ร้อยคำถาม ล้านเหตุผล พี่น้องเชื่อว่าทุกการเปลี่ยนแปลงมีเหตุผลของมัน เช่นเดียวกับนิยายเรื่อง The Maze Runner ที่เมื่อกลายเป็นหนังแล้วก็แตกต่างจากในนิยายอยู่บ้าง
วันนี้พี่น้องจะมาชี้แจงให้เห็นเป็นจุดๆ ไปเลยว่าสองเวอร์ชั่นนี้ต่างกันอย่างไร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับภาคสอง The Scorch Trials ที่กำลังจะเข้าฉายในเดือนกันยายนนี้
1. การดำเนินเรื่องรวดเร็วขึ้น
ตรงข้ามกับหนังซึ่งดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็วและไม่ค่อยเน้นรายละเอียดชีวิตในทุ่งเท่าไร เหมือนพูดผ่านๆ ให้พอเข้าใจเท่านั้น คนดูอาจไม่เห็นภาพฟรายแพนกับอาหารที่เขาทำ ไม่ได้เห็นภาพโรงเลือดที่เอาไว้ฆ่าสัตว์หรือกระบวนการนั้น ฯลฯ แต่จะเน้นการผจญภัยในเขาวงกตมากกว่าและมีเพิ่มลูกเล่นเขาวงกตให้สมกับที่เป็นหนัง mass ด้วย
นอกจากการตัดฉากเล่าเรื่อง และรายละเอียดอันยาวเหยียดในนิยาย ยังมีการเพิ่มฉากล้อมวงรอบกองไฟและต่อสู้กัน เป็นการแสดงให้เห็นกิจกรรมของกลุ่มเด็กผู้ชายที่ไม่ได้มีในนิยาย และเป็นฉากที่น่าสนใจ เพราะทำให้เห็นพฤติกรรมห่ามๆ ของเด็กชายและมิตรภาพระหว่างกันชัดกว่า
2. สิ่งที่เราไม่เห็นในหนัง
- แมลงใบมีด (Beetle Baldes) ที่ปรากฏตัวในทุ่งเป็นระยะ และมีตัวอักษร WICKED สีเขียวบนหลัง อัลบีเชื่อว่ามันเป็นเหมือนกล้องคอยสังเกตการณ์ความเป็นไปต่างๆ ในทุ่งของคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
- การเปลี่ยนแปลง (The Changing) จริงๆ แล้วเราได้เห็นสภาพนี้จากโทมัสและอัลบี แต่ในหนังจะไม่มีการพูดถึงสภาพนี้อย่างชัดเจนเท่ากับหนังสือ ในหนังสือจะอธิบายให้เข้าใจไปเลยว่าคนที่ถูกโศกา (Griever) ต่อย จะต้องโดนฉีดเซรุ่ม หลังจากนั้นจะผ่านสภาวะการเปลี่ยนแปลง ทำให้ความทรงจำที่ถูกลบไปกลับมาบางส่วน
- อาการของเบ็น เมื่อในหนังไม่ได้ให้ความสำคัญกับ 'การเปลี่ยนแปลง' ฉากนี้จึงถูกตัดออกไปด้วย ในหนังเราได้เห็นเบ็นครั้งเดียวคือตอนที่เขาออกมาจู่โจมโทมัส สภาพของเขาเหมือนซอมบี้ที่ยังพูดภาษาคนได้อยู่ เรารู้แค่ว่าเบ็นโดนต่อยมา ก็เลยติดเชื้อและผ่านการเปลี่ยนแปลง ทำให้เขาเห็นภาพที่โทมัสเป็นพวกเดียวกับคนที่ส่งทุกคนมาในวงกต เหตุผลเดียวกับที่กัลลี่เกลียดโทมัสมาแต่แรกเจอ
- มรณา (The Deadheads) เป็นชื่อเรียกสถานที่ฝังศพชาวทุ่ง หรือสุสาน อยู่ลึกเข้าไปในป่า โทมัสเดินเข้าไปเจอเพราะแมลงใบมีดนำไป ทำให้เขาได้เห็นศพของชาวทุ่งคนหนึ่งที่ทดลองหย่อนตัวลงไปในโพรงที่กล่องขนของใช้ในการขนส่ง ชัคเป็นคนเล่าให้โทมัสฟังว่าเด็กคนที่ลงไปถูกอะไรบางอย่างตัดตัวเขาจนขาดครึ่ง
- สื่อสารด้วยจิต ในนิยาย เทเรซ่ากับโทมัสสื่อสารกันได้ด้วยจิต แต่ในหนังไม่มี ซึ่งส่วนที่หายไปนี้ไม่ค่อยมีผลเท่าไรในภาคแรก แต่มันจะเริ่มมามีผลในภาคสอง The Scorch Trials ตอนที่โทมัสกับเทเรซ่าถูกจับแยกกัน และเขาพยายามติดต่อเธอแต่ไม่สำเร็จ (จากที่ดู Trailer ภาคสอง พี่น้องคิดว่าเขาตัดเหตุการณ์ที่เทเรซ่ากับโทมัสแยกกันออกไปเลย สงสัยจะไม่มีผลกับพล็อตเรื่องหลักเลยเปลี่ยนได้)
- การสิ้นสุด (The End) ในนิยาย การมาของเทเรซ่าจุดชนวน 'การสิ้นสุด' ซึ่งก็คือเหตุการณ์ประตูเขาวงกตไม่ยอมปิด แต่ในหนังจะไม่ค่อยเน้นอิทธิพลของเทเรซ่าเท่ากับโทมัส
3. สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป
- ชื่อของโทมัส ในนิยาย ชื่อเป็นสิ่งเดียวที่โทมัสจำได้ แต่ในหนัง โทมัสจะจำชื่อตัวเองได้ตอนสู้กับกัลลี่แล้วโดนผลักล้ม พอเขาจำชื่อได้ทุกคนก็แสดงความยินดี แถมกัลลี่ยังเข้ามาต้อนรับอีก ทำให้เห็นมิตรภาพของเด็กผู้ชายกลุ่มนี้มากกว่าในนิยาย
- เซรุ่ม ในนิยาย เซรุ่มสำหรับคนที่โดนโศกาต่อยนั้นติดมากับกล่องเสบียงตั้งแต่ก่อนโทมัสมาแล้ว แต่ในหนัง เซรุ่มมาพร้อมกับเทเรซ่า
- ตัวย่อองค์กร ในนิยาย ชื่อองค์กรที่ทำการทดลองทั้งหมดนี้คือ W.I.C.K.E.D แต่ในหนังย่อให้เหลือแค่ W.C.K.D
- ชัคกับโทมัส ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้ในหนังสือจะชัดเจนกว่า เพราะมีเวลาให้เราเห็นสองคนอยู่ด้วยกัน ในหนังจึงเพิ่มฉากตุ๊กตาไม้ของชัค เพื่อเน้นความสัมพันธ์ของสองคนนี้ และเพิ่มเหตุผลว่าทำไมโทมัสถึงเสียใจมากที่ชัคตายตอนจบ
- การตายของชัค ในนิยาย กัลลี่ปามีดใส่โทมัส แล้วชัคเข้ามาขวางไว้ ก่อนที่โทมัสจะเข้าไประดมต่อยกัลลี่จนสลบ แต่ในหนังกัลลี่ใช้ปืนยิง และโดนมินโฮพุ่งหอกใส่
- โศกาบุก ในนิยายเมื่อเทเรซ่าจุดชนวนการสิ้นสุดแล้วประตูเขาวงกตจะไม่ปิด และตอนกลางคืนโศกาจะบุกเข้ามา จับตัวคนในทุ่งไปคืนละคน พอได้แล้วก็กลับออกไป ชาวทุ่งต้องรออย่างกระวนกระวายตอนกลางคืนจนกว่าจะหาทางออกจากเขาวงกตได้ แต่ในหนังรวบฉากนี้เป็นฉากเดียว โดยให้โศกาทำลายทุกอย่างและฆ่าชาวทุ่งเป็นจำนวนมากในคืนเดียว หลังจากนั้นจึงเป็นการตัดสินใจหนีเข้าเขาวงกตของพวกโทมัส
- การตายของอัลบี ในนิยายอัลบียังมีชีวิตรอดจนถึงตอนที่พวกโทมัสหาทางออกจากเขาวงกต และเขาสละตัวเองเป็นเหยื่อให้โศกากลุ้มรุม ชาวทุ่งคนอื่นจะได้แอบเดินอ้อมโศกาไปได้ แต่ในหนัง อัลบีถูกจับตัวไปในคืนที่โศกาบุก
- และเรื่องยิบย่อยอื่นๆ อีกมาก ฯลฯ
ส่วนหัวข้อต่อไปจะเป็นการปรับเปลี่ยนที่สำคัญ และทำให้ภาพรวมของเรื่องเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด
4. เขาวงกต
แต่เวอร์ชั่นหนังทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะคนดูคงเบื่อแย่ ทุกคนอยากมาดูหนังแอ็คชั่นวิ่งพล่านในเขาวงกต จึงต้องมีการเพิ่มฉากวิ่งเข้าไป และเพิ่มลูกเล่นให้กับเขาวงกตซึ่งไม่มีในนิยาย รวมถึงการเปลี่ยนแปลง 'ความลับ' ของเขาวงกตให้ต่างออกไปด้วย
นอกจากนี้เขาวงกตในนิยาย (ตามที่มินโฮซึ่งวิ่งสำรวจเส้นทางมานานหลายปี) เป็นสี่เหลี่ยม (ตามภาพ) และวาดใส่กระดาษเอาไว้ลวกๆ ความซับซ้อนอยู่ที่ประตูซึ่งเปิดออกไปยังส่วนที่ 1,3,5, และ 7 ที่ไม่ได้ติดกับตัวทุ่งโดยตรง มินโฮบอกกับโทมัสว่า "...ทางเดินใหญ่นอกประตูพวกนั้นไม่เคยเปลี่ยน มีแต่ที่อยู่ลึกออกไปอีกหน่อยเท่านั้น"
อีกสิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือในนิยาย พวกนักวิ่งช่วยกันสร้าง 'แผนที่' เขาวงกตขึ้นมาโดยวาดลงบนกระดาษ แล้วเก็บลงในหีบ แบ่งเป็นแต่ละส่วน และกำกับเลขวันที่ออกไปสำรวจเอาไว้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเส้นทางในแต่ละส่วนคือกุญแจที่ใช้ไขปริศนาทางออกจากเขาวงกต
แต่ในหนัง พวกเขาสร้างโมเดลจำลองขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ช่วยไขปริศนาสักเท่าไร ที่เกี่ยวคือลำดับการเปิด-ปิดเขาวงกตซึ่งมินโฮจำได้ และใช้เป็นตัวปลดล็อกประตูที่เจอในตอนท้ายเรื่อง และชิ้นส่วนที่พวกเขาเก็บได้จากตัวโศกา ก็เหมือนเป็นคำใบ้ที่ทำให้โทมัสคิดว่าต้องกลับเข้าไปดูในส่วนที่ 7 อีกครั้ง (ซึ่งตรงข้ามกับนิยายเลยที่กว่าโทมัสจะนึกออกว่าต้องทำอะไรบ้างก็เกือบจบเรื่องแล้ว)
5. กัลลี่
นิยาย | หนัง |
กัลลี่เคยโดนโศกาต่อย และผ่าน 'การเปลี่ยนแปลง' เขารู้ว่าโทมัสเป็นพวกเดียวกับ WICKED จึงเกิดความระแวง ยิ่งพอโทมัสมาแล้วมีแต่เรื่องแปลกๆ ยิ่งทำให้กัลลี่ปักใจเชื่อว่าโทมัสอาจจะได้รับคำสั่งให้มาป่วนที่นี่ | กัลลี่ไม่เคยโดนต่อย และไม่รู้ว่าโทมัสเป็นใครเช่นเดียวกับคนอื่น ลักษณะของกัลลี่เหมือนรุ่นพี่ที่ปากไม่ตรงกับใจ เป็นห่วงรุ่นน้องแต่จะไม่ยอมพูดออกไปตรงๆ เน้นพูดจาถากถางหรือทำร้ายร่างกายให้จดจำมากกว่า |
กัลลี่หาเรื่องโทมัสบ่อยครั้ง สาเหตุก็มาจากเกลียดจริงจัง รู้สึกว่าโทมัสไม่ใช่พวกเดียวกับชาวทุ่ง แถมโทมัสยังชอบแหกกฎให้ชาวทุ่งวุ่นวายด้วย | กัลลี่หาเรื่องโทมัสบ้าง แต่ไม่ใช่เพราะเกลียด เหมือนเป็นการรับน้องมากกว่า ฉากที่โทมัสนึกชื่อตัวเองออกแล้วกัลลี่เข้าไปจับมือแสดงความยินดีก็แสดงให้เห็นว่าหนังวางตัวละครตัวนี้ไว้คนละแบบกับในหนังสือ |
ไม่ใช่แค่โทมัสคนเดียวที่ไม่ชอบกัลลี่ ชาวทุ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบเขา เพราะไม่ใช่คนเป็นมิตรนัก |
กัลลี่ในหนังเข้ากับชาวทุ่งได้ดี และบางครั้งแสดงความเป็นผู้นำ พึ่งพาได้ นอกจากนี้เขายังยึดมั่นในกฎที่อัลบีวางไว้ เพราะมันทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขมานานหลายปีแล้ว
(ถึงได้ต้องคอยย้ำให้ลงโทษโทมัส ไม่งั้นกฎจะไม่ศักดิ์สิทธิ์และจะมีคนแหกกฎเพิ่ม) |
ตอนที่โศกาบุกเข้ามาในทุ่ง กัลลี่ถูกจับตัวไป วินาทีสุดท้ายเขาพูดกับโทมัสว่า "ไม่เคยมีใครเข้าใจสิ่งที่ฉันเห็น สิ่งที่การเปลี่ยนแปลงทำกับฉัน! อย่ากลับไปโลกจริง โทมัส! นายไม่...อยาก...จำได้หรอก!" หลังจากนั้นพวกโทมัสจึงไขปริศนาเขาวงกตและหาทางออก |
ตอนที่โศกาบุก เป็นอัลบีที่ถูกจับไป (และน่าจะถือว่าตายไปเลย) ส่วนกัลลี่ก็ช่วยเด็กในทุ่งบางคนไว้ได้ เมื่อเหตุการณ์สงบ กัลลี่เข้าควบคุมอำนาจแทนอัลบี และยอมให้โทมัสกับพวกออกไปหาทางออกในเขาวงกต ส่วนเขาจะปักหลักอยู่ที่เดิมกับคนที่เชื่อในตัวเขา |
เมื่อพวกโทมัสเข้าไปในแล็บจึงได้พบกับเจ้าหน้าที่ของ WICKED นั่งอยู่อีกห้อง ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาแนะนำตัวกับพวกเด็กๆ พร้อมกับพากัลลี่มาด้วย สภาพกัลลี่เหมือนถูกควบคุมอยู่ นี่เป็นแผนของ WICKED ในการจัดฉากให้โทมัสต้องโดนกัลลี่ฆ่า (เรื่องนี้เฉลยในเล่ม 2) แต่ชัคดันเข้ามาขวางไว้ก่อน ตอนที่กัลลี่โดนโศกาจับตัวไป พวกเจ้าหน้าที่คงมาช่วยเขาและพาตัวไปรอเด็กคนอื่นที่แล็บเพื่อทำตามแผน (กัลลี่อาจจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแผนนี้เลยก็ได้) |
พวกโทมัสเข้าไปในแล็บ เจ้าหน้าที่ตายหมดแล้ว เหลือแต่วิดีโอ แล้วกัลลี่ก็โผล่เข้ามา (ทำให้คนดูสงสัยว่ามาได้ยังไง) พร้อมทั้งพูดเหมือนกับว่าตัวเองผ่าน 'การเปลี่ยนแปลง' มาแล้ว คาดว่าทุ่งคงโดนโศกาบุก กัลลี่เลยต้องหนีออกมา แต่ไม่ชัดเจนว่าเขาโดนโศกาต่อยเมื่อไร และได้เซรุ่มหรือยัง ที่แน่ๆ มันทำให้เขาแสดงออกว่าอยากฆ่าโทมัสอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน |
เมื่อกัลลี่ฆ่าชัค โทมัสเสียใจมากต่อยกัลลี่จนสลบก่อนที่จะโดนกลุ่มทหารดึงตัวออกไป แต่กัลลี่ยังไม่ตาย | ทันทีที่กัลลี่ยิงปืน มินโฮก็ปาหอกใส่กัลลี่ทันที แม้จะปักเข้าหัวใจ แต่ก็ไม่แน่ว่าเขาจะตายหรือเปล่า |
จะเห็นว่าหนังเปลี่ยนรายละเอียดหลายๆ อย่างเกี่ยวกับกัลลี่เสียจนทำให้เกิดจุดอ่อนของเรื่อง นั่นคือความไม่สมเหตุสมผลในตอนจบ ถ้าพี่จำไม่ผิด กัลลี่จะกลับมาอีกครั้ง เมื่อหนังเปลี่ยนรายละเอียดขนาดนี้ มีโอกาสที่ภาคต่อๆ ไปหนังอาจจะต่างจากหนังสือไปเรื่อยๆ ก็ได้
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคิดว่าหลายคนที่ไปดูหนังแต่ยังไม่ได้อ่านหนังสือคงพอเห็นภาพแล้วนะคะว่าหนังขาดตรงไหนไป ทำไมบางฉากถึงดูแล้วงง ทำไมพอไปคุยกับเพื่อนที่อ่านหนังสือแล้วถึงความเห็นต่างกัน ถ้าใครดูหนังแล้วไม่สนุกหรือไม่เข้าใจ ก็ลองหานิยายมาอ่านดูนะ
เดือนกันยายนก่อนหนังเข้า เตรียมตัวพบกับบทวิจารณ์
The Scorch Trails (ฉบับนิยาย) ที่นี่ Dek-D.com!

Twentieth Century Fox - The Maze Runner
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
mazerunner.wikia.com
10 ความคิดเห็น
สำหรับเรา...สิ่งที่นึกเป็นอันดับแรกคือ นิวท์... ในนิยายเมะ ในหนัง เคะ มว๊ากกกก!!
จะว่าไป.... ก็จริงนะ มันไม่สมเหตุสมผลเลย
แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ที่จริงมันมีอีกหลายเรื่องที่พอไปทำเป็นหนังแล้วมันไม่ได้เรื่องและไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิดเหมือนกัน
จะผิดไหมคะ ถ้าบอกว่าที่ไปดูหนังเพราะนิวท์กับมินโฮล้วนๆ
อีกอย่าง james dashner ให้สัมพาทย์ว่านิวท์เป็นเกย์(อ้างอิงจากบทสัมพาทย์https://deadspaced.wordpress.com/2014/08/05/the-maze-runner-review/) ในหนังสือนิวท์จะมีอาการหน้าแดงกับคนโน้นคนนี้ แต่ในหนังโครตแมน
ในหนังนี่กัลลี่ไม่ตายเหรอคะ ดูยังไงก็ไม่น่ารอดนะ 555555
เราอ่านนิยาย จิ้น minewt มากกกกกก แบบว่ามินโฮ เคะ แต่นิวท์เมะ แต่พอดูหนังมานั้นและเธอออออออ นิวท์เคะมากกกกกกเปลี่ยนความคิดทุกอย่างทันทื เริ่มจิ้น โทมัส แซงสเตอร์ กับ กีฮง สถานะปัจจุบัน เลิกอ่านนิยาย ดูแต่เมซแบบหนังงงงงง เพราะชอบมากกกว่า ต้องนี้บ้า กีฮงโทมัสสุดๆ แถม ดีแลนอีกคน เอาเป็นว่าชอบบบแบบหนังมากกกก #ไม่ได้เกี่ยวกับบทวิจารณ์เลย5555 เอาเป็นว่าถ้าโดนแบบในหนังกัลลี่คงไม่น่ารอด
เจ้าของกระทู้เปรียบเทียบได้ยอดเยี่ยมมากค่ะ ภาคสองนี้อิฉันรอดู อริส โจนส์ หนุ่มน้อยทีมบีเลยค่ะ เคะไม่เเพ้นิวท์นะเออ
เป็นคนนึงที่ไปดุหนังก่อนแล้วมาตามอ่านหนังสือเอา รู้สึกได้เลยว่ามันไม่เข้ากันเท่าไหร่ แต่เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ในการทำฉาก ใส่เอฟเฟคแล้ว.. หนังก้ออกมาสนุกเลยแหล่ะนะ ข้อสำคัญคือ มินโฮหล่อมากกกกกกกกกกกกกกค่ะ
#ผิด 5555555555555
อ่านจนครบทุกเล่มแล้ว พอดูตัวอย่างภาค2มานี่สงสัยเลยว่าทำไมไม่แยกเทเรซ่ากับโทมัสออกจากกัน แงงงงงงงงงงงงงงง