เหมือนหรือต่าง...? มาร์กาเร็ตแห่งอองชู ราชินีแห่งอังกฤษ VS เซอร์ซี แลนนิสเตอร์แห่งเกมออฟโธรน

เหมือนหรือต่าง...?
มาร์กาเร็ตแห่งอองชู ราชินีแห่งอังกฤษ
VS เซอร์ซี แลนนิสเตอร์แห่งเกมออฟโธรน  
 

สวัสดีค่ะชาวนักเขียนนักอ่านเด็กดี ช่วงนี้ กระแสเกมออฟโธรนมาแรงมาก แอดมินเองก็ติดกระแสนี้ไปกับเขาด้วย จากที่แรกๆ ก็แค่อ่านนิยายบางภาค ดูซีรี่ส์บางตอน จับต้นชนปลายไม่ติด ตอนนี้กลายเป็นว่าไปไลค์แฟนเพจไว้เยอะมาก และหาบทความเกี่ยวกับเกมออฟโธรนมาอ่านเยอะมาก แล้วก็เริ่มเข้าใจเนื้อเรื่องทีละนิดๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งทึ่ง และรู้สึกว่า จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน ผู้เขียนนี่ ไม่ธรรมดาจริงๆ แอดมินเชื่อว่า เขาคนนี้จะต้องเป็นคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ และเป็นหนอนหนังสือตัวยงแน่ๆ ถึงได้สร้างโลกในจินตนาการได้น่าอ่านและเต็มไปด้วยรายละเอียดน่าสนใจขนาดนี้ 
 

และจากการเก็บข้อมูลในหลายๆ ช่องทาง แอดมินพบว่า... จุดเด่นที่สุดของ จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ตินคือ “การสร้างตัวละคร” ค่ะ ตัวละครในหนังสือเรื่องนี้ ทรงพลัง โดดเด่นและน่าสนใจมาก แต่ละตัวมีความแตกต่าง มีเป้าหมายที่ชัดเจนในแบบของตัวเอง ซึ่งแอดมินคิดว่าเพราะเหตุผลนี้แหละค่ะ ที่ทำให้คนอ่านทั่วโลกติดหนังสือเล่มนี้งอมแงม ตัวแอดมินเอง ยอมรับว่าชอบตัวละครหลายๆ ตัวในเรื่อง แต่ว่ามีตัวนึงที่ชอบมากที่สุด ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ คนนี้นี่เองค่ะ
 

หนึ่งในตัวละครหญิงที่ทรงพลังที่สุดของเกมออฟโธรน
 

ถามว่าทำไมถึงชอบเซอร์ซี แอดมินคิดว่าตัวละครนี้ทรงพลังและมีเสน่ห์มากค่ะ เธอมีความชัดเจน มีความแข็งแกร่ง ไม่ยอมแพ้ มีความเป็น “แม่” ในตัวสูงมาก หลายคนอาจจะมองว่าเซอร์ซีร้ายกาจ และบ้าตัณหาที่เล่นชู้กับน้องชายตัวเอง แต่แอดมินมองว่าเธอก็แค่ทำในสิ่งที่อยากทำ เธอเป็นมนุษย์คนหนึ่ง มีรักโลภโกรธหลง แต่สิ่งที่ทำให้แอดมินชอบเธอ ก็คือ... เธอกล้าที่จะแสดงความเป็นตัวของตัวเองให้คนอื่นเห็น เธอไม่ได้เสแสร้ง ไม่ได้แกล้งทำ เธอร้ายก็บอกว่าร้าย เธออยากครองบัลลังก์ก็บอกว่าอยากครอง นี่แหละค่ะ เสน่ห์ที่ให้แอดมินทึ่งในตัวเธอ 
 

และเพราะความชอบมากมายขนาดนี้ ก็เลยทำให้แอดมินต้องไปค้นหาตามอ่านบทความเกี่ยวกับเซอร์ซีเพิ่มเติม อยากรู้ว่าเธอมีเป้าหมายในใจอย่างไร เธอต้องการอะไร และนักเขียนน่าจะนำพาเธอไปจบลงที่ไหน แอดมินต้องการข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อจะได้ประมวลผลสำหรับนิยายภาคต่อไป อยากรู้ว่าเซอร์ซีจะได้ครองบัลลังก์กับเขาไหมเนี่ย หรือจะต้องตายอย่างทรมาน ซึ่งหลังจากหาข้อมูลมากมาย แอดมินก็ได้พบข้อมูลที่น่าสนใจสุดๆ เกี่ยวกับเซอร์ซี นั่นคือ ข้อมูลที่บอกว่าผู้เขียนน่าจะได้แรงบันดาลใจในการสร้างตัวละครนี้มาจากบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ และคนคนนั้นก็คือ พระนางมาร์กาเร็ตแห่งอองชู สตรีที่มีบทบาทอย่างสูงในช่วงที่อังกฤษต้องเผชิญกับสงครามดอกกุหลาบ ไม่เพียงแค่นั้น ดูเหมือนจอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน จะไม่ได้สร้างตัวละครเซอร์ซีนี้ขึ้นจากบุคคลเพียงคนเดียว แต่เขายังได้รับแรงบันดาลใจจากสตรีชนชั้นสูงที่มีอำนาจอีกหลายต่อหลายคนในประวัติศาสตร์ นับว่าเป็นนักเขียนที่ข้อมูลแน่นและเข้าใจหาแรงบันดาลใจมาสร้างคาแร็คเตอร์ตัวละครจริงๆ 
 

เอาล่ะค่ะ มาดูกันดีกว่าว่า จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน ได้แรงบันดาลใจในการสร้างเซอร์ซีมาจากใครบ้าง และสตรีเหล่านั้นเป็นคนแบบไหนอย่างไร 
 

เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ และ มาร์กาเร็ต แห่งอองชู
ทั้งคู่เหมือนกันในเรื่องการถูกกล่าวหาว่ามีชู้และต้องแต่งงานด้วยเหตุผลทางการเมือง
 

พระนางมาร์กาเร็ตแห่งอองชู พระมเหสีในพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ผู้ได้รับสมญาณามว่า “กษัตริย์บ้า” (Mad King) มีลักษณะเด่นคล้ายคลึงกับเซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ตัวละครจาก เกมออฟโธรน วรรณกรรมระดับโลกหลายต่อหลายอย่าง ทั้งคู่ต่างเป็นผู้หญิงที่มีหน้าตางดงาม ชอบออกคำสั่ง ทะเยอทะยาน หลงใหลในอำนาจ และพร้อมจะทำทุกทางเพื่อลูกของตน ทั้งคู่ยังถูกกล่าวหาว่ามีชู้ด้วย ในกรณีของเซอร์ซี คนอ่าน (และคนดู) อย่างเรารู้ชัดว่า เธอมีความสัมพันธ์กับ เจมี่ แลนนิสเตอร์ น้องชายฝาแฝดของตัวเอง แต่ในกรณีของพระนางมาร์กาเร็ต ไม่มีใครรู้ความจริงว่าเป็นอย่างไรกันแน่ แต่ดูจากที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ทรงเสียพระสติบ่อยๆ ก็ทำให้นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า ทรงไม่น่าจะมีบุตรได้ อีกจุดหนึ่งที่เหมือนกันมากก็คือ ลูกชายของทั้งคู่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ และต่างมีลักษณะนิสัยก้าวร้าว ชอบออกคำสั่งที่โหดร้าย ชอบดูคนทำร้ายกัน ด้วยความเหมือนนี้เอง ทำให้นักวิจารณ์หลายคนมองว่า เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ก็คือพระนางมาร์กาเร็ตแห่งอองชูภาคนิยายนั่นเอง
 

ผู้หญิงทั้งคู่ยังมีเรื่องราวที่เหมือนกันอีกมาก ทั้งคู่ต่างก็แต่งงานด้วยเหตุผลทางการเมือง สวามีของเซอร์ซีคือ โรเบิร์ต บาราเธียน ส่วนมาร์กาเร็ตแห่งอองชู อภิเษกสมรสกับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 พระเจ้าเฮนรี่ มีอาการเสียพระสติสม่ำเสมอ จึงไม่ค่อยสนใจมเหสี เชื่อกันว่าการอภิเษกของทั้งคู่แทบจะปราศจากเซ็กส์ด้วยซ้ำ และกว่าพระนางมาร์กาเร็ตจะทรงมีบุตรก็ต้องใช้เวลานานถึงแปดปี หลายคนในประวัติศาสตร์เชื่อว่า บุตรที่ถือกำเนิดมา เอ็ดเวิร์ดแห่งเวสต์มินสเตอร์ น่าจะเป็นพระโอรสของเอ็ดมันด์ โบฟอร์ท ดยุคแห่งซัมเมอร์เซ็ทที่ 1 หรือไม่ก็เจมส์ บัตเลอร์ เอิร์ลแห่งออร์มอนด์ที่ 5 ทั้งสองเป็นผู้สนับสนุนพระนางอย่างเหนียวแน่นในช่วงสงครามดอกกุหลาบ ส่วนโรเบิร์ต บาราเธียน ก็หลงรักผู้หญิงอื่นจนไม่สนใจจะหลับนอนกับเซอร์ซี จนเซอร์ซีต้องเติมเต็มด้วยการมีสัมพันธ์กับน้องชายฝาแฝดอย่างเจมี่ 
 

