว่าจะอ่านแบบไหนก็ได้ทั้งแหละขอให้ทำข้อสอบได้กันก็พอแล้ว
ดังนั้นก็ตั้งใจอ่านกันนะทุกคน คณะที่อยากเข้ารอเราอยู่
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เนล Member 22 ก.ค. 56 14:53 น. 16
"วิธีไหนที่อ่านหนังสือแล้วเจ๋งที่สุด!!"

ตอบ ไม่ต้องเอาไรมากครับ ขอแค่เริ่มอ่านได้ก็พอ เพราะส่วนใหญ่แล้วเรามักจะคิดว่า ตอนนี้ยังไม่มีรมณ์อ่าน อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าหัว ขี้เกียจ ไว้ค่อยมีอารมณ์ก่อนค่อยอ่าน

และอีกอย่าง อ่านให้เป็นนิสัย อ่านทุกวัน เพราะสมองกินพฤติกรรมความเคยชินเป็นอาหาร
อะไรที่ทำเยอะๆ บ่อยๆ ก็จะชินไปเองไม่ต้องใช้ความพยายามมาก อ่านบ่อยๆทุกวันไม่มีข้อยกเว้น เราก็จะเสพติดการอ่านหนังสือไปโดยปริยาย :)

ส่วนเรื่องเทคนิคต่างๆ คงจะมีคนพูดมามากแล้ว ผมขอแค่นี้ละกันครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Ku-cha Member 22 ก.ค. 56 23:32 น. 18
ชอแชร์ประสบการณ์เลยละกันเพราะเพิ่งผ่าน ม.6 มาหยกๆ การอ่านหนังสือของเราก้อจะตื่นขึ้นมาอ่านตอนเช้าสุดๆเลยประมาณ 7 โมง สมองจะรับรู้ได้ดีที่สุดและก้อนั่งสมาธิด้วยนะคะ อย่าลืมข้อนี้สำคัญฝุดๆ เพราะเราจะได้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการอ่านหนังสือค่ะ
0
กำลังโหลด
papaprae Member 23 ก.ค. 56 19:57 น. 19
ในตัวหนูนะ หนูว่าการนั่งสมาธิเป็นประจำช่วยได้เยอะกับการอ่านหนังสือ มันทำให้เรามีสมาธิมากขึ้นกับการอ่านค่ะ
0
กำลังโหลด
Liquoricechy Member 24 ก.ค. 56 10:25 น. 20
ม.3 อ่านตอนหนังสือ แล้วเขียนจับใจความจากที่อ่านเลย อ่านผ่านๆ ให้พอรู้เรื่อง แล้วทำโจทย์เลย มันจะบอกเองว่าเราเข้าใจมากเท่าไหร่ ไม่เข้าใจก็ให้ไปอ่านที่เราเขียนจับใจความไว้อะ ใช้ได้จริงๆ นะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด