นิยายทุกเรื่องบนโลกนี้ต้องมีองค์ประกอบสามอย่าง คือ เริ่มเรื่อง กลางเรื่อง และจบเรื่อง มีหลายวิธีที่เราใช้เพื่อวางพล็อตสามส่วนนี้ วิธีที่นิยมที่สุดคือการใช้แผนภาพสามเหลี่ยมเพื่อร่างโครงคร่าวๆ ให้กับนิยายของเรา แม้แต่นักเขียนบทของฮอลลีวู้ดก็ใช้วิธีนี้ในการสร้างภาพยนตร์เป็นส่วนใหญ่
วันนี้พี่น้องจะมาอธิบายวิธีการวางพล็อตด้วยเจ้าสามเหลี่ยมตัวนี้ เผื่อใครเอาไปลองใช้วางพล็อตหรือแม้แต่เอามาแก้พล็อตที่มีอยู่
วันนี้พี่น้องจะมาอธิบายวิธีการวางพล็อตด้วยเจ้าสามเหลี่ยมตัวนี้ เผื่อใครเอาไปลองใช้วางพล็อตหรือแม้แต่เอามาแก้พล็อตที่มีอยู่
แผนภาพสามเหลี่ยม Archplot
Archplot แบ่งเป็น 3 ช่วง คือช่วงเริ่มเรื่อง (Beginning) ช่วงกลางเรื่อง (Middle) และช่วงจบเรื่อง (End) แต่ละช่วงมีสัดส่วนไม่เท่ากัน ช่วงกลางเรื่องจะครอบคลุมเนื้อหาเกือบ 80% ของทั้งเรื่อง ในขณะที่ช่วงเริ่มเรื่องกับจบเรื่องจะสั้นพอๆ กัน
Act 1 Beginning
ช่วงเริ่มเรื่องจะเป็นช่วงสั้นๆ ทำหน้าที่เป็นฐาน ให้ข้อมูลใดๆ ก็ตามที่จำเป็นต่อคนอ่าน ไม่ว่าจะเป็นฉากหลังของเรื่อง ตัวละครหลักของเรื่อง หรือข้อมูลที่กำลังจะกลายเป็นปมขัดแย้งในเรื่อง
ช่วงเริ่มเรื่องยังซอยเป็นเหตุการณ์ย่อยๆ อีกได้แก่
ช่วงเริ่มเรื่องยังซอยเป็นเหตุการณ์ย่อยๆ อีกได้แก่
- ให้ข้อมูล: เกี่ยวกับสถานที่, ตัวละคร
- ความสงบสุขสิ้นสุดลง: มีเหตุบางอย่างที่ทำให้ชีวิตตัวเอกพลิกผัน
- ตัวเอกออกไปผจญภัย: ไม่จำเป็นต้องเป็นการออกไปปราบมังกรเสมอไป ตัวเอกอาจปฏิเสธที่จะออกไปหรือไม่ก็ได้ ในระหว่างนี้ตัวเอกอาจได้พบกับคนที่จะมาเป็นผู้ร่วมผจญภัย
ตัวอย่าง
นิยายแฟนตาซี
- ให้ข้อมูล: ตัวเอกเป็นเด็กกำพร้า อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่สงบสุขกับครอบครัวบุญธรรม
- ความสงบสุขสิ้นสุดลง: เมื่อมีพ่อมดคนหนึ่งมาที่หมู่บ้านเพื่อตามหาเขาและบอกว่าเขามีพลังพิเศษที่จะช่วยโลกนี้ได้ตามคำทำนาย
- ตัวเอกออกไปผจญภัย: แม้จะลังเลใจ แต่เพื่อความสงบสุขของโลกนี้และความปลอดภัยของครอบครัวตนเอง ตัวเอกจึงตัดสินใจออกผจญภัย
นิยายรัก
- ให้ข้อมูล: นางเอกเป็นเด็กเรียนที่ไม่เคยมีแฟนมาตลอดทั้งชีวิต เรียนอยู่ในโรงเรียนสหฯ
- ความสงบสุขสิ้นสุดลง: เมื่อจู่ๆ พระเอกของเรื่องก็โดนเพื่อนท้าให้มาจีบเด็กเรียนแบบเธอ
- ตัวเอกออกไปผจญภัย: นางเอกเริ่มถูกพระเอกตามจีบ
นิยายสยองขวัญ
- ให้ข้อมูล: ตัวเอกเป็นนักศึกษามหา'ลัยที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
- ความสงบสุขสิ้นสุดลง: เมื่อเธอต้องย้ายไปอยู่หอพักอีกแห่งที่มีข่าวลือว่าเคยมีนักศึกษาฆ่าตัวตายในห้องที่ย้ายไปพอดี
- ตัวเอกออกไปผจญภัย: นางเอกเริ่มเจอผีตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่ห้อง
Act 2 Middle
ช่วงกลางเรื่องคือช่วงของรายละเอียด ปมเล็กปมใหญ่ ปมรองปมหลักเอามาแทรกไว้ตรงนี้ได้หมดเลย เราจะค่อยๆ ปล่อยของโดยเลือกอุปสรรคเล็กๆ ที่จะขัดขวางไม่ให้ตัวเอกไปถึงเป้าหมายมานำเสนอ ซ้อนทับไปเรื่อยๆ จากเล็กไปใหญ่ อุปสรรคเหล่านี้จะค่อยๆ เปลี่ยนตัวเอกคนเดิมที่เจอในตอนต้นเป็นคนใหม่ อาจจะในทางที่ดีหรือแย่ลงก็ได้
นอกจากนี้ก็อย่าลืมมิตรสหายหรือเรื่องราวดีๆ ที่ตัวเอกพบเจอระหว่างทางด้วย
นอกจากนี้ก็อย่าลืมมิตรสหายหรือเรื่องราวดีๆ ที่ตัวเอกพบเจอระหว่างทางด้วย
ตัวอย่าง
นิยายแฟนตาซี
- ตัวเอกได้ช่วยเพื่อนใหม่ระหว่างทาง เขาจึงตอบแทนด้วยการร่วมเดินทางมาด้วยกัน
- ตัวเอกพบว่าพ่อที่แท้จริงของตนคือจอมมารที่วางแผนก่อหายนะต่อโลก
- พ่อของตัวเอกไม่รู้ว่าตัวเองมีลูก จึงคิดวางแผนกำจัดตัวเอกโดยการส่งสมุนออกมา
- สมุนของจอมมารทำร้ายพ่อมดที่นำทางตัวเอกจนพลัดหลงกัน
- เพื่อนใหม่ของตัวเอกเผยตัวทีหลังว่าเป็นหนึ่งในสมุนของจอมมาร แต่เขาสนิทกับตัวเอกเกินไปจนตัดสินใจหักหลังจอมมารแม้จะรู้ว่าตัวเองต้องถูกฆ่า
นิยายรัก
- พระเอกพยายามจีบนางเอกตามตำราทุกอย่าง เอาของมาให้ ไปรับไปส่ง เลี้ยงข้าว พาไปดูหนังวันหยุด
- กลุ่มตัวร้ายหมั่นไส้นางเอกจึงแกล้งเธอสารพัดวิธี
- เพื่อนนางเอกที่แอบชอบนางเอกมานานก็เข้าไปช่วยเสียทุกครั้ง
- เพื่อนนางเอกรู้ความจริงว่าพระเอกมาจีบเพราะเป็นเกม ไม่ได้ชอบจริง
นิยายสยองขวัญ
- นางเอกเจอผีมาเรื่อยๆ จึงเริ่มสืบหาความจริง
- จากที่แค่โผล่มาหลอก ผีก็เริ่มทำให้นางเอกได้รับบาดเจ็บหนักขึ้นเรื่อยๆ
- นางเอกเริ่มได้เบาะแสว่าผีผู้หญิงนี้ฆ่าตัวตายเพราะอะไร
Act 3 End
ช่วงสุดท้ายของเรื่องคือช่วงที่พีคที่สุด หรือช่วง Climax โดยต้องมีเหตุการณ์ที่จะมาจุดความพีคของเรื่อง หลังจากนั้นจึงเป็นการคลายปมสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดในเรื่อง (คนอ่านอ่านมาทั้งหมดก็เพื่อจะเห็นปมนี้คลี่คลาย) ก่อนที่เหตุการณ์จะดำเนินสู่ตอนจบที่ทุกอย่างกลับคืนสูสภาพเดิม ตัวเอกมีการเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่าง
นิยายแฟนตาซี
- จุดชนวน: ตัวเอกโดนสมุนของจอมมารจับไป ทำให้พ่อลูกได้เผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก
- ไคลแมกซ์: พ่อลูกต่อสู้กันจนตัวเอกได้มีโอกาสบอกความจริงว่าตนเป็นลูก จอมมารฆ่าลูกตัวเองไม่ได้ จึงแกล้งทำเป็นไม่เชื่อเพื่อล่อให้ลูกฆ่าตัวเองตามคำทำนาย
- กลับสู่ความสงบ: แม้ตัวเอกจะเสียใจที่ต้องฆ่าพ่อตัวเอง แต่ก่อนตายก็ได้ปรับความเข้าใจกัน ตัวเอกเดินทางกลับไปหาครอบครัวบุญธรรมพร้อมเพื่อนใหม่ และใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข
นิยายรัก
- จุดชนวน: เพื่อนนางเอกวางแผนให้ทั้งสามมาเผชิญหน้ากัน แล้วแฉพระเอกว่ามาจีบนางเอกแค่เพราะเพื่อนยุ ไม่ได้ชอบจริง
- ไคลแมกซ์: นางเอกเสียใจมาก จึงวิ่งหนีไปและเกือบถูกรถชน แต่พระเอกที่วิ่งตามมารีบเข้าไปช่วยก่อนจนตัวเองได้รับบาดเจ็บแทน พระเอกสารภาพว่าตอนแรกเป็นแค่เกมแต่กลับกลายเป็นชอบนางเอกจริงๆ ทั้งคู่จึงปรับความเข้าใจกัน
- กลับสู่ความสงบ: พระเอกประกาศคบกับนางเอกอย่างเป็นทางการ
นิยายสยองขวัญ
- จุดชนวน: นางเอกเริ่มเคลือบแคลงเมื่อเบาะแสที่เกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของผีในห้องพักย้อนกลับมาที่เธอ
- ไคลแมกซ์: ผีผู้หญิงหมายจะฆ่าเธอให้ตาย เธอหนีเข้าไปในลานจอดรถพร้อมกับที่ฝนตก ทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าเธอเคยขับรถชนอะไรสักอย่างที่นี่ในวันฝนตก แต่เพราะความรีบทำให้เธอไม่ทันดู ไม่คิดว่าสิ่งที่เธอชนคือคน
- กลับสู่ความสงบ: นางเอกขอขมาผี และขอให้ผีไว้ชีวิต หลังจากนั้นเธอจึงไปมอบตัวกับตำรวจ
จำไว้ว่าทุกครั้งที่เขียนนิยาย เราต้องวางพล็อตเรื่องให้เป็นภาพสามเหลี่ยมแบบนี้ คือเกริ่นเรียกน้ำย่อย ค่อยๆ ให้ข้อมูลเชื้อเชิญให้คนอ่านต่อเรื่อยๆ จนถึงจุดไคลแมกซ์ที่คนอ่านจะได้ลุ้นว่าสิ่งที่ตามมาตั้งแต่ต้นเรื่องจะลงเอยยังไง แล้วก็เป็นตอนจบ
นิยายที่ซอยเรื่องออกเป็นจบในตอนแบบซีรี่ส์ ก็ต้องใช้แผนภาพแบบนี้สำหรับพล็อตเรื่องแต่ละตอนเหมือนกัน
สิ่งที่ต้องระวังเวลาวางพล็อตด้วยแผนภาพสามเหลี่ยมนี้คือ
นิยายที่ซอยเรื่องออกเป็นจบในตอนแบบซีรี่ส์ ก็ต้องใช้แผนภาพแบบนี้สำหรับพล็อตเรื่องแต่ละตอนเหมือนกัน
สิ่งที่ต้องระวังเวลาวางพล็อตด้วยแผนภาพสามเหลี่ยมนี้คือ
- ช่วงกลางเรื่องต้องมีเนื้อหามากกว่า 60% ของเรื่องทั้งหมด ถ้าน้อยกว่านี้แปลว่าช่วงต้นเรื่องหรือจบเรื่องของเรายาวเกินไป
ช่วงต้นเรื่องที่ยาวไปทำให้คนอ่านรู้สึกเบื่อ ยืดเยื้อ
ส่วนช่วงจบเรื่องที่ยาวเกินไปก็ทำให้คนอ่านรู้สึกเหนื่อย เพราะพอถึงจุดนั้น ปริศนาต่างๆ ที่เคยดึงคนอ่านให้อยู่กับเรื่องของเรามันหายไปหมดแล้ว ต้องรีบจบให้เร็วที่สุด - ไคลแมกซ์ หรือจุดพีคสุดของเรื่อง ต้องอยู่ในช่วงท้ายเรื่อง หรือต้องดำเนินเรื่องไปได้อย่างน้อย 70% แล้ว เพราะอย่างที่บอกไป เมื่อถึงจุดไคลแมกซ์ ปมปริศนาที่เคยดึงให้คนอ่านติดตามเรื่องของเรามันคลายหมดแล้ว ถ้าไคลแมกซ์ไปอยู่กลางเรื่อง หรือเกิดขึ้นเร็วเกินไป ส่วนที่อีกเกือบครึ่งเรื่องก็กลายเป็นอะไรยืดเยื้อ ไม่น่าสนใจ
- ปมขัดแย้งยิบย่อยในเรื่องต้องค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้ชีวิตตัวเอกลำบากมากขึ้น และค่อยๆ คลายปมที่เล็กที่สุดก่อน
ลองเอานิยายที่เราเขียนอยู่มาทำเป็นแผนภาพสามเหลี่ยมนี้
แล้วดูซิว่าทรงมันคล้ายกับตัวอย่างไหม
มีอะไรผิดเพี้ยนไปหรือเปล่า
บางทีอาจจะทำให้เจอปัญหาว่าทำไมนิยายของเราถึงไม่น่าติดตาม
หรือดูยืดเยื้อผิดปกติก็ได้
แล้วดูซิว่าทรงมันคล้ายกับตัวอย่างไหม
มีอะไรผิดเพี้ยนไปหรือเปล่า
บางทีอาจจะทำให้เจอปัญหาว่าทำไมนิยายของเราถึงไม่น่าติดตาม
หรือดูยืดเยื้อผิดปกติก็ได้
58 ความคิดเห็น
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับผม

ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ จะขอเอาไปเป็นแบบอย่างค่ะ
จะเอาไปใช้ค่ะ ขอบคุณสำหรับแนวทาง (_ _)
ขอบคุณครับ
ขอบคุณค่าาาาาา
สาระยิ่งกว่าสาระ ขอบคุณมากค่ะ *-*
ทำไมตอนผมเขียนนิยายใหม่ๆ ไม่เจอสูตรแบบนี้บ้างนะ
เป็นความรู้ที่ดีสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ หยิบวิธีนี้ไปใช้ได้เลย นิยายออกมาดีแน่ๆรับรอง
ขอบคุณสำหรับแนวทางในการเขียนพล็อตอีกแบบค่ะ
น่าสนใจมากกก อ่านแล้วนึกย้อนไปถึงนิยายตัวเองแล้วแบบ...
อยากจะรื้อใหม่ทั้งเรื่องเลยเหอะ
ขอบคุณนะคะ จอเอาไปปรับใช้เลยคะ
ทำไมหลังจากผมไปทวนพล็อตของตัวเองแล้ว ผมถึงเห็นเป็นรูปเทือกเขาอัลไตกันนะ...
ขึ้นๆลงๆแทบจะไม่สม่ำเสมอ แถมไคลแมกซ์ดันกระจายอยู่ทั้งเรื่องซะอีก มิน่าถึงได้เขียนลำบากนัก
เยี่ยมอะ
เป็นบทความที่มีสาระมากค่ะ T^T ในที่สุดก็มีแนวทางในเขียนพล็อต เย้
ขอบคุณค่ะพี่น้อง
ขอบคุณมากๆค่ะ





ขอบคุณมากค่ะ จะพยายามทำตามนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มากค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณครับ
อ่านจบปุ๊ป สามเหลี่ยมหลายรูปถูกววาดลงกระดาษเลยนะครัช 555555555555
มันมองภาพง่ายจริง ๆ