สวัสดีจ้า น้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน
แบบว่า เริ่มต้น Writer of the Month ของเดือนเมษายน พี่ตินคงไม่ต้องพูดอะไรมากใช่ไหม...
แค่ชื่อก็การันตีถึงผลงาน และทุกอย่างของเขาได้แล้ว... ^_________^
ดร. ป๊อบ นักเขียนหนุ่มน้อยสุดฮ้อตแห่งเว็บเด็กดีของเรา
ผู้เคยสร้างชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตกมาจากหนังสือแฟนตาซีขายดี ไวท์โรด... ของเขา
วันนี้ เมื่อเขากลับมาพร้อมผลงานใหม่ล่าสุด กับ เดอะ ไวท์โรด
ก็แล้วเราจะพลาดได้อย่างไร แน่นอนว่าต้องอัพเดทเรื่องของเขาให้ทุกคนได้รู้อยู่แล้ว... จริงไหม
พี่ติน : สวัสดีน้องป๊อบ ยินดีที่ได้เจอคนดังนะจ๊ะ แนะนำตัวกันก่อน
ดร. ป๊อบ : ป๊อบ ฐาวรา สิริพิพัฒน์ นามปากกาว่า Dr.Pop อายุ 24 ปี
จบการศึกษาปริญญาตรี ABAC บริหาร สาขาโฆษณาด้วยทุนศตวรรษโภช
จบการศึกษามัธยมจากสามเสนวิทยาลัย
มีสีประจำตัวคือขาว ดำ แดง ชอบเล่นเกมส์ ดูหนัง กินสตรอว์เบอร์รี่
เกลียดช็อกโกแลต กลัวอยู่สองอย่างในชีวิต คางคก และสิว
พี่ติน : ขอฟังชีวิตตอนนี้ของด็อกเตอร์ป๊อบหน่อย ทำอะไรอยู่บ้างจ๊ะ
ดร. ป๊อบ : หลังจากเรียนจบป๊อบก็บอกที่บ้านว่าจะพักเรื่องเรียนยาวเลย เพราะมีงานที่อยากทำมาก
อย่างแรกก็คือการลุยงานหนังสือแบบเป็นจริงเป็นจัง ลองทำเอง จ้างทีมงาน
กำหนดทิศทางของมันเองทุกอย่าง ซึ่งก็มีผลงานออกมาแล้วสามเล่มคือ
The White Road Generation I III ลองผิดลองถูกจนมาลงตัวกับสองเล่มที่เพิ่งออกเนี่ยแหละครับ
อีกงานที่ตะลุยเต็มที่คืองานเพลง เป็นความฝันตั้งแต่มัธยม
ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ กว่าที่ป๊อบจะเข้าใจกลไลการทำเพลงได้ระดับหนึ่ง
อาศัยการฝึกฝนทุกวันไม่หยุดหย่อน วันนี้มันกำลังจะเป็นจริง ป๊อบทำเพลงไป 60 เพลง
ต้องคัดเหลือ 12 เพลงสำหรับอัลบั้มแรก รู้อะไรไหม อัลบั้มยังไม่เสร็จ
ป๊อบก็เดินหน้าทำอัลบั้มสองต่อเลย แบบว่าไฟแรง 555 ตอนนี้ทุ่มเวลาให้การซ้อมเต้น
การฝึกร้อง การเข้าห้องอัด การโปรดิวซ์งาน เป็นอะไรที่สนุกมากๆ ครับ
แล้วก็จะมีงานเขียนเรื่อง Girls & A Doll ที่จะออกในเวลาไล่เลี่ยกัน งานนั้นเป็นงานแนวทางใหม่ของป๊อบ
สำหรับคนอื่นป๊อบไม่รู้ แต่ป๊อบไม่เคยเขียนแนวนี้มาก่อน เป็นไซไฟ ตลกร้าย ระทึกขวัญ
ไม่มีกลิ่นอายของแฟนตาซีเหลืออยู่อีกต่อไป มันเป็นแนวที่ป๊อบค้นพบตัวเองในที่สุด
เขียนก็สนุกกับมัน แล้วอาจจะมีการทัวร์เพื่อไปโปรโมตงานตามโรงเรียนต่างๆ ด้วย
เหมือนที่ไวท์โรดเคยทำมา ตลอดเก้าปี ไม่เคยหยุดเดินทางเลย
คราวนี้คงจะมี Girls & A Doll เข้ามาเสริม เป็นผลงานที่ออกกับนานมีบุ๊คส์ครับผม
วันนึง 24 ชั่วโมงก็หมดไปกับงานเนี่ย 16 ชั่วโมงครับผม ^O^
พี่ติน : โห ทำอะไรเยอะมากๆ เลย แล้วมีใครเป็นกำลังใจในชีวิตไหม งานหนักแบบนี้น่ะ
ดร. ป๊อบ : ครอบครัวจะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตป๊อบมากขึ้นเยอะเลยครับหลังจากเรียนจบ
เพราะคราวนี้เราลุยงานกันเต็มที่ ป๊อบมีคุณแม่จุรีรัตน์ สิริพิพัฒน์ เป็นผู้จัดการส่วนตัวคอยรับงาน
ส่วนน้องสาวก็กำลังเรียนอยู่ที่ธรรมศาสตร์ปี 3 คณะศิลปกรรม ชื่อปิ๊ง ฐิตาภา สิริพิพัฒน์
คุณพ่อสุรเชษฐ์ สิริพิพัฒน์ก็มาเป็นหนึ่งในทีมผลิตหนังสือครับ ค่อยดูแลหลายอย่างเหมือนกัน
เรียกว่าอุตสาหกรรมในครอบครัว 555 แต่เราก็มีธุรกิจส่วนตัวที่ดำเนินมาตลอดอยู่แล้วครับ
งานหนังสือถือเป็นงานรองครับผม ครอบครัวจะใกล้ชิดป๊อบเสมอ เราคุยกันทุกเรื่องโดยเฉพาะป๊อบกับคุณแม่
ตัวติดกันมากๆ จะเป็นกำลังใจด่านแรกๆ ของป๊อบ มีไม่กี่คนที่ป๊อบจะกล้าร้องไห้ด้วย
แม่จะเป็นหนึ่งในนั้นครับ แต่ตอนนี้ไม่ขี้แงแล้วนะ 555 ตอนเด็กๆ ขี้แงน่าดู
พี่ติน : เล่าเรื่องตัวเองหน่อย เป็นคนนิสัยอย่างไรบ้าง พูดแบบในแง่ที่มองจากข้างนอกอะ
คือว่าถ้าเป็นเพื่อนคนหนึ่งของดร. ป๊อป จะคิดว่าเค้าเป็นคนยังไง แบบไหนเหรอ
ดร. ป๊อบ : ป๊อบเป็นคนแรง 555 แรงในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าไม่มีมารยาท
ไม่มีกาละเทศะ ป๊อบอ่อนน้อมถ่อมตนกับผู้ใหญ่มากๆ ครับ
เพราะป๊อบก็ไม่ชอบให้ใครมาลามปามป๊อบเหมือนกัน เรื่องนั้นป๊อบถือ เพียงแต่คำว่าแรงของป๊อบ
คือการที่ป๊อบสามารถทำอะไรก็ได้อย่างที่ต้องการ ถ้ามัน