ปัญหาของมาร์กาเร็ตคือ พระนางมาจากฝรั่งเศส ในช่วงแรกๆ พระนางแทบไม่รู้ภาษาอังกฤษ ต้องใช้เวลากว่าจะเรียนรู้ได้ทั้งหมด แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก ที่สำคัญในช่วงที่พระนางเสด็จมาใหม่ๆ เป็นช่วงที่ปัญหาระหว่างตระกูลยอร์กและแลงคาสเตอร์ กำลังอยู่ในช่วงคุกรุ่น จนนำไปสู่สงครามกลางเมืองในที่สุด ส่วนเซอร์ซีเองแม้จะไม่ได้มาจากต่างชาติ แต่ปัญหาคือนางแคร์แต่เรื่องอำนาจ และไม่ค่อยสนใจความลำบากของประชนชน ทำให้ถูกเกลียดชัง ทั้งสองยังเหมือนกันในเรื่องการก้าวขึ้นมาเป็นผู้ปกครอง ในกรณีของเซอร์ซี โรเบิร์ตเสียชีวิต ส่วนมาร์กาเร็ตนั้น สวามีของพระนางเสียพระสติอยู่เสมอ จึงทำให้ท้ายที่สุด พระนางต้องว่าการรบเสียเอง ทั้งเซอร์ซีและมาร์กาเร็ตจึงกลายเป็นผู้นำกองทัพ และมีอำนาจในการตัดสินใจต่างๆ นานา แต่แม้ทั้งคู่จะเก่งเรื่องการก้าวสู่อำนาจ ทว่ากลับไม่สามารถรักษามันไว้ได้พอๆ กัน
 

อีกเรื่องที่ทั้งคู่เหมือนกันมาก และต้องเจ็บปวดถึงขีดสุดคือ นิสัยของบุตรชาย จอฟฟรีย์เป็นคนโหดร้าย เมื่อได้ครองบัลลังก์ก็ทำร้ายผู้คนไปทั่ว เที่ยวออกคำสั่งฆ่าคน วางอำนาจไม่จบไม่สิ้น บุตรชายของมาร์กาเร็ตเองก็เช่นกัน พระองค์ปกครองผู้คนอย่างโหดร้าย และสวรรคตรวดเร็วไม่แพ้จอฟฟรีย์
 

เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ และ แคเทอรีน เดอเมดิชี
ทั้งคู่เหมือนกันในเรื่องที่มีพระราชโอรสครองบัลลังก์
และต่างต้องดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ
 

แคเทอรีนเดอเมดิชี

แม้จะอายุสั้นและมีบุตรที่อ่อนแอ แต่สิ่งที่พระนางแคเทอรีนเดอเมดีชีเหมือนกับเซอร์ซี แลนนิสเตอร์ คือ ลักษณะนิสัยที่ชอบเล่นการเมือง และสนใจเรื่องการปกครอง แคเธอรีนเป็นบุตรสาวของเจ้าชายอิตาเลียนในตระกูลที่มั่งคั่ง พระนางถูกจับให้อภิเษกการเมืองกับพระเจ้าอองรีที่ 2 และได้เป็นราชินีของฝรั่งเศสในช่วงปี ค.ศ. 1547-1559 ดังนั้น ทั้งแคเทอรีนและเซอร์ซีเหมือนกันในแง่นี้ ทั้งคู่ต้องแต่งงานเพื่อการเมือง กว่าแคเทอรีนจะมีบุตรก็ใช้เวลานานมาก คงเพราะพระเจ้าอองรีทรงหลงใหลพระสนมคนโปรด ไดแอน เดอ ปอยเตียร์ จนไม่มีเวลาให้กับพระนาง ชีวิตสมรสของเซอร์ซีเองก็ไม่แตกต่าง เพราะโรเบิร์ต บาราเธียนไม่ได้รักนาง แต่มีใจให้ผู้หญิงอื่น 
 

ท้ายที่สุด พระนางแคเทอรีนก็มีบุตรถึง 10 คน เป็นชาย 4 หญิง 3 (เสียชีวิตไปสาม) พระนางเริ่มมีอำนาจเมื่อพระเจ้าอองรีที่ 2 สวรรคต และบุตรชายของพระนางได้ขึ้นครองราชย์ในนามพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 2 อย่างไรก็ตาม พระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 2 สวรรคตในปีต่อมา พระราชินีแคเทอรีนได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระเจ้าชาร์ลที่ 9 ผู้มีพระชนมายุได้เพียง 10 พรรษาขึ้นครองราชย์ได้ไม่นานก็สวรรคต บุตรชายคนที่สามได้ขึ้นครองราชย์ เป็นพระเจ้าอองรีที่ 3 ซึ่งบุตรทั้งสามของพระนางนั้นล้วนแต่อ่อนแอและไม่มีความสามารถ ทั้งยังสร้างปัญหามากมายให้กับประเทศชาติ เมื่อมีปัญหาก็จะโยนมาที่พระนางแคเทอรีนทุกครั้ง ซึ่งบทบาทของพระนางแคเทอรีนในแง่นี้ คล้ายคลึงกับเซอร์ซี นั่นคือ มีความเป็นแม่และต้องการปกป้องลูกของตัวเอง พระนางแคเทอรีนอยู่เบื้องหลังการปกครองของบุตรทั้งสาม ส่วนเซอร์ซีก็อยู่เบื้องหลังการปกครองของบุตรทั้งสองอย่างจอฟฟรีย์และทอมเม่นนั่นเอง   

 

เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ และเอลินอร์ แห่งอากีแตน
ทั้งคู่เหมือนกันด้านความเฉลียวฉลาดทางการเมือง
เอลินอร์ได้เป็นราชินีของทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษ 
เรามารอลุ้นกันว่าเซอร์ซีจะได้เป็นแบบเธอไหม
 

 

สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ผู้ทรงขึ้นชื่อเรื่องความเฉลียวฉลาดทางการเมือง และนี่คือสิ่งที่พระนางคล้ายคลึงกับเซอร์ซี ถ้าเพียงแต่เซอร์ซีจะเข้มแข็งและชัดเจนเช่นพระนาง ก็อาจจะประสบความสำเร็จและสามารถครองบัลลังก์ได้อย่างองอาจ
 

เอลินอร์แห่งอากีแตนเป็นพระธิดาของวิลเลียมที่ 10 ดยุกแห่งอากีแตนและดัชเชสเอเนอร์แห่งแชเทลเลโรลท์ สมรสกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 เมื่ออายุได้ 15 ปี และปกครองฝรั่งเศสในช่วงปี ค.ศ. 1137-1152 พระนางขึ้นชื่อเรื่องความใจแข็ง มั่นคง หัวแข็งและทะเยอทะยาน เมื่อเกิดสงครามครูเสด พระเจ้าหลุยส์แทบจะไม่มีบทบาทมากนัก พระราชินีเอลินอร์ศึกษาการรบและบัญชาการรบได้อย่างเฉียบขาด อย่างไรก็ตาม สงครามนี้ทำให้ทั้งคู่มีปัญหาอย่างหนัก และเลิกรากัน พระนางเอลินอร์สมรสใหม่กับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 แห่งอังกฤษ และกลายมาเป็นพระราชินีแห่งอังกฤษ ดูจากบทบาทของพระนางเอลินอร์แล้ว ก็ชวนให้เราต้องมาขบคิดว่า เมื่อ โรเบิร์ต บาราเธียน สวรรคต เซอร์ซีจะมีโอกาสได้แต่งงานใหม่หรือไม่ (สวามีใหม่ของนางจะใช่ ยูรอน เกรย์จอย หรือเปล่า) และถ้าต้องแต่งงานใหม่ คนคนนั้นจะเป็นผู้อำนาจไม่แพ้โรเบิร์ตใช่ไหม   
 

ท้ายที่สุดแล้ว เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ จะประสบความสำเร็จเช่น พระราชินีเอลินอร์แห่งอากีแตน ผู้ทรงอำนาจหรือไม่ หรือนางจะลงเอยเช่น พระนางมาร์กาเร็ตแห่งอองชู คือพ่ายแพ้ต่อสงครามและถูกเนรเทศไปยังดินแดนแสนไกล หรือวิถีชีวิตของนางอาจจบลงแค่ได้เป็นมารดาของกษัตริย์เช่น พระนางแคเทอรีนแห่งเมดิชี หรือ... ผู้เขียนอย่าง จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน อาจกำหนดเส้นทางใหม่ให้กับเธอเลยก็เป็นได้... คนอ่านและคนดูอย่างเราคงจะต้องรอติดตามดูในเกมออฟโธรนภาคสุดท้าย ที่น่าจะฉายในช่วงปี ค.ศ. 2019 (รอกันต่อไป...) 
  

ทีมงานนักเขียนเด็กดี
 

http://time.com/2871621/5-real-life-women-who-inspired-game-of-thrones-characters/