ศัตรูที่ฉันรัก : เจาะลึกความสัมพันธ์
ดัมเบิลดอร์และกรินเดลวัลด์ มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน นาทีนี้บอกเลยว่าไม่มีอะไรจะฮอตฮิตเท่ากับ Fantastic Beasts: The Crimes Of Grindelwald หนึ่งในจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์อีกแล้ว สำหรับภาคต่อนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องราวของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่อย่าง “กรินเดลวัลด์” แน่นอนว่าพอพูดถึงกรินเดลวัลด์ เราก็ต้องนึกถึงอีกหนึ่งพ่อมดที่ยิ่งใหญ่อย่างดัมเบิลดอร์ ซึ่งพี่น้ำผึ้งมั่นใจว่าชาวพอตเตอร์เฮดน่าจะรู้เรื่องของมิตรภาพระหว่างอัลบัส ดัมเบิลดอร์ กับเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ตั้งแต่หนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูตที่ได้รับการตีพิมพ์ในปี 2007 แล้วแน่ๆ ซึ่ง 2007 เป็นปีเดียวกับที่ผู้เขียน J.K. Rowling กล่าวกับผู้ชมใน Carnegie Hall ว่าความรู้สึกของดัมเบิลดอร์ที่มีต่อกรินเดลวัลด์นั้นเป็นอะไรที่มากกว่า “เพื่อนเฉยๆ” ค่ะ
แน่นอนว่าสิ่งที่เจ.เค.โรว์ลิ่งได้เผยถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ปรากฎในภาพยนตร์ Fantastic Beasts: The Crimes Of Grindelwald ด้วยส่วนหนึ่ง โดยภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยจู๊ด ลอว์ (Jude Law) รับบทเป็นอัลบัส ดัมเบิลดอร์ และจอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp) รับบทเป็นพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20 ในวันนี้พี่น้ำผึ้งตื่นเต้นมากๆ ที่จะชวนน้องๆ มาส่องความสัมพันธ์ของดัมเบิลดอร์และกรินเดลวัลด์ค่ะ
กำเนิด “กรินเดลวัลด์” และ “ดัมเบิลดอร์”
อัลบัส ดัมเบิลดอร์เกิดในช่วงฤดูร้อนของปี 1881 เขาเป็นลูกชายคนโตของเคนดราและเพอร์ซิวาล ดัมเบิลดอร์ มีน้องชายหนึ่งคนชื่ออาเบอร์ฟอร์ธและน้องสาวคนสุดท้องที่ชื่อว่าแอรีอานนา ดัมเบิลดอร์ ทั้งสามเติบโตในหมู่บ้านก็อดดริกส์ฮอลโล่ว์ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่แฮร์รี่ พอตเตอร์เกิดภายหลัง ก่อนที่ดัมเบิลดอร์จะเข้าเรียนฮอกวอตส์ในเวลาต่อมา ส่วนกรินเดลวัลด์เชื่อกันว่าเกิดหลังจากอัลบัส ดัมเบิลดอร์ไม่กี่ปี ราวๆ ปี 1883 ได้ เขาเข้าเรียนที่เดริมสแตรงก์ก่อนจะถูกไล่ออกตอนอายุ 16 ปี โทษฐานทำการทดลองพิลึกพิลั่นจนเกือบทำเพื่อนตาย
การพบกันของทั้งคู่
18 ปีให้หลังจากที่ดัมเบิลดอร์เกิด ในปี 1899 แม่ของดัมเบิลดอร์เสียชีวิตลงเพราะน้องสาวของเขา - แอรีอานนา - ไม่สามารถควบคุมพลังมืดของตัวเองได้ หากน้องๆ ยังไม่รู้ เชื่อกันว่าแอรีอานนาเป็นออบสคูเรียล (Obscurial) ซึ่งมีพลังมืดออบสคูรัส (Obscurus) อยู่ในตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่ไม่สามารถควบคุมมันได้ มันจะเป็นฝ่ายทำลายเรา ด้วยเหตุนี้แหละดัมเบิลดอร์จึงกลับมายังหมู่บ้านก็อดดริกส์ฮอลโล่ว์อีกครั้ง และที่นี่เอง เขาได้เจอกับกรินเดลวัลด์ที่สนใจเรื่องของเครื่องรางยมทูตอย่างหมกมุ่น
ดัมเบิลดอร์ (ซ้าย) และกรินเดลวัลด์ (ขวา) ตอนเป็นวัยรุ่น
กรินเดลวัลด์กับดัมเบิลดอร์เป็นเเค่เพื่อน?
