เราแต่งสด ด้นสด แต่ว่าในแต่ละตอน
เราจะคิดหาเหตุผลที่เราปูเอาไว้ก่อนหน้านี้เสมอ
เพื่อไม่ไห้มันออกทะเล หรือมีความขัดแย้งกับตอนก่อนหน้า

Aww Aww 

ใครที่ชอบอ่านนิยายแฟนตาซีน่าจะรู้จักและคุ้นเคยกับเรื่องราวของแม่มดกันอยู่แล้ว แต่นิยายเรื่อง “WITCH เป็นแม่มดนี่ไม่ง่ายจริงๆ” ของนักเขียนเจ้าของนามปากกา Aww Aww ที่พี่แนนนี่เพนเพิ่งรู้มาว่าอ่านว่า เอล เอล (ออกเสียงแมวๆ หน่อย) เป็นนิยายเกี่ยวกับแม่มดที่นอกจากจะใช้เวทมนตร์ได้อย่างชาญฉลาดแล้ว ยังต้องเลี้ยงเด็กให้โตมาอย่างมีคุณภาพ และดำเนินเรื่องซ้อนนิยายอีกทีหนึ่งด้วย ความซับซ้อนนี้อาจจะน้อยกว่านิยายแนวสืบสวนสอบสวน แต่ก็มีความน่าสนใจมากๆ ตรงที่นักเขียนเปิดเผยว่านิยายเรื่องนี้เธอแต่งสด ด้นสดทุกอย่าง แถมยังใช้ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก (Butterfly Effect) และเรื่องราวของโลกคู่ขนาน (Parallel Universe) เป็นส่วนหนึ่งของการเขียนนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา! จากความน่าสนใจเหล่านี้ พี่แนนนี่เพนจึงอยากพานักเขียนสาวมาพูดคุยทำความรู้จักกับชาวเด็กดีให้มากขึ้น เผื่อใครที่ชอบความแฟนตาซี หรืออยากเป็นนักเขียน จะได้เห็นความสนุกและมุมมองความความคิดของนิยายที่หลากหลายมากขึ้น!

เริ่มเขียนนิยายเพราะอยากเขียนนิยายตามใจฉัน! 

สวัสดีค่ะ ชื่อจ๋าค่ะ อายุ 21 ปี นามปากกา Aww Aww เป็นเจ้าของผลงานเรื่อง WITCH เป็นแม่มดนี่ไม่ง่ายจริงๆ ตอนนี้นอกจากเป็นนักเขียนแล้วก็เป็นนักศึกษาอยู่นิเทศศาสตร์  มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ค่ะ เราเริ่มเขียนนิยายมาตั้งแต่ ป.5 แล้ว เริ่มมาจากการที่เราชอบอ่านหนังสือนิยาย เวลาอ่านแล้วรู้สึกว่าทำไมตัวเอกไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้ รู้สึกไม่ได้ดั่งใจเรา เลยคิดว่าถ้าเราเป็นคนเขียนเอง เราจะเขียนให้ตัวเอกเป็นยังไง เราเลยลองมาเขียนนิยายเป็นของตัวเองดูค่ะ 

พล็อตเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะภาพแม่มดเลี้ยงเด็กทารกจนโต และการรับมือกับสิ่งที่เกลียด

นิยายเรื่อง WITCH เป็นแม่มดนี่ไม่ง่ายจริงๆ เป็นนิยายเกี่ยวกับแม่มดสาวตนหนึ่งที่อยู่ดีๆ ก็โดนพระเจ้ามอบภารกิจให้ดูแล 'โลกนิยาย' พร้อมโยนระบบตัวหนึ่งมาให้มาช่วยดูแล แถมเธอยังหาเรื่องไปเก็บเด็กที่ไหนไม่รู้มาเลี้ยงอีก.. (อ่านบทวิจารณ์เพิ่มเติมได้ที่ WITCH เป็นแม่มดนี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ : ปฏิบัติการเลี้ยงเด็กกู้โลกฉบับแม่มดผู้เกลียดมนุษย์ ) โดยพล็อตนิยายเรื่องนี้นักเขียนเล่าให้ฟังว่าเธอแค่เห็นภาพแม่มดเลี้ยงเด็กทารกในทวิตเตอร์ผ่านๆ ตา เลยรู้สึกอยากลองเขียนนิยายเกี่ยวกับแม่มดขึ้นมาทันที 

"เราได้ไอเดียเรื่อง WITCH เป็นแม่มดนี่ไม่ง่ายจริงๆ มาจากการเห็นรูปภาพที่แชร์กันในทวิตเตอร์ค่ะ ภาพหนึ่งเป็นภาพแม่มดเก็บเด็กทารกมาเลี้ยง แล้วอีกภาพเป็นภาพตอนที่ทารกโตแล้ว เราเห็นแล้วรู้สึกอยากลองเขียนเรื่องราวของแม่มดขึ้นมาเลย"

ส่วนคาแรกเตอร์ของตัวเอกที่เกลียดมนุษย์เข้าไส้ เป็นความอยากรู้อยากเห็นของนักเขียนที่สงสัยว่า คนที่เกลียดสิ่งหนึ่งมากๆ จะสามารถอยู่ร่วมกับสิ่งนั้นได้ไหม และจะรับมือกับความเกลียดนี้ยังไง 

"ที่เขียนให้ตัวแม่มดหรือตัวไลล่ามีคาแรกเตอร์เกลียดมนุษย์ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจดีค่ะ เราอยากรู้ว่าถ้าตัวเอกเกลียดสิ่งๆ หนึ่งมากๆ แล้วต้องมาอาศัยอยู่อยู่ร่วมกัน มันจะเป็นยังไง คิดว่าน่าสนใจดีค่ะ"

พล็อตซ้อนพล็อต กับการเล่าเรื่องด้วยทฤษฏีผีเสื้อขยับปีก (Butterfly Effect)

ในนิยายเรื่องนี้นักเขียนได้สร้างพล็อตซ้อนพล็อตด้วยการให้ตัวเอกที่เป็นแม่มดดำเนินเรื่องอยู่ในโลกของนิยายเรื่อง "มนตรา มายารัก" โดยช่วงเวลาในการดำเนินเรื่องของตัวเอก เป็นช่วงเวลาก่อนเรื่องราวในนิยายจะเกิดขึ้น ซึ่งหมายความว่า ตัวละครที่ยังไม่เข้าสู่โลกของนิยาย สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอหากมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างทาง 

"นิยายเรื่อง "มนตรา มายารัก" เป็นนิยายที่เกี่ยวกับโลกที่ไลล่าอยู่นี่แหละค่ะ แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องเท่านั้น ไม่ได้มีตัวไลล่าอาศัยอยู่ เรื่องราวของนางเอกและเหล่าตัวละครเกิดขึ้นก่อนที่เนื้อเรื่องในนิยายจะเริ่มต้นขึ้น ถามว่าเนื้อเรื่องของนิยายในเรื่องจะเปลี่ยนไปไหม.. มีค่ะ แต่เปลี่ยนแปลงน้อยมาก"

ความเปลี่ยนแปลงที่นักเขียนพูดถึงเป็นส่วนหนึ่งของ ทฤษฏีผีเสื้อขยับปีก (Butterfly Effect) ที่มีใจความสำคัญว่า "เรื่องเล็กๆ ก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้" เพราะทุกๆ อย่างบนโลกเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันหมด และก็ส่งผลต่อกัน มีความสัมพันธ์กันเป็นทอดๆ เสมอ (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ "Butterfly Effect" แค่ผีเสื้อขยับปีก... ก็เกิดอะไรมากกว่าที่คิด ) การที่แม่มดรับเลี้ยงเด็กชายทั้งสี่คนก่อนจะเติบโตเพื่อเข้าสู่นิยายเรื่อง "มนตรา มายารัก" ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงจากการเลี้ยงดู เช่น นิสัยใจคอ ความรู้สึกนึกคิด และพื้นฐานการเติบโตของแต่ละตัวครที่โตมาจากการเลี้ยงดูของตัวเอก ในสภาพแวดล้อมและการเรียนรู้แบบเดียวกัน ตามที่นักเขียนได้เล่าถึงผลที่เกิดจากทฤษฏีผีเสื้อขยับปีกว่า

"อย่างแรกคือความรู้สึกของพวกตัวเอกที่น่าจะเติบโตขึ้นกว่าเดิมค่ะ สองคือไม่ได้มีความรู้สึกรักใคร่ต่อนางเอกในนิยาย เพราะพวกเขามีความรักให้แก่ไลล่าไปแล้ว ก่อนที่เรื่องจะเข้าสู่นิยายค่ะ" 

ให้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องราวของโลกคู่ขนาน (Parallel Universe) 

ถ้าพูดถึงเรื่องราวของมิติโลกคู่ขนานแบบง่ายๆ ก็คือการที่จักรวาลของเรามีโลกอยู่สองใบ เราอยู่โลกหนึ่งใช้ชีวิตในแบบของเรา ส่วนอีกโลกหนึ่งจะเป็นเรื่องราวที่ตรงข้ามกับเราแบบสุดๆ ทั้งสองโลกตัดขาดกันอย่างสิ้นเชิง ไม่มีทางบรรจบกันได้ ในนิยายเรื่องนี้ นักเขียนยกเรื่องราวของโลกคู่ขนานมาดำเนินเรื่องไปพร้อมกับตัวเอกเนื่องจาก ต้องการให้เรื่องราวทั้งหมดหลุดพ้นจากโลกของนิยาย และสอดคล้องกับทฤษฏีผีเสื้อขยับปีก ที่ตัวละครทั้งหมดเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิดและการตัดสินใจ แม้ในท้ายที่สุดจะต้องเดินทางตามพล็อตเดิมของนิยายเรื่องมนตรา มายารัก แต่พวกเขาก็เป็นตัวละครที่ดำเนินชีวิตได้อย่างอิสระมากขึ้น 

"ที่เรายกทฤษฎีโลกคู่ขนานมาเกี่ยวข้อง เพราะว่ามันสามารถมีการกระทำหนึ่งที่ไม่เหมือนกันได้ สามารถมีเรื่องราวที่แตกแขนงออกไปได้ ตัวไลล่าเองรู้จักเรื่องนี้จากความทรงจำในชาติก่อน ทำให้ไลล่าหาช่องว่างมาแก้ไขภารกิจที่พระเจ้าบังคับให้ทำในโลกนี้ เพราะไลล่าด้วยความที่ดูแลเด็กๆ มานาน ก็ต้องรู้สึกผูกพันเป็นธรรมดา เลยอยากให้เด็กๆ มีทางเลือกของตัวเอง ตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องดำเนินเรื่องตามนิยาย แล้วก็มีอิสระมากขึ้นค่ะ" 

นิยายเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายแนวฮาเร็ม แต่เป็นความท้าทายของการสร้างคาแรกเตอร์ให้น่าจดจำ! 

ในนิยายตัวเอกที่เป็นแม่มดจะต้องเลี้ยงดูเด็กผู้ชายทั้งหมดสี่คน เมื่อถามนักเขียนว่าวางตัวละครยังไงให้มีคาแรกเตอร์ไม่ซ้ำกัน? เธอบอกกับเราว่าต้องสร้างจากความชอบ และสร้างบทสนทนา รวมถึงสรรพนามในการเรียก เพื่อแบ่งแยกคาแรกเตอร์อย่างชัดเจน 

"เราวางคาแรกเตอร์จากความชอบค่ะ ที่ชอบที่สุดก็ยกให้คาว์โลเลยค่ะ เพราะว่าชอบคนตรงไปตรงมา กล้าพูดกล้าทำ ห่ามๆ หน่อย เลยชอบตัวละครนี้ ส่วนคนอื่นๆ ก็วางให้แตกต่างกัน อย่างคิงส์ เป็นคนขี้เล่น ดูสุภาพ แต่จริงๆ เจ้าเล่ห์ แล้วก็เป็นคนที่รักไลล่าที่สุด คิริวจะมาแนวสุภาพเหมือนกัน แต่ไม่ขี้เล่นเหมือนคิง ส่วนลูคัสมาแนวเงียบๆ ไม่ค่อยพูดค่ะ ดูเย็นชานิดๆ ซึ่งคาแรกเตอร์ที่แตกต่างเรานี้เราจะเห็นได้ชัดจากบทสนทนา อย่างเช่นสรรพนามในเรื่อง คิงจะเรียกไลล่าว่า ท่านแม่และแทนตัวเองว่าผม คาโลจะเรียกว่า แม่มดแล้วแทนตัวเองว่าฉัน จะออกแนวไม่สุภาพ คิริวจะสุภาพหน่อยเรียกว่า คุณไลล่ากับแทนตัวเองว่าผม ส่วนลูคัสจะมาแนวอาจารย์กับลูกศิษย์ เรียกไลล่าว่าอาจารย์แล้วแทนตัวเองว่าผม"

นอกจากนี้ แฟนๆ นักอ่านยังสงสัยอีกว่าสรุปแล้วนิยายเรื่องนี้มีพระเอกไหม? หรือเป็นนิยายแนวฮาเร็ม ซึ่งนักเขียนก็ได้ตอบข้อสงสัยไว้ตามนี้เลยค่ะ

"ใครคือพระเอกเหรอคะ? ยังไม่ได้วางไว้เลยค่ะว่าอยากให้ใครเป็นพระเอก เราชอบตัวเอกผู้หญิงที่มีตัวละครผู้ชายรายล้อมเยอะๆ ค่ะ ไม่ได้เป็นแนวฮาเร็มนะคะ ที่ใครๆ ก็มายุ่งกับนางเอกได้ เราชอบให้ทุกคนแสดงความรักกับนางเอก แล้วนางเอกก็ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ ซึ่งพระเอกเนี่ย ไม่ได้วางไว้จริงๆ แต่ถ้ามีเชียร์คนไหนเป็นพิเศษก็อาจจะลองพิจารณาดูค่ะ"

ส่วนสิ่งที่ยากที่สุดในนิยายเรื่องนี้ นักเขียนยกให้คาแรกเตอร์ของไลล่า ตัวเอกของเรื่องเป็นอันดับหนึ่งเลยค่ะ ยิ่งสร้างให้เธอเก่งมากเท่าไหร่ ยิ่งพัฒนาตัวละครยากขึ้นเรื่อยๆ 

"สิ่งที่ยากที่สุดคือคาแรกเตอร์ของไลล่าค่ะ เราวางไลล่าให้เป็นคนที่เก่งมาก ฉลาด มีเวทมนตร์เยอะ ไม่พลาดท่าให้ใครเลย ตรงจุดนี้ทำให้เวลามีอุปสรรคอะไรก็ตามในนิยาย เพียงแค่ไลล่ามาปรากฏตัว ทุกอย่างก็ดูคลี่คลาย ดูง่ายไปหมด ทำให้เวลาเราอยากเขียนให้เด็กๆ พัฒนาตัวเอง มันก็ยากขึ้น เพราะมีไลล่าคอยจัดการปัญหาต่างๆ ให้ เด็กๆ ก็จะเรียนรู้จากไลล่าเพียงคนเดียว มันก็ยากที่จะพัฒนาตัวละครอื่นๆ ค่ะ"

ใครจะรู้ว่านิยายเรื่องนี้นักเขียนด้นสด!

จากบทสัมภาษณ์ ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่านักเขียนจะเขียนนิยายเรื่องนี้ด้วยการด้นสด เธอบอกกับเราว่า.. "นิยายเรื่องนี้เราแต่งสด แล้วก็ด้นสด เราไม่ได้คิดเลยว่าจุดจบนิยายเรื่องนี้จะเป็นยังไง แต่ว่าเราแต่งนิยายในแต่ละตอน เราจะคิดหาเหตุผลที่เราปูเอาไว้ก่อนหน้านี้เสมอ เพื่อไม่ไห้มันออกทะเล หรือมีความขัดแย้งกับตอนก่อนหน้าค่ะ ซึ่งส่วนมากเราจะใช้ตัวละครในการดำเนินเรื่อง จะเห็นว่าตัวละครจะได้เจอเรื่องราวต่างๆ แล้วคิดแก้ไขปัญหาไปเรื่อยๆ ค่ะ" 

ฝากถึงนักอ่านที่กำลังรอคอยภาคสาม! 

ภาคหนึ่งและภาคสอง คือ ภาคความสัมพันธ์ของตัวละครค่ะ ส่วนภาคสามวางแพลนไว้ว่าน่าจะเป็นภาคจบ เป็นช่วงที่เด็กๆ ได้ต่อสู้กับซาตานและปกป้องโลก ซึ่งไม่รู้ว่าจะปกป้องได้ไหม กำลังวางแผนอยู่ค่ะ อยากให้เป็นไคล์แม็กซ์ของนิยายเรื่องนี้ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ค่ะ ไม่คิดว่าทุกคนจะชอบนิยายของเรามากขนาดนี้ ขอบคุณมากๆ ค่ะ 

ใครที่อยากเป็นนักเขียนคงสงสัยว่าเป็นกันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ? จริงๆ มันก็ง่ายๆ แบบนี้แหละค่ะ ขอเพียงเรากล้าลงมือเขียนนิยาย กล้าปล่อยจินตนาการของเราออกมา เชื่อว่าต้องมีสักคนที่ชอบอ่านในแบบที่เราชอบเขียนแน่นอน แม้ว่า Aww Aww จะเขียนนิยายเรื่อง WITCH เป็นแม่มดนี่ไม่ง่ายจริงๆ จากการด้นสด แต่ถ้าลองอ่านทบทวนดูดีๆ จะเห็นว่านักเขียนคิดตรึกตรองเสมอว่าอยากให้เรื่องราวดำเนินไปในทิศทางไหน การแต่งสดของเธออาจจะเป็นการเขียนขึ้นทันทีที่มีอารมณ์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความถนัดในการเขียนของแต่ละคนค่ะ ใครที่เป็นแฟนนิยายอย่าลืมติดตามภาคสามนะคะ ตอนนี้กำลังเข้มข้นเลย ส่วนใครที่เป็นนักอยากเขียนก็สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้เช่นเคย แล้วเจอกันใหม่ค่ะ ^^ 

พี่แนนนี่เพน