"คิดว่าดาบเคลมอร์หนักเท่าไหร่เทราซ่า?"
"สักยี่สิบกิโลมั้ง กัซ"
"เหอะๆๆๆๆ"
สวัสดีอีกเเล้วขอรับ เนื่องจากหลายวันมานี้มีคนตั้งกระทู้เกี่ยวกับนิยายไทยค่อนข้างมากว่าทำไม ไม่ดัง ทำไมคนว่าไม่ดี วรรณกรรมขยะ ทำไมๆๆเเละทำไม...ข้าพเจ้าจึงขอเสนอความรู้รอบตัวรวมทั้งข้อเสนอเเนะเล็ก น้อยที่มีประโยชน์สำหรับผู้อ่านเเละเขียนได้ทราบ
จริงๆงานวรรณกรรมก็เหมือนกับการทำกับข้าว ล้างส้วม หรือฆ่าคนนั่นเเหละครับ คือต้องการความละเมียดละไมใส่ใจต่อรายละเอียดเพื่อให้งานออกมาน่าเชื่อถือ เเละหนักเเน่น หากเราปล่อยปละละเลยด้านนี้เเล้ว...ความ'ชุ่ย'ก็อาจเเผ่ขยายไปถึงส่วนอื่น ของงาน ส่งผลให้ทุกอย่างล้มเป็นโดมิโนไปด้วย
ความไม่ใส่ใจที่เห็นได้เด่นชัดมากๆอย่างหนึ่ง กลับเป็นของคู่กายตัวละครเเฟนตาซีเเทบทุกตัว...นั่นคือ"ดาบ"ไงละขอรับ
ประเด็นดาบนี้นักเขียนไทย(เเละเทศ)หลายท่านมักไม่สนใจศึกษา น้ำหนัก
รูปร่าง หรือวิธีใช้มาดีพอ ส่วนใหญ่ชอบเอาภาพติดตาที่ได้จากหนัง
การ์ตูนญี่ปุ่น หรือข้อสรุปทึกทักเอาเองในหัวมาใส่นิยาย
คนอ่านผ่านๆไม่คิดอะไรหรือเข้าใจผิดเหมือนกันก็อาจบอกว่าสนุก สมจริง
ตรงนี้เป็นรสนิยมไม่ขอเถียง
...เเต่อย่างที่บอกนั่นเเหละครับ
ความละเมียดละไม
ใส่ใจต่อรายละเอียดเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่ช่วยให้งานออกมาได้ดีมีคุณภาพ
ไม่ควรที่จะปล่อยปละละเลยสักนิด
งั้นมาเริ่มกันเลยนะครับ...หวังว่าจะช่วยเเก้ข้อเข้าใจผิดได้ไม่มากก็น้อย
โดยทั่วไปเเล้ว ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ'ดาบ' ที่พบเห็นทั่วไปคือ
1.ดาบอัศวินหรือดาบยุคกลางนั้นมีน้ำหนักเยอะมาก บางเล่มอาจถึง 10-20 กิโลกรัม!!
2.ดาบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น ดาบสั้น(short sword),ดาบมือครึ่ง(hand and a
half sword หรือเรียกว่า bastard sword,long sword),ดาบสองมือ (two handed
sword),เรเพียร์(rapier) เกิดขึ้นในยุคเดียวกัน!!
3.ดาบสามารถสังหารอัศวินสวมเกราะเต็มยศได้ด้วยการฟัน ฉัวะเดียว!!
(ตัวอย่าง เจ้าได้ยินไหม เสียงของสายลม ฉัวะๆๆๆๆๆ...อืม
มาจากการ์ตูนไทยหรือนิยายญี่ปุ่นน้อ หุหุ)
4.ราชสำนักยุคกลางหรือกองทัพยุคกลางมีกองทหารดาบยาวไว้เล่นงานฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะ!!
ถึงตรงนี้คิดว่าส่วนใหญ่คงไม่พลาดประเด็น2,4 เเต่อาจบอกว่า ทำไมดาบจะหนักสิบกิโลไม่ได้? ดาบยาวสองเมตรไว้ฟันม้า ที่เรียกว่า เคลมอร์(เหมือนการ์ตูนสนุกๆเรื่องหนึ่ง) หรือ Zweihänder(เเปลตรงตัวจากภาษาเยอรมันว่า'สองมือ') นั่นไง ดีไม่ดีจะถึงยี่สิบกิโลด้วยซ้ำ!
อันนี้ก็ต้องขอน้อมตอบว่าผิด ผิด เเละผิดนะครับ
เป็นความเข้าใจผิดที่มีมายาวนานเเละกว้างขวางมาก
เเต่หนักเท่าไหร่อดใจรอนิด ผมขอยก ภาพ(ซึ่งมาจากของจริงทุกชิ้น) น้ำหนัก
เเละความยาวดาบเเต่ละชนิดมาประกอบคำอธิบายเลยดีกว่า
1. Short sword: ดาบสั้นประจำกายทหารราบ ของโหลที่เเฟนตาซีกลับไม่ใช้
ประเทศที่มา : อังกฤษ ช่วงปี คศ 1500
มิติ/น้ำหนัก : ยาว 74.5 ซม หนัก 0.79 กก
ข้อมูล : ดาบยาวเงาวับประดับสวยงามที่เรามักเห็นทหารถือในหนังนั้น
จริงๆในยุคกลางมีราคาเเพงเกินกว่าคนธรรมดา(serf,freeman,villein)ซึ่งถูก
เกณฑ์ไปรบจะมีปัญญาหาซื้อไว้ติดตัว
ส่วนใหญ่ทหารราบจะใช้ดาบสั้นคุณภาพไม่ค่อยดีอย่างนี้(สังเกตสีสนิม)หรือมีด
สั้น เพราะการรบยุคกลางส่วนใหญ่มักใช้หลักขบวนรบถือหอกนำหน้า
(ซึ่งจุดนี้ทำให้การมีทัพนักดาบ บ่มี ไก๊ไปด้วย
ยังวิ่งไม่ทันถึงตัวก็มีสิทธิโดนจิ้มพุงด่าวดิ้นเเล้ว)
ทหารส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยมีโอกาสใช้อาวุธระยะประชิดอย่างดาบ
นักยกเว้นสถานการณ์จวนตัวหรือเเถวกระบวนเเตกเท่านั้น
ไม่เหมือนพี่ไทยที่มีตำราพิชัยสงครามเเต่ถึงเวลาในหนังจะถือดาบวิ่งมั่วชน
กันฝุ่นตลบเเบบมวยวัด
ปล. สังเกตไหมครับว่าน้ำหนักเบาขนาดไหน ไม่ถึงกิโลกรัมด้วยซ้ำ
2. (Hand and a half sword หรือเรียกว่า bastard sword,long sword):
ดาบของขุนนางเเละอัศวินที่ของจริงมีไม่เกลื่อนกลาดอย่างในนิยาย
ประเทศที่มา : สวิส ช่วงปี คศ 1400-1500
มิติ/น้ำหนัก : ยาว 120(คมดาบยาว92.5) ซม หนัก 1.45 กก
ข้อมูล :
ดาบยาวนอกจากเป็นสิ่งเเสดงสถานะตระกูลเเล้วยังถือเป็นมรดกของตระ
กูลขุนนางอีกด้วย
ดาบมักได้รับการรักษาอย่างดีเเละส่งต่อให้คนในครอบครัวรับช่วง(จะเห็นว่า
ไม่มีสนิมเกาะเหมือนดาบสั้นในรูปแรก)
การต่อสู้ด้วยดาบยาวมีกฏเเละรูปแบบจนถือเป็นศาสตร์เเขนงหนึ่ง
มีตำราคู่มือเเละโรงเรียนฝึกสอนโดยเฉพาะ
(เเน่ละเพราะมีเเต่ชนชั้นศักดินาจะได้ใช้นี่นา)
ส่วนที่เรียกว่า มือครึ่งหรือ bastard ที่เเปลตรงตัวว่าลูกนอกสมรส
ก็เพราะมันสามารถจับด้วยมือหนี่งหรือสองมือก็ได้นั่นเอง
เนื่องจากมีสองคมมันจึงสามารถใช้โจมตีได้หลากหลาย ทั้ง
เเทงเเละฟันสารพัดประโยชน์
เเต่หากต้องเจอกับอัศวินสวมเกราะเต็มยศเเล้ว
ดาบเเทบจะไม่มีสิทธิ์ฟันเข้าเลย! (จึงเป็นประเด็นให้ขบคิด
ว่าในพระศรีสุริโยไททรงเกราะฝรั่งตามหนังท่านมุ้ยหรือไม่
เนื่องจากไม่มีทางจะฟันคนสวมเกราะเเบบนี้ให้ขาดสะพายเเล่งจากหัวไหล่ถึงเอว
ได้เด็ดขาด)
ยุทธวิธีเวลาต้องสู้กับคนใส่เกราะ
คือเอามือข้างหนึ่งยึดด้ามจับ อีกข้างจับคมดาบไว้
(ไม่ต้องกลัวบาดถ้าใส่ถุงมือเหล็ก) จากนั้นเเทงเข้าไปตรงๆ
ซึ่งก็ตามหลักฟิสิกส์ว่าหากมีพื้นที่ให้ถ่ายเเรงน้อย
เเรงจะรวมเข้าไปในจุดนั้นมาก(ในกรณีนี้คือปลายคมดาบ)
ตรงข้ามกับการฟันซึ่งเเรงจะกระจายไปทั่วเกราะเหล็กยากจะทะลุ
ปล. ส่วนทหารดาบที่เรามักเห็นในเกมส์หรือหนังนั้น
ในความเป็นจริงก็คืออัศวินนี่ละครับ เเต่บางสถานการณ์ต้องเลือกเดินเท้าสู้
เรียกว่า dismounted knight อีกประเภทก็คือทหารประจำตัวขุนนางที่เรียกว่า
men at arms ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเหมือนทหารอาชีพ มีเกราะ อุปกรณ์พร้อมกว่า
ไม่ใช่ทัพชาวบ้านซึ่งเป็นกำลังส่วนใหญ่เเน่นอน
ปล.2 โปรดสังเกตน้ำหนักอีกครั้ง ยังไม่ถึงกิโลครึ่งเลยครับ มาดูกันสิว่าดาบเจ้าปัญหาเราจะหนักสักเท่าไหร่
3. (Two handed sword หรือ Zweihänder,เคลมอร์) ดาบสุดเท่ห์ที่ความเข้าใจผิดพาออกทะเลไปไกล
ประเทศที่มา : เยอรมัน ช่วงปี คศ 1580
มิติ/น้ำหนัก : ยาว 160 ซม หนัก 3.3 กก เท่านั้น!!
ข้อมูล : ยังไม่ถึงสามกิโลครึ่งด้วยซ้ำครับ
ซึ่งคิดตามหลักฟิสิกส์ก็คือน้ำหนักมีผลน้อยกว่าเเรงที่ฟาด
นั่นคือสู้ทำดาบเบาๆเเต่ฟาดได้เเรงดีกว่านั่นเอง!
น้ำหนักขนาดนี้ให้ผู้หญิงถือเเกว่งก็ยังไหว( การ์ตูน claymore
เป็นไปได้ขึ้นจมเลย หุหุ)
หน้าที่ของดาบสองมือจริงๆเเล้วหลักๆไม่ได้ใช้ฟันม้าหรือปิศาจ(หอกหยุดม้า
ได้ง่ายกว่า ส่วนปิศาจก็ไม่มีอยู่เเล้ว)
เเต่เป็นการฟันเเนวหอกของฝ่ายตรงข้ามให้หัก
กรุยเปิดทางให้ทหารหอกฝ่ายเราตะลุยเข้าไปครับ
ซึ่งปกติผู้ใช้(มักเป็นทหารรับจ้าง)จะได้รับค่าเเรงสองเท่าเลยทีเดียว
สำหรับหน้าที่อันตรายนี้
ลองสังเกตด้ามจับดูจะเห็นว่ายื่นเลยส่วนการ์ดมือออกมาอีก
ซึ่งวัตถุประสงค์ของมันก็เหมือนกับที่พูดไว้ใน หมวด long sword
นั่นเเหละครับ คือให้สองมือยึดเเล้วเเทงเกราะคู่ต่อสู้ตรงๆ
ส่วนลายไฟที่เรียกว่า
flambergบนคมดาบนั้นไม่ได้มีผลอะไรในการรบมากนอกจากความสวยงามเเละสร้าง
ความน่าสะพรึงกลัวให้ผู้ถือขอรับ
ปล. ถ้าไม่เชื่อว่าช่างยุคกลางสามารถทำดาบที่เบาเเละยาวได้ขนาดนั้นละก็ ผมไปเจอ website ที่ชั่งน้ำหนักดาบประเภทนี้กว่า 59 เล่มเเล้วรวบรวมสถิติได้ดังนี้
stats ยาว(cm) หนัก(กก)
ต่ำสุด 144.5 1.52
สูงสุด 199 5.92
เฉลี่ย 169 3.51
เห็นไหมครับว่าหนักสุดยังไม่ถึง
6กิโล(ซึ่งเล่มนี้เป็นดาบใช้ในพิธีไม่ได้ใช้รบ) เฉลี่ยยังไม่ถึง 4
กิโลด้วยซ้ำ!! จริงๆดาบประเภทนี้ค่อนข้างเชื่องช้า
เเต่ก็ไม่ได้ถือยากเหมือนที่นิยาย,การ์ตูนทั้งหลายชอบอธิบายเลยสักนิด
ทหารมืออาชีพยุคกลางตัวล่ำสันขนาดนั้นยังใช้ดาบหนักเเค่สี่กิโล
ถ้าท่านถือยี่สิบกิโลได้ อาจต้องเป็น ฮัลก์ตัวเขียวนั่นเเล
4. (Rapier) ดาบสุภาพบุรุษที่มักอยู่ผิดยุค
ประเทศที่มา : อิตาลี ช่วงปี คศ 1600
มิติ/น้ำหนัก : ยาว 136 ซม หนัก 1.02 กก
ข้อมูล : เรเปียร์ เกิดมาต้นยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการครับ
ซึ่งนั่นหมายความว่าดินปืนได้เข้ามาลดบทบาทอัศวินในฐานะเจ้าสนามรบมาพัก
ใหญ่เเล้ว(อัศวินลุยกับเรเปียร์กลางสนามรบไม่มีให้เห็นเเน่นอน)
การใช้งานเรเปียร์ไม่ได้ฟุ้ยเฟี้ยวเป็นสายฟ้าเเลบอย่างที่เราๆท่านๆมักคิด
กันนะครับ มันค่อนข้างหนัก(หนักกว่าดาบสั้นทหาร)
เเถมยังมีรูปทรงเอื้อต่อการเเทงเข้าไปตรงๆเท่านั้น
ทำให้ถ้าโดนสวนอะไรกลับมาก็ยากที่ผู้ใช้จะปัดป้องได้ทัน
ด้วยเหตุนี้เรเปียร์จึงมักถูกใช้คู่กับโล่ห์มือถือ
หากเป็นสเปนก็จะถือกริชหรือมีดสั้นไว้เเทน
เรเปียร์ถูกพัฒนาต่อไปเป็น small sword
ซึ่งรูปร่างคล้ายกันเเต่เบากว่ากันมาก ยาวไม่ถึง 100cm เเต่หนักเพียง 0.45
กก เท่านั้น อันนี้ละครับ ฟุ้ยเฟี้ยวเป็นกรีฟีสได้ของจริงเลยล่ะ
จริงๆอาวุธยุคกลางมีมากกว่านี้อีกนะครับถ้ามีโอกาสจะทำเป็นกระทู้ทางการ เเต่กระผมกลัวทุกท่านเบื่อเสียก่อน ที่อ่านมาหวังว่าคงได้ทำลายความเข้าใจผิดที่เคยมีได้นะครับ (ถ้ารู้อยู่เเล้วก็น่านับถือเเต่ถ้าเพิ่งรู้ก็อย่าอาย ผมเองก็มั่วนิ่มมานาน)
หลายคนอาจบอกว่า เเฟนตาซีทำได้ทุกอย่าง ให้เป็นดาบปิศาจหรือดาบมิทธริล หนักยี่สิบกิโลหรือสามกรัมก็ยังได้ อันนี้ผมไม่เถียงครับเเละมันก็เป็น เสน่ห์อย่างหนึ่งของเเฟนตาซี คุณจะเอา ตัวเอง กาละเเม อาลูลูกัน พระยาพิชัยดาบหัก ใส่เข้าไปในเรื่องก็ได้ (ถ้าเเน่ใจว่าไม่ได้กำลังลอกหรือละเมิดลิขสิทธิ์)
แต่อย่างที่บอกข้างต้นครับ ความละเมียดละไมเเละการเอาใจใส่รายละเอียดเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งของงาน ทำไม สถาบันสถาปนาของ Asimov หรือ Lord ถึงเป็นงานอมตะ? ทั้งที่เขาก็จินตนาการอะไรๆที่ไม่มีในโลกจริงเหมือนกับเเฟนตาซีไทยดาดๆทั้ง หลาย
ก็เพราะนอกจากจินตนาการสูงส่งเเล้ว ส่วนหนึ่งคือโลกนิยายที่มีพื้นรองรับหนักเเน่น น่าเชื่อถือนั่นเองครับ ซึ่งมันจะมาเปล่าๆไม่ได้ เราต้องใช้ความพยายามขวนขวายศึกษา
คนอ่านหนังสือหาข้อมูลมาหนึ่งเล่มก่อนเขียนกับคนที่ไม่ได้อ่าน ถ้าสองคนฝีมือเท่ากัน คิดว่าใครจะสร้างโลกจินตนาการได้เหมือนจริงกว่าละครับ?
ขอบพระคุณที่ฟังมาจนจบนะครับ เเละหวังว่าข้อมูลที่เอามานี้จะช่วยท่านได้ หากมีเรื่องราวเเลกเปลี่ยนก็คุยกันตรงนี้ หรือถ้ายังสงสัยข้องใจก็ตามเช็คใน ข้อมูลอ้างอิงของผม หรือไปหามาเองก็ได้ครับ รับรองว่าไม่มีดาบใข้จริงที่ไหนหนักเกิน 4-5กิโลเเน่นอน
โอกาสหน้าผมอาจเอาเรื่อง เกราะยุคกลาง ซึ่งมีคนเข้าใจผิดกันมากอีกอย่างมาพูดคุยกัน(เชื่อไหมครับ ว่าใส่เเล้ววิ่ง กระโดดข้ามสิ่งกีดขวางได้สบายๆ)
REF: Wikipedia,DK's weapon : a visual history of arms and armor,http://www.thearma.org
101 ความคิดเห็น
อย่างงี้แหละ
นิยายแฟนตาซีส่วนมากแต่งเพื่อความสนุก
บางคนก็ลอกมาทั้งดุ้น
เพิ่งรู้นะเนี่ยขอบคุณมาก
ขอบคุณพี่ดลมาก ๆ นะ =w=
ถ้าเป็นแต่ก่อนขวัญคงไม่สังเกตรายละเอียดถึงขนาดจุดเล็ก ๆ (เล็กงั้นเรอะ ?)แบบนี้หรอก
ขอบคุณอีกครั้งน้า^^
ว้าว แล้วดาบที่ใช้กันใน ศตวรรตที่ 15 ละ
สุดยอดจริงๆ - -^^
ขอบคุณมากค่ะ (_ _)
ง่า น่าจะมีให้แอดเป็นFavouriteนะค่ะ อ่านไม่หมดค่า
ทำให้ข้าน้อยไม่โง่ไปอีกนาน เหะๆ
ถ้าดาบหนักมากๆเวลาเอาขึ้นหลัง หรือเหน็บเอว ไม่หลังหักก็เข็มขัดขาด ปลอกทะลุค่ะ
อาวุธหนักๆจริงๆก็พวกClub หรือคฑาที่ฟาดทีเดียวเกราะยุบ ทุบกะโหลกแตก แยกร่างม้าค่ะ
ขอให้จำๆคุณสมบัติดาบแต่ละอย่างให้ดีค่ะ เพราะแอบเห็นคนใช้ Rapier ฟันคนตาย (มันใช้จิ้ม เอ้ย แทงต่างหาก)
บทความนี้ add fav. ไม่ได้หรือคะ
ทำไงถึงจะแอดได้หว่า?
ได้ความรู้จริงๆ