ทำไมต้องฆ่า! ความจริงจากปาก 5 ฆาตกรต่อเนื่อง (ภาคจบ)
สวัสดีค่ะ ชาวนักเขียนนักอ่านเด็กดีทุกคน ในวันนี้ แอดมินจะกลับมาพร้อมกับภาคต่อของ “คำให้การจากปากฆาตกรต่อเนื่อง” ในภาคแรก แอดมินได้นำเสนอเรื่องราวของฆาตกรทั้งห้า หยางซินไห่, อนาโตลี อโนพรินโก, พอล เบอร์นาโด, เท็ด บันดี้ และ เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ไปแล้ว และวันนี้ เดี๋ยวเรามาฟังคำให้การจากฆาตกรอีกห้าคนที่เหลือกันดีกว่าค่ะ
ว่าแต่ใครได้พล็อตนิยายแนวฆาตกรต่อเนื่องแล้วหรือยังคะ แอดมินอ่านๆ ไปชักกลัว ไม่กล้าเขียนแล้วอะ แง
อันเดร ชิกาทิโล (Andrei Chikatilo)
“การได้ใช้มีดทำให้ผมผ่อนคลาย”
ฆาตกรต่อเนื่องที่โหดร้ายที่สุดในรัสเซีย เจ้าของฉายา “นักชำแหละแห่งรอสตอฟ” ผู้ที่แอดมินขอบอกว่า “โหดที่สุดในโลกของจริง” ชิกาทิโลฆ่าเหยื่อถึง 53 ราย (อาจมากกว่านี้ แต่ตำรวจไม่พบศพ) หลังจับกุม ตำรวจพบว่า เขาเป็นพวกซาดิสม์ และจะถึงจุดสุดยอดได้เมื่อคู่นอนขัดขืน และนั่นคือเหตุผลที่เขาเลือกจับเหยื่อมากระทำชำเรา ทรมานด้วยวิธีต่างๆ นานา ทั้งการเอามีดแทงหูให้หูหนวก การกัดลิ้นและควักลูกตาสดๆ การคว้านอวัยวะภายในของเหยื่อ พร้อมกับข่มขืนไปด้วย ทั้งๆ เหยื่อยังมีชีวิต ชิกาทิโลให้การว่า สาเหตุที่เขาต้องควักลูกตาเหยื่อก่อนข่มขืน เพราะ “ไม่อยากให้เหยื่อจำหน้าและการกระทำของผมได้”
ชิกาทิโลได้ชื่อว่าเป็นฆาตกรที่หยาบช้าสามานย์ที่สุด เขาจะทรมานเหยื่อจนกว่าเหยื่อจะต้องร้องขอชีวิต ทำทุกวิถีทางเพื่อให้เหยื่อเจ็บปวดมากที่สุด โดยไม่แยแสสนใจความรู้สึกของอีกฝ่าย เจ้าตัวให้การว่า “เวลาได้ใช้มีด ผมรู้สึกผ่อนคลาย” และเซ็กส์ในอุดมคติของเขาคือ “การที่ผมมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อีกฝ่ายไม่มีสิทธิ์ขัดขืน”
ชิกาทิโลเคยฝันอยากทำอาชีพที่ยิ่งใหญ่ อยากมีอำนาจ อยากเป็นที่ยอมรับ อาชีพในฝันของเขาคือนักการเมือง แต่ทำไม่สำเร็จ สุดท้ายเขากลายเป็นครูที่นักเรียนไม่ยอมรับและถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่เจ้าตัวก็ยังเลือกทำอาชีพนี้ต่อ เพราะต้องการใช้โอกาสนี้ ลอบถ้ำมองนักเรียนสาวๆ ชิกาทิโลมีภรรยาและลูก แต่เขาบอกว่า ภรรยาจู้จี้ขี้บ่นและเรื่องมาก และนั่นเป็นเหตุผลทำให้เขาเริ่มมองหาความสุขจากการฆ่าข่มขืน วิธีที่ใช้บ่อยคือ เขาจะล่อลวงเหยื่อเข้าไปในป่า และทุกครั้งเขาจะตื่นเต้นจนทนไม่ไหว “ผมตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า รู้สึกเหมือนตัวเองแปลงร่างเป็นอสูรกาย การได้ฆ่าคน ทำให้ผมมีพลังทางเพศ และรู้สึกผ่อนคลาย ถ้าไม่ฆ่า ผมจะไม่สุขสม ไม่อาจสำเร็จความใคร่” ทุกครั้งหลังจากฆ่า ชิกาทิโลจะสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองและทิ้งอสุจิไว้บนศพเสมอ เหมือนเป็นสัญลักษณ์ส่วนตัวอันน่าขยะแขยง
ท้ายสุด ชิกาทิโลถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการยิงที่ศีรษะ (ไม่ทรมานเหมือนเหยื่อเลยสักนิด) เขาขัดขืนและด่าทอศาลอย่างรุนแรง รวมถึงขอยื่นอุทธรณ์ แต่ไม่ได้รับความเมตตา หลังเสียชีวิต ชื่อของเขาถูกจัดอยู่ในกลุ่มฆาตกรที่โหดที่สุดในโลก
ชาร์ลส์ คัลเลน (Charles Cullen)
“ฆ่าเพราะเมตตา”
ตลอดช่วงเวลา 16 ปี ชาร์ลส์ คัลเลน เจ้าของอาชีพบุรุษพยาบาล ได้แอบฆ่าคนไปแบบเงียบๆ เชื่อกันว่าเขาน่าจะฆ่าคนไข้ไปมากถึง 4-50 คน (แต่สื่อบางแห่งเชื่อว่า จำนวนเหยื่อของคัลเลนน่าจะสูงถึง 300) ด้วยวิธีที่ง่ายจนน่าขนลุก นั่นคือ “ฉีดสารพิษเข้าสู่ร่างกายคนไข้”
“ผมฆ่าเพราะพวกเขาจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด” คัลเลนให้การ “ตามหลักการแล้ว ผมกำลังช่วยพวกเขามากกว่า”
คำอธิบายนี้ออกจะแปร่งๆ และไม่สมเหตุสมผล เพราะเหยื่อของคัลเลนล้วนแต่ไม่ใช่ผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานจนทนไม่ไหว ตรงกันข้าม คนที่เขาฆ่าเพียงแต่เจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ และถ้าหายดี ก็จะสามารถออกจากโรงพยาบาลไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เมื่อถูกแย้ง คัลเลนก็บอกว่า “ผมไม่ได้ต้องการอธิบายการกระทำของตัวเอง ผมแค่อยากบอกว่า... ผมทำในสิ่งที่ต้องทำ ถ้าหากไม่ถูกจับได้ ผมก็คงทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมฆ่าเพราะเมตตา”
สุดท้ายคัลเลนถูกตัดสินให้ติดคุกเป็นเวลา 400 ปี
ไอลีน เวอร์นอส (Aileen Wuornos)
“ฉันเกลียดมนุษย์ และถ้ามีโอกาสก็จะฆ่าอีก”
โสเภณีผู้ช่ำชอง ถูกจับกุมข้อหาฆาตกรรมชาย 7 คน เวอร์นอสอ้างว่า “ฉันฆ่าเพราะผู้ชายพวกนั้นจะข่มขืนฉัน” เจ้าตัวยังยืนยันว่า ไม่ได้เป็นบ้า เพียงแค่เป็นคนที่ “เกลียดมนุษย์อย่างมาก และถ้ามีโอกาสก็จะฆ่าอีกครั้ง” ข้อความนี้ปรากฎในจดหมายที่เขียนถึงศาลสูงของรัฐฟลอริด้า เมื่อถูกตัดสินว่ากระทำความผิดจริง เธอก็จบลงด้วยประโยคสุดท้ายคือ “ขอให้เมียกับลูกของพวกแกโดนข่มขืนทางทวารให้หมด”
ชีวิตวัยเด็กของเวอร์นอสไม่ดีนัก พ่อและแม่หย่ากันตั้งแต่เธอได้สองเดือนและทิ้งเธอไว้กับตายาย ซึ่งเลี้ยงดูเด็กหญิงอย่างโหดเหี้ยม ตาเป็นพวกซาดิสม์ ชอบเฆี่ยนตีและข่มขืนหลานสาว ส่วนยายทำไม่รู้ไม่ชี้ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เวอร์นอสกลายเป็นคนด้านชา เมื่อโตเป็นสาว เธอถูกไล่ออกจากบ้าน และกลายเป็นโสเภณี ขายตัวด้วยค่าตัวขั้นต่ำ และรับแขกไม่เลือกหน้า ต่อมา เธอได้พบรักกับหญิงสาวชื่อ ไทเรีย มัวร์ และเมื่อเงินทองขาดมือ เธอก็ตัดสินใจทำทุกทางเพื่อหาเงินมาใช้ รวมถึงการกลับไปยึดอาชีพเก่าอย่างขายตัว และนั่นเองเป็นที่มาของการฆาตกรรมชายทั้ง 7
ก่อนถูกประหารชีวิต เวอร์นอสเป็นบ้า และระเบิดอารมณ์ว่า “ฉันฆ่าผู้ชายพวกนั้นโดยไม่รู้สึกอะไรเลย และถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันก็จะทำอีก ถ้าปล่อยให้ฉันรอดไปได้ ฉันก็จะฆ่าอีก”
ทอมมี่ ลินน์ส เซลส์ (Tommy Lynn Sells)
“ผมชอบมองตาเหยื่อก่อนตาย”
“การเสพยาครั้งแรก มันสุดยอดไปเลย” ทอมมี่ ลินน์ส เซลส์ ให้การ “และการฆ่าคนครั้งแรก มันเป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นไม่ต่างกัน ทุกครั้งที่เสพยา ผมรู้สึกสุดยอด การฆ่าก็เหมือนกัน เมื่อจบลง ผมมักจะต้องการความรู้สึกนั้นอีก และอีก”
เซลส์ ถูกจับด้วยข้อหาฆาตกรรมเด็กหญิงวัย 13 ปี เขาใช้มีดแทงเธอระหว่างที่หลับจำนวน 13 แผล โชคดี (หรือโชคร้าย) เธอไม่ตาย และกรีดร้องจนเพื่อนบ้านได้ยินและโทร. แจ้งตำรวจ เธอคนนี้เป็นแค่หนึ่งในเหยื่อทั้งหมด ซึ่งนับจำนวนแล้วมีมากถึง 70 คน โดยวิธีการของเขาคือ แทง แทง และแทงอย่างเดียวเท่านั้น ระหว่างรอการประหารชีวิต เขาอธิบายสาเหตุของการฆ่าว่า “ผมไม่สามารถหยุดตัวเองได้ เหมือนตอนเสพยาน่ะแหละ พอเสพเข้าไปแล้ว ก็ไม่อาจหยุดได้ มีแต่ต้องการมากขึ้นอีกและอีก”
“ผมชอบมองตาของเหยื่อ ช่วงเวลาที่กำลังจะตาย ดวงตาของพวกเขาจะมืดลง... สีของมันค่อยๆ จางลง เหมือนผมได้ปลดปล่อยดวงวิญญาณของพวกเขาให้เป็นอิสระ”
เดวิด เบอร์โควิตซ์ (David Berkowitz)
“ผมฆ่าเพราะหมาสั่ง”
ฆาตกรที่เรียกตัวเองว่า “บุตรแห่งแซม” เดวิด เบอร์โควิตช์ ผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำในนิวยอร์ก ข้อหาฆาตกรรมผู้อื่น โดยเขาอ้างเหตุผลว่า เพราะ “หมาสั่งให้ทำ”
“ในวัยเด็กผมมีชีวิตที่ยากลำบาก และมีปัญหาทางจิตใจ” เบอร์โควิตช์ให้การ “ผมมีอาการหดหู่ ซึมเศร้าบ่อยครั้ง และอยากฆ่าตัวตาย”
เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เบอร์โควิตช์ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและอ้างว่า “ผมตัดสินใจทำสัญญากับปีศาจ เชื่อฟังและปล่อยให้ซาตานควบคุม ณ ตอนนั้นเอง ผมสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจอย่างไม่เคยมีมาก่อน ผมรู้สึกเป็นผู้ชนะ พลังนั้นแปลกใหม่ และมันค่อยๆ แทรกซึม ควบคุมผม”
วิธีการฆ่าของเบอร์โควิตช์แปลกกว่าใครเพื่อน เขามีนิสัยเกลียดชังผู้หญิง (แต่ไม่ได้ชอบผู้ชาย) เขาจะเลือกเหยื่อด้วยการยิงจากในรถ ด้วยความที่เขาเคยเป็นทหารมาก่อน และเชี่ยวชาญด้านการยิงปืน ทำให้ยิงทีไรก็โดนทุกรอบ และคนข้างกายเหยื่อก็มักจะตกใจจนจำรูปพรรณสันฐานเขาไม่ได้
เบอร์โควิตช์ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต และต่อมา ถูกเชิญให้ไปออกรายการของแลร์รี่ คิง เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมถูกล้างสมองจนกลายเป็นหุ่นยนต์ พลังพวกนั้นครอบงำ ทำให้ผมรู้สึกว่าการฆ่าคือสิ่งที่ต้องทำ และนั่นเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก”
ทีมงานนักเขียนเด็กดี
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
http://listverse.com/2017/01/06/10-serial-killers-on-why-they-did-it-in-their-own-words/
http://www.biography.com/people/david-berkowitz-9209372
http://abcnews.go.com/US/convicted-serial-killer-tommy-lynn-sells-executed-texas/story?id=23184667
http://www.biography.com/people/aileen-wuornos-11735792
https://en.wikipedia.org/wiki/Charles_Cullen
4 ความคิดเห็น
ประเทศไทย
"ผมฆ่าเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ครับ"
ไปล่ะ--- #รีบหนีก่อนไปอยู่ในคุกอีกคน
555+ทุกข่าวเลยสินะ

โหดจนขนลุกค่ะ เกิดมาเพื่อฆ่าจริงๆ
น่ากลัวนะ แต่เราเป็น s ก็เลยไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ 5555
เราว่าเรื่องของไอลีน สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว เพราะมันเป็นสิ่งที่สั่งสมมาแต่ยังเด็ก สงสารอยู่นะ แต่ก็ได้รับโทษที่เหมาะสมแล้ว 555