รู้แล้วจะอึ้ง
โวลเดอร์มอร์ไม่เวอร์จิ้น แถมมีลูกด้วยนะ!?
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน เมื่อพูดถึงเจ้าแห่งศาสตร์มืดหรือลอร์ด โวลเดอร์มอร์ ตัวร้ายจากนิยายเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ หลายคนก็คงนึกถึงปีศาจร้าย พ่อมดผู้ไม่เคยรู้จักความรัก โวลเดอร์มอร์ผู้ไม่เคยรักใครนอกจากอำนาจและตัวเอง แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเห็นไม่ศรัทธาในความรักแบบนี้แล้ว เจ้าตัวเองก็มีทายาทกับเขาด้วย!
น้องๆ อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ โวลเดอร์มอร์มีลูกจริงๆ แถมเป็นลูกสาวด้วย (ว้าว *0*) โดยเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยในบทละครเวทีแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเด็กต้องคำสาป (Harry Potter and the Cursed Child) ความจริงสุดช็อกที่เล่นเอาหลายคนอึ้งและทึ่งจนถึงขั้นร้องออกมาว่า “แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ?”
คำถามถัดมาก็คือ... ใครเป็นผู้หญิงคนนั้นของจอมมาร? เจ.เค.เคยบอกใบ้อะไรเรามั้ย? แล้วทำไมอยู่ๆ โวลเดอร์มอร์ก็ไม่เวอร์จิ้นแล้ว!! เอาล่ะค่ะน้องๆ วันนี้พี่น้ำผึ้งขอขันอาสาพาทุกคนมาร่วมกันไขปริศนาค่ะ
โวลเดอร์มอร์และเหล่าผู้เสพความตาย
ใครกันนะที่เป็นผู้หญิงของจอมมาร?
ระวัง สปอยล์หนักมาก!
สำหรับคนที่ไม่เคยดูหรืออ่านบทละครอาจจะต้องระวังสปอยล์รัวๆ จากพี่นะคะ อย่าเพิ่งเกลียดกันเลย เพราะถ้าไม่สปอยล์ น้องๆ ก็จะไม่เข้าใจว่าเหตุใดโวลเดอร์มอร์ถึงมีลูก!?
สำหรับผู้หญิงของจอมมารคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจาก “เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์” แม่มดที่มีใจให้โวลเดอร์มอร์มาตั้งนานแล้ว และใช่ ทั้งคู่มีอะไรกันจนเกิดเบบี๋ออกมา นั่นหมายความว่าเบลลาทริกซ์นอกใจโรโดฟัส เลสแตรงจ์ สามีของตน
ทั้งเบลลาทริกซ์และโวลเดอร์มอร์น่าจะมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งราวๆ ช่วงภาคภาคีนกฟินิกซ์หรือไม่ก็เจ้าชายเลือดผสมนี่แหละค่ะ เหตุการณ์คืนนั้นทำให้เธอตั้งครรภ์ในเวลาถัดมา เบลลาทริกซ์ให้กำเนิดลูกสาวที่มีชื่อว่าเดลฟินี (หรือที่รู้จักกันในชื่อเดลฟี่) คาดว่าเธอน่าจะคลอดหลังจากเหตุการณ์ปะทะกันในกระทรวง (The Battle of the Department of Mysteries) ซึ่งก็ไม่มีใครรู้เหมือนกันว่าเป็นช่วงไหน แต่ที่แน่ๆ เลยก็คือเธอคลอดก่อนเกิดเหตุการณ์สงครามฮอกวอตส์ (The Battle of Hogwarts) และก่อนจอมมารตายค่ะ
ลูกสาวของเบลลาทริกซ์กับโวลเดอร์มอร์
(via: youtube.com)
เดลฟินีเกิดที่คฤหาสน์มัลฟอย และเป็นลูกลับๆ ของจอมมารกับเบลลาทริกซ์ เธอเป็นเด็กหญิงเลือดผสมเพราะแม่เป็นเลือดบริสุทธิ์ ส่วนพ่อเป็นเลือดผสม และแน่นอน... เดลฟี่เป็นปีศาจ เหมือนกับพ่อของเขานั่นแหละ ในตอนท้ายเธอได้รับมรดกจากโรโดฟัสเนื่องจากว่าเป็นทายาทเพียงคนเดียวในตระกูลเลสแตรงจ์ เดลฟี่ปรากฏตัวครั้งแรกในละครเวทีแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเด็กต้องคำสาป เธอมองหาหนทางย้อนเวลากลับไปหาโวลเดอร์มอร์เพื่อบอกความจริงเรื่องการตายของเขาค่ะ
พออ่านจนถึงบรรทัดนี้ คงมีหลายคำถามแวบเข้ามาในหัว หลายคนอาจสงสัย อ้าว นึกว่าโวลเดอร์มอร์จะเป็นหมันซะอีก อ้าว นึกว่าโวลเดอร์มอร์ยังเวอร์จิ้น แต่คงไม่มีคำถามไหนจะคาใจเท่ากับว่า “นี่จอมมารกับเบลลาทริกซ์ไปรักกันตอนไหน?” ที่ผ่านมาเจ.เค.เคยใบ้อะไรเราเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสองคนนี้มั้ย? หรือเจ.เค.แค่รอโอกาสเหมาะๆ เพื่อบอกความจริงกันแน่?
อย่างที่เรารู้กันดี เจ.เค. เป็นนักคาดการณ์ที่ยอดเยี่ยม เธอวางแผนทุกๆ อย่างไว้หมดแล้วว่าอะไรบ้างจะเกิดขึ้นกับตัวละครของเธอ แล้วก็นั่นแหละ อาจจะมีคำใบ้เล็กๆ น้อยๆ ซ่อนอยู่ในหนังสือ มีนักอ่านเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จับได้!
เมื่อเราลองเสิร์จหาข้อมูลใน Google พบว่า ในช่วงสิบปีที่ผ่านมามีบทสนทนาออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งแฟนๆ คิดว่ามีความเป็นไปได้มากที่โวลเดอร์มอร์และเบลลาทริกซ์จะมีความสัมพันธ์แบบโรแมนติก เพราะทางฝั่งผู้หญิงก็หลงใหลจอมมารขั้นสุด มันเลยมีหลายเหตุผลที่สนับสนุนว่าทำไมเหตุการณ์นี้ถึงเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็น...
คำใบ้ที่ 1 : ใน ‘เครื่องรางยมทูต’ เจ.เค. ใบ้เราแล้วว่าเบลลาทริกซ์มี "ความรักที่ลึกซึ้งต่อโวลเดอร์มอร์”
หลักฐานแรกมาจากตอนเริ่มต้นของบทที่ 36 The Flaw in the Plan ในหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต เบลลาทริกซ์พูดว่า
“My Lord . . . my Lord . . . ”
It was Bellatrix’s voice, and she spoke as if to a lover.
(“นายท่าน... นายท่าน...” เสียงของเบลลาทริกซ์ดังขึ้น ราวกับว่าเธอกำลังพูดกับคนรัก)
คำใบ้ที่ 2 : ในเว็บแชทปี 2007 หลังจากที่มีการเปิดตัวหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต เจ.เค.ได้รับคำถามที่ว่า “เบลลาทริกซ์รักสามีของเธอหรือรักโวลเดอร์มอร์กันแน่?”
กระแทกใจสุดๆ กับคำถามนี้ ส่วนคำตอบที่เจ.เค.บอกเรานั้น กระแทกใจยิ่งกว่าค่ะ เพราะเจ.เค.ตอบว่า “เธอเลือกเลือดบริสุทธิ์มาเป็นสามีเพราะนั่นคือสิ่งที่เธอคาดหวัง แต่รักแท้ของเธอคือโวลเดอมอร์ต่างหาก”
คำใบ้ที่ 3 : เจ.เค.ขยายความเพิ่มเติมในบทสัมภาษณ์กับ PotterCast เดือนธันวาคม 2007 ว่า “โวลเดอร์มอร์มีแรงดึงดูดทางเพศต่อเบลลาทริกซ์มาก”
ในบทสัมภาษณ์ของ PotterCast เจ.เค.โรว์ลิ่งยืนยันว่า เบลลาทริกซ์รักโวลเดอร์มอร์จริงๆ มันไม่ใช่แค่ความรักแบบลูกน้องที่มีต่อเจ้านาย แต่มันเป็นความรักแบบลึกซึ้ง รวมถึงความโหยหาแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โวลเดอร์มอร์มีแรงดึงดูดทางเพศสูงมาก และเธอก็ต้องการเขา พูดง่ายๆ ก็คือเบลลาทริกซ์หลงจอมมารหัวปักหัวปำนั่นเอง
นอกจากนี้เจ.เค. ยังบอกอีกว่านักแสดงผู้รับบทเป็นเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์อย่าง “เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ (Helena Bonham Carter)” นั้นเข้าถึงบทบาทได้ดีเกินไป จนผู้กำกับขอให้ลดๆ ลงมาหน่อย เพราะเบลลาทริกซ์ดูเซ็กซี่เกินไปแล้วค่ะ
แล้วทั้งคู่ไปกุ๊กกิ๊กกันตอนไหน?
แฟนๆ ต่างก็พากันตั้งข้อสันนิษฐานว่ามันต้องเกิดขึ้นในเล่มภาคีนกฟินิกซ์แน่นอน ก็แหมเล่มหนาขนาดนั้นต้องมีบ้างล่ะ คำถามถัดมาก็คือ... แล้วเป็นตอนไหนล่ะ?
เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มปรากฏขึ้นในตอนท้ายของบทที่ 24 การสกัดใจ (Occlumency) ตอนนั้นแฮร์รี่รู้สึกเจ็บปวดทรมาน เหมือนมีใครกำลังผ่ากระหม่อมของเขาอยู่ แฮร์รี่ได้ยินหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังก้องอยู่ในหู รู้สึกเหมือนว่าเขา (จอมมาร) มีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันเป็นความร่าเริง ปลื้มปิติ ยินดีเพราะได้รับชัยชนะ มันมหัศจรรย์ เป็นสิ่งวิเศษที่เคยเกิดขึ้น แฮร์รี่จึงเริ่มสงสัยว่าอะไรทำให้โวลเดอร์มอร์มีความสุขขนาดนั้น
ในบทถัดมาเราเห็นหนังสือพิมพ์ออกข่าวว่ามีนักโทษแหกคุกอัซคาบัน ซึ่งเบลลาทริกซ์เองก็เป็นหนึ่งในนักโทษที่หนีออกมาได้ โวลเดอร์มอร์ตื่นเต้นมากที่ผู้เสพความตายหลายคนเดินทางมาหาเขา แถมหนึ่งในนั้นก็ชอบเขาอย่างสุดซึ้ง ถ้าโวลเดอร์มอร์อยากฉลองความสำเร็จที่เกิดขึ้น มันจะมีวิธีไหนบ้างที่ทำให้เขารู้สึกปิติได้ถึงเพียงนี้? ลองคิดดูเล่นๆ ละกันว่าวิธีที่ว่าคืออะไร
หลังจากแฮร์รี่สัมผัสได้ถึงความปลื้มปิติของโวลเดอร์มอร์แล้ว แฮร์รี่เกิดรู้สนใจเบลลาทริกซ์เป็นพิเศษ ดังข้อความที่ว่า:
“Hermione nudged Harry and pointed at the headline over the pictures, which Harry, concentrating on Bellatrix, had not yet read.”
(Extract from Harry Potter and the Order of the Phoenix, Pottermore)
เดาว่าแฮร์รี่คิดว่าเบลลาทริกซ์นี่แหละคือที่มาของ “ความปลื้มปิติ” ของจอมมาร นี่จึงอาจเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เจ.เค.โรว์ลิ่งพยายามบอกใบ้เราก็ได้นะคะ
ปัญหาก็คือโวลเดอร์มอร์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งได้ยังไงในเมื่อเขาไม่เคยรักใคร?
ใช่ค่ะ โวลเดอร์มอร์ไม่เคยรักใคร เขารักแค่อำนาจกับตัวเขาเองเท่านั้น เจ.เค. โรว์ลิ่งเองก็ยืนยันว่า “โวลเดอร์มอร์จะสนใจเฉพาะคนที่เป็นประโยชน์ต่อเขาเท่านั้น”
แน่นอน อาจมีคนเถียงว่าโวลเดอร์มอร์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเบลลาทริกซ์เพียงเพื่ออำนาจ แต่เจ้าแห่งศาสตร์มืดจะพาตัวเองลงไปสู่ความเป็นมนุษย์ด้วยการสนิทสนมกับใครสักคนงั้นหรือ? เราเชื่อได้มั้ยว่าโวลเดอร์มอร์เองก็มีช่วงเวลาที่อ่อนแอ? หรือโวลเดอร์มอร์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเพียงเพื่อต้องการผลิตทายาทกันแน้่? แต่ ณ เวลานั้น เขาก็เชื่ออย่างสุดใจว่าตนเป็นอมตะเพราะมีฮอร์ครักซ์อยู่อีกมากมาย เป็นไปได้หรือเปล่าที่เขายอมจำนนต่อฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านในร่างกายของตัวเอง? ไม่... มันดูไม่เหมือนเขาเลย
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตบางอย่างที่น่าสนใจ นั่นคือ โวลเดอร์มอร์เคยหยอกล้อเบลลาทริกซ์และนั่นทำให้เธอรู้สึกดีมากๆ โดยอิงจากงานเขียนของเจ.เค.โรว์ลิ่งที่โพสต์ไว้ในเว็บไซต์ Pottermore ชื่อว่า Bellatrix scrabbles for Voldemort's favour ซึ่งเป็นฉากที่โวลเดอร์มอร์พูดถึงการแต่งงานของนิมฟาดอร่า ญาติของเธอกับมนุษย์หมาป่าลูปิน น้องๆ สามารถลองไปอ่านดูได้เลยค่ะ แล้วจะพบว่าเบลลาทริกซ์เขินจริงอะไรจริง (แล้วใครบางคนอาจจะรู้สึกว่าโวลเดอร์มอร์เองก็มีความละมุนด้วย) แต่ที่แน่ๆ เลยก็คือเบลลาทริกซ์แสดงออกชัดเจนเลยว่าเธอรักจอมมารมาก!
มาลองตั้งสมมติฐานกันต่อ...
สมมติว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันในเดือนมกราคม 1996 ซึ่งเป็นตอนที่เบลลาทริกซ์หนีออกจากคุกอัซคาบันได้ มันจะมีหลักฐานอะไรอีกบ้างนะที่ยืนยันว่าถึงความโรแมนติกของสองคนนี้?
คำตอบคือมีค่ะ ตามเนื้อหาที่สมาชิกในเว็บ Redditor ถกเถียงกันเมื่อปี 2016 ในบทที่ 2 ของเล่มเจ้าชายเลือดผสม มีประโยคน่าสนใจที่เบลลาทริกซ์พูดออกมา ฉากนั้นเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปี 1996 ตอนที่นาร์ซิสซาไม่พอใจที่ “ลูกชายของเธอ” ต้องสละชีวิตเพื่อโวลเดอร์มอร์ ดังข้อความที่ว่า:
“You should be proud!” said Bellatrix ruthlessly. “If I had sons, I would be glad to give them up to the service of the Dark Lord”
(“เธอควรภาคภูมิใจ!” เบลลาทริกซ์พูด
“ถ้าฉันมีลูก ฉันจะดีใจมากที่พวกเขาได้รับใช้เจ้าแห่งศาสตร์มืด”)
เห็นคำว่า “sons (ลูกชายหลายคน)” ใช่มั้ยคะ มันไม่ใช่คำว่า “son” ที่แปลว่าลูกแค่คนเดียว ทำไมเบลลาทริกซ์ถึงคิดว่าเป็นลูกชายหลายคนล่ะ ก็ในเมื่อนาร์ซิสซาเมนชั่นถึงเดรโก ลูกชายของเธอเท่านั้น เป็นไปได้มั้ยว่าเบลลาทริกซ์จะรู้ตัวว่าตัวเองกำลังท้องเลยหลุดปากออกมา?
นอกจากนี้ในตอนท้ายของเจ้าชายเลือดผสม ฉากบนหอคอยพยากรณ์ พวกเราเองก็ไม่เห็นเบลลาทริกซ์โผล่มาด้วย ซึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 1997 เป็นไปได้ว่าเบลลาทริกซ์มัวแต่สาละวนอยู่กับลูกสาวของเธออย่าง “เดลฟินี” หรือไม่เธอก็กำลังคลอดลูกอยู่ค่ะ มันเลยทำให้เธอไม่สามารถมารวมกลุ่มกับผู้เสพความตายคนอื่นๆ ได้
เจ.เค.โรว์ลิ่งกับเรื่องทางเพศของโวลเดอร์มอร์
ที่น่าสังเกตก็คือ เจ.เค.เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องทางเพศของโวลเดอร์มอร์ด้วย เนื่องจากมีนักเขียนบางคนสงสัยเรื่องความซิงของโวลเดอร์มอร์ เธอเลยก็ตอบกลับว่า "ให้ความเป็นส่วนตัวแก่เขา!" ใช่ค่ะ คำตอบที่แสนกำกวมแบบนี้ ย่อมหมายความว่าโวลเดอร์มอร์ไม่น่าจะเวอร์จิ้นอีกต่อไป
สุดท้ายแล้วเราก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าโวลเดอร์มอร์มีอารมณ์รักเหมือนมนุษย์หรือเปล่า เรื่องนี้คงต้องให้เจ.เค.โรว์ลิ่งออกมาให้คำตอบแก่พวกเราด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามพี่น้ำผึ้งมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เบลลาทริกซ์น่าจะมีความสุขกับการมีลูกกับโวลเดอร์มอร์เพราะเธอรักเขา ส่วนโวลเดอร์มอร์นั้นไม่ได้รู้สึกว่าความรักเป็นเรื่องจำเป็นในชีวิตเพราะเขาไม่เคยรักใคร นอกจากตัวเขาเอง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ หรืออาจเป็นเพราะเธอยั่วยวนเขา ซึ่งอันนี้ก็ตอบไม่ได้จริงๆ ค่ะ แต่ก็ไม่แน่นะคะ บางทีโวลเดอร์เมอร์อาจจะมีความรู้สึกแบบมนุษย์เราก็ได้ แล้วน้องๆ ล่ะ คิดยังไงกันบ้าง?
พี่น้ำผึ้ง :)
ขอบคุณรูปภาพจากภาพยนตร์
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.accio-quote.org/articles/2007/1224-pottercast-anelli.html
http://www.accio-quote.org/articles/2007/0730-bloomsbury-chat.html
https://www.reddit.com/r/harrypotter/comments/3ioju4/who_is_the_cursed_child/
https://www.pottermore.com/book-extract-long/bellatrixs-endeavours
https://www.pottermore.com/book-extract-long/outbreak-from-azkaban
10 ความคิดเห็น
จากที่รู้มา เด็กต้องคำสาปไม่ใช่เจเคเป็นคนเขียนนี่คะ เป็นเหมือนแฟนฟิคที่แฟนคลับเขียนขึ้นเอง
แล้วเขาไปขอให้เจเคอนุญาตเอามาแสดงละครเวที
ส่วนตัวใจก็เชื่อไปแล้วว่าโวลดี้น่าจะมีความรู้สึกให้เบลล่าบ้างนิดๆ อย่างน้อยเขาก็เคยเป็นมนุษย์
อย่างโวลดี้เนี่ยนะ!! ไม่มีทางที่จะมีความรู้สึกอะไรหรอก โวลดี้รักแค่ตัวเองเท่านั้นแหละ
-เราก็นึกว่าบทละครเวทีเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเด็กต้องคำสาป คือบทละครใหม่ที่คนเขียนบท ขอเจเคมาเขียนใหม่เอง โดยให้เรื่องราวดูเหมือนต่อจากภาค 7 แต่ที่ไหนได้ เจเคเป็นสุดยอดนักเขียนที่ฉลาดจริงๆ
บทละครนี้มันออกแนวแฟนฟิคนิ แต่แบบถูกกฎหมายและได้รับยอมรับชัดเจน เรื่องนี้มีทางเป็นไปได้จริง แต่ก็ไม่เกิดขึ้นในเรื่องจริงๆของharry potter
...สรุปคือแค่ไม่อยากให้ท่านลอร์ดสนใจใครนอกจากปฮร์รี่555555
เจเคไม่เคยออกมาปฏิเสธว่า the cursed child ไม่ใช่เล่มแปด จริงอยู่ที่อนุญาตให้ทำ แต่มันยังมีความกำกวม + ย้อนแย้งกับภาคหลักเยอะมาก แต่จะปฏิเสธก็ทำได้ไม่เต็มปาก เพราะบางสัมภาษณ์เจเคบอกมันคือ sequel สรุป มันคือภาคต่อจริงหรือ...??
พูดตรง ๆ ยังยากที่จะยอมรับว่าเป็นภาคต่อจริง ๆ เพราะตัวละคร out of characters มาก Loop holes เยอะสุดๆ โดยเฉพาะกับตัวโวลดี้ เบลล่า เซดริก และสามสหาย
สำหรับเรา มันยากเหมือนกันที่จะบอกว่า นี่คือเรื่องราวที่อยู่ในจักรวาลเดียวกับเจ็ดเล่มแรกจริง ๆ The cursed child เปรียบเสมือนกับ Official Fanfiction หรือ alternative Harry Potter's Universe มากกว่า
ใช่ค่ะ เราอ่านบทละครแล้วก็รู้สึกว่า....เอ่อ.....OOCไปไกลมากกกกกก เราเลยไม่ค่อยจะอยากเรียกเนื้อหาของCursed child ว่าเป็นภาคต่อของHP ซักเท่าไหร่ เพราะส่วนตัวเรา โวลเดอร์มอร์ต์ไม่ได้เกิแมาจาก ไม่เคยรู้จักความรัก การที่จอมมารจะ "มีลูก" หรือ "รู้สึกยินดี" ที่จะมีลูก มันค่อนข้างจะขัดๆหน่อย อีกอย่างคนที่มั่นใจในตัวเองอย่างจอมมาร ไม่น่าจะอยากมีผู้สืบทอดเพราะเหมือนเป็นการยอมรับว่าตัวเขาจะมีวันมีจุดจบด้วย
แงงงง เม้นต์ซะยาวเลย พอดีตอนอ่านจบไม่รู้จะไปฝอยกับใครอ่ะค่ะ คิดเรื่องนี้มานานมาก แบบ (วดฟ) จอมมารเนี่ยนะ มีลูก????
นึกถึงโจ๊กเกอร์กับฮาร์ลีย์เลยย
คิดว่าไม่น่าจะมีความรักได้นะคะ เหมือนเคยได้ยินว่าเขาจะมีความรักไม่ได้ด้วยเหตุผลบางอย่าง
ที่เกี่ยวข้องกับพ่อแม่และการเกิดของเขา
ถึงจะนานแล้วแต่อยากตอบแลกเปลี่ยนบ้าง5555 เพราะก็สงสัยเหมือนกันค่ะ
ไปอ่านแปลมา ไม่แน่ใจว่าใช่มั้ย เพราะจำได้ลางๆ HPภาคเด็กต้องคำสาปเจ.เค.แค่เป็นคนแนะและตรวจสอบค่ะ เพียงแค่อ้างอิงเหตุการณ์จาก19ปีต่อมาในการเข้าเรียนของลูกๆพวกแฮร์รี่ เจ.เค.ตอนแรกจะให้จบแค่19ปีต่อมา แต่ว่ามีแฟนๆหลายคนเคยถามเธอ และอยากรู้ความเป็นอยู่ลูกๆของพวกแฮร์รี่ว่าเป็นยังไง เพราะมันแตกต่างจากรุ่นของแฮร์รี่มากๆ เจ.เค.เลยให้ทำและเป็นคนตรวจสอบและที่ปรึกษาแทน(น่าจะประมาณนี้นะคะ เพราะนานแล้ว)
.
ส่วนลูกของโวลเดอมอร์กับเบลลาทริกซ์ เจ.เค.บอกว่า ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากความรักค่ะ มันเหมือนอารมณ์พาไปมากกว่า เพราะโวลเดอมอร์เกิดจากยาเสน่ห์ทำให้ไม่มีความรัก ฉะนั้นลูกที่เกิดกับเบลลาทริกซ์คืออารมณ์พาไปล้วนๆ เหมือนการหาอะไรทำฆ่าเวลาของโวลเดอมอร์ละมั้ง
เราว่าไม่ควรเขียนอย่างเป็นจริงเป็นจังอย่างนี้นะคะ เราให้ความเคารพ jk มาก เช่นเดียวกัน แม้ว่าจะไม่ใช่งานที่ jk เขียน แต่ในเมื่อเจ้าตัวยอมรับก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม the cursed child ก็ไม่ใช่ผลงานจากปลายปากกาของ jk อยู่ดี เราไม่อาจทราบว่าเจตนาของ jk เป็นอย่างไรนอกจากเธอจะเปิดเ ผยมันออกมา เรื่องนี้เป็นเพียงสมมติฐานหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นเราไม่ปฏิเสธสมมติฐานโดยการใช้ the cursed child เป็นต้นแบบ แต่ขอความกรุณาจั่วหัวหรือเพิ่มเติมด้วยค่ะว่าเรื่องนี้เป็นบทละครที่ผู้อื่นแต่งขึ้น ยังมีผู้ที่ไม่รู้อีกมาก
โวลเดอมอร์มีลูกกับเบลลาทริกซ์ไม่ใช่เพราะ"รัก"ครับ (เพราะโวลเดอมอร์รักใครไม่ได้ เนื่องทาจากเป็นผลผลิตจากการใช้ยาเสน่ห์ ทั้งยังไม่ได้รับการเลี้ยงดูแสนอบอุ่นหรือพ่อแม่ในตอนเด็ก) แต่เป็นเพราะโวลเดอมอร์ต้องการสร้างเดลฟินีเป็นแผนสำรอง