หลังจากประกาศผลคะแนน A-Level แล้ว ตอนนี้น้องๆ ทุกคนก็จะมีคะแนนครบทุกวิชาอยู่ในมือ และเตรียมพร้อมสำหรับการสมัครในรอบ Admission ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้
แน่นอนว่าผลคะแนนรายวิชาในแต่ละปีนั้นมีขึ้นและลงเป็นปกติ แต่จะดูยังไงว่าคะแนน Admission ปีนี้จะไปในทิศทางไหน และเคยได้ยินว่าคะแนนฝืด/เฟ้อ มันคืออะไร จะมีผลยังไงกับคะแนน Admission มาทำความเข้าใจกันค่ะ
รวมให้แล้ว! สถิติคะแนน TGAT/TPAT A-Level 67 เทียบย้อนหลัง ดูยังไงว่าคะแนนฝืดหรือเฟ้อ
ในทุกๆ ปี น้องๆ คงจะได้ยินว่า ปีนี้คะแนนเฟ้อ ปีนี้คะแนนฝืด ซึ่ง 2 คำนี้มักจะพูดถึงหลังจากรู้คะแนนครบทุกตัวแล้ว โดยดูภาพรวมของคะแนนว่าขึ้นหรือลงมากน้อยแค่ไหน
- คะแนนฝืด คือ คะแนนในปีนั้นมีแนวโน้มที่จะลดลง (หรือลดลงมาก) เช่น จากเดิมคะแนนต่ำสุดอยู่ที่ 50 คะแนน ปีนี้อาจลดลงไปเหลือ 45 เป็นต้น
- คะแนนเฟ้อ คือ คะแนนในปีนั้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นสูง(ถึงสูงมาก) เช่น จากเดิมคะแนนต่ำสุดอยู่ 50 คะแนน ปีนี้อาจพุ่งไปที่ 55+ คะแนน เป็นต้น
สาเหตุที่ทำให้คะแนนฝืดหรือเฟ้อ ก็มาจากคะแนนสอบวิชาต่างๆ ที่นำมารวมกัน
ยกตัวอย่างเช่น ปีนี้มี 3 วิชาที่คะแนนลดลงเยอะ และคณะ A ใช้คะแนน 3 วิชานี้ด้วย แปลว่าคณะ A มีแนวโน้มที่คะแนนจะฝืดเพราะใช้ 3 วิชาที่คะแนนลดลงเป็นเกณฑ์คัดเลือก
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าทุกคณะจะฝืดตามทั้งหมด เพราะแต่ละคณะใช้เกณฑ์ไม่เหมือนกัน เช่น คณะ B ใช้ 1 วิชาที่คะแนนลด + 2 วิชาที่คะแนนเพิ่ม เมื่อนำมาคำนวณแล้ว แนวโน้มคะแนนแอดมิชชั่นก็อาจจะไม่ได้ลดลงก็ได้
นอกจากนี้ปัจจัยที่จะทำให้คะแนนแอดมิชชั่น ฝืดหรือเฟ้อ ยังมีอีกหลายปัจจัย เช่น จำนวนที่นั่งลดลง (ก็ทำให้คะแนนสูงขึ้น) หรือ จำนวนที่นั่งรับเพิ่มขึ้น (อาจช่วยให้คะแนนลดลงได้)
สถิติคะแนน A-Level และ TGAT/TPAT เทียบปี 67 - 66
สถิติ A-Level 67
สถิติ A-Level 66
สถิติ TGAT/TPAT 67
สถิติ TGAT/TPAT 66
**การวิเคราะห์แนวโน้มคะแนน จะต้องดูค่าเฉลี่ยควบคู่ไปกับช่วงคะแนน และปัจจัยอื่นๆ เช่น จำนวนรับ การเปลี่ยนเกณฑ์ แต่บทความนี้จะอธิบายแบบง่ายๆ ก่อน โดยดูเฉพาะค่าเฉลี่ยของวิชานั้นๆ
สำหรับ TCAS67 ผลคะแนนมีดังนี้
วิชาที่คะแนนลดลง
- กลุ่ม TGAT/TPAT ได้แก่ TPAT2 ศิลปกรรม, TPAT3 วิทยาฯ-วิศวะฯ, TPAT4 สถาปัตย์, TPAT5 ครุศาสตร์
- กลุ่ม A-Level ได้แก่ คณิตศาสตร์ 2, ฟิสิกส์, สังคมฯ, ภาษาอังกฤษ, เยอรมัน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, บาลี, สเปน
วิชาที่คะแนนเพิ่มขึ้น
- กลุ่ม TGAT/TPAT ได้แก่ TGAT ความถนัดทั่วไป
- กลุ่ม A-Level ได้แก่ คณิตศาสตร์ 1, วิทย์ประยุกต์, เคมี, ชีววิทยา, ภาษาไทย, ฝรั่งเศส, จีน
วิธีการคาดการณ์คร่าวๆ
1. ดูเกณฑ์คณะที่อยากเข้าว่าใช้เกณฑ์วิชาอะไรบ้าง
2. ดูคะแนนนั้นว่าคะแนนเพิ่มหรือลดลงจากปีก่อน ดูให้ครบทุกวิชา
3. ดูภาพรวมคร่าวๆ เช่น หากมีวิชาที่คะแนนลดลงจากปีก่อนหลายวิชา ก็มีแนวโน้มที่คะแนนคณะนั้นอาจลดลงได้ (ลดลงมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนคู่แข่งที่จะเลือกคณะเดียวกันด้วย) แต่ถ้ามีวิชาที่คะแนนเพิ่มขึ้นเยอะกว่าวิชาที่คะแนนลดลง แนวโน้มคะแนนคณะนั้นอาจจะเพิ่มขึ้นหรือใกล้เคียงกับปีก่อนๆ
คาดการณ์ภาพรวม
- คณะที่ใช้ TGAT วิชาเดียว มีแนวโน้มคะแนนเฟ้อขึ้นเยอะ แม้คะแนนเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่จำนวนคนทำได้คะแนน 50 คะแนนขึ้นไปมีเยอะขึ้นกว่าปีที่แล้วมากทีเดียว ส่วนคณะที่ใช้ TGAT กับวิชาอื่นๆ จะต้องดูว่าคะแนนวิชานั้นเพิ่มขึ้นหรือน้อยลงมากแค่ไหน
- คณะที่มีค่าน้ำหนัก TPAT3 สูง มีแนวโน้มคะแนนลง (แต่ถ้าจับคู่กับ TGAT อาจจะไม่เปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย)
- คณะที่ใช้วิชาคณิตศาสตร์ 2 มีแนวโน้มคะแนนลงเยอะ
- คณะที่ใช้ภาษาอังกฤษ มีแนวโน้มคะแนนลงเยอะ แต่ปกติแล้ว ภาษาอังกฤษใช้หลายคณะแต่จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 10-30% ก็ต้องดูต่อว่าวิชาที่เหลือเป็นวิชาอะไร
นี่เป็นวิธีการคาดการณ์คะแนนแอดมิชชั่นแต่ละคณะด้วยตัวเอง จะได้รู้ว่าคณะที่เราอยากเข้านั้นมีโอกาสเฟ้อหรือฝืดหรือไม่ ซึ่งถ้าเข้าใจในหลักการ ก็จะได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นได้ด้วยค่ะ เพราะหลายครั้งมักจะมีน้องๆ เข้าใจว่า ถ้าคะแนนเราไม่ถึงคะแนนต่ำสุดปีที่แล้วจะสอบไม่ติด ทั้งที่ความจริงปีนี้มีแนวโน้มคะแนนลดลง ต่อให้ได้คะแนนน้อยกว่าปีก่อนก็ยังมีโอกาสสอบติดได้อยู่
เอาล่ะ มาถึงตรงนี้แล้ว ขอให้น้องๆ ที่อ่านเรื่องนี้จบ สามารถเลือกคณะที่อยากเรียนและคาดการณ์แนวโน้มคะแนนได้อย่างถูกต้องนะคะ ส่วนใครที่รอดูแนวโน้มคะแนนคณะต่างๆ รอติดตามที่เว็บ Dek-D ได้เลย^^
0 ความคิดเห็น