ค้นพบแล้ว บันทึก 2 หน้าที่แอนน์ แฟรงก์พยายามปิดบังพวกเรา!

ค้นพบแล้ว บันทึก 2 หน้า
ที่แอนน์ แฟรงก์พยายามปิดบังพวกเรา
!

 

สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก “แอนน์ แฟรงก์” เด็กสาวชาวยิวกับบันทึกอันโด่งดังของเธออย่าง “บันทึกลับของแอนน์ แฟรงก์” ที่บอกเล่าเรื่องราวและความรู้สึกนึกคิด รวมทั้งชีวิตของเธอในวัย Coming of Age กันแน่นอน ซึ่งแฟรงก์อาศัยห้องใต้หลังคาเพื่อหลบซ่อนตัวจากพวกนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและเขียนมัน แต่เชื่อหรือไม่ บันทึกของแอนน์ แฟรงก์มีมากกว่าที่เราอ่าน เพราะเร็วๆ นี้เพิ่งมีการค้นพบ 2 หน้าที่หายไปจากไดอารี่ของเธอ แถมยังเป็น 2 หน้าที่เธอพยายามซ่อนเพราะไม่ต้องการให้พ่อหรือใครก็ตามค้นเจอด้วย!

ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนว่านักวิจัยจะหยิบบันทึกของแอนน์ แฟรงก์มาทำการศึกษาทุกๆ สิบปีเท่านั้น เนื่องจากต้นฉบับของบันทึกค่อนข้างมีความเปราะบางและเสี่ยงต่อการถูกทำลายได้ง่าย โดยการค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นในปี 2016 ซึ่งนักวิจัยได้หยิบเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการศึกษา ทำให้ไม่มีการสัมผัสสมุดบันทึกขณะถอดข้อความค่ะ สมุดบันทึกเลยปลอดภัย แถมได้ข้อมูลที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์เพิ่มขึ้นด้วย

แต่ช้าก่อน นั่นไม่ใช่หัวข้อที่เรากำลังจะพูดถึงกันวันนี้ เพราะวันนี้เราจะมาพูดถึงข้อความในกระดาษ 2 แผ่นนั้นที่ค่อนข้างช็อคโลกหนักมากค่ะ!

 


บันทึก 2 หน้าที่หายไปของแอนน์ แฟรงก์
(via: Ann Frank House)

 

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานข่าว The New York Times รายงานว่า บ้านแอนน์ แฟรงก์ (The Anne Frank House) ในอัมสเตอร์ดัมและสถาบันวัฒนธรรมอีกสองแห่งในเนเธอร์แลนด์ได้ประกาศออกมาเมื่อวันอังคารที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ได้ค้นพบเอกสาร 2 หน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของบันทึกของแอนน์ แฟรงก์ โดยเธอพยายามซ่อนเอกสาร 2 หน้านั้นไว้ใต้กระดาษสีน้ำตาลในสมุดบันทึกสีแดง - ขาวลายสก็อตของเธอ

นักวิจัยทำการศึกษาก่อนพบว่าเนื้อหาที่ปรากฏอยู่บนกระดาษ 2 แผ่นนั้นเป็นข้อความค่อนข้างหวาบหวิว พรรณนาถึงร่างกายของเธอ และส่วนใหญ่เป็นบทสนทนาเรื่องอย่างว่าของเธอกับหนุ่มในจินตนาการอย่างโจ่งแจ้ง โดยทั้งหมดถูกเขียนเป็นภาษาดัตช์
 

 


สไลด์โชว์ที่เปิดเผยถึงเนื้อหาบางส่วนของบันทึกแอนน์ แฟรงก์
(via: nytimes.com)

 

ส่วนหนึ่งของข้อความก็เช่น “ในบางครั้งฉันก็จินตนาการถึงใครบางคนที่อาจเดินมาหาฉันและชวนฉันคุยเรื่องอย่างว่า แต่ฉันจะไปทำได้ยังไงกัน?” นอกจากนี้ยังมีข้อความเรื่องเพศที่เธอเปรียบเปรย พูดถึงการป้องกันด้วยยาคุมกำเนิด และอธิบายว่าการมีประจำเดือนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเธอพร้อมอีกด้วย

จะว่าไปแล้ว เรื่องทางเพศและเรื่องเกี่ยวกับร่างกายของเธอไม่ได้ปรากฏอยู่แค่กระดาษ 2 แผ่นที่นักวิจัยเพิ่งค้นพบเท่านั้น แต่มันยังปรากฏในส่วนอื่นๆ ของบันทึกส่วนตัวของเธอ เพียงแต่มันถูกตัดออกไปจนกลายเป็นเวอร์ชั่นอย่างที่เราอ่านอยู่ทุกวันนี้

 


บันทึกของแอนน์ แฟรงก์
(via: Anne Frank House)

 

แอนน์ แฟรงก์เขียนบันทึกสองเล่มในชีวิต เล่มแรกเป็นบันทึกที่แสนส่วนตั๊วส่วนตัว อีกเล่มเป็นบันทึกที่พร้อมเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้อ่าน ซึ่งจากรายงายของ The New York Times กล่าวว่า ในปี 1944 แฟรงก์ได้ยินทางวิทยุว่ารัฐบาลเนเธอร์แลนด์ต้องการจะเก็บและเผยแพร่เรื่องราวของผู้คนที่อาศัยอยู่ภายใต้การยึดครองของเยอรมัน ดังนั้นเธอจึงรีบเขียนไดอารี่เล่มใหม่เพื่อเผยแพร่ให้แก่คนอื่น หนังสือเล่มใหม่นี้ถูกเรียกว่า "The Secret Annex" และอิงเนื้อหาตามสมุดบันทึกของเธอ อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เอกสารที่สมบูรณ์แบบ The Secret Annex มีเพียงแค่ 215 หน้าเท่านั้นก่อนที่ท้ายสุดครอบครัวของเธอจะถูกจับขังและส่งไปยังค่ายกักกัน และแอนน์ แฟรงก์เสียชีวิตลงในปี 1945

ต่อมาเมื่อสงครามสิ้นสุดลง อ็อตโต แฟรงก์ พ่อของเธอรอดชีวิตจากค่ายกักกันและพยายามสานฝันของลูกสาวให้สำเร็จ เขาได้ส่งต้นฉบับไปยังหลายสำนักพิมพ์ ก่อนจบลงที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งในเนเธอร์แลนด์ เขาได้ทำงานร่วมกับสำนักพิมพ์เพื่อรวบรวมข้อมูลของบันทึกในแต่ละเวอร์ชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งจากบันทึกส่วนตัวของแอนน์ แฟรงก์และข้อมูลอื่นๆ จาก “The Secret Annex” จนในที่สุดก็ได้เป็นบันทึกของแอนน์ แฟรงก์เวอร์ชั่นที่สาม ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้และรู้จักกันดีในชื่อ “บันทึกลับของแอนน์ แฟรงก์” โดยสเตฟานี วัตสันชี้ให้เห็นในบทความของเธอว่าอ็อตโตกังวลเรื่องข้อความวาบหวิวในบันทึกมากๆ จึงตัดเรื่องวาบหวิวและข้อความที่พรรณาถึงสรีระของเธอออกไป นั่นจึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมในเวอร์ชั่นถึงไม่มีเรื่องเหล่านี้

 


(via: bbc.com)
 

คำถามที่น่าสนใจก็คือ มันถูกแล้วจริงๆ เหรอที่นักวิจัยควรนำข้อความทางเพศที่แอนน์พยายามปิดบังมาเปิดเผยสู่สาธารณะ จริงๆ แล้วเราควรเคารพความปรารถนาของเธอและเก็บมันไว้ใต้กระดาษสีน้ำตาลนั้นเหมือนเดิมหรือเปล่า?

หลายคนไม่เห็นด้วยกับการนำบันทึกลับ หน้านั้นมาเปิดเผยเพราะมองว่ามันเป็นเรื่องละเมิดสิทธิส่วนบุคคุล แม้ว่าคนๆ นั้นจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม เนื่องจากนี่เป็นเรื่องลับส่วนตัวที่เธอไม่ต้องการให้ใครรู้ เราควรให้ความเคารพเธอ เพราะถ้าหากว่าแอนน์ แฟรงก์ต้องการเปิดเผยเรื่องนี้ เธอจะไม่มีทางเขียนบันทึกเวอร์ชั่นสองแน่นอน

แต่สำหรับเรื่องนี้นักวิจัยกลับให้เหตุผลว่า "ทั้งหมดเป็นการพิสูจน์เพื่อวัดความสามารถทางการเขียนของแอนน์ แฟรงก์ ดังนั้นการนำมาเปิดเผยจึงไม่ใช่เรื่องผิดอะไร" อีกทั้งหัวหน้าแผนกของสะสมแห่งบ้านแอนน์ แฟรงก์ ผู้ที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมวิจัยได้ออกมาโต้ว่า “มันไม่ดีที่จะทำตามความต้องการของผู้เขียน บางครั้งมันก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แล้วเราก็รู้ดีว่าเธอไม่ต้องการเผยแพร่มันสู่สาธารณะ”

ที่พีคยิ่งกว่านั้นก็คือ ในหน้าคำถามที่พบบ่อยของเว็บไซต์บ้านแอนน์ แฟรงก์เองก็ระบุเช่นกันว่า “มันสายเกินไปที่จะต้องกังวลถึงสิ่งที่แอนแฟรงก์อาจต้องการตั้งแต่อ็อตโต แฟรงก์ พ่อของเธอได้เผยแพร่แล้วพูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าพวกเขาละเมิดความเป็นส่วนตัวของเธอแล้ว พวกเขาก็อาจจะทำอีกครั้งได้

 


(via: smithsonianmag.com)
 

บางทีความเป็นส่วนตัวของเธอและความตั้งใจของเธอในการแยกสมุดบันทึกส่วนตัวกับบันทึกที่ต้องการเผยแพร่ให้ประชาชนรับรู้อาจไม่สำคัญเมื่อเทียบกับความต้องการของประวัติศาสตร์ ทางบ้านแอนน์ แฟรงก์เชื่อว่าเชื่อว่าศักยภาพในการสร้างมูลค่าทางประวัติศาสตร์และความสนใจของสาธารณชนมีความสำคัญมากกว่าสิ่งที่แฟรงค์ต้องการ นั่นจึงเป็นเหตุให้บันทึกลับ 2 หน้านี้ถูกเปิดเผย แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ส่วนตัวมากๆ ก็ตาม แล้วน้องๆ ล่ะคะ คิดว่ายังไงกับประเด็นนี้? ประวัติศาสตร์สำคัญกว่า? หรือเราควรรักษาสิทธิ์ของเธอ?

 

พี่น้ำผึ้ง :)


 


ขอบคุณข้อมูลจาก 
https://theestablishment.co/the-sexist-editing-of-anne-franks-diary-of-a-young-girl-f53d3174db66
https://www.nytimes.com/2018/05/15/books/anne-frank-diary-new-pages.html

Deep Sound แสดงความรู้สึก

 

พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Nicharee Pramualsab Member 3 ก.ค. 61 14:22 น. 1

ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือบันทึกลับของเเอนน์ เเฟรงค์ฉบับภาษาไทยอยุ่ค่ะ อ่านได้ครึ่งเล่ม เเล้วมาเจอบทความนี้

จากที่อ่านจากเล่มนสจริงๆ เเอนน์เคยบอกว่าการได้หัวเราะเรื่องสนุกสักครั้งยังดีกว่าการที่ต้องกินยาระงับประสาทเป็น10เม็ดเเสดงให้เห้นว่าสถานการณ์ที่เเอนน์เจอตอนนั้นมันเลวร้ายมาก สิ่งเดียวที่เเอนน์จะระบายความรู้สึกทางเดียวคือเขียนไดอารี่ หรือจิตนาการเรื่องsex ที่เขียนระบายลงในไดอารี่ มันคงเปนทางเดียวที่จะไม่ต้องทำให้คนๆนึงต้องเครียดไปมากกว่านี้นะ บันทึกลับ 2 หน้านั้นคิดว่าควรเปิดเผยให้ไดอารี่ออกมาสมบูรณ์

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

Nicharee Pramualsab Member 3 ก.ค. 61 14:22 น. 1

ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือบันทึกลับของเเอนน์ เเฟรงค์ฉบับภาษาไทยอยุ่ค่ะ อ่านได้ครึ่งเล่ม เเล้วมาเจอบทความนี้

จากที่อ่านจากเล่มนสจริงๆ เเอนน์เคยบอกว่าการได้หัวเราะเรื่องสนุกสักครั้งยังดีกว่าการที่ต้องกินยาระงับประสาทเป็น10เม็ดเเสดงให้เห้นว่าสถานการณ์ที่เเอนน์เจอตอนนั้นมันเลวร้ายมาก สิ่งเดียวที่เเอนน์จะระบายความรู้สึกทางเดียวคือเขียนไดอารี่ หรือจิตนาการเรื่องsex ที่เขียนระบายลงในไดอารี่ มันคงเปนทางเดียวที่จะไม่ต้องทำให้คนๆนึงต้องเครียดไปมากกว่านี้นะ บันทึกลับ 2 หน้านั้นคิดว่าควรเปิดเผยให้ไดอารี่ออกมาสมบูรณ์

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture