วงออร์เคสตราสมัครเล่นสุดป่วนแห่งเมืองเล็กๆ กำลังเตรียมตัวสำหรับการแสดงครั้งสำคัญประจำปี พวกเขาตั้งใจจะบรรเลงเพลงคลาสสิกชื่อดัง แต่ด้วยความ "สามารถ" อันโดดเด่นของสมาชิกแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายทฤษฎี ป้าเมโลดี้ พี่ฮาร์โมนี่ และน้องริทึ่ม การฝึกซ้อมแต่ละครั้งจึงกลายเป็นสงครามประสาทขนาดย่อมๆ ที่เต็มไปด้วยความเข้าใจผิด มุกตลกหน้าตาย และสถานการณ์สุดอลเวง

ณ โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ “นนท์” เด็กชายวัย 15 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.3 เป็นนักเรียนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ไม่เก่งวิชาการเท่าเพื่อนคนอื่น แต่เขามีความสามารถพิเศษที่ไม่ธรรมดา... เขารักการซ่อมแซมของใช้ที่เสียหาย บทที่ 1: หลอดไฟที่ไม่ยอมติด วันหนึ่ง ห้องเรียนของนนท์มีปัญหาเรื่องหลอดไฟกระพริบไม่หยุด ครูประจำวิชา “งานอาชีพ” จึงถือโอกาสใช้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนกลางชั้นเรียน “ใครอยากลองซ่อมหลอดไฟนี้บ้าง?” ครูถาม เพื่อนๆ หลายคนหลบตา แต่นนท์ยกมือขึ้นช้าๆ พร้อมเสียงหัวใจที่เต้นแรง “ครูครับ ผมขอลองครับ” นนท์ใช้ความรู้พื้นฐานที่เขาเรียนจากวิชางานช่าง ปิดเบรกเกอร์ ตรวจสอบสายไฟ ใช้ไขควงวัดไฟ และในไม่กี่นาที... แสงสว่างก็กลับมาอีกครั้ง เพื่อนๆ ปรบมือให้เขา ครูยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ บทที่ 2: จุดเริ่มต้นของเส้นทาง หลังเหตุการณ์นั้น ครูได้แนะนำให้นนท์ลองสมัครเข้าอบรมในโครงการ “ช่างน้อยพัฒนาอาชีพ” ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนเยาวชนให้เรียนรู้วิชาช่างเพื่ออนาคต นนท์เริ่มเรียนรู้การเดินสายไฟ การติดตั้งปลั๊กไฟ การบัดกรีวงจรไฟฟ้า และแม้กระทั่งงานประปาเล็กๆ เขาเริ่มรู้สึกว่ามีเส้นทางหนึ่งที่เขาอยากเดินอย่างจริงจัง

ในห้องเรียนประวัติศาสตร์สากลที่แสนจะน่าเบื่อของ ครูวิไล ผู้รักสงครามโลกพอ ๆ กับรักการแจกงาน กลุ่มนักเรียนสุดเพี้ยนอย่าง บอย เด็กสายเนียน, ฝ้าย เด็กสาวผู้เชื่อว่าตัวเองคือฟาโรห์กลับชาติมาเกิด และ แม็กซ์ เด็กเนิร์ดผู้ครอบครองหนังสือประวัติศาสตร์แบบลับเฉพาะ—ได้บังเอิญใช้ "เครื่องย้อนเวลาฉบับงบประหยัด" ย้อนกลับไปยุคสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง! แทนที่จะได้เรียนแบบสงบ ๆ พวกเขากลับไปสร้างความวุ่นวายแบบป่วนจักรวาล ทั้งสอนทหารเต้น Cover เพลงเกาหลี เปลี่ยนสูตรอาหารในค่ายทหาร และเกือบทำให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อพวกเขากลับมายังปัจจุบัน พวกเขากลับพบว่า... โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!?

"พรมแดนแห่งแสงและเงา" ในโลกที่เวทมนต์และเทคโนโลยีเคยอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล อาณาจักร เอเธเรีย เป็นนครแห่งการค้นคว้า ที่นี่นักเวทและนักวิทยาศาสตร์ร่วมมือกันสร้าง "คริสตัลอินฟินิตา"—แหล่งพลังงานที่เชื่อมต่อมนตรากับกลไกจักรกลแต่เมื่อหลายสิบปีผ่านไป เทคโนโลยีเริ่มเปลี่ยนแปลงและก้าวล้ำ อาณาจักรต่าง ๆ เริ่มละทิ้งเวทมนต์ หันมาใช้เครื่องจักรแทน ภูตพรายและอัศวินเวทมนต์ถูกลืมเลือนไปทีละน้อย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้ เอลริค—เด็กหนุ่มที่เกิดในยุคที่แทบไม่มีเวทมนต์เหลืออยู่ ได้ค้นพบความลับที่ซ่อนอยู่ใต้เมือง มันคือ “ประตูแห่งพรมแดน”—ประตูที่เชื่อมต่อระหว่าง นครแห่งแสง และ นครแห่งเงานครแห่งแสงเป็นที่รวมของเทคโนโลยีล้ำยุค ทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องจักรอัจฉริยะและพลังงานสังเคราะห์ นครแห่งเงาเป็นดินแดนของเวทมนต์โบราณ ที่นั่นเหล่าผู้ควบคุมมนตราและสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติยังคงดำรงอยู่ เมื่อสองนครนี้เคยเป็นหนึ่งเดียว พลังของคริสตัลอินฟินิตาจึงมีเสถียรภาพ แต่เมื่อถูกแยกออก ความสมดุลของโลกเริ่มสั่นคลอน การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วทำให้พลังเวทมนต์อ่อนลง และหากพลังของเงาและแสงไม่กลับมาเชื่อมกัน ทุกสิ่งอาจสูญสิ้น เอลริค