ต้องยอมรับเลยว่าดัมเบิลดอร์หลงใหลความคิดของกรินเดลวัลด์มาก พวกเขากลายเป็นหนึ่งเดียวเพื่อออกตามหาเครื่องรางยมทูตซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเอาชนะความตายได้ ตลอดสองเดือนเต็ม สองคู่หูมีความผูกพันกันเป็นอย่างมาก พวกเขาวางแผนที่จะใช้อำนาจนี้ในการพลิกคว่ำและปฏิวัติกระทรวง ทั้งคู่หมายจะสร้างกฎใหม่เพื่อเหล่าพ่อมดแม่มด ต้องการให้เหล่าผู้วิเศษอยู่เหนือมักเกิ้ลภายใต้แนวคิด "เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่"
ในบทที่ 35 “King's Cross” ของแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ดัมเบิลดอร์ได้เผยความจริงสุดช็อกเกี่ยวกับแนวคิด “อยู่เหนือมักเกิ้ล” ไว้ เวลานั้นเขาบอกแฮร์รี่ว่า
"กรินเดลวัลด์ เธอนึกไม่ออกหรอกว่าความคิดของเขากระทบใจฉันเพียงใด แฮร์รี่ มันจุดประกายให้ฉันร้อนเร่า พวกมักเกิ้ลถูกบังคับให้ยอมจำนน พวกเราเหล่าพ่อมดคือผู้กำชัย กรินเดลวัลด์กับฉันเป็นผู้นำหนุ่มแห่งการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์
อ้อ แต่ฉันยังพอมีมโนธรรมอยู่บ้าง ฉันกล่อมสำนึกของตนเองด้วยคำพูดกลวงๆ บอกว่าเราทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่ ความเสียหายใดๆ ก็จะได้รับชดเชยเป็นร้อยเท่าด้วยผลประโยชน์ของเหล่าผู้วิเศษ จริงๆ ในใจฉันรู้หรือเปล่า ว่าเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์เป็นคนอย่างไร ฉันคิดว่าฉันรู้นะ แต่ฉันหลับตาเสีย" (แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต หน้า 658-659)
เนื่องจากว่าทั้งคู่มีความสนใจเรื่องเครื่องรางยมทูตที่เหมือนกันมาก รวมทั้งความปรารถนาที่อยากให้พ่อมดแม่มดไม่ต้องหลบซ่อนตัวจากมักเกิ้ล บวกกับความฉลาดที่ใกล้เคียงกัน แถมวาจาคำพูดยังเชือดเฉือนกันได้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ต่างฝ่ายต่างหลงใหลซึ่งกันและกัน หากเราเจอคนที่เป็นสเป็คเรา เราก็ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้หรอก ดัมเบิลดอร์เองก็เป็นเหมือนกับเรา...เขาแสร้างทำเป็นปิดตา ไม่รู้ไม่รู้ไม่ชี้ในการกระทำของกรินเดลวัลด์
ต่อมาในปี 2007 เจ.เค.โรว์ลิ่งเผยว่าดัมเบิลดอร์เป็นเกย์และเขาตกหลุมรักกรินเดลวัลด์ ดังนั้นไม่ต้องพูดให้มากความ ยังไงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เป็นมากกว่าเพื่อนอยู่แล้ว ซึ่งหลักฐานปรากฎชัดเจนในภาพยนตร์ Fantastic Beasts 2
ทำไมความสัมพันธ์ถึงจบลง?
อาเบอร์ฟอร์ธกังวลเรื่องความทะเยอทะยานของพี่ชายตัวเองมาก เขารู้ว่าดัมเบิลดอร์จะทิ้งน้องสาวเพื่อทำให้ความฝันเป็นจริง จากการโต้เถียงนำไปสู่การปะทะกันของอาเบอร์ฟอร์ธ ดัมเบิลดอร์และกรินเดอวัลด์ ก่อนจะรู้ตัวอีกที แอรีอานนาก็นอนตายบนพื้นแล้ว ดัมเบิลดอร์ไม่เคยรู้ว่าใครกันแน่ที่ฆ่าเธอ ใช่กรินเดลวัลด์หรือเปล่า? หรือว่าเป็นตัวแอรีอานนาเองที่ไม่สามารถควบคุมพลังได้? หรือเป็นเขาที่พลั้งมือฆ่าน้องสาว? แน่นอน ไม่ว่าใครจะเป็นฆาตกร แต่กรินเดลวัลด์ได้รีบหนีออกจากที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว สร้างความสับสนแก่ปนเสียใจแก่ดัมเบิลดอร์เป็นอย่างมาก เขาต้องมานั่งเศร้าอยู่หน้าหลุมฝังศพของแอรีอานนา พร้อมกับคำต่อว่าตัวเองอันน่าอัปยศอดสู เป็นอันว่ามิตรภาพของกรินเดลวัลด์กับดัมเบิลดอร์ก็จบลง
มิตรภาพจบแต่ความรู้สึกไม่จบ (ระวัง ตรงนี้มีสปอยล์)
เอาล่ะค่ะน้องๆ ด้านบนคือข้อมูลที่เรารู้จากหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่ต่อจากนี้จะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างดัมเบิลดอร์และกรินเดลวัลด์ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ ซึ่งนี่จะช่วยให้เราเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าสองคนนี้ผูกพันกันขนาดไหน
ในภาพยนตร์ ดัมเบิลดอร์กล่าวกับกระทรวงว่า “ความสัมพันธ์ของเขากับกรินเดลวัลด์เป็นมากกว่าพี่น้อง” มันลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น แต่ไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าคืออะไร แต่นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาไม่สามารถต่อสู้กับกรินเดลวัลด์ได้ เหมือนอย่างตอนต้นของเรื่องที่เขาเป็นฝ่ายบอกกับนิวท์ สคาแมนเดอร์ว่า “ฉันไม่สามารถต่อสู้กับกรินเดอลวัลด์ได้ มันต้องเป็นเธอ”
กรินเดลวัลด์คือความปรารถนาที่ลึกที่สุดของดัมเบิลดอร์
ความรักและความเสน่หาชัดเจนเมื่อดัมเบิลดอร์เห็นภาพกรินเดลวัลด์ในกระจกเงาแห่งแอริเซด ซึ่งกระจกเงานี้จะสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ผู้ยืนอยู่หน้ากระจกปรารถนามากที่สุดในโลก มันแสดงถึงความรู้สึกและความปรารถนาที่ลึกที่สุดของพวกเขา ดังนั้นการปรากฎตัวของกรินเดลวัลด์ในกระจกแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกและความปรารถนาอย่างลึกซึ้งของดัมเบิลดอร์ที่เกี่ยวข้องกับกรินเดลวัลด์
อย่างไรก็ตาม กระจกเงาแห่งเเอริเซดไม่ได้สะท้อนเพียงแค่ภาพของกรินเดลวัลด์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงตัวเขากับกรินเดลวัลด์ในวัยหนุ่มที่จับมือกัน ในตอนนั้นทั้งคู่ได้ทำสัญญาเลือดว่า “จะไม่ต่อสู้กัน” หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีจี้ที่ภายในบรรจุเลือดของทั้งคู่ด้วย ภาพนั้นสะท้อนให้เห็นว่ากรินเดลวัลด์และดัมเบิลดอร์สนิทกันขนาดไหน และหากลองคิดตามดู จริงๆ แล้วภาพที่สะท้อนในกระจกอาจหมายความว่าเขายังรักกรินเดลวัลด์ก็ได้นะ
ตัดภาพไปยังกรินเดลวัลด์ รายนั้นเองก็ไม่สามารถจัดการดัมเบิลดอร์ได้ด้วยตัวเอง เขาจำเป็นต้องหาใครสักคนมาต่อกรกับดัมเบิลดอร์ ซึ่งคนๆ นั้นก็คือออบสคูเรียลอย่าง “ครีเดนซ์” ถ้าพูดให้ถูกก็คือ กรินเดลวัลด์เองก็ไม่สามารถทำร้ายดัมเบิลดอร์ได้เช่นกัน เรียกได้ว่าต่อให้ต้องสู้กัน ทั้งคู่ก็ไม่สามารถทำร้ายซึ่งกันและกันได้
ซึ่งถ้าสังเกตจากภาพยนตร์ดีๆ จะพบว่า กรินเดลวัลด์เก็บจี้ที่บรรจุเลือดของทั้งคู่ไว้กับตัวตลอด รวมทั้งในหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต กรินเดลวัลด์ก็ไม่ยอมบอกโวลเดอมอร์เรื่องไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ที่อยู่กับดัมเบิลดอร์ด้วย ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้มากๆ ว่า “กรินเดลวัลด์แคร์ดัมเบิลดอร์” การเก็บจี้ไว้กับตัวเองอาจมีนัยยะว่าดัมเบิลดอร์อยู่กับเขาเสมอ และการไม่เผยความลับอาจหมายถึงว่าเขาไม่เคยคิดทรยศหักหลังดัมเบิลดอร์
หลังจากที่ภาพยนตร์ Fantastic Beasts: The Crimes Of Grindelwald ได้เข้าฉายไปเมื่อวันที่ 16 พฤศิจกายนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของดัมเบิลดอร์กับกรินเดลวัลด์กลายเป็นประเด็นถกเถียงค่อนข้างกว้าง หลายคนเสนอความคิดเห็นต่างๆ นานา โดยเฉพาะความเห็นที่ว่าบางทีสาเหตุที่ทำให้ดัมเบิลดอร์ไม่สามารถฆ่ากรินเดลวัลด์ได้ ไม่ใช่เพราะว่าเขารักกรินเดลวัลด์ แต่เป็นเพราะทั้งคู่ทำสัญญาเลือดต่างหาก ทั้งคู่ก็แค่กลัวว่ามันจะผิดคำสัญญา แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่สัญญาถูกทำลาย เมื่อนั้นมันก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นกรินเดลวัลด์ต่อสู้กับดัมเบิลดอร์ค่ะ (ซึ่งการต่อสู้จะเป็นเช่นไรนั้นต้องไปตามกันเองในภาพยนตร์ภาคถัดๆ ไป)
ถึงอย่างนั้น ในมุมมองของพี่น้ำผึ้ง พี่เชื่อว่าสาเหตุหลักที่ทำให้กรินเดลวัลด์ไม่กล้าฆ่าดัมเบิลดอร์ หรือดัมเบิลดอร์ไม่ยอมต่อกรกับกรินเดลวัลด์ไม่ใช่แค่เรื่องสัญญาเลือดอย่างเดียวหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะดัมเบิลดอร์ยังรักกรินเดลวัลด์แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานก็ตามต่างหาก อย่าลืมว่าเราอาจจะหลอกใครต่อใครได้ แต่เราไม่สามารถหลอกกระจกเงาแห่งแอริเซดได้ เพราะนั่นสะท้อนถึงความปรารถนาที่อยู่ลึกที่สุดในก้นบึ้งหัวใจของเรา - และสำหรับดัมเบิลดอร์ กรินเดลวัลด์คือภาพสะท้อนนั้น
ภาพที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาแห่งแอริเซด
(via: giphy)
แล้วน้องๆ ล่ะคะ คิดเห็นว่ายังไงกับเรื่องนี้ อย่าลืมแชร์ให้พี่น้ำผึ้งฟังด้วยนะคะ
รออ่านความคิดเห็นของน้องๆ อยู่นะ
5 ความคิดเห็น
ไม่ใช่ปฏิญาณไม่คืนคำค่ะ แต่เป็นสัญญาเลือด คนละอันกัน
ทำไมอ่านไปอ่านมาซึ้ง
ป้าโจยังไม่เผยนะครับว่า แอรีอานา เป็นอ็อบสคูรัส ถึงแม้คล้ายๆ ก็ตาม
มันไม่เหมือนแฮร์รี่กับวอลเดอมอที่เกลียดกันแล้วอยากฆ่ากัน แต่กลินเดอวอลกับดัมเบิ้ลดอเกิดจากสถานการณ์บังคับให้ต้องทำเหมือนเกลียดกันทั้งๆที่ในใจต่างฝ่ายต่างก็ยังแคร์กันมาก อาจจะได้เห็นฉากอารมณ์เจ๋งๆ จากสถานการณ์ปะทะกันระหว่างจู๊ดลอและจอห์นนี่เดปป์ก็ได้นะ (ไม่ใช่แค่สาดเวทย์มนตร์กันไปมาเมือนแฮร์รี่กับท่านลอร์ด)
ขอบคุณ