8 เรื่องชวน "เงิบ" ที่มาเซอร์ไพร์สบ่อยๆ ในรั้วมหาวิทยาลัย

         สวัสดีชาว Dek-D ที่น่ารักทุกคนค่ะ น้องๆ รู้จัก "อาการเงิบ" ไหมคะ "เงิบ" มีที่มาจาก "หงายเงิบ" ใช้เวลาที่เราตกอยู่ในสถานการณ์ไม่คาดคิด! เจอเรื่องน่าตกใจแบบไม่ทันตั้งตัวมาก่อน!! เงิบเบาๆ ก็แค่อ้าปากค้าง เงิบแรงๆ ก็หงายหลังขาชี้ฟ้ากันเลยทีเดียว


 
         วันนี้ "เฟรชชี่ซี้ปึ้ก" เลยขอมาแชร์บรรยากาศความเงิบของน้องๆ เฟรชชี่ให้ได้รับรู้โดยทั่วกัน เพราะนั่งๆ นอนๆ นึกดูแล้ว มีเรื่องเซอร์ไพร์สอยู่มากในชีวิตนักศึกษา บางเรื่องออกแนวฮา แต่บางเรื่องก็ฮาไม่ออก เพื่อไม่ให้เงิบซ้ำรอยจนถึงขั้นเสียน้ำตา รีบตามไปดูกันเลยดีกว่า

1. เงิบเพราะเพื่อนกลายเป็นพี่!
         "คืออะไร O_O! เพื่อนจะกลายเป็นพี่ได้ยังไง!" หยั่มมาแอ๊บใสหัวใจสี่ดวง พี่เมก้ารู้ว่าน้องๆ ก็เคยรู้เรื่องราวของพี่เนียนมาก่อน แต่ไม่คิดว่าจะเจอเข้ากับตัวเองจริงๆ ใช่ไหมล่ะ จำได้เลยว่าตอนรับน้อง เพื่อนๆ นี่เตือนกันใหญ่ว่ากลุ่มเรามีหนอน พากันพุ่งเป้าไปที่เพื่อนคนหนึ่งว่า "แกต้องเป็นรุ่นพี่แฝงตัวมาแน่ๆ" ฝ่ายเพื่อนคนนั้นก็ปฏิเสธเสียงแข็ง "ไม่ใช่ๆ เราปี 1 จริงๆ นะ" ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อเลยค่ะ ปรากฎวันเฉลยไปตกอยู่ที่เพื่อนซี้อีกคนซะงั้น เงิบ! ที่แท้พี่เนียนคือรุ่นพี่ที่หน้าเด็กมาก แฝงตัวมาอยู่ในกลุ่มจนเนียนเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ส่วนเพื่อนที่ถูกใส่ร้ายว่าเป็นพี่เนียนกลับไม่ใช่ แต่บอกเลยว่าเรื่องพี่เนียนนี้ทำคนเสียน้ำตามาเยอะแล้วนะคะ ยิ่งพี่เนียนที่ใกล้ชิดน้องมากๆ จนผูกพันงี้ น้องเศร้าเลย 

2. เงิบเพราะยกเลิกคลาส
         เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "จงทำใจให้ชิน" เพราะเจอยกเลิกคลาสบ่อยมากกก  - -'' เรื่องก็จะประมาณว่า เดินลั้นลามาถึงประตูห้องเรียนเปิดเข้าไปแล้วโล่งเชียว เจอแต่โต๊ะกับเก้าอี้ พอกริ๊งกร๊างโทรศัพท์ไปหาเพื่อน เสียงงี้ตอบมางัวเงีย "วันนี้ไม่มีเรียน อาจารย์ติดประชุมด่วน แจ้งยกเลิกคลาสตั้งแต่เมื่อคืน นี่ไม่ได้อ่านไลน์เหรอ?" เงิบกริบจนได้ยินเสียง กา กา กา เลย กรณีนี้โทษใครไม่ได้นอกจากตบหน้าตัวเองค่ะ แต่จะมีการยกเลิกคลาสอีกแบบ คือไปนั่งรออาจารย์อยู่ในห้องเรียนแล้ว ครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มา หนึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มา สรุปมีพี่เจ้าหน้าที่มาบอก "ยกเลิกคลาสนะคะ แต่เดี๋ยวอาจารย์จะนัดเรียนเพิ่ม" =*= เงิบตรงนัดเรียนเพิ่มนี่แหละ

3. เงิบเพราะลืมเอางานมาส่ง
         เฮ้อ! ทำไมเป็นเด็กขี้หลงขี้ลืมแบบนี้น้า อุตส่าห์นั่งปั่นมาตลอดคืน แต่ดันลืมหยิบงานมาส่ง TOT แล้วงานของเด็กมหา'ลัยก็ไม่ได้เหมือนเด็กมัธยมฯ ที่ลืมปุ๊บยังพอต่อรองกับคุณครูได้บ้าง เพราะถ้าไม่มีงานมาส่ง ก็อาจจะโดนหักคะแนนส่งเลท หรือถ้ามากกว่านั้น ก็คือคะแนนส่วนนี้เท่ากับ 0 ไปเลย ดังนั้น เมื่อเด็กมหา'ลัยเกิดอาการเงิบหลังจากรู้ตัวว่าลืมเอางานมาส่ง จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นสกิลปั่นฝีเท้ากลับไปเอางานนั้นทันที โชคดีที่หลายคนอยู่หอใน (แต่ส่วนใหญ่ขี้ลืมก็เป็นเด็กหอในนี่แหละ!)

4. เงิบเพราะเข้าเรียนผิดห้อง
         อันนี้ฮาๆ ค่ะ เงิบเพราะเข้าเรียนผิดห้อง - -'' สำหรับน้องๆ เฟรชชี่การเข้าเรียนผิดห้องนี่แทบจะเป็นเรื่องปกติมากในช่วงเปิดเทอมแรก เพื่อนพี่เมก้าเคยไปนั่งเรียนกับเซ็คหนึ่งนานมากกก เรียนไปเกือบชั่วโมง เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองเข้าเรียนผิดห้อง OXO! รู้ตัวช้าไปไหน!!! แต่ถ้าเรียนไปนานๆ จนคุ้นชินกับเพื่อนในห้องแล้วน้องๆ ยังเข้าห้องเรียนผิด อันนี้แทบจะเงิบในทันทีที่เปิดประตูเข้าไปเลยนะคะ ยิ่งเปิดไปผิดจังหวะช่วงที่อาจารย์กำลังบรรยายอยู่ โอ่ย! พนมมือขอโทษยังไม่พอ แทบอยากจะใช้กระเป๋าคลุมหัววิ่งออกมาเลยทีเดียว เพราะทุกคนในห้องจะพร้อมใจหันมองเราเป็นสายตาเดียวกันค่ะ! ลองนึกภาพตามถึงห้องเรียนคลาสใหญ่ ที่มีนิสิตนักศึกษาอัดแน่นเต็มคลาสประหนึ่งกองเชียร์บนอัฒจรรย์นะคะ โอ๊ย! ขุดหลุมฝังตัวเองได้ไหม

5. เงิบเพราะจำวันสอบผิด
         ถ้าน้องๆ จำวันสอบผิดแบบสอบพรุ่งนี้ แต่เข้าใจว่าสอบวันนี้ ยังไม่อันตรายเท่าคิดว่าสอบวันนี้แต่ปรากฏสอบไปตั้งแต่เมื่อวาน! เพราะการสอบของเด็กมหา'ลัย โดยเฉพาะการสอบใหญ่ๆ อย่างปลายภาค การขาดสอบถือเป็นเรื่องร้ายแรง จะมาทำเรื่องขอสอบทีหลังยุ่งยากมากค่ะ บางมหาวิทยาลัยเข้มงวดมากถึงขั้นที่ว่าจะอนุมัติให้สอบใหม่ได้ ก็ต่อเมื่อป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุร้ายแรงจนถูกส่งตัวเข้าผ่าตัดใหญ่เท่านั้น ซึ่งก็คงไม่มีน้องๆ คนไหน ลงทุนไปกระโดดตัดหน้าให้รถชนหรอกใช่มั้ยคะ มันไม่คุ้มเนอะ ทางออกคือจดจำความขี้ลืมนี้ไว้เป็นบทเรียน แล้วตั้งใจลุ้นคะแนนในคลาสให้รอด F ค่ะ

6. เงิบเพราะสอบตกแต่ไม่มีให้ซ่อม


 
         โอ่ยยย! มหา'ลัยไม่เหมือนมัธยมฯ ตรงที่สอบตกก็ซ่อมได้นะคะ ยอมรับว่าตอนเป็นเฟรชชี่ พี่เมก้าเคยสอบตก ตอนนั้นทำข้อสอบผิดหัวข้อ ตอบสลับกันหมดเลย ออกจากห้องมารู้ตัวว่าตกแน่ๆ แต่ลึกๆ ก็ยังแอบหวังไว้ว่าอาจารย์คงจะใจดีมีให้สอบแก้ตัว พอคุยกับเพื่อนแล้วเพื่อนบอกว่า "ไม่มีซ่อม" พี่นี่เงิบน้ำตาคลอไปเลย แล้วคะแนนจะเหลือเท่าไหร่เนี่ย แล้วก็จริงๆ ค่ะ ไม่มีให้ซ่อม ตกแล้วตกเลย TOT พี่เมก้ารอดมาได้ เพราะโชคดีที่ตอนนั้นเป็นการสอบกลางภาค เรายังพอฟิตคะแนนเก็บกับสอบปลายภาคได้อยู่ สุดท้ายคว้า B มาครอง ^^ น้องๆ ก็ไม่ต้องกังวลนะคะ ถ้าตกให้สู้ต่อ อ้อ! วิชาไหนยากมากๆ ก็อาจจะมีเปิดให้สอบแก้ตัวได้ ถ้าซ่อมแล้วยังไม่ผ่านอีก ก็คงต้องลงเรียนใหม่แล้วค่ะ TOT   

7. เงิบเพราะพลาดลงทะเบียน
         ปัญหายุ่งๆ ในวันลงทะเบียนเรียนแทบจะเป็นความเงิบแล้วเงิบอีกของเฟรชชี่เลยค่ะ เพราะทันทีที่เปิดระบบลงทะเบียนมา ไม่เคยทันคนอื่นเค้า ภาพเดิมๆ คือการนั่งจ้องจอคอมฯ กด Refresh รัวๆ ทั้งวัน ทุกอย่างก็ยังคงอยู่หน้าเดิม เว็บล่ม!!! มากกว่าเว็บล่มคือระบบลงทะเบียนเรียนสุ่ม ที่ไม่เคยสุ่มเจอชื่อเรา คุณพระ! นี่เป็นบุคคลตกสำรวจรึเปล่า น้องบางคนลงทะเบียนเรียนแล้วเด้งมาตลอด ตั้งแต่เป็นเฟรชชี่ ปี 1 ยัน ปี 4 เลยค่ะ ลงวิชาหลัก 8 ตัว เด้งไปแล้ว 5 ตัว เลือกวิชาอะไร ไม่เคยได้เรียนตามที่อยากเรียน TOT เสียใจมาก นางพญานกอยู่ตรงนี้ ยิ่งประกอบกับเข้าระบบไม่ได้ เพราะเว็บล่มอีก ก็ยิ่งรู้สึกแย่นะคะ ในใจนี่อยากจะถามคนที่เข้าระบบไปจองที่นั่งได้คนแรกๆ เลยว่า "ห้อยหลวงพ่อวัดไหน?" โลกนี้ไม่ยุติธรรม แง~~~

8. เงิบเพราะเจอธรรมเนียมแปลกๆ
         ธรรมเนียมแปลกๆ ที่พี่เมก้าว่านี้ เป็นสิ่งที่เฟรชชี่จะได้เจอตลอดระยะเวลาของการรับน้องค่ะ อาจจะเป็นการให้น้องๆ ร่วมกิจกรรม แล้วทำตามที่รุ่นพี่บอก ซึ่งบางทีธรรมเนียมนั้นก็อาจจะทำให้เรางงๆ ได้ในช่วงแรก เช่น ปี 1 ต้องห้อยป้ายชื่อติดตัวไปทุกที่ ตลอดเวลาที่อยู่ในมหา'ลัย ทั้งวันเรียน วันไม่มีเรียน ออกนอกมหา'ลัยค่อยถอดป้ายออกได้ - -'' หรือ ปี 1 ต้องเข้าไปแนะนำตัว พร้อมล่าลายเซ็นรุ่นพี่ให้ครบทุกรายชื่อ แรกๆ ก็มีงงมีเงิบเป็นธรรมดา แต่หลังๆ ก็เริ่มเข้าใจค่ะว่า พี่ๆ คงอยากจะจำชื่อน้องคณะได้เร็วๆ แล้วก็อยากพูดคุยทำความรู้จักกับน้องๆ อย่างใกล้ชิดสนิทสนมนั่นเอง

         ทั้งหมดนี้ก็เป็น "8 เรื่องเงิบๆ ที่เข้ามาเซอร์ไพร์สเราในช่วงเฟรชชี่" ที่พี่เมก้านำมาฝากน้องๆ นะคะ เรื่องเข้าห้องเรียนผิดห้อง หรือเจอยกเลิกคลาสนี่ บางคนยังฮากริบได้ แต่อย่างเรื่องงานเรื่องสอบเป็นประเด็นที่น่าปวดใจมากค่ะ ไม่อยากให้น้องๆ มาเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ดังนั้น อย่าประมาทเด็ดขาดนะคะ พลาดทีนี่เรื่องใหญ่ เฟรชชี่คนไหนเจอเรื่องเงิบๆ อีก แวะมาแบ่งปันกันได้เน่อออ 
Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

MysteriousofGirl1221 Member 21 ก.พ. 60 20:31 น. 1

ถ้าจบจากโรงเรียนนานาชาติ แล้วยังเรียนมหาลัยที่ไทยต้องเรียนของนานาชาติใช่ไหมคะ? กิจกรรมกับการเรียนแตกต่างจากของไทยหมดเลยใช่ไหมคะ?

พึ่งอยู่ม.ต้น ยังงงกับชีวิตอยู่เลยค่ะ TwT

1
Magunetto Member 12 มี.ค. 60 02:00 น. 1-1

คิดว่าไม่จำเป็นจะต้องต่อมหาลัยนานาชาติก็ได้ค่ะ ยังมีบางคนที่จบออกมาจากรร.นานาชาติแล้วสอบเข้ามหาลัยทั่วๆไป

0
กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

MysteriousofGirl1221 Member 21 ก.พ. 60 20:31 น. 1

ถ้าจบจากโรงเรียนนานาชาติ แล้วยังเรียนมหาลัยที่ไทยต้องเรียนของนานาชาติใช่ไหมคะ? กิจกรรมกับการเรียนแตกต่างจากของไทยหมดเลยใช่ไหมคะ?

พึ่งอยู่ม.ต้น ยังงงกับชีวิตอยู่เลยค่ะ TwT

1
Magunetto Member 12 มี.ค. 60 02:00 น. 1-1

คิดว่าไม่จำเป็นจะต้องต่อมหาลัยนานาชาติก็ได้ค่ะ ยังมีบางคนที่จบออกมาจากรร.นานาชาติแล้วสอบเข้ามหาลัยทั่วๆไป

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด