สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน โวลเดอมอร์ขึ้นชื่อว่าเป็นวายร้ายที่น่ากลัวที่สุดในโลกเวทมนต์ ระดับความเลวของเขาทำให้เจ้าตัวขึ้นแท่นตัวร้ายน่าจดจำไม่ต่างจากโจ๊กเกอร์, ฮันนิบาล หรือดาร์ธ เวเดอร์จากสตาร์วอร์ แต่พอเจ.เค.โรว์ลิ่งได้พาเราไปรู้จักกับ “Fantastic Beasts and Where to Find Them” สปินออฟของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เราก็ได้รู้จักกับเจ้าแห่งศาสตร์มืดอีกคนอย่าง “กรินเดลวัลด์” ที่ปรากฎตัวใน Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ขอเม้าท์นิดนึงว่ารายนี้ก็ใช่ย่อย ร้ายเวอร์ไม่ต่างจากโวลเดอมอร์ เพราะกรินเดลวัลด์มีแผนล้ม กฎหมายปกปิดความลับและโครงการทรมานมักเกิ้ล งานนี้แฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์อย่างพี่เลยสงสัยว่า "ระหว่างโวลเดอมอร์กับกรินเดลวัลด์ ใครชั่วร้ายมากกว่ากันนะ" 

ใช่แล้วค่ะน้องๆ วันนี้พี่จะพาทุกคนมาล้วงลึก เจาะกันให้ชัดๆ ถึงเลเวลความชั่วร้ายของ 2 ตัวละคร ต้องออกตัวก่อนว่าพี่ยังไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้นะคะ ดังนั้นข้อความบางส่วนจึงเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของพี่เท่านั้น เอาล่ะค่ะ ถ้าหากพร้อมแล้ว สวมเสื้อคลุมล่องหนและเกาะไม้กวาดให้แน่นแล้วตามมาดูกันเลย!

 

กรินเดลวัลด์ถูกไล่ออกจากเดิร์มแสตรงก์ 

ความชั่วร้ายของโวลเดอมอร์เป็นยังไง เราก็รู้ แต่เมื่อเทียบกับกรินเดลวัลด์ บอกเลยว่าโวลเดอมอร์แทบจะเป็นเด็กดี๊เด็กดี! เอ่อ ในที่นี้พี่หมายถึง...ถ้าเทียบกับชีวิตในโรงเรียนอ่ะนะ ทำไมน่ะเหรอ? ก็ที่ฮอกวอตส์น่ะ โวลเดอมอร์ เอ่อ ทอม ริดเดิ้ลไม่เคยซ่อนดาร์กไซด์จากศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์หรือศาสตราจารย์อาร์มันโด ดิพพิต อาจารย์ใหญ่สมัยนั้น แต่เขาก็เรียนจบโดยใช้เวลา 7 ปีเหมือนคนอื่น ไม่ได้ถูกไล่ออกด้วย! 

ตัดภาพมาที่กรินเดลวัลด์ เขาเข้าเรียนในโรงเรียนเดริมแสตรงก์แต่ถูกไล่ออกตอนอายุ 16 ปี เนื่องจากการทดลงสุดวิปริตของเขาที่เกือบทำร้ายเพื่อนร่วมชั้น แถมหลังจากถูกไล่ออกก็ไม่ได้สนใจจะเข้าเรียนที่ไหนอีกด้วย

บางคนอาจเถียงว่าโวลเดอมอร์เจ๋งกว่ากรินเดลวัลด์ตรงที่เขาคิดคำนวณไว้แล้วว่าการเรียนในโรงเรียนจะเป็นประโยชน์ก่อนออกไปสู่โลกกว้าง แต่เราคิดว่าการถูกไล่ออกของกรินเดลวัลด์สามารถมองได้หลายแง่มุมนะ ถ้าไม่ชั่วร้ายเกินเยียวยา อาจารย์ที่โรงเรียนก็โหดเกินไป น้องๆ คิดว่ายังไงล่ะ?

 

โวลเดอมอร์พูดภาษางูได้
 

ทั้งคู่มีความสามารถพิเศษเหมือนกัน แต่มีคนหนึ่งที่ข้องเกี่ยวกับความชั่วร้ายมากกว่า

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม 2016 เจ.เค.โรว์ลิ่งได้ออกมาเผยว่ากรินเดลวัลด์เป็นเซียร์ (Seer) พ่อมดหรือแม่มดที่มีความสามารถในการพยากรณ์ พูดง่ายๆ ก็คือรู้เห็นอนาคตหมด ขนาดเจ.เค.โรว์ลิ่งยังเคยบอกเลยว่ากรินเดลวัลด์เป็นเด็กที่ทรงพลังเพราะความสามารถนี้! การเป็นเซียร์นี่แหละทำให้กรินเดลวัลด์ในร่างของเพอร์ซิวาล เกรฟท์บอกครีเดนซ์ แบร์โบนว่าเขาเห็นพลังออบสคูเรียลอยู่ในเด็ก (กล่าวใน Fantastic Beasts and Where to Find Them)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าของขวัญสุดวิเศษนี้สามารถทำให้กรินเดลวัลด์เป็นภัยคุกคามที่น่าหวาดกลัวต่อผู้คนรอบข้าง แต่การเป็นเซียร์ก็ไม่จำเป็นจะต้องเกี่ยวกับศาสตร์มืดเสมอไป ดูอย่างศาสตราจารย์ซีบิลล์ ทรีลอว์นีย์สิที่สอนวิชาพยากรณ์สิ เธอก็เป็นเซียร์นะ ไม่เห็นจะไปฝักใฝ่ศาสตร์มืดเลย

ตัดภาพมาที่โวลเดอมอร์ที่สามารถพูดงูกับได้ พี่น้ำผึ้งมองว่านี่เป็นความสามารถที่น่าสะพรึงกว่า ทำไมน่ะเหรอ? เพราะงูมักถูกกล่าวถึงในด้านชั่วร้ายน่ะสิ พ่อมดแม่มดมักนำงูมาใช้ในทางที่ผิด ตัวละครที่ออกแนววายร้ายก็มักเกี่ยวข้องกับงู! อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าคนที่ครอบครองความสามารถนี้จะชั่วร้ายไปซะหมด เพราะแฮร์รี่ พอตเตอร์เองก็พูดภาษาพาร์เซลได้ แต่เขาไม่ได้ฝักใฝ่ศาสตร์มืด อันนี้ก็ต้องลุ้นกันไปว่าความสามารถไหนน่ากลัวกว่ากัน

 

กรินเดลวัลด์ในวัยหนุ่ม
 

มีเส้นทางโกงความตายเหมือนกัน แต่มีคนหนึ่งที่เลือดเย็นกว่า

หลังจากที่กรินเดลวัลด์ในวัย 16 ปีถูกไล่ออกจากโรงเรียน เขาสนใจเรื่องของเครื่องรางยมทูตอย่างหมกมุ่นและออกตามหามัน นี่เป็นเหตุให้เขาได้ตัดสินใจมายังก็อดดริกส์โฮลโล่และพบกับอัลบัส ดัมเบิลดอร์ที่สนใจเรื่องนี้เช่นกัน 

ว่ากันว่าคนที่ครอบครองเครื่องรางยมทูตครบทั้ง 3 ชิ้น อันได้แก่ ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ หินชุบวิญญาณและผ้าคลุมล่องหน จะกลายเป็นนายแห่งความตาย ดูเหมือนว่ากรินเดลวัลด์จะสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ เขาพยายามค้นหาของวิเศษทั้งสามชิ้นเพื่อนำไปสู่การปฏิวัติกฎหมายปกปิดความลับระหว่างประเทศ  (กฎหมายนี้ทำให้เหล่าผู้วิเศษต้องหลบซ่อนตัวจากเหล่ามักเกิ้ล) โชคดีสำหรับนิวท์ สคามันเดอร์และผองเพื่อน ถ้าหากกรินเดลวัลด์ได้ครอบครองเครื่องรางยมทูตจริงๆ อเมริกาเละเเน่

ตรงข้ามกับโวลเดอมอร์ เขาไม่ได้สนใจการเป็นนายแห่งความตายสักเท่าไหร่เพราะตัวเองกลัวความตาย โวลเดอมอร์จึงหันไปสนใจในสิ่งที่เขาเชื่อว่ามันสามารถทำให้เขาเป็น “อมตะ” อย่างที่ปรารถนา ถึงอย่างนั้นโวลเดอมอร์กลับต้องการครอบครองเพียงแค่ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์เฉยๆ เพราะเจ้าตัวเชื่อว่ามันสามารถทำให้เขากลายเป็น “เจ้าแห่งศาสตร์มืด” ที่น่าสะพรึงที่สุดในประวัติศาสตร์
 

ทอม ริดเดิ้ลกับฮอร์ครักซ์
(via: pinterest)
 

อย่างที่ทุกคนรู้ โวลเดอมอร์กลัวการพ่ายแพ้และกลัวถูกฆ่า พูดง่ายๆ ก็คือกลัวความตายนั่นแหละ เพื่อเอาชนะความตาย โวลเดอมอร์ได้สร้างฮอร์ครักซ์ขึ้นมา 6 ชิ้น (ชิ้นที่ 7 เป็นชิ้นที่เขาได้มาอย่างไม่ได้ตั้งใจ) ด้วยความคาดหวังว่าจะกลายเป็นอมตะ ต่อให้ร่างกายถูกฆ่า แต่จิตวิญญาณของเขาก็ยังคงวนเวียนอยู่แม้จะไม่มีร่างก็ตาม

แน่นอน การสร้างฮอร์ครักซ์ไม่ได้สร้างด้วยวิธีธรรมดาๆ เหมือนเขียนหนังสือ แต่พวกเขาจะต้องทำการฆาตกรรมใครสักคน เพราะการฆ่าจะทำให้วิญญาณฉีกขาด จากนั้นใช้คาถาในการห่อหุ้มวิญญาณที่ฉีกขาดแล้วบรรจุลงในวัตถุ สิ่งสำคัญของการสร้างฮอร์ครักซ์ก็คือ "วัตถุ" นี่แหละค่ะ เพราะถ้าไม่มีสิ่งห่อหุ้ม วิญญาณก็จะอยู่ไม่ได้ 

ฮอร์ครักซ์ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น การฆ่าคนถือว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่ผู้วิเศษสามารถทำได้ ดัมเบิลดอร์ถึงขั้นแบนฮอร์ครักซ์เเละไม่เคยพูดถึงมันในคลาสเรียนเลย แต่ดูโวลเดอมอร์สิ สร้างฮอร์ครักซ์ได้ตั้งหลายชิ้น… ได้ข้อสรุปแล้วนะ

 

กรินเดลวัลด์ทำเพื่อประโยชน์สุขมากกว่าโวลเดอมอร์

เช่นเดียวกับที่แม็กนีโต้คิดเกี่ยวกับมนุษย์กลายพันธุ์และมนุษย์ใน "X-Men" กรินเดลวัลด์เชื่อว่าพ่อมดควรได้รับการยกย่องว่าเป็นพวกที่เก่งกว่าพวกมักเกิ้ล จริงอยู่ที่เป้าหมายของโวลเดอมอร์กับกรินเดลวัลด์คล้ายๆ กัน นั่นคือ...ความเป็นใหญ่เหนือมักเกิ้ล อย่างไรก็ตามเเรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังความชั่วร้ายของทั้งคู่กับต่างกันสุดขั้ว

สำหรับโวลเดอมอร์ แรงขับเคลื่อนของเขาคือ “อีโก้” และ “ความเกลียดชัง” ที่มีต่อมักเกิ้ล ต้องเกริ่นก่อนว่าโวลเดอมอร์เกิดจากยาเสน่ห์ ไม่ใช่ความรัก แถมวัยเด็กของเขายังขาดความอบอุ่นด้วย ดังนั้นโวลเดอมอร์จึงไม่เคยรู้จัก “ความรัก” เลย เขาเติบโตพร้อมกับความเกลียดชังที่มีต่อมักเกิ้ล หล่อหลอมจนกลายเป็นแรงผลักดันให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มักเกิ้ล ไม่ว่าจะเป็นมักเกิ้ลบอร์นหรือเลือดผสม

ในทางกลับกันแรงผลักดันของกรินเดลวัลด์คือความเชื่อของเขา เขาเชื่อว่าเหล่าผู้วิเศษที่มีมนต์ขลังควรออกจากเงามืดและใช้ชีวิตได้อย่างเปิดเผย ดังนั้นเป้าหมายของกรินเดลวัลด์คือการล้มกฎหมายปกปิดความลับและสถาปนาพ่อมดแม่มดขึ้นปกครองมักเกิ้ล พูดง่ายๆ ก็คือมุ่งเน้นเพื่อประโยชน์สุดของคนส่วนใหญ่นั่นแหละค่ะ

อ่านถึงตรงนี้แล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าแรงจูงแจงของสองคนนี้ต่างกันสุดขั้ว หนึ่งคนเริ่มจากความเกลียด อีกคนมาจากความอึดอัดที่ต้องอยู่ภายใต้เงาของมักเกิ้ล แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครโหดร้ายกว่ากัน

 

โวลเดอมอร์มีความสุขกับการฆ่า

อย่าเพิ่งแปลกใจว่าทำไมพี่น้ำผึ้งถึงคิดว่าโวลเดอมอร์เอนจอยคิลลิ่ง (enjoy killing) พี่ขอเม้าท์ให้ฟังก่อนนะ ถ้าหากสังเกตดีๆ ตลอดซีรี่ส์แฮร์รี่ พอตเตอร์ จะเห็นว่าโวลเดอมอร์ชอบทรมานก่อนฆ่า ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นศัตรูตัวฉกาจหรือเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทหรือเป็นเพียงคนที่ตัวเองไม่คิดจะฆ่าตั้งแต่แรก 

ยกตัวอย่างฉากหนึ่งในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี ตอนที่แฮร์รี่และผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ทำภารกิจสุดท้ายในเขาวงกต เซดริก ดิกกอรี่กับแฮร์รี่ พอตเตอร์คว้าถ้วยอัคนี้ไว้ได้ ปรากฎว่านั่นคือกุญแจนำทาง ก่อนทั้งคู่จะถูกส่งตัวไปยังสุสาน ที่นั่นโวลเดอมอร์กำลังรอคอยแฮร์รี่อยู่ กว่าจะรู้ตัวโวลเดอมอร์ก็สั่งให้หางหนอนสังหารเซดริกซะแล้ว  หรือจะเป็นในเล่มเครื่องรางยมทูตที่โวลเดอมอร์ทรมานแชริตี้ เบอร์เบจ อดีตอาจารย์สอนวิชามักเกิ้ลศึกษาประจำฮอกวอตส์ก่อนจะให้นากินีฆ่าเธอ เอาจริงนะ ถ้าหากจอมมารมีความเป็นมนุษย์สักหน่อย เขาคงไม่ทำแบบนี้

ตัดภาพไปที่กรินเดลวัลด์ เขาเองก็ฆ่าคนเช่นกัน แต่ไม่ได้ทำเพื่อความสุขเหมือนอย่างโวลเดอมอร์ สำหรับกรินเดลวัลด์ การฆ่าเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำเพื่อต้องการให้ทุกอย่างสิ้นสุดลง นอกจากนี้เขายังสร้างคุกนูร์เมนการ์ดเพื่อไว้ขังคนที่เห็นต่างจากเขา นับว่าดีตรงที่อย่างน้อยก็ปล่อยให้คนเหล่านั้นได้มีลมหายใจ ตรงข้ามกับโวลเดอมอร์ที่เอะอะก็ “อะวาดาเคดราฟ-รา” อย่างเดียว ใครคิดต่างจงตายซะ! น่ากลัวเป็นบ้า

 

โวลเดอมอร์และกรินเดอวัลด์
 

การสำนึกผิดของกรินเดลวัลด์

เมื่อพูดถึงธรรมชาติที่แท้จริงของกรินเดลวัลด์ เรารู้จักเขาผ่านมุมมองของดัมเบิลดอร์ว่า พ่อมดที่แสนชั่วร้ายได้สำนึกผิดต่อสิ่งเลวร้ายที่เขาทำเมื่อตอนที่ตัวเองต้องเผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์ ในหนังสือ โวลเดอมอร์ได้บุกไปยังคุกนูร์เมนการ์ดที่กรินเดลวัลด์ได้อาศัยอยู่เพื่อขโมยไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ แต่กรินเดอวัลด์ไม่ยอมบอกว่าอยู่กับใคร แถมยังเหน็บแนมโวลเดอมอร์และท้าให้ฆ่าเขาด้วย จากนั้นโวลเดอมอร์ก็เลยฆ่าเขาจริงๆ ซึ่งพี่แอบประทับใจตรงจุดนี้มากๆ เลยนะที่ไม่ว่ายังไงกรินเดลวัลด์ก็ไม่ยอมทรยศหักหลังดัมเบิลดอร์ น่าชื่นชมจริงๆ

ดัมเบิลดอร์เคยกล่าวว่ากรินเดลวัลด์เสียใจกับเหตุการณ์ในอดีต เขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำลงไปเป็นความอัปยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และถ้าหากกรินเดลวัลด์สำนึกผิดจริงๆ อย่างที่ดัมเบิลดอร์อ้าง นั่นย่อมหมายความว่าเขามีความเป็นคนมากกว่าโวลเดอมอร์ ซึ่งจะจริงหรือไม่นั้นต้องไปตามอีกทีใน Fantastic Beasts 2 ที่เข้าฉายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ค่ะ

 

(via: johnnydepp.blogabode.com)
 

อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถตัดสินได้ตรงๆ ว่าใครชั่วร้ายมากกว่ากันเพราะทั้งคู่จัดว่าเป็นพ่อมดที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ถ้าให้พี่มองจากเรื่องราวทั้งหมดที่ได้กล่าวมาแล้ว อย่างน้อยกรินเดลวัลด์ก็เป็นพ่อมดที่มีจิตใจและรู้ผิดชอบชั่วดี ในขณะที่โวลเดอมอร์กลับตรงกันข้าม เขาเลือดเย็น โหดร้ายและทารุณ ไม่แน่นะบางทีคนที่คุณก็รู้ว่าใครอาจสมควรได้สวมมงกุฎพ่อมดที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ได้ แล้วน้องๆ ล่ะคะ คิดว่ายังไงบ้าง? ใครชั่วร้ายมากกว่ากัน? อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ชาวเด็กดีและพี่น้ำผึ้งฟังด้วยนะคะ