​9 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแม่มังกรแห่งเกมออฟโธรน แดเนริส ทาร์แกเรียน

9 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแม่มังกรแห่งเกมออฟโธรน
แดเนริส ทาร์แกเรียน 
 

เห็นชื่อบทความ เชื่อว่าคนที่คลิกเข้ามาอ่านน่าจะเป็นแฟนของเกมออฟโธรนแน่ๆ (ไม่ว่าจะแฟนหนังสือหรือแฟนซีรี่ส์ก็ตาม) ตัวแอดมินนั้นมีโอกาสได้อ่านหนังสือหลายเล่มอยู่ (แต่ยังไม่จบ) และได้ดูซีรี่ส์หลายตอน (แต่ไม่ได้ดูทุกตอน) แต่อย่างที่เคยบอกไปในบทความที่พูดถึงเรื่อง 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ว่าจุดเด่นที่สุดของเกมออฟโธรนนั้น ก็คือตัวละคร เพราะแต่ละตัวล้วนแต่มีเรื่องราวน่าจดจำ โดยเฉพาะตัวละครฝ่ายหญิง ที่โดดเด่นมากจนดูจะเหนือผู้ชายทุกคนในเรื่อง 
 

เชื่อว่าทุกคนที่อ่านและดูน่าจะรู้อยู่แล้วว่า... ตัวละครฝ่ายหญิงที่แอดมินพูดถึง มีอยู่สองคน คนหนึ่งคือ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ และอีกคนคือ แดเนริส ทาร์แกเรียน หรือที่ใครๆ รู้จักกันในนาม มารดาแห่งมังกร (Mother of the Dragon) ทั้งสองตัวละครนี้ มีความโดดเด่นและมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ซึ่งในบทความนี้ เราจะขอชวนมาคุยเรื่องของแดเนริสกันบ้าง หลังจากที่เคยชวนคุยเรื่องเซอร์ซีกันไปแล้วในบทความก่อนหน้า 
 

ไปดูกันค่ะว่า 9 เรื่องน่ารู้ของแดเนริสมีอะไรบ้าง 
 

แดเนริสมีผมสีเงินยวง ผิวขาว และนัยน์ตาสีม่วงสะดุดตา
เป็นลักษณะเด่นของตระกูลทาร์แกเรียน
 

ในสายตาของคนอ่านและคนดูทุกคน แดเนริสเป็นแม่ม่าย เป็นแม่มังกร เป็นองค์ราชินีผู้มีอำนาจ เราทุกคนรู้ว่าเธอยังสาวและอายุน้อย แต่จะมีใครจำได้ไหมว่าในหนังสือ นักเขียนกำหนดอายุของเธอไว้เท่าไหร่ คำตอบคือ ครั้งแรกที่เธอปรากฎตัว แดเนริสมีอายุเพียง 13 ปี เป็นเพียงเด็กสาวหน้าใสที่ถูก เวซิริส ทาร์แกเรียน พี่ชายใจร้ายต่อรองยกให้คาลโดรโก เพียงเพื่อแลกกับเงินทองและอำนาจ (อย่างไรก็ตาม ในซีรี่ส์ได้เพิ่มวัยของแดเนริสเป็น 15 ปี คงเพราะไม่อยากให้ฉากที่เธอมีเซ็กส์กับคาลโดรโกดูรุนแรงจนเกินไป) หลังจากวันที่ได้แต่งงานเป็นภรรยาของคาลโดรโก แดเนริสต้องเผชิญเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย และในซีซั่นที่ 7 นี้ ถ้าเราคำนวณดูแล้วจะพบว่า อายุของเธออยู่ที่ 19 ปีเท่านั้นเอง

ความรักระหว่างแดเนริสและคาลโดรโก กลายเป็นเรื่องที่คนอ่านหลงใหลมากที่สุด และคาลโดรโกนี่เอง คือคนที่ดึงความเป็นนักรบออกมาจากตัวแดเนริส หลังจากที่เธอเคยอยู่ภายใต้อำนาจของพี่ชายอย่าง วิเซริสมาตลอด เมื่อแต่งงานกับคาลโดรโก ดูเหมือนเธอจะค่อยๆ รู้จักตัวเองมากขึ้น กล้าทำอะไรมากขึ้น และมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวคาลโดรโกเอง แม้จะไม่ค่อยพูดและมีพฤติกรรมกระด้างในบางเวลา แต่เราก็จะเห็นว่า คาลโดรโกแบ่งปันทุกสิ่งทุกอย่างที่มีให้กับภรรยาของเขา และปฏิบัติต่อเธออย่างเท่าเทียม รวมถึงเคารพในตัวเธอด้วย เราจึงสามารถสรุปได้ว่า คาลโดโก เป็นคนที่มีอิทธิพลสำคัญต่อแดเนริส และทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ เหมือนที่เขาบอกว่า ภรรยาคือเงาสะท้อนของสามี คงไม่ผิดนัก 
 

ในซีรี่ส์ ภาพที่เราเห็นคือ เส้นผมขาวเหลือบเงินงดงามของแดเนริส แต่ในฉากที่เธอเลือกลุยไฟในการเผาศพคาลโดรโกพร้อมกับไข่มังกร เพื่อพิสูจน์ให้ผู้ติดตามได้เห็นพลังของเธอ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นี้คือ ไข่แตกออกเป็นมังกร และแดเนริสไม่ได้รับอันตรายจากไฟร้อนแรง แม้เสื้อผ้าของเธอจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน ในหนังสือ แม้ร่างกายจะปลอดภัย แต่แดเนริสต้องสูญเสียเส้นผมทั้งหมดไป และกลายเป็นผู้หญิงไร้ผมอยู่พักใหญ่ กว่าผมของเธอจะงอกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในซีรี่ส์ ได้ตัดฉากนี้ทิ้งไป คงเพราะอยากให้แดเนริสเป็นสาวงามที่จับตาจับใจอยู่เสมอนั่นเอง 
 

คำบรรยายในหนังสือบอกไว้ว่า แดเนริสเป็นสาวงาม ผมสีเงินยวง ผิวขาว และมีนัยน์ตาสีม่วงสะดุดตา ดวงตาสีนี้เป็นเอกลักษณ์ของตระกูลทาร์แกเรียน และเมื่อเธอมีนัยน์ตาสีนี้ ก็เป็นการการันตีได้ว่า เธอคือเจ้าหญิงทาร์แกเรียนที่แท้จริง แต่ในซีรี่ส์ จะเห็นว่าดวงตาของแดเนริส เป็นสีฟ้า เหตุผลที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะในตอนแรก ผู้กำกับวางแผนให้ เอมิเลีย คลาร์ก นักแสดงสาวสวมคอนแทคเลนส์สีม่วง แต่หลังจากทดลองดูแล้ว พบว่าไม่สะดวกและเกิดปัญหาหลายอย่าง ท้ายที่สุด พวกเขาก็เลยต้องตัดประเด็นเรื่องนี้ออกไป และแดเนริสเวอร์ชั่นซีรี่ส์ก็เลยมีนัยน์ตาสีฟ้าแทน 
 

มังกรทั้งสามของแดเนริส ถูกตั้งชื่อตามคนที่เธอรัก ตัวที่ใหญ่ที่สุด ชื่อ โดรกอน หมายถึงคาลโดรโก บุคลิกของมันก็คล้ายคลึงกับตัวโดรโก นั่นคือ ตัวใหญ่ กล้าหาญ และกระด้างในบางเวลา ทั้งยังชอบเสาะแสวงหาอิสระอีกด้วย ส่วนมังกรสีทองและแดงที่ชื่อ วิเซเรียน ไม่ใช่ใครอื่น แต่หมายถึง วิเซริส พี่ชายของเธอเอง และตัวสุดท้าย เรกัล มังกรสีเขียว ถูกตั้งชื่อตามเรการ์ พี่ชายอีกคนของเธอ โดรกอนเป็นมังกรที่มีบทบาทมากที่สุดในเรื่อง คงเพราะมันคือตัวแทนของคาลโดรโกที่เป็นคนสำคัญในการผลักดันให้แดเนริสเป็นตัวของตัวเอง กล้าหาญ และทรงพลัง  
 

แดเนริสถือกำเนิดที่เกาะโขดหินมังกร (Dragonstone Island) ในคืนที่มีพายุใหญ่ถาโถม แม่ของเธอตายจากการคลอดบุตร และนี่คือเหตุผลที่ใครต่อใครขนานนามว่าเธอกลายเป็นบุคคลที่กล้าหาญและเข้มแข็ง เพราะเธอไม่กลัวแม้จะต้องถือกำเนิดในช่วงที่มีพายุรุนแรง อย่างไรก็ตาม ชื่อนี้ไม่ได้มีความหมายแค่นั้น แต่มันยังพัวพันกับชื่อของเจ้าชายอีกคน ที่ถือกำเนิดในช่วงมิดมืดและวุ่นวาย (คาดว่าน่าจะหมายถึงจอน สโนว์) 
 

แม้ว่าเวลาแนะนำตัว แดเนริสจะพูดว่า เธอคือ แดเนริส สตอร์มบอร์น มารดาแห่งมังกร แต่จริงๆ แล้ว เธอไม่ใช่แดเนริส ทาร์แกเรียนคนแรก แต่เป็นคนที่สองต่างหาก โดยแดเนริส ทาร์แกเรียนคนแรก เป็นบุตรของพระเจ้าเอกอนที่สี่ และได้สมรสกับเจ้าชายแห่งดอร์น (ตระกูลมาร์เทลล์) 
 

เมื่อตกลงใจแต่งงานกับคาลโดโกและต้องกินหัวใจของม้า เธอไม่ได้แค่สาบานว่าจะเป็นภรรยาของเขา แต่ได้สัญญาว่าจะอยู่ภายใต้กฎของพวกโดรทรากี้ด้วย หนึ่งในกฎนั้นก็คือ ถ้าคาลตาย คาลิซีของเขาจะต้องเดินทางไปยังเมืองที่อยู่กลางทะเลโดลทรากี้ แต่ทั้งคนอ่านและคนดูคงรู้ดีว่าแดเนริสไม่ได้ทำตามกฎนั้น แต่ว่าเลือกที่จะตัดสินใจและเดินหน้าด้วยตัวของเธอเอง
 

ถ้าใครดูซีรี่ส์อยู่ คงรู้เลยว่าตอนนี้เข้มข้นมาก จากช่วงแรกๆ ที่ทุกคนเชื่อเสมอมาว่า... หลังจากวิเซริสเสียชีวิตไปแล้ว แดเนริสน่าจะเป็นทาร์แกเรียนคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่แล้วจู่ๆ ก็เริ่มมีเค้าลางว่า จอน สโนว์ อาจเป็นบุตรของลีแอนนา สตาร์คและเรการ์ ทาร์แกเรียนก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ย่อมหมายความว่า เขาเป็นหนึ่งในตระกูลทาร์แกเรียน รวมถึงตัวทีเรียนเอง ที่มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่า เขาอาจเป็นบุตรของแมดคิง หรือกษัตริย์คลั่งอย่างแอริสก็เป็นได้ เพราะตัวไทวินเองก็เกลียดบุตรชายคนนี้มาก ทั้งยังทิ้งปริศนาคำพูดสุดท้ายตอนที่ทีเรียนเข้าไปยิงเขาว่า “เจ้าไม่ใช่ลูกข้า” นอกจากนี้ ทีเรียนยังสามารถจับมังกรได้ด้วย 
 

แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร คนอ่านและคนดูอย่างเราก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า แดเนริสจะสามารถไปได้ไกลแค่ไหน และเธอจะเอาชนะสงครามนี้ได้หรือไม่ ในเมื่อตัวละครอื่นๆ รอบตัว ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ต้องยอมรับเลยว่า จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน นักเขียน แบ่งความสำคัญของตัวละครได้ดีมากๆ ทำเอาคนอ่านอย่างเราเดาไม่ถูกเลยจริงๆ ว่าเรื่องทั้งหมดจะลงเอยแบบไหน... ต้องให้เครดิตนักเขียนในเรื่องนี้ค่ะ
 

ทีมงานนักเขียนเด็กดี
 

https://www.quirkybyte.com/blog/2017/07/04/facts-daenerys-targaryen-game-of-thrones/