1. ไม่ทำป๊อบเดือดร้อน
2. ไม่ทำใครเดือดร้อน
3. ไม่ผิดกฏหมาย
ป๊อบจะไม่เคยลังเลเลยที่จะทำ และจะทำด้วยความมั่นใจถึงที่สุดด้วย
นั่นเพราะป๊อบมีความเชื่อในสิ่งที่ทำ ความเชื่อคือพลังที่ผลักดันให้ป๊อบไปข้างหน้าต่อไป
ป๊อบไม่เคยหมดความเชื่อในตัวเอง ป๊อบเป็นพวกทะเยอะทะยาน และชอบที่จะไปสู่จุดที่สูงขึ้นไปขึ้นเรื่อยๆ
เพื่อเจอความท้าทายใหม่ๆ เป็นรักความโดดเด่น ชอบเป็นจุดสนใจอะไรประมาณนั้น
แต่ก็ฟังคนรอบกายบ้างไรบ้างว่าเรามีข้อไม่ดีตรงไหนก็ปรับปรุงกันไป
ป๊อบเป็นศิลปินอีโก้สูงนะครับ แต่ถ้าผิดจะยอมรับผิด และฟังเหตุผลเหมือนกัน
ป๊อบเป็นคนเปิดใจมากๆ ครับ ใครไม่รู้จักป๊อบก็อาจจะไม่เห็นข้อนั้นของป๊อบ
หลายคนคงมองว่ามันจะแรงไปไหน อะไรมันจะร่าเริง สดใส ไฮเปอร์ บ้าบอคอแตกขนาดนั้น 555
แบบว่าอยู่ไม่สุข ป๊อบสมาธิสั้น คิดหลายๆ อย่างพร้อมกัน สนใจหลายเรื่องพร้อมกัน
แต่จัดลำดับความสำคัญออกนะครับว่าจะทำอะไรก่อนอะไรหลัง
ถ้าเป็นเรื่องงาน ป๊อบเป็นคนให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของงานมากๆ
ทีมงานป๊อบจะปวดหัวกับการทำงานของป๊อบที่สุด เพราะป๊อบติดนิสัยว่าทุกอย่างถ้าเป็นงาน
มันต้องออกมาอย่างที่ป๊อบต้องการ ไม่ได้ต้องได้ แก้จนกว่ามันจะถูกจุดที่ป๊อบชอบ
หลายครั้งสงสารคนทำงานด้วย เพราะเราจุกจิก นี่คือสาเหตุที่ป๊อบศึกษาการทำเพลงเองซะเลย
เพราะเราแก้กี่ล้านรอบก็ได้ ไม่ต้องรบกวนใคร เป็นคนที่ทำอะไรด้วยตัวเองประมาณนั้น
แต่ขณะเดียวกันก็ยินดีเชื่อคนที่มีความรู้ความสามารถมากกว่าครับผม
เพราะป๊อบถือว่าป๊อบไม่ได้รู้อะไรทุกอย่าง แต่ถ้าเรื่องไหนป๊อบรู้จริง ก็ต้องฟังป๊อบ 555
พี่ติน : สิ่งที่ดร. ป๊อป ชอบมากๆ ชอบทำสุดๆ ตอนนี้คือ
ดร. ป๊อบ : งานครับ รักงานมาก รักงานจนแม่ห่วงว่าจะไม่ได้แต่งงาน
เอาไงดีล่ะ ป๊อบอยู่แต่กับงานอ่ะครับ ตื่นเช้ามาทำงาน ซ้อมเต้น ร้องเพลง ดึกๆ กลับมาแต่งหนังสือ
แต่งเพลง นอน วัฏจักรมันมีอยู่แค่เนี่ยอ่ะครับ จะว่างบ้างก็ไปเที่ยวดูหนังกับเพื่อนๆ
ป๊อบติดสยามสุดๆ ตั้งแต่มอสี่แล้ว พี่ๆ ที่โบนันซ่าจะจำป๊อบได้ เขาเห็นป๊อบตั้งแต่หัวเกรียนๆ
จนปัจจุบัน (ยังทรงเดิมอยู่) เหมือนเป็นญาติกันเลย 555 ตอนนี้จะติดแต่งเพลง ร้องเพลง
ซ้อมเต้น ทุกอย่างเกี่ยวกับเพลงครับ เพราะว่าป๊อบทุ่มสุดๆ
พี่ติน : จุดเริ่มต้นของการเขียนเรื่องคือ จับผลัดจับผลูมาจากอะไร
ดร. ป๊อบ : เกิดจากไอ้ความอยากเด่นเนี่ยแหละครับ 555 แบบว่าเพื่อนๆ มีทั้งพวกนักกีฬา
พวกนักดนตรี พวกหน้าตาดี เรามันหน้าตาแย่ๆ ผอมๆ สู้ใครไม่ได้แต่อยากดังกับเขาบ้างอ่ะ
ทำไงๆ มันก็เริ่มจากงานเขียนเนี่ยแหละครับ ป๊อบมีโครงเรื่องหนึ่งที่แต่งตั้งแต่ตอนมอสาม
ก็เอามาเขียนให้เพื่อนอ่านๆ เพื่อนชอบก็ให้อาจารย์อ่าน รุ่นน้องอ่าน ไปๆ มาๆ
เฮ้ย เด็กๆ ในสามเสนอ่านเยอะเชียวแหละ ดีใจๆ ตอนนั้นไม่ได้คิดอยากจะเป็นนักเขียนเลยคิด
คิดแค่ว่าอยากจะมีผลงานอะไรให้คนเห็นว่าเรามีตัวตนบ้าง แต่พอมันไปได้ในโรงเรียน
เพื่อนที่ชื่อออม ก็ใจดีเอาลงเว็บ stlyteen.com/pop ให้ นั่นน่ะจุดเปลี่ยนเลยนะ
แล้วก็มีคนอ่านคนหนึ่งที่โหลดเรื่องไปอ่านระหว่างทางขึ้นรถไฟไปเชียงใหม่ เขาแนะนำเว็บไซต์เด็กดีให้ป๊อบ
นั่นแหละครับ จุดเริ่มที่ได้รู้จักเด็กดีดอทคอม ติดต่อพี่โน้ตเลย ใจเต้นตึกๆ จะรับไหมหว่า
แต่พี่โน้ตก็ใจดีครับ ตอบรับในเวลาไม่นาน
พูดได้ว่าพี่โน้ตเป็นผู้ค้นพบไวท์โรดกับดร. ป๊อบก็ไม่ผิดครับผม
พี่ติน : แล้วตอนนั้นคิดพล็อตอย่างไรบ้างจ๊ะ ถึงได้ดังถล่มทลายขนาดนี้
ดร. ป๊อบ : เดิมเลยวางพล๊อตตั้งแต่มอสาม แต่เป็นการ์ตูนครับผม วางไว้สี่ภาค
กะว่าภาคใหญ่ๆ ตอนนั้นป๊อบอยากจะมีการ์ตูนของตัวเองแบบนั้น (ไม่ได้ดูความสามารถตัวเองเลย 555)
เลยแต่งไวท์โรดขึ้นมา วางไว้ว่าภาคแรกเริ่มต้น ภาคสองปริศนา ภาคสามรุ่นลูกหลาน
ภาคสี่รุ่นลูกตอนโตอะไรแบบนั้น แต่งจริงจังเลยนะ แบบว่าวาดภาพจริงจังอ่ะครับ
กะพิมพ์จริงๆ เป็นความฝันแบบเด็กๆ ครับผม เขียนเป็นปีๆ อ่ะติดๆ กันทุกวัน
แต่พอขึ้นมอสี่ เวลาน้อยลง เรียนวิทย์ (ดัดจริตมากๆ ) เซ็ง เครียด มากๆ อะไรมันจะยากอย่างนี้
ก็เลยหยุดเขียนไป จนมามอห้าก็เขียนใหม่ และกลายเป็นไวท์โรดอย่างที่เห็นเนี่ยแหละครับ
ซึ่งโครงเรื่องเก่าก็ถูกดัดแปลงตลอด ป๊อบเป็นพวกไม่ยึดติด เห็นอะไรดีกว่าป๊อบทิ้งอันเก่าเลย
อย่างไวท์โรดที่ล่าสุดเนี่ย ป๊อบตัดทิ้งไปตั้งเกือบสองร้อยหน้าเพราะไม่ชอบ ก็เขียนใหม่
ไม่เสียดาย รู้สึกว่าอะไรที่มันจะทำให้งานดีได้ ก็ต้องทำครับผม
พี่ติน : ถ้าพูดถึงนามปากกา ดร. ป๊อป มันสำคัญอย่างไร
ดร. ป๊อบ : สำคัญตรงที่คุณแม่ตั้งให้อ่ะครับ เพราะตอนนั้นจะเอานิยายลงเด็กดี
แม่ถามว่าจะใช้นามแฝงอะไร ป๊อบก็บอกว่าป๊อบ แม่เขาก็ย้อนว่าป๊อบมันโหลนะ (อ้าวแล้วตั้งชื่อเรา 555)
ถ้าจะเป็นนามแฝงต้องโดดเด่น ด้วยความที่แม่เป็นผู้บริหาร คิดได้ทันใจ ดร.ป๊อบแล้วกัน
ตอนแรกฟังแล้วไม่ชอบครับ รู้สึกแก่ๆ แม่ก็บอกลองเหอะๆ ก็เอาๆ ปรากฏว่าเวิร์ค
จุ๊บแม่ไปหนึ่งที เป็นนามแฝงที่เยี่ยมมากๆ ตอนนั้นสิ่งที่อยากให้คนนึกถึงคือภาพของชายแก่ๆ งั่กๆ
ผู้เจนจัดเรื่องการเขียนนิยาย แหงซิ ด็อกเตอร์นี่เนอะ ต้องดูกร้านโลกนิดนึง
ซึ่งก็ได้ผลนะครับ แฟนคลับยุคแรกๆ เนี่ยเด็กๆ เยอะ วัยทำงานเพียบ
ตอนนั้นยังมี ICQ (เด็กรุ่นนี้งง) มันก็จะโอ๊ะโอ่ๆ มาแต่อะไรแนวนี้ คุยเรื่องหนังสือบ้าง
เรื่องพวกนี้บ้าง คนก็คิดว่าเราแก่ตลอด พอเปิดตัวปุ๊บว่า 17 คนก็ช็อค
พี่ติน : ไหนขอฟังเรื่องของหนังสือเล่มใหม่หน่อยซิ ได้ข่าวว่าจะออกสองเล่มเลยเหรอ
ดร. ป๊อบ : เป็นตอนจบที่สมบูรณ์ที่สุดที่ป๊อบจะสามารถทำให้ได้สำหรับไวท์โรด
คุณจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของมัน ทั้งกับตัวละคร และเนื้อเรื่อง
เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของปริศนาจะถูกเฉลย มีความหักมุมหลายตลบที่คุณคาดไม่ถึง
มีความเป็นดราม่าที่ตรึงใจ ที่สำคัญที่สุดตอนจบประทับใจมาก
ป๊อบมั่นใจว่าตอนจบจะทำให้ใครหลายคนน้ำตาไหล เพราะตัวป๊อบเองร้องไห้ตั้งสองชั่วโมง (บ้ามากๆ)
มันคุ้มค่ากับการติดตามมาตลอดเก้าปี้ ในที่สุดวันนี้ภาคหลักของตัวละครหลักก็จบลงอย่างสมบูณณ์แบบ
และมันจะติดตรึงในใจคุณไปตลอดกาล ป๊อบเชื่ออย่างนั้นครับ
พี่ติน : พูดเรื่องการทำหนังสือเองให้ฟังนิดนึงซิ อยากรู้จัง
ดร. ป๊อบ : ตั้งแต่หมดสัญญากับสยามอินเตอร์ฯ ป๊อบก็คุยกับแม่ว่าน่าจะทำเองดูบ้าง
เพราะอยากจะกำหนดทิศทางของหนังสือเอง ซึ่งก็ต้องขอบคุณสยามฯที่ให้โอกาสเราได้ลองทำอะไรเอง
ตอนนี้ก็คือไม่มีสำนักพิมพ์ แต่มีทีมงาน P Production ที่สมบูรณ์แบบทุกอย่างทั้งฝ่ายพิสูจน์อักษร
ฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดการเรื่องคิวงาน ผู้จัดการ (คุณแม่ของป๊อบ) ฝ่ายศิลปะ
และอีกมากมายหลายหลาก ทุกคนเก่งมากๆ และก็ทำงานกับป๊อบได้ตรงตามความต้องการครับผม
พี่ติน : อยากให้พูดถึงแนวหนังสือที่ตัวเองเขียน แฟนตาซี? คิดอย่างไรกับแนวการเขียนแบบนี้
มันมีจุดเด่นจุดด้อยตรงไหน เพราะจะว่าไป น้องป๊อบก็เท่ากับเป็นผู้บุกเบิกด้านนี้เลยนะ
ดร. ป๊อบ : แฟนตาซีเด่นที่สุดตรงความอิสระของจินตนาการครับผม คุณจะทำอะไรก็ได้
คิดอะไรก็ได้ไม่ต้องมีเหตุผลรองรับครับ มันจะมีความสดใหม่ แปลกใหม่ตลอดเวลา
ไม่มีคำว่าถูกผิดทั้งนั้น นี่คือจุดเด่นของมัน จุดด้อยอาจจะเป็นตรงที่บางทีวางโครงเรื่องใหญ่ไปจนกู่ไม่กลับ
หรือว่าจบไม่ได้ ถ้าจะทำต้องมั่นใจว่ารู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้วตั้งแต่ต้นจนจบ ไวท์โรดทำอย่างนั้น
หลายคนอาจจะมองว่ามันมากมาย นั่นคือความตั้งใจ เพียงแต่อาจจะมีช่วงภาคสองเล่มแรกๆ ที่ป๊อบเสียศูนย์ไปบ้าง
ชีวิตมันเปลี่ยนแปลงหลายอย่างงงๆ โก่งโก๊ง เลยพลาดไปหลายจุด แต่ไม่ต้องห่วงครับ
ป๊อบจะกลับมารีไรท์มันใหม่ใน The
10ปี Dr.Pop 10 ปี ไวท์โรด ครับผม
พี่ติน : กว่าจะมาเป็นหนังสือสองเล่มนี้ ต้องใช้แรงบันดาลใจอะไรบ้าง
เนื้อเรื่องต่างๆ คิดมาจากอะไร สร้างพล็อตอย่างไร ยากไหม ใช้เวลาในการเขียนนานแค่ไหน
ดร. ป๊อบ : มันเป็นเนื้อเรื่องที่คิดต่อยอดมาตอลดเวลา เรียกได้ว่าตอนนี้แทบไม่มีคำว่า แรงบันดาลใจ แล้ว
ทุกอย่างเป็นการกรั่นกรองออกมาจากสไตล์ของป๊อบล้วน มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่ไปเหมือนกับใคร
การสร้างพล็อตวุ่นวายมาก เพราะปริศนาเยอะ ตั้งแต่ภาคสามมา ตัวละครจะเด่นทุกตัว
ทุกตัวมีบทของมัน มีเรื่องราวของเอง ป๊อบต้องแต่งเลยว่าแต่ละตัวจะมีเรื่องราวยังไง ส่งผลกระทบถึงอะไรกัน
จากนั้นค่อยซอยแบ่งเป็นตอนย่อยๆ นี่คือจุดเด่นของไวท์โรดภาคสามตั้งแต่เล่มแรก
ป๊อบให้ความสำคัญกับทุกตัวละครหมด เพราะชีวิตจริงไม่มีใครเป็นพระเอก
ทุกคนเป็นพระเอกในชีวิตตัวเองกันทั้งนั้น แต่ก็จะเน้นการใช้คำว่า ผม หรือ ฉัน
กับตัวละครหลักๆ ในเรื่องแยกกันไป ต้องบอกว่าการสร้างไวท์โรดสองเล่มนี้หนักหนาสาหัสมาก
เขียนตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงตีห้า งานเพลงที่จะออกต้องพักไปเลยโดยปริยาย
เพราะป๊อบอยากจะทำให้งานนี้มันให้สุดโต่งไปเลย มาเจอป๊อบตอนนั้นจะตกใจ หนวดเฟิ้ม
สิวเขรอะสารพัด 555 ป๊อบจะเขียนเรื่องเป็นหัวข้อๆ แล้วติ๊กเมื่อมันผ่านไปๆ แต่ก็นั่นแหละ
ทุกครั้งจะมีโครงเรื่องใหม่ๆ ก็แทรกเสริมเติมแต่งเข้าไป แก้กันเป็นร้อยๆ รอบกว่าจะได้ออกมา
ใช้เวลาเขียนทั้งหมด 6 เดือนด้วยกัน แต่จะมีสามเดือนหลังที่เขียนแทบทั้งวันครับ
พี่ติน : ตอนนี้หนังสือแฟนตาซีเยอะมากๆๆๆ คิดว่าเรื่องของเรามีจุดแข็ง และจุดเด่นที่ตรงไหนที่คิดว่าเพื่อนๆ จะชอบ
ดร. ป๊อบ : ไวท์โรดมีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว มีผู้ติดตามอยู่มาก อันนี้อาจจะเป็นจุดเด่นหนึ่ง
อีกจุดคือความที่เนื้อเรื่องหลักจากภาคแรกมันมีเอกลักษณ์มีความโดดเด่นชัดเจน
โดยเฉพาะในภาคสามที่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านภาษาของป๊อบนั้น ไวท์โรดเหมือนเด็กเกิดใหม่
ที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ การดำเนินเรื่องไม่ซ้ำใครป๊อบมั่นใจ
มีภาษาที่เป็นลายเซ็นต์ของป๊อบ คือตลกบ้างไรบ้าง ฉากแอคชั่นก็ยังหวือหวาอลังการ
แต่ความที่ป๊อบโตขึ้น จึงมีฉากความเป็นดราม่าผสมอยู่เยอะ จุดแข็งสุดท้ายน่าจะเป็นตัวละครของไวท์โรด
ที่มีเอกลักษณ์สีสันต่างกันไป เชื่อไหมล่ะ ว่ามีเว็บบอร์ดเฉพาะของรีเมียสกับเฟริสด้วย
เด็กๆ ชอบกันมาก (มากกว่าพระเอกพอลเสียอีก 555) แต่ละตัวมันมีความน่าติดตามของมันนะครับ
ตอนนี้คนกำลังลุ้นว่าใครจะคู่ใคร ในเล่มเนี่ยแหละได้รู้กันครับผม
พี่ติน : พูดกับคนที่อ่านเรื่องของตัวเอง อยากบอกอะไรพวกเขาบ้างไหม
ดร. ป๊อบ : ป๊อบอยากบอกว่าขอบคุณที่อยู่เคียงข้างป๊อบมาตลอดเก้าปี
จากเด็กผู้ชายธรรมดาที่ไม่ได้เป็นอะไรซักอย่าง ป๊อบก็กลายเป็นคนที่เป็นอะไรซักอย่าง
ไวท์โรดจะกลายเป็นหนังสือที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้หากขาดคนอ่านที่น่ารัก คนที่เป็นกำลังใจให้ป๊อบตลอดเวลา
มันอาจไม่ยิ่งใหญ่ในสายตาใคร แต่ถ้าเพียงอันยิ่งใหญ่ในสายตาของคนจำนวนหนึ่งที่รักผลงานเรา
แค่นั้นป๊อบก็สุขใจแล้วครับ พวกคุณคือพลังสำคัญในชีวิตป๊อบ ขอบคุณมากที่เกิดมาเพื่อป๊อบครับผม
ขอบคุณจริงๆ คุณคือสิ่งที่ทำให้ป๊อบเดินหน้าต่อไปครับ
พี่ติน : แนะนำน้องๆ ที่อยากเขียนเรื่องบ้าง อยากบอกว่าอะไร
ดร. ป๊อบ : อยากเขียน เขียนเลย ถ้ากลัว อย่าเขียน เขียนไปเถอะครับ
เรื่องภาษาไม่ต้องห่วง ไม่มีใครเก่งตั้งแต่แรก ป๊อบก็หัดมาเกือบสิบปีกว่าจะค้นพบแนวทางตัวเองได้
เนื้อเรื่องคิดให้แปลกใหม่อย่าซ้ำใคร ถ้าเขียนๆ อยู่แล้วตันก็เลิกเขียนซะ เลิกไปเลย
แล้วไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง คุยกับเพื่อน มันจะมาเองครับ อย่าคาดคั้น กดดันตัวเอง
มันไม่ได้หรอกครับ งานเขียนเป็นศิลปะ ต้องมาคู่กับอารมณ์เสมอ มีอารมณ์เขียนก็เขียน
ไม่มีอารมณ์ก็ช่างครับ อย่าเครียดๆ
พี่ติน : อนาคตของตัวเอง อยากทำอะไรต่ออีกไหม
ดร. ป๊อบ : ต้องเป็นนักร้องให้ได้ครับ เพราะอยากทำมาตั้งแต่เด็ก เหมือนเกิดมาก็อยากเป็นแล้ว
มันเป็นอาชีพที่ป๊อบขวนขวายนะ จากร้องเพลงไม่เป็นเลยอ่ะ จนเรียนๆ ปัจจุบันก็ร้องได้ ไม่ได้ดีมาก
แต่มีความตั้งใจสูง เล่นดนตรีไม่เป็นครับ แต่ฝึกจนโปรดิวซ์งานเพลงเองได้ รักมาก
จริงๆ หวังแต่งเลย - นอกจากนี้ก็มีงานคลีเอทีฟโฆษณาครับผม มีงานภาพยนตร์ที่ได้รับการติดต่อมาแล้ว
มีงานเขียนบทภาพยนตร์ที่อยากทำ อยากกำกับหนังด้วย วงการบันเทิงอยากทำหมดครับ ชอบๆ อิอิ
พี่ติน : คิดว่าถ้าไวท์โรดได้ทำเป็นละคร ซีรี่ส์ หรือหนัง อยากให้ตัวละครออกมาแนวไหน
ใครเล่นเป็นตัวไหนบ้าง มีภาพในใจไว้หรือยัง...
ดร. ป๊อบ :: เพิ่งต้องมาเริ่มคิดเมื่อไม่นานมานี้ด้วยเหตุผลบางอย่างที่บอกไม่ได้ 555 คิดไว้ว่า
(แค่คิดนะ จินตนาการเป็นห้วง บุ๋งๆ ฝันแบบเพ้อๆ หน่อย ไม่คำนึงถึงความจริง)
จูเลีย อยากได้ประมาณนางเอกเรื่อง Devil Wears Prada ป๊อบชอบมาก ตาโตๆ น่ารักๆ
รีเมียส จะใกล้เคียงที่สุดคือแบรนดอน ซูปเปอร์แมนคนล่าสุดตอนใส่แว่น
พอล น่าจะไปทางเจสซี่ แมคคาร์ทนี่ หรือแซค เอฟฟรอนก็ได้
เจอร์รี่ น่าจะประมาณแอชลีย์ ทิสดอล
อเล็กซ์ ป๊อบคิดถึงคนบุคลิคประมาณคริส บราวน์ แต่ต้องผิวขาว
โนอาร์ อยากได้ประมาณชัค แบสจาก Gossip Girls นั่นน่ะ
ตรงใจที่สุด ใช้ที่สุด เห็นแล้วหน้าโนอาร์โผล่ขึ้นมาทันทีทันใด
เฟริสนี่มันหล่อเทพเกิน ป๊อบยังจินตนาการถึงใครเลยไม่ได้
คีตาร์ อยากได้นางแบบผมสั้นๆ แอ๊คเนส หรือเปล่าไม่แน่ใจ ที่กำลังดังๆ สุดๆ ตอนนี้เท่ห์มากๆ
โทนี่ยังไม่ได้คิด แต่มิไลกาต้องเป็นลิอาร์ ดิซอนได้จะดีมากกกกกกก สวยสะเทือนใจจริงๆ
(ตื่นป๊อบตื่น)
พี่ติน : น้องป๊อปเป็นนักเขียนคนแรกๆ ของเว็บเด็กดีเลยทีเดียว ในฐานะที่อยู่ในวงการมานาน
คิดว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงกับตัวเราเองบ้าง ลองเล่าหน่อย จากหนังสือเล่มแรกจนเล่มนี้ พัฒนาการเป็นอย่างไรบ้าง
ดร. ป๊อบ : นมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ครับผม เพราะป๊อบจะเป็นพวกไม่ชอบหยุดนิ่งอย่างที่บอก
ป๊อบจะสรรหาอะไรมาเพื่อพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ป๊อบอยากให้คนอ่านเห็นว่างานป๊อบไม่ย่ำนะ
เพราะป๊อบก็ไม่ชอบคนที่ย่ำอยู่กับที่เช่นกัน ดังนั้นป๊อบจะหาสิ่งใส่ตัวตลอด อ่านหนังสือมากขึ้น นั่นก็ช่วยได้
เราจะมีวัตถุดิบของภาษา ของแนวคิดครับ จนภาคนี้ภาษาที่ใช้ก็ต่างจากเล่มแรกมากๆ
หลายคนคิดว่าป๊อบวันนี้กับวันนั้นมันคนเดียวกันหรือเปล่าก็จากภาษาที่เปลี่ยนไป
ซึ่งก็ต้องขอบคุณคำวิจารณ์ (เฉพาะที่สร้างสรรค์) ซึ่งทำให้ป๊อบมีวันนี้ได้ ถ้าไม่คำวิจารณ์เหล่านั้น
ป๊อบก็คงไม่รู้จักตัวเองหรอกครับ ดีมากๆ เลยที่ช่วยกันติเพื่อให้งานของป๊อบได้ไปไกลเรื่อยๆ
ต้องขอบคุณอย่างสูงครับผม
ถ้าวัดความเปลี่ยนกับตัวเองนอกจากงานเขียนก็คงจะเป็นว่าความคิดมีระบบมากขึ้นครับ
รู้สึกได้เลยว่าคิดอะไรเป็นช๊อตๆ ได้ง่ายมาก แล้วก็จินตนาการพลุ้งพล่านกว่าเดิมครับ เวอร์มากๆ 555
แต่กลายเป็นคนที่เซ็นซ์ซิทีฟมากขึ้น จริงๆ นะ ไม่ใช่กับชีวิต แต่จะกลายเป็นคนที่อินกับงานศิลปะ
ฟังเพลง ดูหนัง อ่านนิยายแล้วร้องไห้อ่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกัน
มันเหมือนเราทำงานตรงนี้นานจนใจเราถูกกล่อมเกลาอ่ะครับ โดนเฉพาะเขียนหนังสือ
เดี๋ยวนี้ป๊อบจะมีเพลงป๊อบตัวเลยนะ ว่าฉากเศร้าป๊อบจะเปิดเพลงนี้
Robert Say Good Buy จากเรื่อง Enchanted ฉากปิดเรื่องของตัวละบทป๊อบจะเปิดเพลงบรรเลง
ชื่อเพลงอะไรก็ไม่รู้ แต่ฟังดูหดหู่ดี ส่วนฉากไหนซึ้งๆ แบบบรรยายเรื่อยๆ ป๊อบจะเป็น
Arith Theme จาก Final Fantasy 7 อ่ะครับ มันสร้างบรรยากาศได้มากๆ ป๊อบจะอินแบบปล่อยใจเลยอ่ะ
หลุดไปเลย ตอนนี้แค่ได้ยินเพลง Robert Say Good bye ก็เหมือนจะสะเทือนใจขึ้นมาดื้อๆ แล้วอ่ะครับ
พี่ติน : ความรู้สึกที่ได้รับเลือกเป็น Book of the Month จากทีมงานเด็กดี
ดร. ป๊อบ : ดีใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่คิดว่าจะได้รับโอกาสอันดีนี้
เพราะไวท์โรดเกิดได้ก็เพราะเด็กดี อยู่คู่กับเด็กดีมาเก้าปีเต็ม วันนี้เมื่อมันจบภาคหลักแล้วได้ขึ้น BOTM
ป๊อบก็บอกแม่ใหญ่เลยว่า ได้แล้วแม่ สำเร็จแล้ว จะได้มีธีมไวท์โรดในเว็บแล้วนะ
แม่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรหรอกครับ 555 ต้องอธิบายกว่าแม่จะเข้าใจว่ามันยิ่งใหญ่ อิอิ
อดใจเก็บความลับกับแฟนคลับตั้งนานแน่ะ ตื่นเต้น เป็นเกียรติ และขอบคุณทีมงานจากใจจริงครับผม
พี่ติน : หนังสือออกพร้อมกันสองเล่มแบบนี้ คิดว่าจะมีความพิเศษอย่างไรบ้าง คาดหวังอะไรบ้างไหม
ดร. ป๊อบ : คาดหวังว่า
1 มันจะถูกใจผู้อ่านที่รอมาหนึ่งปีเต็มๆ ครับ
2. มันจะเป็นตอนจบที่ตรึงใจคนอ่านไปตลอดกาล
3 คนอ่านจะชอบรูปเล่มของมัน โดยเฉพาะปก ป๊อบว่าสวยนะ ไม่รู้ใครคิดไง อิอิ
สุดท้าย หวังว่ามันจะสิ่งที่คนอ่านรอคอยสำหรับนวนิยายเรื่องหนึ่งที่เดินทางมานานแสนนาน
เดอะไวท์โรดมันมีความพิเศษในตัวมันสำหรับผู้อ่านอยู่แล้ว แต่ละคนตีความคำว่าพิเศษต่างกัน
แต่สำหรับป๊อบมันเป็นเหมือนเพื่อน เป็นคนหัวใจ เป็นเหมือนวิญญาณ ป๊อบใจหายนะ
ตอนที่ต้องเขียนให้จบ แต่อีกใจก็คิดว่าเนี่ยแหละสิ่งที่อยากทำมาตลอดเก้าปี เป็นอย่างที่ต้องการ
สวยงามได้ดั่งใจ ป๊อบร้องไห้ (อีกและ น่าเบื่อ) ตอนเห็นหนังสือนะ
มันเหมือนกับว่า เออว่ะ เสร็จแล้วว่ะ ประมาณนั้นครับ
พี่ติน : คิดยังไงกับอาชีพการเขียนหนังสือ สำหรับป๊อปแล้ว มันเป็นอาชีพที่มีความแตกต่างจากอาชีพอื่นอย่างไร
มันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อย่างไร ทำไมเราจึงหลงใหลอยากทำ
ดร. ป๊อบ : มันเป็นอาชีพที่ต้องขวนขวายสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
ท้าทายที่ว่าคุณจะสามารถแข่งกันสร้างจินตนาการได้แค่ไหน มันเป็นงานที่สื่อกับคนโดยจิตใจ
คนที่ติดตามไวท์โรดไม่ชอบที่ตัวป๊อบ แต่ชอบในสิ่งที่ป๊อบถ่ายทอดออกมา
เราแตกต่างจากศิลปินตรงที่ว่าเขาไม่ได้ติดเราที่หน้าตา แต่ติดเราที่ข้อความซึ่งสื่อถึงใจ
มันลึกซึ้ง มีค่า มีความหมาย และจดจำไปนานเลยนะครับผม มันเหมือนกับการที่เราสร้างโลกใบหนึ่งขึ้นมา
เราเล่นบทเป็นพระเจ้าของโลกใบนั้น แล้วเราก็ชักชวนคนที่มีความฝันเดียวกันมาอยู่ในโลกเดียวกัน
สนุกไปด้วยกัน เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปกับเรา มันมีความสุขอ่ะ สุขมากๆ อย่างมากที่สุดด้วย
อธิบายไม่ถูก เนี่ยแหละครับสิ่งที่ทำให้ป๊อบหลงใหล
พี่ติน : สิ่งสำคัญของคนเขียนเรื่อง ที่ต้องมีเลยในความรู้สึกของป๊อปคือ...
ดร. ป๊อบ : 1. ความตั้งใจ มากๆ มากถึงมากที่สุด ในโลกนี้และโลกต่อๆ ไป เพราะงานเขียนมันใช้เวลา
ใช่ว่าหายใจออกมาแล้วมีกระดาษพุ่งออกจากจมูกยี่สิบแผ่น มันใช้เวลามากๆ ต้องตั้งใจเท่านั้นถึงจะรอด
เพราะหากทำลวกๆ แป๊บเดียวก็เบื่อ เบื่อแล้วไงอ่ะครับ ไอ้ที่เขียนไปก็ทิ้งเหรอ
เสียดายเวลานิดนึงแล้วกัน ดังนั้นถ้าไม่คิดจะตั้งใจอย่าเขียนครับผม ทำร้ายตัวเองเปล่าๆ
2. ต้องมีความใฝ่รู้ ห้ามหยุดนิ่ง ขวนขวายสิ่งใหม่ๆ ใส่ตัว ทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสืออย่างเดียว
เป็นนักเขียนเล่นเกมส์ ดูหนัง ช็อปปิ้งก็ได้ ป๊อบก็ทำ เผชิญโลกให้เยอะ จะมีแหล่งความรู้เยอะ
3. เปิดใจรับคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ คำวิจารณ์ที่สามารถพัฒนางานได้ ไม่ใช่รับทุกคำวิจารณ์นะครับ
เราก็ต้องมีจุดยืนในงานเราเหมือนกัน อะไรที่มันนำมาใช้แล้วเราไม่เสียความเป็นตัวเองไปก็ใช้ครับ
คนหวังดีกับเราก็มีไม่ใช่ไม่มี แต่อะไรที่วิจารณ์ถึงขั้นให้เราเปลี่ยนเอง อย่าฟังเลยครับ
งานเราก็งานเรา เราถึงพระเจ้าที่กำหนดงานเราได้เอง
4. ไม่โกหกตัวเอง ป๊อบติดนิสัยนี้นะ อะไรแย่ต้องบอกเลยแย่ แก้ซะ ไม่พอใจเขียนใหม่
ไซออนเล่ม 2 ที่ผ่านนั่นไงเกิดเรื่องใหญ่ ป๊อบเขียนไปแล้ว 385 กำลังจะถึงกำหนดส่ง
ลบทิ้ง ไม่เอา เพราะมันไม่ใช่ อย่าลังเล การแก้งานไม่ใช่เรื่องผิด จะผิดมากหากปล่อยไปทั้งที่ยังคาใจ
ล่าสุดไวท์โรดกำลังจะพิมพ์ แต่ป๊อบเห็นว่ามีหนึ่งประโยคไม่ใช่ จัดเลย์เอาท์แล้ว ขึ้นแท่นพิมพ์แล้ว
ป๊อบสั่งแก้ ต้องจ่ายเงินก็เอา ดีกว่าหนังสือพิมพ์ออกไปแล้วคาใจ กลายเป็นว่ายอมทุกข์ใจเสียเงินตอนนี้
ดีกว่าต้องเสียความรู้สึกไปตลอดชีวิตนะครับผม ไม่คุ้มๆ
พี่ติน : ถ้าหากรักอยากเขียนแฟนตาซี จุดแรกที่ควรเริ่มคืออะไร
ดร. ป๊อบ : 1 ต้องฝึกจินตนาการให้เป็น คิดอะไรที่มันนอกกรอบ ต้องแตกต่าง
ต้องโดดเด่น สิ่งที่เหล่านี้มันจะฟ้องออกมาจากตัวคุณเองแหละครับ
ป๊อบเป็นพวกที่คนสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ไกล ไม่ใช่ว่าตัวสูง หรือหน้าตาดี หรือผุดผ่องนะ
แบบว่ามีลักษณะเฉพาะอ่ะครับ อะไรซักอย่างที่บอกความเป็นตัวเอง
เมื่อค้นพบมันเราก็จะค้นพบแนวทางการคิดเรื่องแบบแฟนตาซีที่เป็นตัวเองเช่นกัน
2 ฝึกบรรยายภาพจากการดูหนังก็ได้ ป๊อบทำนะ ติดเป็นนิสัยไปแล้วอ่ะตอนนี้ ทุกครั้งที่ดูหนัง
ป๊อบจะคิดในใจเป็นคำพูดแทนภาพที่เห็นอ่ะครับ ติดแล้วจริง มันจะประมาณว่า
พระเอกหันตามเสียงนางเอกไป นางเอกเดินออกจากประตู รู้สึกได้ว่าพระเอกกำลังเดินตามหลัง
พวกเขาเดินผ่านคนสองคนที่ส่งเสียงทักทาย มีหัวหน้าพระเอกเดินจากทางซ้าย เขาส่งเสียงเรียก
ทั้งสองหันไปมองแล้วเริ่มสนทนา อะไรแบบนั้นอ่ะครับ มันติดจริงๆ
3 ฝึกบรรยายภาพก็ได้ครับ การ์ตูน ภาพศิลปะ ลองดูซิ เก็บรายละเอียด อะไรอยู่ตรงไหนของภาพ
แบบให้ความรู้สึกยังไง อย่างภาพน้ำตกเนี่ย ดูซิสายน้ำมันไหลพรากลงมาเป็นกำแพงสูงลิ่วเลยนะ
มันกระทบหินเบื้องล่างแตกกระเซ็นเป็นฟองสีขาว รู้สึกยังไงล่ะ เย็นชุ่มฉ่ำ จินตนาการซินะไปยืนอยู่ตรงนั้น
จะมีอะไรให้รู้สึกอีกบ้าง ไอน้ำในอากาศไง มันจะสดชื่นไปถึงปอดใช่ไหมล่ะ มีเสียงนกร้อง
มีเสียงสัตว์จากในป่า ท้องฟ้าโปร่ง มีเมฆสีขาวประกาย แสงอาทิตย์ส่องลงมากระทบหยดน้ำ
บังเกิดเป็นวงแสงชั่วขณะ เนี่ยๆ ลองฝึกดูครับผม ใช้ได้จริงๆ นะ
4 ถ้าจะให้ดีควรวาดภาพเป็นนิดนึงครับ เผื่อบางทีเราคิดถึงอะไรทีมันเหนือธรรมชาติมากแล้วบรรยายไม่ได้
การวาดภาพจะช่วยเราได้ครับผม วาดแล้วบรรยายมัน เกลาๆ หลายครั้งจะได้สิ่งที่หวังครับ
พี่ติน : ถ้างานเขียนของป๊อปเป็นอาหาร จะเหมือนอาหารชนิดไหน เพราะอะไร รสชาติแบบไหน
ดร. ป๊อบ : MK ซิครับ ทุกอย่างทุกรสชาติ เสือสิงกระทิงแรดอยู่ในม้อเดียวกันหมด
แต่ต้องเป็น MK แบบหลับตาจุ่มนะ คุณไม่รู้หรอกว่าตอนอ่านน่ะมันจะมีรสชาติไหน
เวลาตะเกียบสัมผัสบางอย่างคุณอาจจะคิดว่ามันเป็นเนื้อสไลด์ แต่พอเข้าปากอาจเป็นตับอีเห็นก็ได้
มันมีความหักมุมตลอดเวลา แต่บางครั้งก็นุ่มละไมยังกับเห็ดฮังการี
มีหวานแอ๊บแบ๊วแบบผักกาดในบางโอกาส หลากหลายด้วยเมนูสารพัด
ดุเด็ดเผ็ดมันเมื่อเปรียบถึงฉากที่คุณต้องแย่งกับเพื่อน แต่ก็จบลงอย่างประทับใจกลายเป็นความสามัคคี
เมื่อเราต้องช่วยกันจ่าย ท้ายที่สุดหม้อนั้นเนื้อจะหมดไปพร้อมกับน้ำ เพราะมันอร่อยจนต้องซดถึงหยดสุดท้าย
(เวอร์มากกกกกกกกก 555)
พี่ติน : คิดยังไงกับเว็บเด็กดีดอทคอม
ดร. ป๊อบ : เป็นเว็บของเด็กไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีสาระ มีบันเทิง มีทุกรสชาติให้คุณเลือกสรรค์
เป็นแหล่งที่สามารถปั้นคนธรรมดาให้กลายเป็นดังได้ถ้ามีผลงาน เป็นเว็บที่จะทำให้เกิดเรื่องโจษจันกัน
ระหว่างวัยรุ่น ข่าวสารความเคลื่อนไหวอะไรเกี่ยวกับวัยรุ่นอัพเดทได้ที่นี่ มีพี่ๆ เว็บมาสเตอร์ใจดี๊ใจดี
คอยให้คำปรึกษา รู้สึกว่าไม่โดดเดี่ยวเดียวดาย มีพื้นที่ส่วนตัวที่เรียกว่า My.ID
ป๊อบกลับมาเล่นเด็กดีก็เพราะเรื่องนี้ เป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ มันโชว์ความเป็นตัวคุณได้
บอกให้คุณรู้ถึงการมีตัวตนของคุณได้ เป็นเว็บที่มีความสนุกสนานมากมาย
สนองตัณหาความต้องการได้หลากสไตล์ เหมาะกับทุกเพศทุกวัยที่หัวใจยังวัยรุ่น
พี่ติน : สิ่งที่ชอบที่สุดในเว็บคือ คอลัมน์ไหน สไตล์การตกแต่งเว็บ หรือว่าเว็บบอร์ด??? มีอะไรที่ชอบมากๆ บ้าง
ดร. ป๊อบ : คอลัมน์ที่ชอบคือนักเขียนครับ เพราะเข้าอยู่คอลัมน์เดียว 555 ติดตามตลอดเลย
ได้สาระความรู้ความเคลื่อนไหวดีครับ สไตล์การตกแต่งเว็บ ป๊อบชอบหมดเลยนะ
เพราะคุมโทนได้เป็นเอกลัษณ์ครับผม โดยเฉพาะหน้าแรกอ่ะ ป๊อบยังจำได้เลยว่าเมื่อเก้าปีที่แล้วมันเป็นยังไง
วันนี้มันเปลี่ยนไปมากๆ หรูหราขึ้นเยอะเลยครับผม เว็บบอร์ดที่ชอบก็แน่นอนป๊อบชอบเว็บบอร์ดนักเขียนครับ
สนุกบ้าง ซึ้งบ้าง เฮฮาบ้าง เดือดบ้าง แต่ก็คือสีสันของชีวิต ได้รู้จักน้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ แฟนๆ หนังสือหลายคน
แต่ที่ชอบที่สุดดดดดดดดดดดดดก็คือ My.ID ครับ เด็ดสะระตี่ทีเดียวเชียว
พี่ติน : เว็บเด็กดีให้อะไรบ้าง
ดร. ป๊อบ : ให้ชีวิตใหม่กับป๊อบ
เรื่องจริงเลยครับ เพราะถ้าไม่มีเด็กดี ป่านนี้ป๊อบจะเป็นไงก็จินตนาการไม่ออกเลยครับ
ไวท์โรดเกิดได้เพราะเด็กดีดอทคอม ดร.ป๊อบเองก็เช่นกัน เว็บนี้คือบ้านเกิดของดร.ป๊อบและไวท์โรด
ป๊อบไม่เคยลืมพระคุณ นี่คือคำจำกัดความของเด็กดีสำหรับป๊อบที่ตรงตัวและจริงใจที่สุดครับ
พี่ติน : คิดว่าเอกลักษณ์ของเว็บคืออะไร
ดร. ป๊อบ : การนำเสนอข้อมูลข่าวสารเรื่องราวที่ทำขึ้นเพื่อเด็กๆ รวมทั้งวัยรุ่น จริงๆ นะ
ป๊อบไม่เคยเว็บไหนที่จะรวมข้อมูลการสอบ บันเทิงเริงรื่น คลังรูปภาพ และงานเขียนได้ขนาดนี้เลย
เซคชั่นนักเขียนคือเอกลักษณ์สำคัญของเด็กดี ป๊อบนึกถึงนักเขียนอย่างแรกเมื่อนึกถึงเด็กดี
เพราะว่าเว็บนี้น่าจะเป็นเว็บที่มีนักเขียนเยอะที่สุดในโลกกกกกกกก โลกนี้และโลกหน้ารวมทั้งโลกต่อๆ ไป
บทความจากความคิดของนักเขียนเยอะมากกกกกกกกกกก หลากหลาย หลากสไตล์
มันคืออาณาจักรของคนที่ฝันแบบเดียวกันครับผม นักเขียนหลายคนเกิดจากเว็บนี้
ป๊อบจำภาพของเด็กดีในภาพของเว็บนักเขียนล่ะนะ
พี่ติน : ถ้าเด็กดีเป็นผู้หญิง จะเป็นผู้หญิงอย่างไรในความคิดของเรา
ดร. ป๊อบ : สวย ใส ไม่ไร้สติ มีความคิด ฉลาด รู้ทันชาวบ้าน แอ๊บแบ๊วบ้าง แรงบ้าง
มีภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติบ้าง อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แต่พออยู่ตัวก็กลับมาสงบ
แต่งตัวออกไปประชันกับเพื่อน แลกเปลี่ยนรูปกับเพื่อนดู
เมาธ์แตกเรื่องชาวบ้านบางโอกาส และเป็นผู้หญิงชอบโหวต 555
พี่ติน : ถ้าเด็กดีเป็นผู้ชาย จะเป็นผู้ชายอย่างไรในความคิดของเรา
ดร. ป๊อบ : มีสไตล์เป็นของตัวเอง โดดเด่นเป็นสง่า เหมือนพวกบีบอยตามรถไฟฟ้า
มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา รอบรู้ รู้มากๆ ด้วย มีดีให้อวด เบ่งได้ไม่อายใคร เพราะมั่นใจซักอย่างใครจะทำไม
พี่ติน : มายไอดีใหม่เป็นไงบ้าง ได้ลองใช้หรือยัง แล้วขอมายไอดีด้วยนะ
ดร. ป๊อบ : - แรกๆ งง หลังๆ เยี่ยม 555 ต้องงมซักพักกว่าจะเข้าที่เข้าทาง รู้สึกว่าสวยงามตระกรานตาภูชีฟ้าสุดๆ
- ชอบพวก Module ต่างๆ อย่างเช่นสัตว์ เป็นคนไม่รักสัตว์ แต่มีสัตว์อย่างไดโนเสาก็เลยเฮฮากันเลยทีนี้
ชอบตรงที่สามารถลูบสัตว์เพื่อหาแต้มเข้าตัวได้ เป็นการฝึกการใช้สัตว์ในทางธุรกิจ
ปลูกฝังเด็กๆ ให้รู้สึกนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง เลยลูบกันใหญ่ แวะไอดีเพื่อน ลูบๆ แล้วจากไป
เขาลูบเรา เราลูบเขา อิ่มเอสำราญใจ มันวัดได้ว่าใครใส่ใจเราแค่ไหน จากการให้ของกิน
ของใช้กับสัตว์เราเนี่ยแหละครับ เพราะบางทีเราก็งบหมด (ไดโนเสาบ้าไรไม่รู้กินเปลืองยังกับหมูป่า
แถมดูไม่ค่อยมีความสุข เพิ่งให้เป็ดไปแหม๊บๆ แน่ะ มีวอนท์เพิ่ม)
ก็ต้องอาศัยการบริจาคจากเพื่อนฝูงบ้างไรบ้าง ถ้ามีเซคชั่นตั้งตู้รับบริจาคคงแอดไปแล้ว
- มีการให้ของขวัญชอบมาก สื่อดี ดูมีอะไรให้แปลกหูแปลกตาว่าเพื่อนจะคิดกับเราไงหว่า
- ชอบ QM แบบใหม่ อันเก่ามันดูเหมือนไม่เต็มจะให้ดู เลื่อนไปเลื่อนมาเล่นตัวมากๆ แบบใหม่
จะใหญ่แบบว่าเอาปลาวาฬสีน้ำเงินสองฝูงกับฮิปโปอีกฝูกครึ่งยัดรวมกันได้ มีรูปภาพ
มีโหมดตอบกลับด้วย อันนี้ดีมากประหยัดเวลาดีครับ สามารถใส่โค๊ด ทำให้แอบชั่วเอาคลิป
หรือรูปไปโปรโมตใน QM คนอื่นได้เนียนๆ
- ชอบการโชว์เพื่อนๆ เป็นหน้า จะได้เป็นการบอกนัยๆ ว่าเพื่อนเราเป็นคน เป็นตัวการ์ตูน
เป็นแมว พะยูน หรือโบราณสถาน ดีใจมากที่ลิสต์ป๊อบมีเพื่อนจากทุกสายพันธุ์
ล่าสุดมีเพื่อนเป็นปีศาจ ภูมิใจบอกไม่ถูก
- สรุปว่าชอบมากกกกกกกกกกกกกกก สมกับที่ทีมเว็บมาสเตอร์ใช้เวลาพัฒนาสองปี
ไม่เสียเปล่าครับเหลือแค่ให้ป๊อบสามาถยื่นมือเข้าไปลูบไดโนเสาร์เองได้แค่นั้นเอง
และสามารถตบหัวมันบ้างครั้งที่เปอร์เซ็นความหิวมันลดลงเร็วเกินเหตุก็พอครับ
(ขอตบให้หัวคว่ำสองทีจะดีใจมากมาย)
พี่ติน : ก่อนจากกันไป ลากันก่อน บอกลาบ๊ายบาย
ดร. ป๊อบ : ฝากผลงานของป๊อบ The White Road Generation II & III และ Girls & A Doll
ที่จะออกในงานสัปดาห์นี้ด้วยนะครับผม ป๊อบจะไปเซ็นหนังสือทุกวันที่บูธซีเอ็ดตอนบ่ายสองถึงสี่โมงเย็น
และไปที่นานมีบุ๊คส์ด้วยครับผม
The White Road Generation II & III จะเปิดตัววันที่ 2 เมษายน 6 โมงเย็น เวทีใหญ่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์
ส่วน Girls & A Doll จะเปิดตัววันเสาร์ที่ 4 เมษายน บ่ายโมงตรง ที่เดียวกันครับผม
มีการแสดงแรงๆ ในงานเปิดตัวด้วยแน่นอนครับ
ขอเชิญทุกคนไปร่วมงาน เราจะมีของขวัญเฉพาะผู้ร่วมงานเปิดตัวแจกให้ด้วยครับ
หวังว่ามันจะเป็นการเปิดตัวไวท์โรดที่แฟนๆ ไวท์โรดมากันพร้อมกันหน้า
แล้วก็หวังว่าทุกคนจะให้การตอบรับนินายเรื่องใหม่ของป๊อบเหมือนที่เคยเป็นมา
เพราะโปรเจคใหม่นี้เราตั้งใจทำกันเต็มที่จริงๆ ครับผม
แบบว่า คุยกันซะยาวเลยวันนี้... แต่ก็ได้อะไรจากน้องป๊อบมากเลยเหมือนกัน หรือน้องๆ ว่าจริงไหม
อตินเอง
ปล. ขอแนะนำให้อ่านจนจบนะ จะได้อะไรเยอะกว่าที่คิดแน่นอน
38 ความคิดเห็น
เคยลองฟังเพลงพี่ป๊อบแล้วนะร้องเพราะทั้งพี่ทั้งน้องเลย เหอะๆแล้วจะคอยผลงานเพลงต่อไปนะคะ ความจริงออกมันสองชุดพร้อมกันเลย แปลกดียังไม่มีใครทำ
หนังสือพี่ป๊อบสนุกมากๆเลยอ่า
เรื่องที่พระเอกชื่อเรนละคะ ไปไหน??
เรื่องนั้นสนุกมากเลย ปลื้มๆรักเฟริสก๊ากๆหล่อลากเลยอ่า
อเล็กซ์โทนี่ น่ารักพอล ก็ดี(หมายความว่าไง55+)
มิไลก้าลีอาอร๊ายปลื้มอ่า สรุปตัวละครในจินตนาการฟี่ป๊อบเปรี้ยวชอบหมดเลยอิอิโดยเฉพาะเจสและแซคอ๊าก หล่อ
เฟริสเอาโรเบิร์ต แพททินสันก็โอเคนะ(พระเอกทไวไลท์)
เคยลองอ่านแล้วสนุกมากมาย
ตอนแรกที่เข้ามาก็งงๆอยู่ว่าอะไร แต่พออ่านก็ชอบมากๆ
ต้องขอบคุณเพื่อนที่แนะนำ -..-
แต่อ่านจนจบนะ
ได้ทั้งสาระ และความฮา 555
และพี่ก็ยัง "แรง" ได้อีกอย่างที่บอกจริงๆ -_-
น่าจะทำเป็นหนังฝรั่งมากๆเลยนะคะนเย เพราะมิ้นชอบมากๆเรื่องอะรัยอย่างเงี้ยะอะค่ะอยากอ่านม๊ากกกกกกก
ทำมัยภาค 3 เล่ม 3
พอลตายแล้วละ
จะร้องไห้แล้ว
สนุกมากกกกกกกกกก
กำลังจะถามเลยอ่ะเห็นด้วยกับคห.5มากๆพี่ป็อปไปเป็นแบบให้เลยรึเปล่าอ่ะ
ซื้อมาแร้วววววววววววววววว
เจอพี่ป๊อปด้วยยยยยยยยยย
ดีใจมาก ๆ
จาติดตาผลงานตลอดไปค่ะ
อยากบอกซื้อมาปุ๊ปก้ออ่านเลย เหมือนจะอ่านไปทำลายสถิติโลกเลยอ่า
อ่านสองวันจบแล้วสองเล่มหลัง โฮก
อ่านแล้วน้ำตาไหลพรากเลยอ่า
คิดว่าเราอินไปอยู่คนเดียว เหนพี่ป๊อปว่าร้องไห้เหมือนกันก้อ 55
สนุกมากๆเลยค่ะ ><
มีเรื่องอะไรมาอีกก้อจะติดตามค่ะ
แต่ว่าเหมือนมีความรู้สึกว่าตัวละครเยอะไปหน่อยนะคะเนี่ย
แต่ว่าอ่านไปอ่านมาจำตัวละครได้หมดได้ไงไม่รู้ 55
แต่ก็หลายปีมาแล้วแหละ
5 5
แต่ว่าเปลี่ยนชื่อเป็น Girl and A doll แทน ซึ่งเนื้อหาก็จะไม่ค่อยเหมือนกับในเล่มโปรด
ลองไปอ่านที่ www.nanmeebooks.com นะ