พาไปรู้จักชีวิต 'นางสาวิตรี' กับเรื่องราวรักแท้
แม้ความตายก็ไม่อาจพรากได้
สวัสดีค่ะน้องๆ นักอ่านนักเขียนในเว็บเด็กดี^^ พี่หวานคนเดิมเพิ่มเติมคือยังอยู่กับน้องๆ ที่คอลัมน์สาระวรรณกรรมเช่นเคยค่ะ ก่อนหน้านี้พี่หวานก็ได้นำเสนอเรื่องราวของนางศกุนตลากับความรักที่เกือบจะนกไปแล้ว วันนี้ก็มีเรื่องของนางในวรรณึดีอีกคนหนึ่งค่ะ เเต่คนนี้ไม่นกและไม่เศร้า เเต่ว่ากว่าจะจบบริบูรณ์ได้ก็ลุ้นเอาเหนื่อยไม่ต่างกัน สำหรับเรื่องนี้ที่พี่หวานหยิบมาพูดถึงเพราะอยากจะนำเสนอภาพของนางในวรรณคดีที่แปลกตาไปจากเดิมดูบ้าง หลายบทความที่ผ่านมามีการเล่าเรื่องความรันทดในชีวิตรักของบรรดานางในวรรณคดีกันมาก็เยอะเเล้ว เเต่น้องหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่านางในวรรณคดีไม่ได้มีดีเเค่สวย ไม่ได้โดดเด่นเเค่บทชมโฉมเท่านั้นนะคะ เเต่ยังมีนางในวรรณคดีที่ทั้งสวยเเละฉลาดอยู่คนหนึ่ง เคยได้ยินชื่อ 'นางสาวิตรี' กันบ้างมั้ยคะ
นางสาวิตรีเป็นนางในวรรณคดีสุดแกร่งอีกคนหนึ่งที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคครั้งใหญ่กว่าจะได้เจอรักแท้ เนื่องจากนางมีหน้าตาที่สะสวยสมกับเป็นธิดาของท้าวอัศวบดี ราชาแห่งเเคว้นมัทรราษฎร์ กำเนิดของนางสาวิตรีมาจากการที่ตัวท้าวอัศวบดีนั้นเป็นกษัตริย์ที่ตั้งมั่นอยู่ในธรรมอย่างเคร่งครัดแต่โชคร้ายไม่มีแม้แต่โอรสหรือธิดาสักองค์ไว้สืบราชบัลลังก์ จึงตัดสินใจบำเพ็ญเพียรอย่างเเน่วเเน่ด้วยการบูชาพระสรัสวดีมเหสีพระพรหมจนพอใจ ด้วยการอยู่ในพรหมจรรย์ ละซึ่งกิเลสทั้งปวง จำกัดพระกระยาหาร มีการทำพิธีพลีไฟวันละหมื่นครั้ง เเละร่ายมนต์สรรเสริญพระนางสาวิตรี(พระสรัสวดี)ติดต่อกันนานถึง 18 ปี ในที่สุดพระนางก็พอใจเเละมอบพรวิเศษให้แก่ท้าวอัศวบดีให้มีพระธิดาผู้มีคุณสมบัติเป็นเลิศนางหนึ่ง ด้วยความที่ท้าวอัศวบดีซาบซึ้งในความเมตตาจึงตั้งชื่อพระธิดาว่า 'สาวิตรี' นั่นเองค่ะ
ตั้งเเต่ที่พี่หวานเรียนมาก็จะเห็นเลยว่าบรรดานางในวรรณคดีที่มีความเพียบพร้อมสมบูรณ์เเบบครบถ้วนนั้นมีนางสาวิตรีรวมอยู่ด้วยอย่างเเน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นธิดาที่พระสรัสวดีเป็นผู้ประทานให้เเล้ว ยังเป็นธิดาของกษัตริย์อีกด้วย ทำให้นางได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี เติบโตมาเป็นหญิงที่งามทั้งกายใจ มีปัญญาเฉลียวฉลาดเเละไม่ขาดตกในเรื่องคุณสมบัติของกัลยาณีอีกด้วย เเต่คนเราจะเพอร์เฟ็คไปทุกอย่างแบบนี้ไม่ได้ว่ามั้ยคะ เพราะอย่างนี้นางจึงไม่เคยมีเจ้าชายจากแคว้นใดผ่านมาหมายปองสักที ทำให้ท้าวอัศวบดีกลุ้มใจต่อไปอีกกลัวว่าจะไม่มีใครมาเเต่งงานกับธิดาของตน จึงส่งนางออกไปเดินทางเผื่อได้เจอคนที่ถูกใจ เเละในที่สุดก็ได้เจอกับ 'พระสัตยวาน' โอรสของท้าวทยุมัตเสน แห่งแคว้นศาลวะ จนตัดสินใจที่จะเเต่งงานกับชายคนนี้ เเม้ว่าพระสัตยวานจะเป็นเจ้าชายไร้บัลลังก์เนื่องจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทำให้ถูกศัตรูเเย่งชิงบัลลังก์ไป เเละได้หลบหนีมาออกบวชเป็นพระฤาษีพร้อมด้วยพระมเหสีเเละพระสัตยวาน ทำให้ได้มาเจอกับนางสาวิตรีที่ป่าแห่งนี้จนเกิดเป็นความรัก
เรื่องราวรักแท้ แม้ความตายก็ไม่อาจพรากได้
ต้องนับถือใจนางสาวิตรีมากเหมือนกันนะคะ อย่างที่พี่หวานบอกไปว่านางเป็นธิดาที่สูงศักดิ์เเละเพียบพร้อมทั้งปัญญา วาจา และมารยาท เเต่ตัดสินใจเเต่งงานกับพระสัตยวานผู้ไร้ยศศักดิ์ใดๆ ที่สำคัญความน่าสงสารของนางสาวิตรีคือพระสัตยวานนั้นอายุสั้น จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงปีเดียวเท่านั้น แม้พระนารทจะร้องค้านไปเเล้วก็ตามนางสาวิตรีก็ยังยืนยันว่านางจะเเต่งงานกับคนนี้ เป็นนางในวรรณคดีที่หนักแน่นเเละเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเองอย่างมาก เเม้รู้ว่าเเต่งงานไปก็จะต้องเจอปัญหาเเต่ว่าเมื่อได้เลือกเเล้วก็จะไม่เปลี่ยนใจ นี่เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของนางสาวิตรีที่ถูกจัดว่าเป็นนางในวรรณคดีผู้ภักดีเเละซื่อตรง ยิ่งหลังจากที่เเต่งงานกันไปเเล้วนางก็ปฏิบัติหน้าที่ของภรรยาได้อย่างดีไม่มีบกพร่อง เเม้จะเป็นถึงธิดาแห่งแคว้นเต่ก็ไม่ถือตัวเหยียดหยามพระสวามีผู้เป็นเหมือนเจ้าชายตกยากอย่างพระสัตยวาน
จนใกล้เวลาที่พระสัตยวานจะต้องถึงอายุขัยครบปีตามที่พระนารทเคยบอกนางสาวิตรีไว้นางก็เริ่มบำเพ็ญเพียรเตรียมพร้อมตนเองที่จะรอให้ถึงวันตายของพระสัตยวานเพราะนางรู้ว่านางจะต้องได้เจอกับเทพเเห่งความตายอย่างพระยมเเน่นอน โดยมีเทพเทวดาร่วมอวยพรแก่นางเเละพระสัตยวานด้วยมากมายเพราะทั้งสองคนเป็นคู่ที่ตั้งอยู่ในความดี
เหตุการณ์วันนั้นเป็นตอนที่พระสัตยวานต้องเข้าป่าไปหาอะไรกิน นางสาวิตรีจึงขอติตดามไปด้วยเเละจับตาอยู่ตลอดเวลาว่าพระสัตยวานจะสิ้นใจเมื่อไหร่ จนกระทั่งเกิดเเน่นหน้าอกเเละเป็นลมหมดสติไป เเละพระยมก็ปรากฏกายขึ้นมาตามที่นางสาวิตรีคาดการณ์ไว้ ด้วยความเป็นผู้มีปัญญานางสาวิตรีจึงเอ่ยทักก่อนว่าเพราะเหตุใดพระยมผู้เป็นเทพที่ยิ่งใหญ่จึงมารับดวงวิญญาณของพระสัตยวานด้วยตนเอง พระยมจึงตอบกลับว่าเพราะพระสัตยวานเป็นผู้เปี่ยมด้วยความดีงาม เเละเกิดสงสัยว่าเพราะเหตุใดนางสาวิตรีจึงมองเห็นตน นางสาวิตรีจึงตอบว่าเป็นผลมาจากการบำเพ็ญเพียรอย่างเเน่วเเน่
เมื่อพระยมจูงเชือกผูกวิญญาณพระสัตยวานไป นางสาวิตรีก็เฝ้าเดินตามไปไม่ห่างโดยไม่กลัวว่าข้างหน้าจะอันตรายยังไงก็ตาม ระหว่างทางก็พูดคุยเยินยอและสนทนาเรื่องต่างๆ กับพระยมไปเรื่อยๆ จนพระยมเกิดใจอ่อน ประทับใจในความนอบน้อมเเละรู้จักเจรจาโดยบอกว่าจะให้พรนางอะไรก็ตามที่นางขอยกเว้นเเต่ชีวิตของพระสัตยวาน นางสาวิตรีก็ขอพรให้คนอื่นมาเรื่อยๆ โดยไม่นึกถึงตนเอง ซึ่งบรรดาพรที่นางสาวิตรีได้เอ่ยขอไปมีดังนี้
- ข้อ 1 ขอให้ท้าวทยุมัตเสนบิดาของพระสัตยวานหายจากอาการตาบอด
- ข้อ 2 ขอให้ท้าวทยุมัตเสนได้รับสมบัติคืนกลับมา
- ข้อ 3 ขอให้ท้าวอัศวบดี บิดาของตนเองมีโอรสสืบสกุล
- ข้อ 4 ขอให้นางมีโอรสที่เก่งกาจร้อยคน
สังเกตเห็นคำขอแปลกๆ ในข้อ 4 บ้างมั้ยคะ ถ้ามองตรงนี้จะเห็นความเฉลียวฉลาดของนางสาวิตรีมากๆ เลย เมื่อพระยมไม่ให้นางร้องขอชีวิตพระสัตยาน นางก็ไม่ขอ เเต่คำขอในข้อ 4 ตอนนี้จะไม่สามารถเป็นจริงได้เพราะพระสัตยวานได้ตายไปเเล้ว เเต่พระยมไม่ทันฉุกคิดจึงปล่อยมาถึงพรข้อที่ 5 ซึ่งนางสาวิตรีได้ใช้ความสามารถในการเจรจาของตนเองใช้คำพูดย้ำอีกครั้งว่า พรข้อ 4 จะเ็นไปไม่ได้ถ้าพระสัตยวานยังไม่ฟื้น ซึ่งสุดท้ายพระยมก็ยอมให้กับความมุ่งมั่นพยายามของนางสาวิตรีคืนชีพให้พระสัตยวานในที่สุด
สำหรับเรื่องนี้นะคะ พี่หวานคิดว่าใจความสำคัญของเรื่องอยู่ที่การรู้จักใข้ปัญญาให้เกิดประโยชน์ เเละเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือปัญหาที่จะเข้ามาทุกรูปแบบ อย่างนางสาวิตรีที่ไม่ได้มีเเต่ความงามที่รูปกายภายนอกเท่านั้น เเต่นางงามไปถึงจิตใจ เเละมีความพยายามอย่างเเรงกล้าที่จะนำพระสัตยวานกลับมาให้สำเร็จ เเต่อย่างที่เล่าไปในข้างต้นเเล้วน้องหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงยอมคืนชีวิตให้ง่ายจังเลย เนื่องจากเรื่องนางสาวิตรีนี้เป็นอีกเรื่องที่ปรากฏในมหากาพย์มหาภารตะทำให้เราเห็นว่ามีการแสดงความเคารพนับถือต่อพระฤาษี เเละเทพต่างๆ เมื่อมีการบำเพ็ญเพียรอย่างเเน่วเเน่ตั้งใจจริง เทพก็จะเห็นความตั้งใจนั้นเเละยอมมอบพรวิเศษให้นั่นเองค่ะ
ความสำคัญของเรื่อง สาวิตรี
ชีวิตของนางสาวิตรีเป็นต้นเเบบในเรื่องของสตรีผู้มีปัญญาเป็นเลิศ เเละมีความมุ่งมั่นเเน่วเเน่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค โดยเรื่องของนางปรากฏในตอนที่ยุธิษฐิระเอ่ยถามนึกสงสัยว่านอกจากนางเทราปตีเเล้วยังมีสตรีคนไหนอีกหรือไม่ที่มีลักษณะอย่างนางอีกบ้าง เเละก็มีผู้เล่าชีวิตของนางสาวิตรีกับพระสัตยวานให้องค์ยุธิษฐิระฟัง วรรณคดีเรื่องนี้พี่หวานคิดว่าค่อนข้างจะเกินจริงอยู่ในเรื่องของการเอาชนะความตายโดยการต่อรองกับพระยมผู้เป็นเทพที่มีความเที่ยงธรรมที่สุด เเต่ประเด็นแท้จริงที่ต้องการนำเสนอน่าจะอยู่ที่ความพยายามเเละจิตใจเเน่วเเน่ของนางสาวิตรีที่ต่อสู้กับความเป็นไปไม่ได้นั้น ให้เป็นไปได้ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะสามารถต่อรองกับพระยมได้อย่างนี้ นางจึงเป็นต้นแบบของสตรีผู้มีปัญญาเเละมีความเพียรพยายามโดยเเท้จริง
เป็นยังไงบ้างคะน้องๆ ประวัติของนางสาวิตรีน่าจะทำให้คนอ่านได้ลองมองมุมอื่นเเละเราคงได้เห็นเเล้วว่านางในวรณคดีไทยไม่ได้มีเเต่บทบาทของหญิงสาวที่สวยเเต่รูปเท่านั้นนะเออ สำหรับบทความต่อไปพี่หวานจะมีอะไรมานำเสนออีกฝากติดตามด้วยนะคะ ^____^
พี่หวาน
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณค่ะ