สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน ใครว่าเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อมด แม่มด การใช้เวทมนตร์หรือการใช้พลังธรรมชาติจะมีแต่ในประวัติศาสตร์ของยุโรปเท่านั้น ไม่ใช่เลยจ้า ตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับเรื่องแนวๆ นี้เนี่ย ก็มีเยอะแยะมากมายในประวัติศาสตร์ของชาติฝั่งเอเชียไม่แพ้กัน แถมบุคคลที่เป็นผู้ใช้ศาสตร์ลึกลับเหล่านี้ก็ไม่ได้ไม่เป็นที่ยอมรับเหมือนในยุโรปแต่อย่างใด (เคยได้ยินตำนานการล่าแม่มดในยุคกลางของยุโรปใช่ไหมล่ะ น่ากลัวมากๆ) กลับเป็นที่ยอมรับในสังคม ซ้ำยังมีตำแหน่งใหญ่โต และได้รับความเคารพจากประชาชนทั่วไปอีกด้วย ว้าว เรียกว่า… ถึงแม้จะข้องเกี่ยวกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติเหมือนกัน แต่สถานะทางสังคม แตกต่างกันสุดขั้วจริงๆ ซึ่งตำนานผู้ใช้เวทมนตร์ที่พี่หญิงเลือกมาผู้คุยกับทุกคนในวันนี้ ก็คือ “องเมียวจิ” และ “มิโกะ” จากแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ 

 

ถ้าเราเปรียบ แม่มด พ่อมด ในตำนานยุโรปคือผู้ใช้คาถาจากศาสตร์มืด จนเป็นที่น่าหวาดหวั่นของคนทั่วไป “องเมียวจิ” ของตำนานญี่ปุ่นก็คือขั้วตรงข้ามกับความเชื่อนั้นเลยค่ะ เพราะถึงแม้จะเป็นผู้ใช้เวทมนตร์เหมือนกัน แต่องเมียวจิกลับได้ชื่อว่าเป็นผู้เชื่อมต่อกับธรรมชาติ และใช้พลังเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้หายไป ซึ่งแนวคิดนี้คาดว่าได้รับอิทธิพลมากจากโหราศาสตร์และลัทธิเต๋าของจีนที่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7  มาผสมผสานกับความเชื่อพื้นเมืองที่มีอยู่แล้วในเรื่องของพลังเหนือธรรมติและวิญญาณจนมีรูปแบบเฉพาะตัว ก่อเกิดเป็นวัฒนธรรมที่เชื่อว่าสรรพสิ่งล้วนประกอบขึ้นจากธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ และเหล็ก และมีพลังหยิน-หยาง (พลังบวกและลบ) อยู่ในตัว 

(ตางรางแสดงธาตุต่างๆ ในศาสตร์องเมียวจิ)

ซึ่งรูปแบบเวทมนตร์ที่องเมียวจิใช้นั้นมีทั้งการทำพิธีปัดเป่าโรคภัย พิธีบูชาเทพยดา การปลุกเสกยันต์ เครื่องราง การควบคุมภูตผี การพยากรณ์ ตลอดจนการสาปแช่งด้วย 

อาเบะ โนะ เซย์เมย์ องเมียวคนสำคัญจากยุคเฮอัน
 

นอกจากนี้ประวัติศาสตร์ยุคกลางของเฮอันที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือคอนจาคุโมโนกาตาริ (Konjaku Monogatarishū) ยังมีการกล่าวถึงอนเมียวจิผู้ยิ่งใหญ่ “อาเบะ โนะ เซย์เมย์” องเมียวจิที่เรามักได้ชื่อบ่อยๆ ผ่านตามสื่ออนิเมะและมังงะต่างๆ ว่าไม่เพียงแต่เป็นองเมียวจิที่มีตัวตนจริงๆ ในประวัติศาสตร์ ท่านยังเชี่ยวชาญในด้านศาสตร์การพยากรณ์ และการป้องกันสิ่งชั่วร้ายจนเป็นที่ไว้วางใจของจักรพรรดิถึงสามรุ่น! 

แต่ทว่าประวัติของท่านนั้นนอกจากจะลึกลับมากๆ แล้ว ยังมีความแฟนตาซีไม่น้อยเลยค่ะ เพราะมีตำนานเล่ากันว่าความจริงแล้ว เซย์เมย์ ไม่ได้เป็นมนุษย์เต็มตัวแต่เป็นลูกที่เกิดจากแม่ที่เป็นจิ้งจอกซึ่งสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ จึงทำให้ท่านสามารถมองเห็นภูตผีปีศาจ และมีอำนาจเหนือมนุษย์ทั่วไป 

อย่างที่รู้กันเนอะว่าแต่ละชาติในทวีปเอเชียนั้น ล้วนมีความเชื่อลึกซึ้งในเรื่องราวของสิ่งเหนือธรรมชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของเทพพระเจ้าต่างๆ ซึ่งญี่ปุ่นเองก็เป็นอีกหนึ่งประเทศมีความเชื่อในเรื่องนี้มากๆ เช่นกันค่ะ จนถึงขนาดมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างเพื่อตอบสนองความเชื่อและเคารพบูชาเทพเจ้าต่างๆ ขึ้นมา และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นการเกิดขึ้นของ “มิโกะ” ค่ะ 

“มิโกะ” เป็นตำแหน่งของหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ทำหน้าที่สำคัญในการติดต่อกับเทพเจ้า  และประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ตลอดจนปราบปีศาจที่ปรากฏตัวออกมาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอีกด้วย (นึกภาพไม่ออกก็คิดถึง คิเคียว จากเรื่องอินุยาฉะ เลยจ้า นั่นแหละใช่เลย)

คิเคียว ที่เป็นมิโกะจากเรื่องอินุยาฉะ
 

โดยคนที่จะเป็น “มิโกะ” ได้นั้นจะต้องเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ที่เกิดในตระกลูนักบวชซึ่งอุทิศตนให้กับเทพเจ้าเท่านั้น และจะต้องได้รับสารบางอย่างจากเทพพระเจ้าเพื่อยืนยันว่าเด็กหญิงคนนั้นได้รับเลือกจริงๆ (เช่น เทพพระเจ้ามาเข้าฝันพ่อแม่ มีสัญลักษณ์บางอย่างติดตัวมาแต่เกิด มิโกะคนก่อนหน้าเกิดนิมิต หรือ เกิดมาพร้อมเหตุการณ์ธรรมชาติที่ผิดปกติ เป็นต้น)

แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันมิโกะนั้นไม่ได้เป็นตำแหน่งอันศักดิ์สิทธิ์เหมือนในอดีตอีกแล้ว พวกเธอถูกลดฐานะเป็นเพียงแค่หญิงสาวผู้ทำหน้าที่ดูแลศาลเจ้า ทั้ง “มิโกะ” ยังได้กลายเป็นเพียงแค่อาชีพเสริมของเหล่านักเรียนนักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษเท่านั้น

องเมียวจิ และ มิโกะ เห็นสองอย่างเป็นคำเรียกกลุ่มคนที่ใช้อำนาจเหนือธรรมชาติเหมือนกันแต่ความจริงแล้วเนี่ย ทั้งคู่มีความแตกต่างกันพ่อสมควรเลยนะคะ ซึ่งจะต่างกันยังไงนั้น เรามาดูกันในประเด็นด้านล่างนี้เลยจ้า

- มิโกะมีแต่เพศหญิงเท่านั้น

ประเด็นแรกที่พี่หญิงหยิบมาพูดถึงนี้ เป็นจุดที่สามารถเห็นได้ชัดเจนมากๆๆ นั่นคือ “เพศ” นั่นเองจ้า เพราะถึงแม้ว่าพี่หญิงจะไม่เคยได้ยินว่า องเมียวจิจะเป็นได้เฉพาะเพศชายเท่านั้น แต่พี่หญิงก็ยังไม่เคยได้ยินตำนานไหนเลยที่กล่าวถึงองเมียวจิที่เป็นเพศหญิง และที่สำคัญเลยก็คือ คนที่จะดำรงตำแหน่งมิโกะได้จะต้องเป็น “ผู้หญิง” เท่านั้นค่ะ ดังนั้นจึงขอกล่าวสรุปได่สั้นๆ เลยว่า “มิโกะ” เป็นชื่อที่ใช่เรียกผู้ใช้เวทมนตร์ที่เป็น ผู้หญิง และ “องเมียวจิ” เป็นชื่อที่ใช่เรียกผู้ใช้เวทมนตร์ที่เป็น ผู้ชาย นั่นเองจ้า

- บทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกัน

นอกจากเรื่องเพศที่เราเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนมากๆ ของคนสองกลุ่มนี้แล้ว อีกส่วนที่ทำให้ องเมียวจิ และมิโกะ แตกต่างกันก็คือหน้าที่ของทั้งคู่ค่ะ เพราะหน้าที่หลักของมิโกะคือการดูแลศาลเจ้าและรับใช้เทพเจ้า ไม่เหมือนกับองเมียวจิที่จะรับคำสั่งจากราชสำนัก ประกอบพิธีกรรมสำคัญต่างๆ ตามแต่ได้รับคำสั่งมาค่ะ (ถ้าเปรียบมิโกะคือแสงสว่างที่เป็นตัวแทนแห่งเทพเจ้าแล้ว องเมียวจิก็จะเป็นตัวตนสีเทาๆ ตัวแทนของมนุษย์ธรรมดาที่พิเศษขึ้นมาหน่อยตรงมีอำนาจเหนือคนทั่วไปเท่านั้นเอง)
 

---------------------------------------------------------



 

จบไปแล้วนะคะ สำหรับเรื่องราวขององเมียวจิ และมิโกะที่พี่หญิงนำมาฝากทุกคนในวันนี้ ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ เรื่องราวเหนือธรรมชาติเหล่านี้จะถูกบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์แบบจริงๆ จังๆ ซึ่งแตกต่างปกติแล้วพี่หญิงก็จะเรื่องราวแบบนี้อยุ่ในรุปแบบของวรรณกรรม นิยาย มังงะ หรือสื่อบันเทิงต่างๆ เท่านั้น พอมาศึกษาความเป็นมาของ องเมียวจิ และมิโกะ ในแง่มุมที่ของประวัติศาสตร์บ้าง ก็แปลกดีเหมือนกันนะ อิอิ

 

สุดท้ายนี้ พี่หญิงขอลาไปก่อน เจอกันใหม่ครั้งหน้า วันนี้ สวัสดีค่ะ 

พี่หญิง

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : http://justdubs.org/japanese-culture?page=4
https://books.google.co.th/books?id=DR2PAQAAQBAJ&pg=PA100&lpg=PA100&dq=onmyoji+history&source=bl&ots=T15ebK9B0q&sig=QpXgm_tIjiMhRZdY5v6VM1cA4Jc&hl=th&sa=X&ved=0ahUKEwjOl8iG9tbaAhXKso8KHYLkCDs4ChDoAQg1MAY#v=onepage&q=onmyoji%20history&f=false
https://nirc.nanzan-u.ac.jp/nfile/2246
http://yabai.com/p/3219
https://japanesemythology.wordpress.com/2012/09/23/onmyodo-and-onmyoji-legendary-magicians-and-diviners-of-the-heian-period/https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7
https://matcha-jp.com/th/3671
http://www.tpapress.com/knowledge_detail.php?k=41