สวัสดีค่ะ เมื่อวันก่อน ทปอ.สรุปยอดผู้สมัครแอดมิชชั่นปีนี้มาแล้ว พบว่ามีผู้สมัครสูงกว่าหลายปีที่ผ่านมา โดยยอดสมัครทั้งหมด 132,004 คน นับเป็น 80.97% ของจำนวนที่นั่งที่รับได้จากทุกมหาวิทยาลัย
หลังจากการสมัคร น้องๆ ก็จะตื่นเต้นอยู่กับการรอผลแอดมิชชั่น แต่บางคนอาจรู้ล่วงหน้าแล้วว่าคณะของตัวเองนั้นมีสอบสัมภาษณ์ด้วย คงอยากรู้กันใช่มั้ยคะว่า การสัมภาษณ์รอบแอดมิชชั่น จะเหมือนหรือแตกต่างจากรอบอื่นยังไง และจะมีตกสัมภาษณ์หรือไม่ ไปดูกันค่ะ
สอบสัมภาษณ์รอบ Admission เป็นยังไง มีตกสัมภาษณ์หรือไม่?
การเช็กว่ามหาวิทยาลัยตัวเองมีสอบสัมภาษณ์หรือไม่ สามารถดูจากกำหนดการของมหาวิทยาลัย หรือในวันประกาศผล อาจจะมีข้อมูลการสอบสัมภาษณ์แนบท้ายผลคณะที่สอบติด หากไม่แน่ใจ สอบถามโดยตรงที่มหาวิทยาลัยได้เลยค่ะ
สอบสัมภาษณ์ที่ไหน
ปัจจุบันการสอบสัมภาษณ์ มี 2 แบบ ทั้งที่มหาวิทยาลัยและแบบออนไลน์ ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย ตรวจสอบรายละเอียดได้จากผลประกาศการคัดเลือก
สัมภาษณ์มีคะแนนหรือไม่
ปกติรอบนี้ ไม่ใช่การสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือก ดังนั้นสัมภาษณ์จะมีแค่ผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่มีคะแนน และไม่มีการคัดออกเหมือนรอบอื่นๆ เพราะรับมาเท่าจำนวนรับ ไม่ได้รับเกินจำนวนค่ะ
ไม่ไปสัมภาษณ์ได้มั้ย
ไม่ได้ค่ะ ถึงจะไม่มีการให้คะแนนสัมภาษณ์ แต่ก็ยังเป็นส่วนนึงของขั้นตอนการคัดเลือก หากไม่ไปสัมภาษณ์ มหาวิทยาลัยอาจจะมองว่า เราไม่ต้องการใช้สิทธิ์ที่จะเรียนที่นั่น อาจตัดรายชื่อของน้องก่อนส่งไปให้ ทปอ.
มีตกสัมภาษณ์มั้ย
พี่ๆ มักจะย้ำเสมอว่ารอบแอดมิชชั่น การสัมภาษณ์ไม่ใช่การคัดออก ดังนั้น ถ้าไม่ได้ตกคุณสมบัติที่ร้ายแรงมาก เช่น มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน หรือมีปัญหาทางจิตเวช ก็ไม่มีทางตกสัมภาษณ์แน่นอนค่ะ
อีกกรณีนึงที่น่าสนใจ เช่น ไม่ได้เรียนตามแผนการเรียนที่กำหนด หรือ คะแนนไม่ผ่านขั้นต่ำตามคุณสมบัติ (แต่ระบบ ทปอ.กรองแล้ว น่าจะไม่มีการหลุดเข้ามา) น้ำหนัก/ส่วนสูงไม่ผ่าน ฯลฯ ก็มีโอกาสที่จะถูกปรับตกได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่ผ่านค่ะ
นอกเหนือจากนี้ ก็น่าจะผ่านสัมภาษณ์ได้ทั้งหมดแน่นอน
ถามอะไรบ้าง
รอบนี้ไม่มีการคัดออก คำถามจึงไม่ได้วัดความรู้อะไรมาก เป็นการพูดคุยทำความรู้จักทั่วไป ดังนั้นคำถามก็จะกลางๆ ทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง เช่น ทำไมเลือกสาขานี้ บ้านอยู่ไหน อยากทำอะไรในมหาวิทยาลัย จะอยู่หอมั้ย อยากทำงานอะไร งานอดิเรก คืออะไร เป็นต้น
แนะนำให้ทำตัวสบายๆ ไม่ต้องกดดันค่ะ ที่สำคัญอยากรู้อะไร ถามอาจารย์เพิ่มได้เลย
ต้องเอาอะไรไปบ้าง
สิ่งที่ต้องพกเป็นพื้นฐาน คือ เอกสารต่างๆ ได้แก่ ใบสมัคร เอกสารแสดงตนต่างๆ เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาผลการเรียน รูปถ่าย และพกความมั่นใจไปเยอะๆ ค่ะ!
ต้องทำพอร์ตฟอลิโอไปมั้ย
ถ้าคณะไม่ได้ระบุให้เอาไปก็ไม่ต้องเอาไปค่ะ เพราะไม่มีผลอะไรในการคัดเลือกแล้ว แต่ถ้าระบุว่าใช้ก็ต้องเอาไปด้วยนะคะ
สำหรับน้องๆ ที่ไม่มั่นใจ กลัวไม่มีเรื่องคุยกับอาจารย์ก็สามารถเอาพอร์ตไปเพื่อให้อาจารย์รู้จักเรามากขึ้น หรือชวนคุยผ่านพอร์ตฟอลิโอของเราก็ได้เช่นกันค่ะ
รู้ได้ยังไงว่าผ่าน/ไม่ผ่านสัมภาษณ์
หลังการสัมภาษณ์ มหาวิทยาลัยจะส่งรายชื่อกลับมาที่ ทปอ. เพื่อให้ ทปอ. ประกาศผลอีกครั้งในวันที่ 6 มิ.ย.67 ซึ่งสามารถดูได้ในระบบ mytcas และอาจตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของคณะ/มหาวิทยาลัยด้วย
ถ้าไม่มีสัมภาษณ์ ต้องทำอะไรต่อ
หลังประกาศผลรวมถึงขั้นตอนการยืนยันสิทธิ์ทุกอย่างแล้ว ถ้าไม่มีสอบสัมภาษณ์ ก็สามารถเตรียมตัวเข้าไปเป็นนิสิต/นักศึกษาได้เลย เช่น เช็กเรื่องการส่งเอกสาร/หลักฐานให้มหาวิทยาลัย ทำเรื่องเช่าหอ ซื้อเครื่องแบบ ศึกษาวิธีการเดินทาง เป็นต้น และอย่าลืมเช็กขั้นตอนการขึ้นทะเบียนนักศึกษาด้วยนะ
ใครที่ไม่มีสอบสัมภาษณ์ พี่มิ้นท์ก็ดีใจด้วย เพราะลดขั้นตอนความกดดันลงไปได้หนึ่งอย่าง แต่ถ้าใครมีสอบสัมภาษณ์ ก็ไม่่ต้องกังวล มันไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องเครียดขนาดนั้น ให้มองว่าเป็นข้อดีก็ได้ ที่เราจะได้ไปเห็นบรรยากาศคณะ มหาวิทยาลัยของจริง ได้เจอเพื่อนๆ และยังได้เจออาจารย์ที่เราต้องเรียนกับเขาด้วย เราแค่เตรียมตัวไปให้พร้อม พกความมั่นใจไปเยอะ มันจะเป็นวันที่ดีอย่างแน่นอนค่ะ^^
อ่านเรื่องก่อนหน้า
อ่านเรื่องต่อไป
2 ความคิดเห็น
เห็นใจเด็ก ๆ ยุคนีี้มาก ๆ เลยครับ กว่าจะได้เรียนมหาวิทยาลัย สอบเหนื่อยเหลือเกิน
สมัยพี่ เอหรือว่าต้องเรียกว่าลุงแล้วซินะ สอบ Entrance อย่างเดียว
สอบครั้งเดียว เสร็จแล้วรู้เลยว่าได้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ก็มีทางเลือก 3 ทาง
สอบใหม่ปีหน้า, ไปเรียนเอกชน หรือไปเรียนมหาวิทยาลัยเปิด
สอบตกสัมภาษณ์รอบ3 ไปรอบ 4 ได้ไหมครับ