สโนว์ไวท์กับโรสเรด : สองพี่น้องผู้ช่วยคนโดยไม่หวังผลตอบแทน


สโนว์ไวท์กับโรสเรด : สองพี่น้องผู้ช่วยคนโดยไม่หวังผลตอบแทน 
 
สวัสดีค่ะ ชาวนักเขียนนักอ่านเด็กดีทุกคน คิดว่าหลายคนน่าจะเคยอ่านบทความที่ชื่อว่า รู้หรือไม่? ยังมี "สโนว์ไวท์" อีกหนึ่งตำนานบนโลกใบนี้ ซึ่งเป็นบทความที่เล่าถึงสโนว์ไวท์ที่ไม่ใช่สโนว์ไวท์ที่เรารู้จักกันดี ใช่แล้วค่ะ เรากำลังพูดถึงตำนานของสโนว์ไวท์กับโรสเรด หรือหิมะขาวกับกุหลาบแดง เทพนิยายของสองพี่น้องแสนสวยที่ได้พบรักกับเจ้าชายเช่นกัน 
 
ถ้าใครชอบอ่านเทพนิยายหรือนิทานต่างๆ น่าจะคิดเหมือนกันกับแอดมินว่า ส่วนใหญ่แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องในเทพนิยายมักไม่ดีเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่ก็จะจบลงที่อิจฉาริษยาและกลายเป็นศัตรูกัน (มักจะเป็นเรื่องพี่สาวอิจฉาน้องสาว) แต่ถ้าหากเป็นพี่น้องชายหญิง ก็จะจบลงที่น้องสาวช่วยเหลือพี่ชายให้รอดพ้นจากคำสาป น่าจะมีหลายคนที่เคยแอบคิดว่า อ่านเทพนิยายแล้วไม่อยากมีพี่สาวเลย อยากมีพี่ชายมากกว่า จริงไหม 
 
ทว่าสำหรับผลงานที่เรากำลังพูดถึง สโนว์ไวท์กับโรสเรดของพี่น้องกริมม์ เรื่องนี้ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1833 และน่าจะเป็นเทพนิยายไม่กี่เรื่องที่พี่น้องไม่ได้ฆ่ากันเอง แต่สนิทสนมกลมเกลียวทีเดียว ซึ่งก่อนที่จะเขียนเรื่องนี้ พี่น้องกริมม์เคยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับคนแคระมาหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือ รัมเพลสติลสกินที่โด่งดังมากๆ และพี่น้องคู่นี้ยังติดใจเรื่องราวของคนแคระเป็นชีวิตจิตใจ 
 
ภาพของสโนว์ไวท์ (ผมดำ) และโรสเรด (ผมทอง) สองพี่น้องผู้มีน้ำใจ
 
คนซ้าย สโนว์ไวท์ คนขวา โรสเรด
 
สองพี่น้องช่วยคนแคระที่เคราพันกับสายเบ็ดตกปลา
 
สองพี่น้องพบคนแคระที่เคราไปพันอะไรอยู่เรื่อย
 
เรื่องย่อของสโนว์ไวท์กับโรสเรด 
เรื่องย่อนั้นเหมือนที่ปรากฏในบทความก่อนหน้า นั่นคือกาลครั้งหนึ่งในชนบทเล็กๆ มีหญิงม่ายคนหนึ่งที่มีลูกสาว 2 คน ลูกสาวทั้งสองทำให้เธอนึกถึงต้นกุหลาบเล็กๆ หน้าบ้านทั้ง 2 ต้น ต้นหนึ่งออกดอกขาว อีกต้นออกดอกแดง เธอจึงตั้งชื่อลูกสาวทั้ง 2 ว่าสโนว์ไวท์และโรสเรด สโนว์ไวท์เป็นเด็กเงียบๆ สุภาพเรียบร้อย ชอบทำงานบ้าน ส่วนโรสเรดเป็นเด็กร่าเริงสดใส ชอบออกไปวิ่งเล่นในทุ่งหญ้า แต่ทั้งคู่ก็เป็นเด็กดีของแม่ และก็รักกันมากๆ
 
เย็นวันหนึ่งในฤดูหนาวขณะที่แม่กำลังอ่านหนังสือให้ทั้งคู่ฟังอยู่นั้น ก็มีใครบางคนเคาะประตู แม่จึงให้โรสเรดไปเปิดประตูดูเผื่อว่าจะเป็นนักเดินทางที่กำลังมองหาที่พักท่ามกลางอากาศหนาวเช่นนี้ แต่ปรากฏว่าคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านเป็นหมีตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ทั้งคู่กลัวมาก แต่แล้วหมีก็พูดขึ้นว่า "อย่ากลัวเลย ข้าไม่ได้มาทำร้าย ข้าแค่หนาวจนจะแข็งและมาขอความอบอุ่นเฉยๆ" แม่จึงเชิญหมีเข้ามานอนพักหน้าเตาผิง ไม่นานนักหมีก็หลับไปอย่างมีความสุข
 
แม่อนุญาตให้หมีมานอนพักได้ทุกคืนตลอดฤดูหนาว หมีจึงกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกับสองสาว แม้สาวๆ จะแกล้งหมีแรงๆ ไปบ้างแต่หมีก็ไม่เคยโกรธเลย จนกระทั่งฤดูใบไม้ผลิมาเยือน หมีจึงบอกลาทุกคนและบอกว่าคงไม่กลับมาอีกจนกว่าจะหมดหน้าร้อน เพราะหมีต้องไปเฝ้าสมบัติในป่าไม่ให้พวกคนแคระมาขโมยไป สโนว์ไวท์เสียใจมากที่หมีจะต้องไป แต่เธอก็ยอมลุกไปปลดกลอนประตูให้ จังหวะที่หมีเดินออกไป ขนของหมีเกี่ยวกับกลอนประตูเล็กน้อย วินาทีนั้นสโนว์ไวท์รู้สึกเหมือนเห็นผิวสีทองอร่ามฉายออกมา แต่ก่อนที่เธอจะได้ดูให้แน่ใจอีกครั้ง หมีก็รีบวิ่งเข้าป่าไปแล้ว
 
หลายเดือนผ่านไปขณะที่สองสาวเข้าไปเก็บของในป่า ก็บังเอิญเจอคนแคระที่เคราติดอยู่กับซอกไม้ คนแคระพยายามกระโดดให้เคราหลุดแต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อมองเห็นสองสาว คนแคระก็ตะโกนใส่ว่า "ยืนบื้ออยู่ทำไม มาช่วยข้าสิ" ทั้งคู่พยายามดึงเคราแล้วแต่ก็ไม่ออก ในที่สุดสโนว์ไวท์ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีกรรไกร เธอจึงตัดเคราให้คนแคระ แต่เมื่อคนแคระเป็นอิสระ ก็หันมาด่าสองสาวว่าเป็นคนเลวที่บังอาจตัดเคราอันงดงามของเขาพร้อมทั้งสาปแช่งต่างๆ นานาก่อนจะวิ่งหนีไป
 
 ไม่นานนัก ขณะที่โรสเรดกับสโนว์ไวท์ออกมาหาปลาที่ลำธารก็บังเอิญเจอคนแคระคนเดิมอีก คราวนี้เคราของเจ้าคนแคระไปพันกับสายเบ็ดจนดึงไม่ออก คนแคระก็ด่าทอสองสาวและใช้ให้มาช่วยเขาเหมือนเดิม แต่เมื่อดึงไม่ออกแล้วต้องใช้กรรไกรตัดเคราอีกครั้ง คนแคระก็สาปแช่งทั้งคู่อีกครั้งก่อนหายไป และหลายวันต่อมาสองสาวก็บังเอิญเห็นนกตัวยักษ์โฉบเอาคนแคระคนนี้ไป ด้วยความที่เป็นคนดี ทั้งคู่จึงกระโดดคว้าตัวคนแคระไว้ และออกแรงดึงจนนกยอมปล่อย แต่แทนที่จะขอบคุณ คนแคระกลับด่าที่ทั้งคู่ทำเสื้อคลุมของเขาขาดแทน ซึ่งทั้งคู่ชินกับนิสัยเสียของคนแคระแล้วจึงไม่ใส่ใจฟัง
 
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามดังขึ้น หมีดำตัวใหญ่ตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากป่าและตรงเข้ามาหาคนแคระ คนแคระจึงขอร้องว่าอย่ากินเขาเลย ให้กินเด็กสาวเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำสองคนนั้นจะดีกว่า แต่หมีก็ตะปบคนแคระไปจนแน่นิ่งในทันที เขาคือหมีที่เป็นเพื่อนกับทั้งคู่นั่นเอง หมีค่อยๆ กลายร่างเป็นชายหนุ่มรูปงาม ชายหนุ่มแนะนำตัวว่าเขาคือเจ้าชายที่ถูกคนแคระคนนั้นสาปให้เป็นหมีขณะที่คนแคระลอบเข้าไปขโมยสมบัติ และเมื่อคนแคระตายก็ทำให้คำสาปเสื่อมไป เจ้าชายจึงไปส่งทั้งคู่ที่บ้าน ไม่นานนักเจ้าชายก็แต่งงานกับสโนว์ไวท์ ส่วนโรสเรดก็ได้แต่งงานกับเจ้าชายองค์รอง และเมื่อแม่ของเด็กสาวจะย้ายไปอยู่ในพระราชวังด้วย แม่ก็นำต้นกุหลาบหน้าบ้านทั้ง 2 ต้นไปปลูกต่อในวังด้วย
 
คนแคระที่ร้ายกาจและการช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทน
ที่เราเล่ามาด้านบนนั้น เป็นเทพนิยายในแบบฉบับของพี่น้องกริมม์ ที่ได้มีการปรับและเพิ่มเรื่องการแต่งงานเข้าไป เพื่อให้สมบูรณ์ แต่ในต้นฉบับแท้จริงซึ่งเป็นของฝรั่งเศสนั้น สโนว์ไวท์กับโรสเรด ไม่ได้เป็นพี่น้องแท้ๆ แต่ว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน และภายหลังเมื่อพ่อแม่ของทั้งคู่เสียชีวิตจากความยากจน ทำให้ทั้งคู่มาอยู่ด้วยกัน และเรียกกันและกันว่าพี่น้อง จนกระทั่งวันหนึ่ง ทั้งคู่ได้พบคนแคระปากร้ายเข้า และคนแคระก็ถูกหมีฆ่าตาย สองสาวได้พบสมบัติที่ซ่อนอยู่ ก็เลยเอาสมบัติของคนแคระมาใช้และกลายเป็นคนร่ำรวย แต่ทั้งคู่อยู่เป็นโสดตลอดชีวิต... ไม่ได้พบเจ้าชายอย่างในเวอร์ชั่นของพี่น้องกริมม์ 
 
เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองเวอร์ชั่นแล้ว เราจะเห็นว่า ในเวอร์ชั่นของพี่น้องกริมม์ คนแคระเป็นตัวร้าย ขโมยสมบัติและสาปเจ้าชายให้กลายเป็นหมี อย่างไรก็ตามเจ้าชายก็ดูมีความสุขดี ใช้ชีวิตสนุกสนานอยู่กับการพักผ่อนกับเด็กหญิงทั้งคู่ แต่ที่ทำให้เนื้อเรื่องดูแปลกแปร่งและไม่สมเหตุผลไปบ้างก็คือ ในเมื่อคนแคระร้ายกาจขนาดสาปเจ้าชายให้เป็นหมีได้ ทำให้ถึงสะเพร่าและปล่อยให้ตัวเองโดนเจ้าชายหมีฆ่าตายได้ง่ายๆ นิสัยหวงเคราะของคนแคระก็ช่างมากมายเสียนี่กระไร แถมคนแคระในเรื่องนี้ยังแตกต่างไปจากเทพนิยายเรื่องอื่นๆ ของพี่น้องกริมม์ ที่เมื่อตัวละครได้ช่วยเหลือใครสักคน ก็จะได้สิ่งดีๆ ตอบแทน แต่คนแคระกลับไม่ช่วยอะไรสองพี่น้องตอบแทน แถมยังด่าว่าอีกต่างหาก เป็นคนที่แล้งน้ำใจจริงๆ แต่สองพี่น้องของเราก็น่ารัก เพราะก็ช่วยคนแคระไปทุกรอบแบบไม่ถือสาหาความ อย่างไรก็ตาม พี่น้องกริมม์ได้สร้างบทสรุปในตอนท้ายของสองสาว ด้วยการให้พวกเธอได้แต่งงานกับเจ้าชายหมีและน้องชายของเขา เราจะเห็นว่า... ในเทพนิยายมักจะเป็นเรื่องของสัตว์ประหลาดกับสาวสวยเสมอ ในกรณีนี้ก็ไม่แตกต่างกัน และคนที่ชักนำหมีมาให้ลูกๆ ก็คือแม่ (เหมือนที่พ่อชักจูงอสูรมาให้บิวตี้)  
 
ดังนั้น เราสามารถสรุปได้ว่า... ความน่ารักและเสน่ห์ของเรื่องนี้ เห็นจะเป็นเรื่องที่สโนว์ไวท์กับโรสเรดช่วยคนแคระโดยไม่สนใจคำด่าทอใดๆ ทั้งสองคนมีน้ำใจอย่างจริงใจและช่วยเหลืออีกฝ่ายโดยไม่หวังผลตอบแทน นี่แหละเป็นข้อคิดดีๆ ที่น่าสนใจมาก เพราะจริงๆ แล้ว คนแคระก็ไม่ได้ให้อะไรกับสองสาวเลยแม้แต่น้อย แต่ทั้งคู่ก็ยินดีช่วยเหลือเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
 
และนี่แหละเป็นจุดเด่นของเรื่องนี้ การช่วยคนโดยไม่หวังผลตอบแทน จะทำให้เราได้พบสิ่งที่ดีเสมอ... (แต่ในชีวิตจริง... ก็น่าตั้งคำถามอยู่เหมือนกันนะว่าควรหรือไม่ควรทำ...)
 
ทีมงานนักเขียนเด็กดี
 
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก 
https://www.worldoftales.com/fairy_tales/Brothers_Grimm/Grimm_fairy_stories/Snow-White_And_Rose-Red.html
http://www.eonline.com/news/753026/snow-white-s-sister-rose-red-is-getting-her-own-disney-movie-and-she-will-likely-kick-ass
https://www.tor.com/2018/01/25/creating-a-tale-of-sisterhood-snow-white-and-rose-red/
https://en.wikipedia.org/wiki/Snow-White_and_Rose-Red 
https://www.dek-d.com/studyabroad/40805/ 
http://literature.wikia.com/wiki/Snow-White_and_Rose-Red
 
ทีมงาน writer

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น

แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture