10 จุดเหมือน! แฮกริด (แฮร์รี่ พอตเตอร์) และเฮย์มิตช์ (ฮังเกอร์เกม)
กับบทบาทที่ปรึกษาของพระเอก / นางเอกในนิยาย
เปิดหัวข้อมาด้วยชื่อของแฮกริดและเฮย์มิตช์ เชื่อว่าแฟนคลับของทั้งแฮร์รี่ พอตเตอร์และฮังเกอร์เกมจะต้องรู้จักบุคคลสองคนนี้เป็นอย่างดี (แอดมินเพิ่งสังเกตว่า เป็นตัว ฮ. นกฮูกหมดเลย) ตามตำแหน่งแล้ว ทั้งสองเปรียบเหมือนที่ปรึกษาของตัวละครเอกในเรื่อง โดยแฮกริดคอยดูแลแฮร์รี่, รอน และเฮอร์ไมโอนี่ในช่วงเวลาที่เด็กๆ เรียนอยู่ที่ฮ็อกวอร์ต (ตัว ฮ. นกฮูก อีกแล้ว) ส่วนเฮย์มิตช์คอยดูแลแคตนิสและพีต้าในช่วงเวลาที่ทั้งคู่ต้องเข้าสนามประลอง ซึ่งถ้าเราสังเกตให้ลึกกว่านี้อีกนิด จะพบว่า สองหนุ่มฮ. นกฮูกนี้ มีหลายๆ จุดที่เหมือนกันมาก ว่าไปแล้วก็น่าจะเป็นลักษณะพิเศษของผู้รับบทที่ปรึกษานั่นเอง เอาล่ะ เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่าว่าจุดเหมือนที่แอดมินพูดถึงนั้นมีอะไรบ้าง
ทั้งแฮกริดและเฮย์มิตช์ล้วนเป็นที่ปรึกษาแปลกๆ
แต่กลับทำให้ตัวละครเอกเติบโตและมีพัฒนาการดี
แต่กลับทำให้ตัวละครเอกเติบโตและมีพัฒนาการดี
ทั้งคู่เคยผ่านประสบการณ์เดียวกับตัวละครเอกในเรื่องมาก่อน
แฮกริด เคยเป็นนักเรียนของฮ็อกวอร์ตมาก่อน ส่วนเฮย์มิตช์เคยเข้าร่วมสนามประลอง และกลายเป็นผู้ชนะ ข้อดีของการที่ทั้งคู่ได้เผชิญเหตุการณ์เดียวกับตัวละครเอกของเรื่อง ก็คือ ทั้งคู่สามารถให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาต่างๆ กับตัวละครเอกได้ แฮกริดเองก็เล่าเรื่องของตัวเองให้แฮร์รี่ฟัง ส่วนเฮย์มิตช์ได้ถ่ายทอดประสบการณ์และทักษะการเอาตัวรอดที่ทำให้เขาเอาชนะในสนามประลองให้ทั้งแคตนิสและพีต้าได้รับรู้ นับว่าทั้งคู่มีส่วนสำคัญในการเดินเรื่องและทำให้สถานการณ์ในเรื่องดำเนินไปได้
ทั้งคู่มีรูปลักษณ์ที่แตกต่าง ไม่เหมือนใคร
แฮกริดถูกบรรยายว่าตัวโตเป็นยักษ์ ผมกระเซิง ท่าทางดุร้าย และหนวดเครารุงรัง ส่วนเฮย์มิตช์เป็นพวกไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยตัวให้เมาทั้งวันและไม่ยอมอาบน้ำด้วย ประมาณว่าทั้งสองคนมีลักษณะไม่ธรรมดาเหมือนคนทั่วไปนั่นเอง ซึ่งก็กลายเป็นจุดเด่นที่แตกต่าง และทำให้เราคนอ่านเกิดความสงสัยและอยากรู้ต่อว่า ทำไมทั้งคู่ถึงต้องมีรูปลักษณ์แบบนั้นด้วย
ทั้งคู่ไม่ชอบเข้าสังคม
แฮกริดไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ เอาแต่เก็บตัวอยู่ในสวน เขามีบุคลิกที่แปลกแยกและเข้ากับคนอื่นไม่ได้ เฮย์มิตช์ก็เช่นเดียวกัน แม้จะเป็นผู้ชนะการประลองแต่บุคลิกของเขาไม่เหมาะกับชาวแคปิตอล ก็เลยไม่มีสปอนเซอร์ นิสัยของเขายังดูไม่น่าคบ ขี้หงุดหงิด ชอบพูดจาไม่แยแสคนอื่นด้วย
เฮย์มิตช์ช่วยแนะนำแคตนิสในเรื่องการประลองและการใช้ชีวิต
ทั้งคู่อาศัยอยู่โดดเดี่ยว
แฮกริดอาศัยอยู่ในกระท่อมอย่างที่เราว่า และเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ยอมพบปะใครเลย เขาไม่ยอมอยู่ในปราสาทเช่นเดียวกับครูอาจารย์คนอื่นๆ แต่เลือกที่จะปักหลักอยู่ในป่าต้องห้าม ส่วนเฮย์มิตช์ได้อยู่ในหมู่บ้านของผู้ชนะ แต่ก็อยู่คนเดียว ไม่มีภรรยา ไม่มีลูก และเมาตลอดเวลาอีกต่างหาก
ทั้งคู่ชอบดื่มเหล้า
แฮกริดดื่มเสมอ ส่วนเฮย์มิตช์นั้นพูดได้เลยว่าเป็นไอ้ขี้เมา แม้แต่ตอนแนะนำตัวออกโทรทัศน์ เขาก็ยังเมาจนตกเวที และการที่ทั้งคู่ชอบดื่มเหล้า ก็ทำให้ผู้เขียนสามารถหาเหตุผลให้ได้ว่า เป็นเพราะเคยมีบาดแผลจากอดีต ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของตัวละครที่ปรึกษา
ทั้งคู่ต่างเป็นที่รู้จัก
แฮกริดเป็นที่รู้จักและได้รับการพูดถึงในแง่ว่า “แฮกริดที่ไม่ธรรมดาใช่ไหม” ส่วนเฮย์มิตช์นั้น ต้องออกโทรทัศน์ร่วมกับแคตนิสและพีต้า ทั้งยังเคยเป็นผู้พิชิตแห่งเขต 12 ด้วย เขารู้จักแคปิตอลเป็นอย่างดี และสามารถให้ข้อมูลต่างๆ กับแคตนิสและพีต้าได้ด้วย
แฮกริดดูแลแฮร์รี่อย่างดี
ทั้งคู่ช่วยตัวละครเอกให้อยู่รอดได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
แฮกริดได้ช่วยเหลือแฮร์รี่และทำให้เขาอุ่นใจในช่วงเวลาที่อยู่ที่ฮ็อกวอร์ต ทั้งยังเล่าเรื่องต่างๆ ปลอบใจและเป็นมิตรต่อแฮร์รี่ ส่วนเฮย์มิตช์นั้นมีบทบาทอย่างสูงในการให้คำแนะนำเรื่องการเอาตัวรอดในสนามประลอง รวมถึงการหาสปอนเซอร์ เพื่อให้แคตนิสและพีต้ามีอาหารดีๆ กิน มียาดีๆ ใช้ เพื่อจะได้มีแรงสู้ต่อ
ทั้งคู่ไม่ใช่คนพึ่งพาได้
แฮกริดเป็นคนที่ใครๆ ต่างก็เป็นห่วง เพราะเขาทำตัวให้พึ่งพาได้ยาก เอาแน่เอานอนไม่ได้ มีความสับสนในตัวเอง ส่วนเฮย์มิตช์ก็เอาแต่เมา ไม่ค่อยจะทำอะไรเสียเลย อย่างไรก็ตาม แฮกริดเองก็พยายามสู่ทุกทางเพื่อช่วยแฮร์รี่ และเฮย์มิตช์เอง เมื่อรู้สึกตัวว่าควรจะทำอะไร เขาก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี และกลายเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยให้แคตนิสและพีต้าเอาตัวรอดมาจนได้ บางทีเหตุผลที่ทั้งคู่สามารถก้าวผ่านเรื่องยากๆ และกลายเป็นคนที่พึ่งพาได้ ก็เพราะความสัมพันธ์กับตัวละครเอกนี่เอง
ทั้งคู่ทำบางอย่างให้ตัวละครเอกรู้ถึงพรสวรรค์ของตน
แฮกริดช่วยให้แฮร์รี่เติบโตและพัฒนาเป็นพ่อมดที่เก่งกาจได้ด้วยวิธีของเขา และแฮร์รี่เองก็เชื่อมั่นในตัวแฮกริด บวกกับรู้ว่าแฮกริดมีพรสวรรค์บางอย่างที่แตกต่างจากคนอื่นๆ (อย่างน้อยก็เรื่องดูแลไข่มังกร) ส่วนเฮย์มิตช์นั้น นำเทคนิคการเอาตัวรอดของตนมาถ่ายทอดให้แคตนิสกับพีต้าฟัง และทำให้ทั้งสองคนรู้ว่า เฮย์มิตช์ไม่ได้ดูเลวร้ายเช่นภาพลักษณ์ภายนอก แต่เป็นคนเจ้าเล่ห์และมีเลือดมีเนื้อ รวมถึงมีความเก่งกาจจนได้เป็นผู้ชนะของเกม
ทั้งคู่ได้รับความไว้วางใจจากตัวละครเอก
แม้หลายๆ ครั้ง แฮกริดจะทำตัวแปลกๆ แต่แฮร์รี่ก็ไว้ใจและเชื่อใจแฮกริดอย่างเต็มที่ แคตนิสกับเฮย์มิตช์จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่โอเคมากกว่า แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือก เธอก็ต้องไว้ใจและปล่อยให้เฮย์มิตช์ช่วยวางแผนการเอาตัวรอดให้ ทั้งนอกและในสนาม
เราจะเห็นว่าตัวละครที่ปรึกษานั้นจำเป็นต่อตัวละครเอกมาก หลักๆ ก็คือ ที่ปรึกษามักมีส่วนช่วยให้ตัวเอกค้นพบตัวเอง ด้วยประสบการณ์ คำพูด ความฉลาด หรืออะไรก็ตามแต่ อะไรที่ที่ปรึกษาทำหรือเป็น มักส่งผลต่อตัวเอกของเรื่อง ทำให้พวกเขาได้มองเห็นอะไรที่ตัวเองมองไม่เห็น ว่าไปแล้ว ที่ปรึกษาก็ช่วยให้เรื่องดำเนินไปได้ในแบบที่มันควรจะเป็นและช่วยให้ตัวละครของเรามีพัฒนาการได้ไม่มากก็น้อย ถ้าใครอยากลองเขียนนิยาย ลองพิจารณาบทบาทที่ปรึกษาบ้างก็ไม่เลวเหมือนกัน
ทีมงานนักเขียนเด็กดี
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
http://harrypotter.wikia.com/wiki/Hagrid_family
http://www.betternovelproject.com/blog/mentor-archetype-traits/
http://www.betternovelproject.com/blog/mentor-character-scenes/
http://time.com/4014510/harry-potter-jk-rowling-hagrid/
https://www.shmoop.com/hunger-games/haymitch-abernathy.html
0 ความคิดเห็น