5 เทพนิยายที่เบื้องหน้าสายฟรุ้งฟริ้ง
แต่เบื้องหลัง สายดราม่าชัดๆ!
สวัสดีชาวไรเตอร์ทุกคนค่ะ เชื่อว่าทุกคนตอนเป็นเด็ก (หรือยังเด็กอยู่) ร้อยทั้งร้อยต้องเคยดูการ์ตูนคลาสสิคตลอดกาลอย่าง “Walt Disney” กันใช่มั้ยคะ? ซึ่งพี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ แถมยังตกหลุมรักในมนต์ขลังของการ์ตูนซะด้วย แต่รู้อะไรไหมคะ ก่อนที่ดิสนีย์จะนำนิทานเหล่านี้มาทำเป็นการ์ตูนสนุกๆ ให้เราดูกัน เขาเปลี่ยนแปลงพล็อตเรื่องไปค่อนข้างมากเลยนะคะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เด็กๆ อย่างเราๆ (ในตอนนั้น... ฮา) ไม่ต้องตกใจกลัวไปกับเรื่องก่อนดัดแปลง T__T
ซึ่งในวันนี้พี่น้ำผึ้งจะพาน้องๆ มาดูเวอร์ชั่นดั้งเดิมของบรรดาเทพนิยายฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งที่เรารู้จัก เชื่อว่าหลังอ่านจบน้องๆ อาจจะต้องพูดออกมาเลยว่า “ขอบคุณดิสนีย์ที่เปลี่ยนมัน” ฮ่าๆ พร้อมหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วมาลุยเลย (อย่าลืมเตรียมใจก่อนอ่านนะ)
มู่หลาน (Mulan)
อย่างที่รู้กันดีว่าในตอนจบ จีนชนะศึก มู่หลานกลับมาหาพ่อที่บ้าน เธอถูกยกย่องว่าเป็นฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่และได้แต่งงานกับชาง... อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป
เวอร์ชั่นจริง
มู่หลานน่าจะเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 450 ในสมัยรางวงศ์เว่ย เป็นเรื่องราวที่ได้นำมาจากลำนำเพลงมู่หลาน (The Ballad of Mulan) ซึ่งเป็นเพลงร้องของชาวบ้านปากต่อปากเป็นเวลานานร้อยกว่าปี ได้มีการเก็บบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ในสมัยศตวรรษที่ 6 อย่างไรเสีย โชคร้ายที่ต้นฉบับได้สูญหายหมดแล้วค่ะ
เหตุการณ์ทั้งหมดมีความเป็นไปได้ว่าจะเหมือนในการ์ตูนที่เราดู แต่มันจะไม่เหมือนก็ตรงตอนจบของเรื่องนี่สิคะ เพราะหลังจากที่มู่หลานกลับหมู่บ้านไปแล้ว พ่อของเธอก็เสียชีวิต แถมยังถูกจักรพรรดิสุยหยาง (Sui Yang Emperor) เรียกตัวไปอีกต่างหาก...
ลำนำเพลงมู่หลาน The Balled of Mulan
(เครดิตภาพ : http://history.cultural-china.com)
อ้าว เรียกตัวเป็นอะไรล่ะ... แหม ก็ไปเป็นนางสนมน่ะสิคะ แต่มู่หลานของเราไม่ยอมค่ะ เธอปฏิเสธยกใหญ่ทำให้จักรพรรดิโกรธมากเลยบังคับข่มขู่เธอทุกวิถีทางให้เธอยอมเป็นนางสนมของเขา มู่หลานจึงฆ่าตัวตายต่อพระพักตร์พระองค์เพื่อรักษาความชอบธรรมของตัวเอง!
งานนี้จักรพรรดิสุยหยางเสียพระทัยมากเลยรับสั่งให้ทหารดูแลศพของมู่หลาน และให้สมญานามแก่เธอว่า “Xiaolie” ซึ่งหมายถึง “วีรสตรีผู้สมควรได้รับการคารวะและเป็นผู้กล้าแห่งยุค”
น่ายกย่องมู่หลานจริงๆ เลยนะคะ รักพ่อของตัวเองไม่พอ ยังสู้เพื่อบ้านเพื่อเมืองแล้วแถมยังรักศักดิ์ศรีของตัวเองอีกด้วยค่ะ
โพคาฮอนทัส (Pocahontas)
และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ดิสนีย์นำเค้าโครงมาจากเรื่องจริงค่ะ เรื่องราวของสาวน้อยชาวอินเดียแดงที่มีนิสัยซุกซน รักอิสระ และมีมนุษยธรรม ซึ่งเธอได้ตกหลุมรักพวกผิวขาวต่างเผ่าพันธุ์อย่างจอห์น สมิธ นอกจากจะได้รู้ถึงความรักระหว่างมนุษย์ การ์ตูนเรื่องนี้ยังสอนให้เรารู้จักรักชาติเผ่าพันธุ์ของตนด้วยค่ะ
เวอร์ชั่นดิสนีย์
ในช่วงที่อังกฤษล่าอาณานิคมโดยมีแรทคลิฟฟ์จอมละโมบที่บุกไปยังดินแดนของชนเผ่าอินเดียแดงพื้นเมืองเพื่อขุดหาทอง และกัปตันจอห์น สมิธที่ติดตามมาด้วย โพคานฮอนทัสคือธิดาของหัวหน้าเผ่า เธอได้พบเรือสำเภาที่นำชาวอังกฤษมาที่นี่จึงเกิดความสนใจและเฝ้าติดตามพวกผิวขาวผู้มาใหม่ จนกระทั่งเธอได้พบกับจอห์น สมิธและตกหลุมรักจนกลายเป็นความผูกพัน แต่เพราะความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายเป็นอุปสรรค พวกเขาจึงพยายามหาวิธียุติสงครามก่อนที่จะจบลงอย่างมีความสุข
เวอร์ชั่นจริง
แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องจริงนั้นสาวโพคาฮอนทัสของเราเพิ่งมีอายุราวๆ 11-12 ขวบเองนะคะ ขณะที่พ่อหนุ่มจอห์นเนี่ยอายุก็ปาไป 28 แล้ว! แต่เนื่องจากเธอเป็นคนที่ซุกซนและเฉลียวฉลาด เกินกว่าวัยตัวเอง เรื่องราวความรักของทั้งคู่จึงเข้าข่ายโลลิค่อน (หากไม่รู้จักขอแนะนำให้อ่านบทความนี้ค่ะ โลลิต้า: หนังสือ แฟชั่น และผู้ชายรักเด็ก)
เดิมทีโพคาฮอนทัสนั้นมีชื่อจริงว่า “มาโตอาคา” เป็นธิดาของ “พาวฮาตาน” หัวหน้าเผ่า เธอเกิดในรัฐเวอร์จิเนีย เป็นบุคคลสำคัญในการรักษาสันติภาพระหว่างชาวอังกฤษกับชนเผ่าของเธอเอง ก่อนที่เธอจะช่วยชีวิตจอห์น สมิธ ที่กำลังจะถูกลงโทษโดยเผ่าพันธุ์ของเธอเอง
โชคร้ายที่ความรักของเธอนั้นไม่ได้สมหวังเหมือนดั่งในการ์ตูน เพราะแม้เธอจะรักเขามากแค่ไหน แต่สุดท้ายจอห์น สมิธก็ต่อกลับไปเกาะอังกฤษ แล้วแถมยังเสียชีวิตอีกด้วย โพคาฮอนทัสจึงเสียใจมาก
โพคาฮอนทัสกำลังปกป้องกัปตันจอห์น สมิธ
(เครดิตภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/Pocahontas)
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานเธอก็แต่งงานกับโคโคอุม (Kokoum) ชนเผ่าเดียวกับเธอ และในตอนที่เธออายุ 17 ปี ชาวอังกฤษเริ่มล่าอาณานิคมอีกครั้ง เธอถูกเรียกค่าไถ่ สามีของเธอถูกฆ่าตาย แถมเธอยังถูกข่มขืนซ้ำไปซ้ำมาจนตั้งครรภ์อีกด้วยค่ะ โชคยังดีอยู่นักที่เธอแต่งงานกับชายชาวอังกฤษนามว่า “จอห์น โรล์ฟ” ราวๆ ปี พ.ศ. 2517 ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ประเทศอังกฤษในปี พ.ศ. 2159 เธอได้เปลี่ยนเป็นนับถือศาสนาคริสต์และมีชื่อใหม่ว่า “รีเบกกา”
โพคาฮอนทัสนั้นเสียชีวิตจากโรคฝีดาษตอนอายุ 22 ปี แต่นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าไม่จริง เพราะที่จริงแล้วเธอถูกวางยาพิษโดยผู้ที่ต้องการกำจัดชาวอินเดียแดงต่างหาก ซึ่งตัวโพคาฮอนทัสนั้นไปขัดขวางคนเหล่านั้น อันนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอเสียชีวิตอย่างไร เพราะมีแต่ตัวเธอเองเท่านั้นที่เป็นคนตอบได้ค่ะ...
พิน็อคคิโอ (Pinocchio)
พิน็อคคิโอคือผลงานจากปลายปากกาของคาร์โล คอลโลดี (Carlo Collodi) นักประพันธ์ชาวอิตาลีที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1880 ใครจะไปรู้ว่าหุ่นกระบอกใสๆ ที่ดิสนีย์ทำเป็นการ์ตูนให้เราดูนั้นแท้จริงแล้วมีตอนจบที่หดหู่กว่าที่เราคิดอีกนะคะ
เวอร์ชั่นดิสนีย์
เรื่องราวของเจ้าหุ่นกระบอกแสนดื้อที่มีนางฟ้ามาคอยช่วยเหลือ โดยมีเงื่อนไขที่ว่าถ้าหากโกหกจมูกจะต้องยาวขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตอนที่พิน็อคคิโอตายแล้วตายอีกก็จะมีนางฟ้ามาคอยช่วยให้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่เพราะเจ้าหุ่นไม้ช่างซุกซนเสียจริงเลยทำให้เขาถูกนำไปขายในคณะละครสัตว์ แถมยังถูกกลั่นแกล้งโดยการถูกถ่วงหินจมน้ำอีกด้วยค่ะ
ความโชคร้ายของพิน็อคคิโอยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อหุ่นกระบอกน้อยของเราโดนฉลามยักษ์กินเลยได้พบเก็ปเปตโต หรือพ่อ (ผู้สร้างเขา) ของเขาในท้องของปลาฉลาม (ซึ่งมีชีวิตอยู่ได้เพราะกินประหลาดสดนั่นเอง) ต่อมาพวกเขาก็หนีมาได้! และสุดท้ายเมื่อนางฟ้าเห็นว่าพิน็อคคิโอเป็นเด็กดี หล่อนก็เลยเสกให้หุ่นกระบอกไม้กลายเป็นเด็กที่มีชีวิตจริงๆ
เวอร์ชั่นจริง
จริงๆ แล้วคาร์โล คอลโลดีไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นนิทานสำหรับเด็กหรอกค่ะ เพราะในเนื้อเรื่องดั้งเดิมนั้นพิน็อคคิโอมีนิสัยเสเพล เขาฆ่าคริกเก็ต... ก่อนสุดท้ายจะตายเพราะการกระทำที่แสบสันต์ของตัวเอง
เริ่มแรกพิน็อคคิโอได้ยั่วพ่อของเขาจนทำให้โกรธเลยเผลอทำร้ายพิน็อคคิโอ พ่อของเขาเลยถูกจับในข้อหาทำร้ายหุ่น ส่วนพิน็อคคิโอวิ่งหนีไป พอกลับมาถึงบ้านก็พบกับคริกเก็ตที่ตักเตือนหุ่นน้อยว่าถ้าซนนักจะกลายเป็นลานะ พิน็อคคิโอไม่เชื่อเลยฆ่าคริกเก็ต
ต่อมาหลังจากที่เก็ปเปตโตพ้นโทษออกจากคุก เขาก็ได้ขายเสื้อโค้ทตัวเดียวที่มีเพื่อนำเงินไปเป็นค่าหนังสือเรียนให้เขา ทว่าเจ้าพิน็อคคิโอตัวแสบดันเอาหนังสือเรียนเล่มนั้นไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อตั๋วเข้าชมคณะละครสัตว์ซะอย่างนั้น (นิสัยแย่จัง!) หลังจากนั้นพฤติกรรมของเขาก็แย่ลงเรื่อยๆ จนเกินเยียวยา สุดท้ายพิน็อคคิโอก็พบกับจุดจบอันน่าสงสาร... เมื่อสุนัขจิ้งจอกและแมวจับเขาแขวนคอ ต่างจากจุดจบของดิสนีย์ที่หุ่นกระบอกน้อยของเรากลับตัวกลับใจเลยค่ะ
คนค่อมแห่งนอเทรอดาม (The Hunchback of Notre Dame)
หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูกับเรื่องนี้เท่าไรนักเพราะเป็นการ์ตูนตั้งแต่สมัยปี พ.ศ. 2539 เกิดทันกันไหมคะน้องๆ? ส่วนพี่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่ปีเอง (ฮา) ซึ่งตัวเรื่องนั้นได้นำเสนอความรุนแรงที่มากที่สุดในบรรดาภาพยนตร์ดิสนีย์เลยค่ะ
คนค่อมแห่งนอเทรอดามนั้นถือกำเนิดจากปลายปากกาของวิคเตอร์ ฮูโก (Victor Hugo) นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศส พูดไปอาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าพูดมาว่าเขาเคยประพันธ์เรื่องไหนจะต้องร้องอ๋อแน่ๆ เพราะเขาคนนี้นี่แหละที่เป็นเบื้องหลังของความหดหู่ในงานเขียนเรื่อง “Les Misérables” อันเป็นนิยายที่ขายดีที่สุดในศตวรรษที่ 19 เพราะงั้นเราเลยรู้กันเลยว่าต้นฉบับที่แท้จริงของคนค่อมแห่งนอเทรดามต้องไม่สวยหรูแน่นอน...
Les Misérables เวอร์ชั่นภาพยนตร์และบรอดเวย์
(เครดิตภาพ : zuriest.wordpress.com)
เวอร์ชั่นดิสนีย์
เรื่องราวของชายหลังค่อมอัปลักษณ์หากแต่มีจิตใจดีอย่าง “กาซีโมโด” ที่หลงรักสาวยิปซีอย่าง “แอสเมอรัลดา” หัวปักหัวปำ และแม้ว่าจะไม่สมหวังในความรักกับเอสเมอรัลดา แต่เขาก็เป็นที่รักของผู้คนเพราะปราบวายร้ายอย่าง “ฟรอลโล” ได้
เวอร์ชั่นจริง
แน่นอนว่าเรื่องจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป... ดิสนีย์ก็แค่หลอกลวงให้เราตายใจค่ะ T__T เพราะตอนจบของชายหลังค่อมผู้น่าสงสารคนนี้นั้นเศร้าและหดหู่เหลือเกิน เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นที่ว่าตอนเป็นทารก คนค่อมได้ถูกจับเพื่อนำไปเผาทั้งเป็นเพราะคิดว่าเขาคือปีศาจร้าย ทว่าบาทหลวงฟรอลโลได้ช่วยเหลือเขาไว้ได้ก่อนจะเลี้ยงดูและตั้งชื่อให้ว่า “กาซีโมโด” โดยเขารับหน้าที่เป็นคนลั่นระฆังประจำมหาวิหารนอเทรอดาม
แม้จะมีรูปร่างอัปลักษณ์แต่กาซีโมโดก็มีหัวใจนะ เขาได้ตกหลุมรักสาวยิปซีสุดฮอตที่ชื่อ “แอสเมอรัลดา” แต่โชคร้ายที่บาทหลวงและทหารที่ชื่อว่า “เฟบุส” หลงรักเช่นกัน โศกนาฏกรรมจึงเกิดขึ้น... วันหนึ่งคนค่อมถูกเฟบุสจับมาทรมาน ซึ่งแอสเมอรัลดาได้พยายามให้ความช่วยเหลือเขาโดยการให้น้ำดื่มเลยทำให้เขาหลงรักเธอมากขึ้น
ต่อมาไม่นานบาทหลวงฟรอลโลก็ได้ใส่ร้ายป้ายสีแอสเมรัลดาว่าพยายามฆ่านายทหารเฟบุส ทำให้เธอถูกทรมานและถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ แล้วกาซีโมโดก็มาช่วยชีวิตเธอไว้ทันแล้วพาเข้าไปในมหาวิหาร ซึ่งตามกฎหมายแล้วการชิงตัวนักโทษประหารนั้นถือเป็นความผิดร้ายแรง
ชาวปารีสเห็นดังนั้นจึงไม่ยอม พากันล้อมมหาวิหารเพราะเชื่อว่าหล่อนนี่แหละคือแม่มดร้ายที่สร้างความวุ่นวาย ความปั่นป่วนให้กับฝรั่งเศสจึงบุกเข้าไปจับตัวนางมา บาทหลวงเลยส่งตัวนางไปให้แก่ทหารเพื่อยุติปัญหาทั้งหมด ในที่สุดแอสเมอรัลดาก็ถูกประหารชีวิตจริงๆ
ระหว่างที่บาทหลวงกำลังดูการแขวนคอเธอนั้น กาซีโมโดก็ได้ผลักบาทหลวงตกลงจากที่สูงของมหาวิหารจนทำให้เสียชีวิต อนิจจัง โชคร้ายที่แอสเมอรัลดาได้ตายไปแล้ว เขาเสียใจมากเลยไปยังหลุมศพของนางแล้วนอนลงข้างศพ ก่อนสุดท้ายจะขาดใจตายเพราะความหิว
ความเศร้ามันไม่ได้จบแค่นี้ค่ะ เมื่อภายหลังได้มีการขุดศพแอสเมอรัลดาขึ้นมาทำพิธี พวกชาวบ้านก็พบว่าโครงกระดูกของกาซีโมโดนั้นกอดเธอไว้แน่น พยายามแยกทั้งสองออกจากกันก็ได้... และเมื่อพยายามมากๆ เข้าโครงกระดูกของทั้งคู่ก็แตกสลายกลายเป็นผงธุลี เป็นอันปิดตำนานเมื่อทั้งสองได้อยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร์ในโลกหลังความตาย
นางเงือกน้อย (The Little Mermaid)
ปิดท้ายกันที่เทพนิยายคลาสสิคอย่าง The Little Mermaid ที่ประพันธ์โดยฮันส์ คริสเตียน แอดดิสัน ซึ่งเป็นเรื่องราวของเงือกสาวที่ตกหลุมรักเจ้าชายและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอได้เคียงคู่กับเขา โดยเรื่องนี้ผู้แต่งได้นำเรื่องจริงที่ความรักไม่สมหวังของตัวเองมาแต่งขึ้นค่ะ
เวอร์ชั่นดิสนีย์
แม่มดหมึกร้ายอย่าง “เออร์ซูล่า” ได้ยึดเสียงของนางเงือกน้อยนาม “แอเรียล” ไปเพื่อแลกกับการให้เธอได้เป็นมนุษย์และมีขา ซึ่งทำให้เธอได้ใกล้ชิดกับเจ้าชายอีริค และในตอนสุดท้ายทั้งคู่ก็ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
เวอร์ชั่นจริง
นิทานเรื่องนี้นั้นเศร้าเกินกว่าที่จะเป็นแค่นิทาน... เพราะมันเป็นเรื่องราวของการเสียสละเพื่อคนรัก แม้ว่าเขาอาจจะไม่เคยรู้เลยว่าคนที่คอยอยู่เคียงข้างเขามาตลอดคือใคร
เรื่องราวทั้งหมดเหมือนกับในการ์ตูนไม่มีผิดค่ะ ทั้งการที่แอเรียลช่วยเจ้าชายไว้และตกหลุมรัก เธอไปขอให้แม่มดแห่งท้องทะเลช่วยให้เธอมีขา โดยมีเงื่อนไขอยู่ว่าเธอต้องแลกด้วยเสียงอันไพเราะของเธอ ถ้าเธอไม่สามารถทำให้เจ้าชายรักเธอได้ เธอจะต้องกลายเป็นฟองอากาศและหายไปในทะเลชั่วนิรันดร์ แอเรียลจึงจำต้องตกลง
ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเจ้าชาย เขาทั้งเอ็นดูเธอและให้เธออยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลาแบบที่เธอต้องการ แต่อย่างไรเสียเจ้าหญิงก็ทรมานมากเหลือเกินเพราะเธอพูดไม่ได้และไม่มีโอกาสได้บอกความในใจของเธอกับเขาเลยสักนิด ซึ่งเจ้าชายชอบดูเธอเต้นรำ และเธอก็ชอบเต้นรำให้เจ้าชายดูด้วย...
เจ้าหญิงแอเรียลกับเจ้าชายอิริกในการ์ตูนดิสนีย์
กระทั่งวันหนึ่งเจ้าชายได้ตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับเจ้าหญิงองค์หนึ่งที่เขาคิดว่าเป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้เมื่อคราวเรือล่ม แอเรียลเสียใจมากแต่ไม่สามารถพูดได้ พอดีกับที่พี่สาวของเธอได้รู้ความจริงและไปขอร้องแม่มดแห่งท้องทะเลเพื่อช่วยชีวิตน้องสาว เธอจึงยอมและเส้นผมอันสวยงามกับมีดวิเศษ โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าเจ้าหญิงเอามีดกรีดหัวใจเจ้าชาย เจ้าหญิงน้อยแอเรียลจะกลับมาเป็นนางเงือกได้อีกครั้งหนึ่ง พี่สาวของเธอจึงรีบนำเรื่องมาบอกเจ้าหญิงแอเรียล
เธอถือมีดเล่มนั้นแล้วเข้าไปในห้องนอนของเจ้าชาย (หลังจากที่เพิ่งแต่งงาน) มองดูเขาหลับใหลอย่างมีความสุขกับคนที่เขารัก เธอตั้งใจจะฆ่าเขา... ทว่ากลับทำไม่ลง แอเรียลจูบเขาเบาๆ เพื่อบอกลาก่อนจะตัดสินใจกระโดดลงทะเลและสลายกลายเป็นฟองอากาศอย่างไม่มีทางหวนกลับคืนมา
อ่านเวอร์ชั่นออริจินัลจบแล้วแอบน้ำตาคลอเบาๆ นะคะ ช่างเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้ามากที่เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่กับคนรัก แต่เขากลับไม่รับรู้ในความรักของเราเลย แม้ว่าจะเจ็บแค่ไหนก็ไม่อาจทำร้ายเขาได้ รักมากจนถึงกับต้องเสียสละตัวเอง... แม้ว่าจะรู้จุดจบดีเลยว่าตนต้องสลายหหายไปเป็นฟองอากาศ (อินจัด)
จบไปแล้วนะคะเทพนิยายที่ดิสนีย์หลอกเรามาตลอด ซึ่งพี่ว่าให้เขาหลอกเถอะค่ะดีแล้ว เพราะถ้าขืนเอาเวอร์ชั่นออริจินัลมาทำเป็นการ์ตูน มีหวังคงได้ฝันร้ายไปตามๆ กันแน่ ขนาดพี่แค่อ่านยังรู้สึกหดหู่เลยค่ะ นึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าเด็กน้อยมาอ่านจะเป็นยังไง โดยเฉพาะเรื่องสุดท้ายที่นำมาอย่างนางเงือกน้อยนี่เศร้าจริงอะไรจริง T__T ส่วนครั้งหน้าพี่น้ำผึ้งจะเอาอะไรมาฝากน้องๆ นั้นก็อยากให้ติดตามค่ะ ^__^
สุดท้ายแล้วก็... พี่ขอโทษด้วยนะคะที่ทำลายความฝันของน้องๆ ค่ะ
พี่น้ำผึ้ง :)
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก
http://io9.gizmodo.com/5914283/10-creepy-details-glossed-over-by-modern-versions-of-fairy-tales
http://listverse.com/2009/01/06/9-gruesome-fairy-tale-origins/
https://en.wikipedia.org/wiki/Hua_Mulan#Bibliography
https://en.wikipedia.org/wiki/The_Little_Mermaid
http://hca.gilead.org.il/li_merma.html
http://pocahontas.morenus.org/
http://www.todayifoundout.com/index.php/2014/03/original-story-pinocchio-killed-jiminy-cricket-got-feet-burnt-hanged-assassins/http://www.sparknotes.com/lit/hunchback/summary.html
13 ความคิดเห็น
คนค่อมฉบับนิยายนี่ดาร์กกว่าจริงๆ เคยอ่านในวิกิครั้งแรกยังอึ้งไปหลายวิ
ดิสนีย์เขาเก่งนะ นำมาดัดแปลงได้กลายเป็นเรื่องที่สวยงามมาก
เวอร์ชันออริจินอลเนี่ยหดหู่นะ แต่มีความหมายที่แฝงไว้ดีมาก
คนค่อม...
กรี๊ดเรื่องคนค่อมมากค่ะ เพลงเปิดอย่างอลัง เป็นหนังมันๆ ที่ควรดูค่ะ รักนางเอก นางสวย นางเก่ง นางเลิศ ต้นแบบนางเอกนิยายเราเลยค่ะ เก่งเรื่องการต่อสู้และร่ายรำ
#แต่นางยังอยู่ในไห(...)
จริงๆแล้ว เทพนิยายเกือบทุกเรื่องนี่ดาร์กมากกกกก เพราะเขาบอกว่าสมัยก่อนไม่ได้มีไว้สำหรับเด็ก แต่เป็นความบันเทิงของผู้ใหญ่ค่ะ
แถมนิดนึง เพลง baby don't cry ของ exo ได้เอาลิตเติ้ลเมอร์เมดเวอร์ชั่นต้นฉบับมาทำเป็นเนื้อร้องในมุมมองเจ้าชายค่ะ เนื้อหาดีมากเลยยย เราก็พึ่งมารู้เนื้อเรื่องจริงๆของนิทานจากการตามหาเนื้อร้องของเพลงนี้นี่แหละ
น่าจะมี สวอนเลค อีกเรื่องนะคะ ดราม่าไม่แพ้กัน ฮือออออ ดิสนีย์เอาเรื่องเศร้าๆมาปรับเป็นแฮปปี้ซะหมดเลยอ้ะ ๕๕๕๕๕๕
เรื่องของมู่หลาน น่าหยิบมาดัดแปลงมาเขียนเป็นนิยายในมุมมองใหม่ดูนะคะ แต่น่าจะเป็นงานยากพอควร หากเป็นอีกเวอร์ชั่นเนื้อเรื่องคงต้องศึกษาเข้าขั้นจริงจังมากจริงๆ แต่หากมีใครคิดนำมาเขียนเวอร์นี้คงน่าสนุกดีค่ะ อยากลองอ่านดูแต่คงดราม่าหนักมากเช่นกัน
นึกถึงปีเตอร์แพน...
มู่หลานถูกเรียกตัวเป็นนางสนมนี่เอามาจากเวอร์ชั่นไหนคะ เท่าที่เรารู้มาเวอร์ชั่นแรกมู่หลานจะกลับบ้านไปทอผ้าต่อ เพื่อนทหารไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงจนมาเยี่ยม แต่งงานก็กับคนในหมู่บ้านนี่แหละ คิดว่าอันที่เป็นสนมอะไรนี่น่าจะเป็นแต่งที่หลังมากกว่า (ในวิกิที่อ้างอิงไว้ก็พูดว่าเป็นเรื่องแต่งทีหลัง แถมคนที่จะเอามู่หลานก็ไม่ใช่ฮ่องเต้จีนแต่เป็นข่านมงโกลด้วย)
โพคาฮอนทัสที่เราอ่านมาก็เหมือนกับที่ไรท์เขียนเลยยกเว้นพระนางความจริงไม่ได้รักกัน เป็นแค่มิตรภาพ แถมที่แต่งกับคนอังกฤษเพราะถูกรุมข่มขืนจนท้อง พวกนั้นกลัวเรื่องแดงเลยจับแต่งงานไม่ได้โชคดีอะไรเลย...
แต่ที่เราว่าน่าเพิ่มในลิสต์ก็มีทาร์ซานกับ Beauty and the Beast อ่ะ มันคนละเรื่องเดียวกันจริง ๆ
ปล. ที่เราอ่านเอามาจากนี่ค่ะ
https://dettoldisney.wordpress.com/category/disney-vs-original/
ชอบนางเงือกน้อยเวอร์ชั่นดาร์กเหมือนกันค่ะ อ่านแล้วรู้สึกอินมาก อยากให้เอาแบบเวอร์ชั่นเก่ามาทำเป็นหนังจังเลย
เรื่องที่ฮันส์เขียนไม่เคยจบอย่างมีความสุข เขามักเขียนหลังอกหัก เงือกน้อยเขาเขียนให้หญิงที่เขารักคนแรก เธอเป็นลูกสาวเจ้าของคฤหาสถ์ที่รับเขาเลี่ยงไว้ เขารักเธอแต่ไม่สามารถสมหวังได้ เขาจึงเขียนเรื่องเงือกน้อยขึ้นมา หลังเธอแต่งงานก่อนออกเดินทางจากคฤหาสถ์หลังนั้นมา ตอนอ่านประวัติฮันส์เราก็เศร้าเหมือนกัน