รามเกียรติ์ : ความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างทศกัณฐ์และนางสีดา
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน พบกับพี่หวานและคอลัมน์ “สาระวรรณกรรม” ทีไร เป็นต้องมีเรื่องราวเกี่ยวกับวรรณคดีมาเล่าให้ฟังตลอดเลยใช่มั้ยคะ วันนี้ก็เช่นเคยพี่หวานได้เลือกหยิบวรรณคดีไทยเรื่องสำคัญที่กำลังเป็นที่สนใจของทุกคนในโลกออนไลน์มาเล่าให้น้องๆ ฟัง นั่นก็คือเรื่อง รามเกียรติ์ นั่นเองงงง... พี่หวานเชื่อว่าเกือบทุกคนคงจะมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่อง รามเกียรติ์ กันมาเยอะแล้วใช่มั้ยคะ แต่ก็ยังมีบางคนที่อาจจะเกิดความสับสน เพราะข้อมูลในสมัยนี้มีมากมายเต็มไปหมด และยังไม่ทันได้กลั่นกรองให้ดีก็ถูกส่งผ่านถึงผู้รับสารไปแล้ว จึงทำให้โอกาสที่จะได้รับข้อมูลที่ผิดไปมีสูงมาก
แน่นอนว่าประเด็นสำคัญที่พี่หวานได้ตัดสินใจเลือกนำมาเล่าให้น้องๆ ฟังในวันนี้ก็คือประเด็น ความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างทศกัณฐ์และนางสีดา ทศกัณฐ์จะรักนางสีดามากกว่าพระรามจริงหรือ? ทำไมนางสีดาไม่เลือกทศกัณฐ์ทั้งๆ ที่มอบให้ได้ทุกอย่าง? และอีกสารพัดคำถามที่หลายคนคงจะยังสงสัย เราไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ ^____^
ในที่นี้พี่หวานจะขออ้างอิงข้อมูลจากหนังสือ บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ที่กรมศิลปากรได้จัดพิมพ์ขึ้นนะคะ จากการศึกษาพบว่า รามเกียรติ์ เป็นวรรณกรรมที่มีเค้าโครงเรื่องมาจากคัมภีร์รามายณะของอินเดีย โดยรามเกียรติ์ฉบับภาษาไทยนั้นก็มีหลายสำนวนที่ถูกแต่งขึ้นเช่นกันค่ะ แต่จากข้อมูลที่พี่หวานศึกษามาพบว่าฉบับที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดก็คือ รามเกียรติ์ฉบับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช นี่เองค่ะ
รามเกียรติ์ จึงถือเป็นวรรณคดีสำคัญที่มีมานานและยังคงเป็นที่น่าสนใจมาจนถึงยุคปัจจุบัน อย่างที่น้องๆ จะเห็นในโลกออนไลน์ เรื่องรามเกียรติ์ถูกนำกลับมาพูดถึงอย่างเป็นวงกว้างอีกครั้ง ซึ่งตัวละครหลักที่ถูกกล่าวถึงก็คือ ทศกัณฐ์ และ นางสีดา
พี่หวานจะขอเล่าตั้งแต่ต้นเลยนะคะว่า แท้จริงแล้วที่หลายคนมองว่า ทศกัณฐ์รักนางสีดามากกว่าพระราม? หรือ ทำไมนางสีดาไม่เลือกทศกัณฐ์? เป็นความคิดที่ผิดไปจากตัวบทวรรณคดีอย่างมากเลยล่ะค่ะ ถ้าใครที่เคยศึกษาเกี่ยวกับเรื่องรามเกียรติ์มาแล้วจะพบว่า นางสีดาเป็นลูกของนางมณโฑและนางสีดาไม่เคยมีใจเสน่หาต่อทศกัณฐ์เลยด้วยค่ะ
คงต้องขอเท้าความหลังถึงต้นกำเนิดของนางสีดาก่อนก็แล้วกันนะคะ หลังจากที่ ทศกัณฐ์ ไปนำตัว นางมณโฑ กลับมาจากเมืองขีดขินได้ ทั้งสองก็ครองคู่อยู่ด้วยกันจนกระทั่งวันหนึ่งนางมณโฑได้กลิ่นข้าวหอมลอยมา ซึ่งเป็นข้าวพิเศษที่ ท้าวทศรถ เชิญพราหมณ์มาทำพิธีปลุกเสกขอบุตร เรียกว่า “พิธีกวนข้าวทิพย์” ให้บรรดามเหสี ได้แก่ นางเกาสุริยา นางไกยเกษี และนางสมุทรเทวี เพื่อที่หลังจากกินข้าวนี้จะได้ตั้งครรรภ์ให้แก่ท้าวทศรถ เมื่อนางมณโฑได้กลิ่นข้าวนี้ก็มีความต้องการที่จะกินให้ได้ ทศกัณฐ์จึงได้สั่งให้กากนาสูรแปลงเป็นนกบินไปคาบข้าวนั้นมาให้นางมณโฑ(เรียกได้ว่าทศกัณฐ์เอาใจนางมณโฑสุดๆ เลยค่ะ เพราะถ้านางไม่ได้กินข้าวทิพย์นี้ก็บอกว่าจะตายให้ได้เลย เฮ้อ...) เมื่อนางมณโฑได้กินข้าวหอมนี้ก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที ส่วนข้าวทิพย์อีกสามก้อนพระมเหสีของท้าวทศรถก็ได้แบ่งกันไป
แต่ทว่าเมื่อตอนแรกเกิดนั้นบรรดาบริวารต่างได้ยินเสียงที่ธิดาร้อง แต่ ทศกัณฐ์ และ นางมณโฑ กลับไม่มีใครทันได้ยิน ซึ่งคำที่ธิดาร้องออกมาคือคำว่า “ผลาญราพณ์” ที่มีความหมายว่า ฆ่ายักษ์ จำนวนสามครั้ง จนกระทั่งเมื่อทศกัณฐ์ขอให้ พิเภกผู้เป็นน้องช่วยทำนายดวงชะตาของธิดาน้อย แล้วพิเภกจึงทำนายว่า “ธิดาองค์นี้จะเป็นผู้นำความพินาศมาสู่ทศกัณฐ์และวงศาคณาญาติ ทศกัณฐ์ไม่ควรเลี้ยงไว้ เพราะถ้าเลี้ยงไว้จะเป็นภัยแก่ตน” นางมณโฑได้ฟังก็เศร้าเสียใจ อาลัยรักด้วยความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่ยังไม่ทันได้ป้อนนมป้อนข้าวให้ลูกสักครั้ง(พี่หวานอ่านไปก็รู้สึกปวดใจแทนเหมือนกันนะคะ นางต้องโดนพรากลูกไปจากอกถึงสองครั้งด้วยกัน ไม่มีแม่คนไหนที่จะไม่เสียใจแน่นอน T^T)
นางมณโฑนั้นไม่เชื่อหาว่าพิเภกใส่ร้าย แต่เมื่อทศกัณฐ์ให้โหรคนอื่นทำนายก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดวงลัคนาของธิดานั้นเป็นกาลกิณีต่อบ้านเมืองแน่นอน ทศกัณฐ์จึงได้บอกให้คนนำผอบ(อ่านว่า ผะ-อบ) มาเพื่อใส่ตัวธิดาลงไป พิเภกอาศัยจังหวะที่นางมณโฑกำลังร้องไห้เสียใจอุ้มเอาพระธิดาออกมาเพื่อใส่ลงไปในผอบ ก่อนทศกัณฐ์จะปล่อยให้ลอยน้ำไปตามยถากรรม
เมื่อนางเมขลาและบรรดาเทวาดาทั้งหลายได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างก็ตกใจ รีบลงมาช่วยคุ้มครองธิดาน้อย ด้วยรู้ว่าเป็นพระลักษมีลงมาเกิด ทั้งร้องเพลงกล่อม โปรยดอกไม้ไปตามทาง เหล่าปลาเล็กปลาน้อยก็ว่ายมาห้อมล้อมราวกับดาวล้อมเดือน ด้วยเพราะเป็นคนที่มีบุญผอบจึงลอยไปตามน้ำอย่างรวดเร็วก่อนจะไปหยุดอยู่หน้าท่าน้ำอาศรมของพระชนกฤาษี ซึ่งก็คือท้าวชนก กษัตริย์แห่งกรุงมิถิลาผู้อยากออกบวชแสวงธรรมนั่นเอง
วันหนึ่งขณะที่พระชนกฤาษีกำลังจะไปอาบน้ำได้เจอผอบลอยน้ำมา จึงสั่งให้นายโสมนำผอบขึ้นจากน้ำ เปิดดูก็พบกับธิดาตัวน้อย จึงได้เลี้ยงไว้ด้วยความรักและเอ็นดู แต่เพราะถือเพศเป็นนักบวชอยู่จึงกลัวว่าจะถูกมองไม่ดีถ้าตนมีธิดา จึงได้ตัดสินใจนำธิดาน้อยใส่กลับไปในผอบก่อนจะฝังไว้ใต้ต้นไทรต้นใหญ่แล้วฝากให้พระแม่ธรณีช่วยดูแล ก่อนจะตัดสินใจฝึกบำเพ็ญตบะต่อไป แต่ทว่าก็ไม่เกิดผล เมื่อตัดสินใจจะกลับไปครองเมืองดังเดิมจึงได้มาขุดเอาผอบธิดาที่เคยฝังไว้กลับไปด้วย เมื่อเปิดออกมาได้พบกับเด็กสาวหน้าตาน่ารักในวัย 16 ปี และได้ตั้งชื่อให้ว่า สีดา ที่แปลว่า รอยไถ นั่นเองค่ะ^^
สรุปภาพรวมอย่างง่ายๆ ได้ว่า เรื่องราวทั้งหมดที่พี่หวานเล่ามาในตอนต้นนั่นก็คือกำเนิดของนางสีดา ตามฉบับบทละครที่รัชกาลที่ 1 ได้พระราชนิพนธ์ขึ้น น้องๆ ก็ได้รู้แล้วใช่มั้ยคะว่า นางสีดานั้นกำเนิดออกมาจากท้องของนางมณโฑ และแรกเริ่ม ทศกัณฐ์ก็มอบความรักให้ในฐานะคนเป็นพ่อ เพราะดีใจที่จะได้มีลูก แต่ภายหลังที่ได้ฟังคำทำนายดวงชะตาจึงตัดสินใจปล่อยลอยน้ำไป ถึงแม้ทศกัณฐ์จะไม่รู้ว่านางสีดาที่ตนไปลักพาตัวมานั้น คือลูกแท้ๆ ด้วยคิดว่าลูกน่าจะตายไปแล้ว แต่พี่หวานคิดว่า เมื่อได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ทศกัณฐ์ก็รู้ว่านางสีดาเป็นมเหสีของพระราม การไปแย่งชิงตัวนางสีดามาจากพระราม ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำอยู่ดีค่ะ
แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้าใครคิดว่าทศกัณฐ์เพิ่งทำแบบนี้ครั้งแรกเพราะความหลงใหลที่มีต่อนางสีดาอย่างมากแล้วล่ะก็ พี่หวานขอบอกว่าคิดผิดแล้วค่ะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทศกัณฐ์ได้ไปแยกคู่รักออกจากกันนะคะ
ในตอนนั้นเหล่าเทวดาก็คุยกันเซ็งแซ่ถึงความกล้าของทศกัณฐ์ พระนารายณ์จึงไปช่วยแก้ไขโดยแปลงกายไปดักทางที่ทศกัณฐ์จะเหาะผ่าน แล้วได้พูดหลอกล่อว่าตัวพระแม่อุมานั้นจะเป็นกาลกิณีต่อทศกัณฐ์ รูปพรรณก็ดูไม่ดี ไม่มีอะไรที่ดีสักอย่าง ทศกัณฐ์คิดตามแล้วก็รู้สึกเห็นด้วยเพราะตนก็ไม่สามารถสัมผัสตัวพระแม่อุมาได้ เพราะจะร้อนเป็นไฟเผาตลอดเวลา จึงได้ถามออกไปว่า แล้วสตรีแบบไหนถึงจะดี? พระนารายณ์จึงบอกว่า นางมณโฑยังไงล่ะที่เหมาะสม ทศกัณฐ์จึงนำตัวพระแม่อุมากลับไปส่งคืนก่อนจะทูลขอนางมณโฑมาแทน
ก็จะเห็นแล้วใช่มั้ยคะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทศกัณฐ์ได้ไปแย่งคนรักมาจากคนอื่นนะคะ เพราะก่อนที่ทศกัณฐ์กับนางมณโฑจะได้มาครองรักกันที่กรุงลงกา ก็มีเหตุการณ์ให้ทศกัณฐ์ต้องไปแย่งตัวนางมณโฑมาจากคนอื่นอีกเช่นกันค่ะ!?
หลังจากที่นำตัว พระแม่อุมาไปส่งคืนแก่พระอิศวร ในระหว่างที่พานางมณโฑไปยังกรุงลงกา ทศกัณฐ์ได้อุ้มนางมณโฑผ่านเมืองขีดขิน นั่นเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ พาลี โกรธมากเหมือนโดนทศกัณฐ์หยามเกียรติ จึงตั้งใจจะไปจัดการแต่กลับหลงใหลในรูปโฉมของนางมณโฑเสียก่อน จึงแย่งชิงตัวมาได้ในที่สุด พาลีรักกับนางมณโฑจนตั้งครรภ์ แต่ว่าทศกัณฐ์ก็ไม่ยอมแพ้ได้ไปขอให้พระฤาษีมาพูดกับพาลี จัดการนำทารกออกจากครรภ์ของนางมณโฑฝากไว้ในท้องแพะตัวหนึ่ง(ซึ่งในเวลาต่อมาก็ถือกำเนิดเป็นองคต) และทศกัณฐ์ก็พาตัวนางมณโฑกลับไปรักกันที่กรุงลงกาจนได้...
พี่หวานคิดว่ากรณีนี้ทศกัณฐ์ไม่ใช่คนผิดซะทีเดียวค่ะ เพราะว่าเดิมทีพระอิศวรก็เป็นคนประทานนางมณโฑให้แก่ทศกัณฐ์แต่เกิดการต่อสู้แย่งชิงกับพาลีซะก่อน การจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้นางมณโฑกลับมาอยู่กับตนเองก็ไม่ถือว่าผิดค่ะ เพราะตามสิทธิ์นางมณโฑก็เป็นของทศกัณฐ์อยู่แล้ว แต่ที่ผิดคือหลังจากที่พาลีพานางมณโฑมาอยู่ด้วยจนรักกันและมีลูกด้วยกัน ทศกัณฐ์ควรจะตัดใจและปล่อยวางค่ะ ด้วยอำนาจของทศกัณฐ์จะหาชายาจากไหนอีกก็ได้ แต่ไม่ควรจะไปพรากครอบครัวคนอื่นออกจากกันอย่างนี้เลย นี่ก็เป็นอะไรที่สะท้อนให้เห็นถึงนิสัยความเห็นแก่ตัวและไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ ของทศกัณฐ์นั่นเองค่ะ
ในส่วนกรณีของทศกัณฐ์กับนางสีดา... เรื่องเริ่มต้นในตอนที่ นางสำมนักขาได้พบกับพระราม ก็เกิดหลงใหลในตัวพระรามจึงเข้าไปยั่วยวนแต่พระรามไม่สนใจ ยิ่งได้เห็นว่ามีสาวงามอย่างนางสีดาอยู่ใกล้ตัวพระรามก็พุ่งเข้าไปทำร้าย แต่พระรามกับพระลักษณ์เข้ามาช่วยไว้ทัน ด้วยความเจ็บใจ นางสำมนักขาได้กลับไปฟ้องบรรดาพี่ชายของนาง แต่ทุกตนก็ล้วนพ่ายแพ้จบชีวิตด้วยศรของพระรามทั้งนั้นค่ะ จนกระทั่งนางได้เอาเรื่องไปเล่าให้ทศกัณฐ์ฟังถึงรูปโฉมที่งดงามของนางสีดา ทศกัณฐ์รู้สึกหลงใหลตั้งแต่ยังไม่เคยพบหน้า จึงออกอุบายให้ มารีศแปลงกายเป็นกวางทองไปล่อ นางสีดาอยากได้กวางทองจึงขอให้พระรามออกไปตามกวาง และทศกัณฐ์ก็ฉวยจังหวะที่พระลักษณ์ตามไปช่วยพระราม แปลงกายเป็นพระฤาษีเข้ามาลักพาตัวนางสีดาไปได้ในที่สุด
อ่านมาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งง่วงเหงาหาวนอนกันนะคะ เรื่องราวความเข้มข้นระหว่างทศกัณฐ์กับนางสีดายังมีต่อค่ะ ตามพี่หวานมาอ่านได้เลยยย...
เมื่อถูกพาตัวไปไว้ยังกรุงลงกา นางสีดาก็ได้รับการดูแลอย่างดี ได้อยู่ในอุทยานหลวงที่สวยงามแต่ใจนางไม่เคยเป็นสุขเลย มีแต่กังวล เฝ้ารอด้วยความกระวนกระวายใจให้พระรามชนะศึกและมาพาตัวกลับไป พี่หวานเห็นหลายคนในโลกโซเชียลที่มีความคิดไปในทิศทางที่ว่า ทศกัณฐ์ก็ดูแลนางสีดาอย่างดีขนาดนี้ ทำไมนางสีดาถึงไม่มีอาการหวั่นไหว? หรือ ทำไมไม่รักทศกัณฐ์ไปเลยล่ะ?
แต่แหม…เรื่องของหัวใจนี่ไม่เข้าใครออกใคร ถ้าผู้หญิงเขารักจริง เขามีคนที่รักและรออยู่แล้ว ต่อให้จะมีทศกัณฐ์มาคอยประเคนให้ทุกสิ่ง เอาใจทุกอย่างอีกเป็นร้อยตน เมื่อได้ตัดสินใจความรู้สึกไปแล้วว่าไม่ได้รัก ก็คือไม่รักค่ะ
และถ้าใครเคยอ่านตัวบทละครนะคะ จะต้องพบกับบทนี้ ซึ่งได้บอกความรู้สึกของนางสีดาที่มีต่อทศกัณฐ์ไว้อย่างชัดเจน นั่นก็คือนางสีดาออกจะไม่ชอบ(เรียกได้ว่าเกลียดทศกัณฐ์เข้ากระดูกดำเลยทีเดียวล่ะค่ะ) และพี่หวานก็ได้ยกตัวบทในตอนนั้นมาให้ลองอ่านกันด้วย
เมื่อนางสีดาได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกโกรธมากจึงได้พูดออกไปด้วยโทสะ ถ้าถอดความออกมาก็จะมีใจความประมาณว่า "ถ้าจะพูดถึงทศกัณฐ์น่ะหรอ ก็คงจะเป็นคนที่ชั่วช้าที่สุดเป็นที่รู้กันดีทั้งสามโลก ทำไมท่านฤาษีถึงได้มาพูดชมเจ้ายักษ์นั่นแบบนี้ แต่กลับไปว่าพระรามที่เป็นองค์นารายณ์อวตารว่าเป็นคนไม่ดี ทั้งๆ ที่พระรามเป็นคนที่ซื่อตรงตั้งมั่นอยู่ในความดี อวตารลงมาเพื่อปราบเหล่าอธรรม นางสีดาไม่เข้าใจว่าทำไมพระฤาษีถึงได้มาโกหกนางด้วยคำที่ฟังไม่ขึ้นอย่างนี้" ในตอนแรกทศกัณฐ์ได้ฟังก็ยังไม่ได้โมโหอะไร กลับนึกขำในคำพูดของนางสีดา และได้พูดชื่นชมตัวเองให้นางสีดาฟังต่อไปอีกว่า พระรามน่ะหรอจะเทียบทศกัณฐ์ได้ สมบัติก็น้อย ไม่มีบริวาร ความสามารถนั้นก็ไม่เทียบเท่ากับบริวารยักษ์ของทศกัณฐ์ได้หรอก ถ้าสู้กันยังไงพระรามก็ต้องแพ้แน่นอน นี่เพราะว่าหวังดีเลยมาบอกให้สีดาได้คิดดีๆ
และครั้งนี้เมื่อนางสีดาได้ฟังก็พาลบันดาลโทสะ พูดด่าสาดเสียเทเสียกลับไปจนทศกัณฐ์โกรธทนไม่ไหว กลายร่างมาเป็นยักษ์สิบหน้า ยี่สิบมือและลักพาตัวนางมาได้ในที่สุด...
แต่นี่ยังไม่ใช่การปะทะฝีปากกันครั้งสุดท้ายระหว่างนางสีดากับทศกัณฐ์นะคะ เมื่อนางสีดาถูกลักพาตัวไปที่สวนขวัญแล้ว ทศกัณฐ์เข้ามาหาเพื่อที่จะพยายามเกี้ยวพาราสีนางสีดา โดยใช้คำพูดบอกว่าพระรามนั้นไม่มีความสามารถคู่ควรกับนางสีดาหรอก ให้หันมามองทศกัณฐ์ดีกว่า ตนมีทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่อยากให้นางสีดาเศร้าใจ แล้วก็อยากให้รับรักตนซะทีเพราะมีทุกอย่างพร้อมจะมอบให้นาง จะแต่งตั้งให้เป็นมเหสีอีกคนยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร แต่เมื่อนางสีดาฟังก็รู้สึกปวดใจด้วยยิ่งคิดถึงพระรามอยู่แล้ว พอได้ฟังทศกัณฐ์ดีแต่พูดพร่ำเอาดีเข้าตัวก็รู้สึกรำคาญอย่างมาก เพื่อที่น้องๆ ทุกคนจะได้รู้สึกถึงความน่ารำคาญไปพร้อมๆ กับนางสีดา พี่หวานเลยเเนบตัวบทในตอนนี้มาให้ด้วยค่ะ
เมื่อได้ฟังอย่างนั้น นางสีดาจึงแกล้งปักกิ่งไม้ลงกับพื้นและด่าทอกิ่งไม้นั้นว่าทำไมถึงกล้าพูดไม่ดีแก่พระราม ทั้งๆ ที่พระองค์อวตารลงมาเพื่อปราบคนพาลทั้งหลายที่หนักโลก เดี๋ยวไม่นานก็จะต้องตายด้วยศรพระรามทั้งหมด ซึ่งตรงประโยคนี้นางสีดาแทนตัวว่า กู-มึง เป็นการแสดงอารมณ์รุนแรงอย่างที่สุด เพราะหน่อเนื้อกษัตริย์อย่างนางไม่เคยใช้วาจาแบบนี้กับใครมาก่อนเลยค่ะ พี่หวานคิดว่านางสีดาคงจะโมโหมากจริงๆ ถึงได้เปลี่ยนสรรพนามจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลยอย่างนี้ ' ^')
ถึงจะโดนนางสีดาด่าทอมาขนาดนี้แต่ทศกัณฐ์กลับชอบใจ บอกว่าชอบฟังเสียงของนางเพราะมันช่างไพเราะ นางสีดาเห็นอย่างนั้นก็ถ่มน้ำลายลงพื้น(*เพิ่มเติม จากตัวบทคำว่า เขฬะ แปลว่า น้ำลายค่ะ) ก่อนจะพูดว่า "อย่าได้พยายามเจรจาเลย เพราะนางเป็นคนมีศักดิ์ศรี อย่าได้มาดูหมิ่นกัน นางเป็นคน ไม่มีทางไปรักกับยักษ์แน่นอน ขอยอมตายดีกว่า" ซึ่งจริงๆ ระดับความแรงของคำพูดของนางสีดานั้นถ้าใครได้ฟังคงจะต้องทนไม่ไหวกันเลยทีเดียว เมื่อทศกัณฐ์ถอดใจออกไปจากสวนขวัญ นางสีดาก็ตรอมใจจนคิดจะฆ่าตัวตาย
อ่านกันมายาวเหยียดขนาดนี้... หลายคนคงจะเริ่มมองรูปความสัมพันธ์ที่แท้จริงของทศกัณฐ์กับนางสีดาออกแล้วใช่มั้ยคะ วรรณคดีไทยเนี่ยมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ควรมองข้ามอยู่มากค่ะ เพราะเมื่อรายละเอียดเหล่านั้นมารวมกันก็จะกลายเป็นจุดสำคัญขึ้นมา อย่างในปัจจุบันที่หลายคนอาจจะเลือกมองข้ามความจริงข้อที่ว่าทศกัณฐ์ได้ไปลักพาตัวนางสีดามาจากพระราม ต่อให้ทำดีด้วยแค่ไหน แต่การกระทำที่เห็นแก่ตัวอย่างนี้ไม่มีผู้หญิงคงไหนรู้สึกใจอ่อนจนเกิดความรักได้หรอกค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นคือการลักพาตัวมาและยังกักขังเอาไว้อีก
พี่หวานมองว่าความรักของทศกัณฐ์เป็นความรักที่เห็นแก่ตัวมากๆ เลยค่ะ เพราะพี่หวานเชื่อนะคะว่าความรักที่ดีจะทำให้เราอยากเป็นคนที่ดีขึ้น และเราจะมีแต่ความหวังดีอยากมอบให้แก่เขา แต่ในกรณีของทศกัณฐ์แม้จะให้ทุกอย่างแก่นางสีดาได้ แต่ก็เป็นการให้เพื่อหวังผล ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้สมัครใจจะรักตอบ พี่หวานคิดว่านี่ไม่ใช่ความรักแล้วล่ะค่ะ ถ้าเจอผู้ชายแบบนี้ในชีวิตพี่หวานก็คงต้องขอผ่านเหมือนกันค่ะ
หวังว่าบทความนี้อาจจะช่วยให้น้องๆ ชาวเด็กดีเข้าใจความรู้สึกของนางสีดาได้มากขึ้น ได้รับความรู้และมีมุมมองต่อเรื่อง รามเกียรติ์ ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีนะคะ ส่วนคราวหน้าพี่หวานจะมีสาระดีๆ เกี่ยวกับวรรณคดีเรื่องไหนมาเล่าให้ฟัง อย่าลืมติดตามกันน้าาา ^____^
ขอขอบคุณรูปภาพเเละข้อมูลจาก
คุณดอกบัวบานกลางสระแก้ว
คุณ Kaikook
19 ความคิดเห็น
ถ้าเราเป็นทศกัณฑ์แล้วมณโฑโดนแย่งไปก็ไม่ยอมอะ ไม่ตัดใจด้วย สู้จนได้นางกลับมา
แล้วก็ไม่น่าจะเป็นการแยกครอบครัวเขาด้วย ไม่รู้ว่าที่มีลูกเป็นองคตนั่นมณโฑสมยอมหรือเปล่า พาลีอาจใช้กำลังข่มเหงก็ได้
รามายณะของอินเดีย ฉบับฤๅษีวาลมิกิ
ทศกัณฐ์กับนางสีดาไม่ใช่พ่อลูกกัน
เรื่องกำเนิดของนางสีดาในรามายณะมีเล่าไว้ 3 แบบ
1.รามายณะ ฉบับฤๅษีวาลมิกิ
นางสีดาเป็นลูกของพระแม่ธรณี
ท้าวชนกที่ได้ทำพิธีไถคราดเตรียมประกอบยัญกรรม
และเจอนางสีดาอยู่ในผอบเลยเอามาเลี้ยงเป็นลูก
2.นางสีดาเป็นลูกของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ แต่เป็นเรื่องเล่าในตำนานทักษิณทิศ
3.ปัทมปุราณะ
ทศกัณฐ์ไปข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ นางเวทวดี
นางได้ขออธิษฐานว่าขอให้ไปเกิดใหม่เพื่อฆ่าทศกัณฐ์และหลังจากนั้นก็เผาตัวเองตาย
นางสีดา คือ นางเวทวดีกลับชาติมาเกิดเพื่อล้างผลาญทศกัณฐ์
ถ้านางเวทวดีเป็นหญิงสาวธรรมดาที่เกิดในยุคปัจจุบันและจะโดนทศกัณฐ์ฉุดไปข่มขืน
เราขอแนะนำให้นางพกมีดปังตอติดตัวไปและฟันจ้าวโลกของทศกัณฐ์ขาดกระจุย
จะได้ไม่เป็นภาระต่อฮอร์โมนเพศชาย
เห็นมีตอนนึงบอกไว้ด้วยว่านางสีดาสวย และเหมือนแม่มากด้วย ขนาดตอนที่หนุมานจะไปหานางสีดา แล้วเดินผ่านห้องนึง เห็นทศกัณฑ์นอนกอดนางสีดาอยู่ก็โกรธมาก แต่พอมองดูดีๆ อ้าวนางมณโฑนี่หว่า
นี่งงว่าถ้าเหมือนขนาดนั้นทศกัณฐ์ไม่สงสัยเลยหรอว่าทำไมนางสีดาเหมือนเมียตัวเองขนาดนั้น
เห็นด้วยทุกประการค่ะ ยกเว้นตรงที่บอกว่าทำไมทศกัณฑ์ถึงไปแย่งนางมณโฑคืนมาจากพาลี คือนางมณโฑเป็นภรรยาแกโดยชอบธรรมนี่หน่า จู่ๆมาโดนคนอื่นลักพาตัวไปจะยอมง่ายๆได้ไง
ที่เจอมาส่วนมากจะเข้าข้างทศกัณฐ์ในส่วนที่รักนางมณโฑ และรุมด่าพฤติกรรมของฝ่ายพระรามมากกว่านะ ซึ่ง-ที่ด่าไม่ใช่เรื่องตอนไปช่วยนางสีดาหรอก แต่เป็นพฤติกรรมจำพวก หนุมานแอบแปลงเป็นทศกัณฐ์ไปนอนกับนางมณโฑมั่งล่ะ (ต่อให้จำเป็นแค่ไหน มันก็น่าจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้นะ) หรือไม่ก็การที่พระรามไม่ไว้ใจ ไม่ยอมเชื่อใจนางสีดาหลังจากช่วยออกมาแล้ว อยากจะเข้าใจพระรามนะ แต่เล่นเอาถึงจะตายกันเลยนี่สิให้อภัยไม่ได้ ยิ่งตอนจบธรณีสูบนี่ อยากกระทืบและแหวกธรณีทิ้งช่วยนางสีดาออกมา แล้วจับยัดใต้โลกพร้อมทัพพระรามซะจริง ๆ
ขนาดทศกัณฐ์ยังรักและปลอบนางมณโฑหลังรู้ว่าโดนหนุมานหลอกให้เสียกาย ตรงนี้ไม่ว่ายังไงก็ให้เครดิตทศกัณฐ์มากกว่าอยู่ดีอ่ะ
กำลังอยากอ่านเรื่องนี้พอดีเลย
ขอบคุณน้าพี่หวานนน หวานนนน

มันเป็นความจริงที่ได้ถูกเปิดเผยเเล้ว #ข้าคือพ่อของเจ้า //ผิดๆ
มาอ่านกระทู้และคอมเม้นที่นี่ เล่นซะอยากไปเปิดหนังสือเก่าๆมาอ่านกันเลยทีเดียว
นางมณโฑน่าสงสาร ทศกัณฐ์มีนางอยู่แล้วยังไปเอานางสีดามา บางทียังช่วยรักษาทศกัณฐ์ตอนที่ไปรบกับพระรามด้วย
ว่ากันตามความเป็นจริงก็ต้องเอาตาม รามายณะ หล่ะครับ
รามายณะ ก็เป็น 1 ในเรื่องราวของศาสนา ฮินดู ที่กล่าวถึง พระวิษณุ อวตารลงมาเป็นพระราม
เนื่องจากนางมณโฑท้องเพราะข้าวทิพย์ นางมณโฑจึงมีสถานะเพียงแค่แม่อุ้มบุญเท่านั้น ดังนั้นนางสีดาจึงไม่มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับทศกัณฑ์ จีบได้ไม่ผิด
#มิตรสหายท่านหนึ่งกล่าวไว้
น่าสงสารนางมณโฑนะคะ จำได้ว่านอกจากเป็นเมียทศกัณฑ์กับพาลีแล้วยังโดนหนุมานหลอกอีก
ขออ้างถึงวิถีทางวิทยาศาสตร์เล็กน้อย
ทศกัณฐ์ + นางมณโฑ = อินทรชิตและนางสีดา //เป็นการผสมพันธุ์ข้ามสปีชีส์ที่...
อินทรชิตเป็นพี่ชายนางสีดาเป็นยักษ์ แต่ทำไมนางสีดาไม่เป็นยักษ์หว่า? หรือว่าอินทรชิตไม่ใช่ลูกนางมณโฑ
มีความงงเล็กน้อย แต่ลืมไปว่าสมัยนั้นวิทยาศาตร์ไม่อาจเข้าถึง...อาจมีพลังงานบางอย่างก็เป็นได้ หุๆ -.-
เป็นไปได้ไหมว่ารูปแบบความรักที่ให้นางสีดาคือความผูกพันที่หาสาเหตุไม่ได้ ทศกัณจึงคิดว่ามันคือความรัก... เพราะถ้าถือพระรามเป็นลูกกษัตริ์ หนุมานเป็นบุตรพระพาย นางสีดานี่ลูกทศกัณเต็มๆเลยนะ... อาจเพราะกฎศีลธรรมจึงแตะต้องนางไม่ได้
เรื่องนี้นี่สงสารนางมณโฑเลยค่ะ เป็นเมียหลายคนมาก แถมยังถูกหลอกอีก ชีวิตตต..
จริงหรือไม่ที่พระรามสั่งประหารนางสีดา แล้วให้ควักหัวใจออกมาด้วย
จริงหรือไม่ที่พระรามสั่งประหารคนที่ขี่ม้าของตัวเองไม่เว้นแม่้กระทั่งเด็ก ทศพิธ ราชธรรม...อยู่ไหน